บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ไปอีสานแบบเร่งด่วน

ป้านวลพูดจบก็เดินออกไป ภาพหญิงสาวที่วาจาช่างออดอ้อนก็ผุดขึ้นมา

‘ไม่ดีใจที่ขิมมาหาเหรอคะ’

‘ดีใจสิ ดีใจมากด้วย’

‘ดีใจก็ต้องเลิกดื่มเหล้าด้วยค่ะ ไม่งั้นขิมจะกลับคอนโดแล้วนะคะ’

“ขิม!”

ม่านหมอกลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียงสวมกางเกงและเสื้อคลุมแล้วรีบตรงไปยังห้องที่เธอนอน เขามีลางสังหรณ์บางอย่าง

เคาะห้องแล้วก็เปิดเข้าไปทันที หวังว่าเธอจะยังอยู่ในห้องนี้

“ขิม!” เขาเรียกชื่อเธอ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า มีชุดนอนวางอยู่บนเตียงนอน ใช่ มันคือชุดที่มธุสรสวมไปหาเขาเมื่อคืนนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจและรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

“ขิมลูกพ่อ” ไม่สิ เขาคงใช้คำนี้กับเธอไม่ได้อีกแล้ว

กลับมาถึงห้องแล้วรีบกดโทรศัพท์หาเพื่อน

“ว่า…หายดีแล้วเหรอ” หรรษธรรับสาย

“ฉันขอเบอร์ขิมหน่อยสิ” ก่อนหน้านี้เคยเรียกกันกูมึงพออายุมากขึ้นจึงเริ่มเปลี่ยนสรรพนามกันใหม่

“เบอร์ขิม? แกจะเอาไปทำไร”

“เหอะน่า ขิมลืมของไว้ที่ห้องฉัน...เอ้ย บ้านฉันน่ะ ฉันจะเอาไปให้”

“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ฝากไว้ก่อน เพราะอีกไม่ถึงชั่วโมงขิมก็จะมาถึงบ้านแล้ว”

“แกว่าไงนะ นี่ขิมกลับบ้านเหรอ”

“อือ ทีแรกบอกอีกสองสามวันถึงจะกลับ แต่เมื่อเช้าอยู่ดี ๆ ก็บอกว่าอยู่สนามบินละ กำลังรอขึ้นเครื่อง”

“โธ่ขิม!”

“ว่าไรนะ ไม่ค่อยได้ยินเลย”

“ปะ เปล่า แค่นี้ก่อนนะ”

วางโทรศัพท์แล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัว และไม่ลืมจะพับเก็บผ้าปูที่นอนไว้เป็นอย่างดี แล้วเดินออกจากบ้านอย่างรีบร้อน ในใจตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมด ราวกับโดนไฟสุมอยู่ในทรวง

“คุณหมอกไม่ทานข้าวทานยาก่อนหรือคะ”

“ไม่ครับ ผมจะไปทานที่บ้านใหญ่”

ตอบป้านวลแล้วก็รีบเดินเร็วมาที่บ้านแม่ ตอนนี้ทุกคนไปทำงานกันหมดแล้วเหลือแค่พ่อกับแม่อยู่กันสองคน

“หายดีแล้วเหรอ” กัมปนาทเอ่ยถามลูกชาย นานทีปีหนจะเห็นลูกชายมาทานข้าวที่บ้าน ตั้งแต่ภรรยาจากไป ในหนึ่งเดือนแทบจะนับครั้งได้

“ครับพ่อ แค่ยังมึนหัวอยู่นิดหน่อยครับ” ไม่รู้ว่ามึนเพราะเป็นไข้หรือเพราะน้ำสีเหลืองอำพันกันแน่

“หนูขิมหลานย่านี่เก่งจริง ๆ เลยนะ มาหาวันเดียว พ่อเลี้ยงถึงกับหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง แต่ว่ารีบกลับไปหน่อย เมื่อเช้าแม่ว่าจะคุยด้วยซะหน่อยแต่ก็เดินตามไม่ทัน”

แค่ก แค่ก

กำลังดื่มน้ำแต่พอแม่พูดเรื่องกัลยาขึ้นมาหน่อยถึงกับสำลัก หายป่วยน่ะใช่ แต่อาการอย่างอื่นที่เข้ามาแทนนี่สิ มันอาการหนักมากกว่าการป่วยเสียอีก

“แม่เจอขิมเหรอครับ” ถามแม่น้ำเสียงตื่นเต้น

“ใช่ ท่าทางรีบร้อน ไม่รู้รีบไปไหน” แววตาคนฟังวูบไหว ไม่รู้ป่านนี้เธอจะโกรธเกลียดเขามากแค่ไหน ไม่รู้เขาต้องขอโทษเธอด้วยวิธีไหน เธอถึงจะยอมยกโทษให้ ความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงนักถ้าทุกคนรู้เรื่องเขาอาจจะกลายเป็นศพก็ได้ เรื่องนั้นเขาไม่ได้กลัว อย่างน้อยถ้าเขาจะตายเขาก็ขอตายด้วยน้ำมือของเธอดีกว่า

“จะไปทำงานแล้วเหรอ ไม่พักอีกสองสามวันล่ะ” กัมปนาทถามลูกชาย

“เปล่าครับพ่อ ผมจะไปดูโรงงานที่อีสานครับ” นี่คือเหตุผลที่มาทานข้าวบ้านพ่อ

“ไปอีสาน?” ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน เพราะตั้งแต่ภรรยาจากไปเขาก็ไม่ค่อยได้ไปดูงานที่อีสานอีกเลย จนกัมปนาทต้องจ้างผู้ช่วยมาช่วยม่านหมอกอีกคน เหตุเพราะเขาทำใจไม่ได้ที่ต้องเดินทางไปในที่ที่เขาเคยไปกับอดีตภรรยา

“หมอกมั่นใจแล้วเหรอลูก อีกอย่างร่างกายลูกก็ยังไม่แข็งแรงดีนะ ให้ชลไปด้วยไหม” กมลพรรณหมายถึงผู้ช่วยของม่านหมอก ที่มาทำหน้าที่แทนมธุสร

“อย่าเลยครับแม่ ผมไปคนเดียวได้ครับ และผมอาจจะไปนานเป็นเดือนนะครับ”

“เป็นเดือน?” ทั้งพ่อทั้งแม่ตกใจเป็นครั้งที่สอง

“ครับ ผมมีธุระต้องไปจัดการที่นั่นครับ”

“โรงงานมีปัญหาเหรอทำไมพ่อไม่รู้ ปกติพ่อไม่เห็นหมอกจะไปนานขนาดนี้” ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงงานทุกอย่างส่วนมากทางผู้จัดการโรงงานจะต้องรายงานมาที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ และกัมปนาทจะต้องรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ทำไมครั้งนี้ทางโรงงานถึงเงียบกริบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel