บทที่ 5 มีบางอย่างผิดพลาด
ในที่สุดแก่นกายร้อนของเขาก็เข้าไปอยู่ในกายเธอ บางจังหวะของการกระแทกกระทั้นมองเห็นใบหน้าของหญิงใต้ร่างก็เป็นกัลยาบางจังหวะก็เป็นมธุสร เขารู้ว่าเขาหิวโหยสิ่งนี้มากแค่ไหน กี่ปีแล้วที่เขาต้องทนคิดถึงแต่เพียงภรรยาผู้เดียวจนไม่อาจมีอะไรกับใครได้ แม้แต่น้องชายหรือเพื่อนของเขาจะแนะนำผู้หญิงมาให้ก็ตามที
ด้วยเพราะกลัวว่าความเป็นชายของเขาจะใช้การไม่ได้ แต่ไม่มีใครรู้ดีไปเกินกว่าเขา ว่าทุกส่วนในร่างกายม่านหมอกมันยังใช้งานได้ดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในค่ำคืนนี้ คืนที่เขาได้ปลดปล่อยพันธนาการกับมธุสร แต่เขาหารู้ไม่ว่าเขากำลังทำสิ่งที่ร้ายแรงลงไป
ถึงแม้ในการสอดใส่ครั้งแรกจะเป็นไปอย่างยากลำบากและม่านหมอกก็รับรู้ได้ว่าร่องรักของเธอคับแน่นแค่ไหนราวกับว่าเมียรักของเขาไม่เคยโดนรุกล้ำในเขตหวงห้ามนั้นมาก่อน แต่หลังจากนั้นเขากระแทกสะโพกครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างทั้งสองมีแต่เสียงครางกระเส่าประสานกัน
เขาขบกัดดูดดึงร่างบางไปทั่วสรรพางค์ สะโพกแกร่งตอกอัดแก่นกายใหญ่เข้าในกายเธอจนเกือบฟ้าสาง
5:30 น.
กัลยารีบสาวเท้าออกไปจากบ้านประกายฤกษ์ก่อนที่ทุกคนจะตื่นขึ้นมาเจอ กมลพรรณที่ตื่นมาออกกำลังกายแต่เช้าที่ห้องฟิตเนสชั้นล่าง มองผ่านกระจกเห็นกัลยาสวมชุดนักศึกษาเดินผ่านไว ๆ แต่กว่าเธอจะเดินตามออกมาถึงประตู กัลยาก็ขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว อดแปลกใจไม่ได้ว่าหลานสาวจะรีบไปไหนแต่เช้ามืด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แอ๊ดดดดด!
ป้านวลเปิดประตูเข้ามาในห้อง คนตัวโตปรือตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบาก เมื่อคืนเขาโคตรมีความสุข เขาฝันว่าได้ร่วมรักกับภรรยาสุดที่รักเกือบทั้งคืน แต่แปลกที่อาการป่วยเขากลับดีขึ้น
“กี่โมงแล้วครับป้า” ถามออกไปทั้งที่ยังไม่ยอมลุกจากเตียงแต่รู้ว่าแดดเริ่มจ้ามากแล้ว
“เกือบสิบโมงแล้วค่ะ” พลางตอบคำถามพลางเดินไปเก็บขวดเหล้า
“เมื่อคืนเข้ามาดื่มอีกแล้วใช่ไหมคะ”
“อืม”
“เมาแล้วก็เลยไม่ได้ดื่มนมที่คุณขิมเอาเข้ามาให้สินะคะ”
“นม?”
“ค่ะ”
“ขิม?” ร่างใหญ่ยังงงกับตัวเอง กัลยาเอานมเข้ามาให้เขาอย่างนั้นหรือ
“ค่ะ”
สิ้นเสียงเขาค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นนั่งเหยียดขาจนผ้าห่มเลื่อนมากองอยู่บริเวณหน้าท้อง เปลือยอกแน่นหนั่นอวดสายตาแม่บ้าน
“อุ้ย! คุณหมอกนอนถอดเสื้อทำไมคะ เดี๋ยวก็เป็นปอดบวมหรอกค่ะ ยิ่งไม่สบายอยู่นะคะ” ไม่พูดเปล่าก้มลงเก็บเสื้อยืดของเขาที่ทิ้งไว้บนพื้นแล้วหยิบใส่ตะกร้า ป้านวลค่อนข้างแปลกใจเพราะไม่ชินกับการที่เจ้านายนอนถอดเสื้อ ปกติเขาเป็นคนหวงเนื้อหวงตัวไม่ยอมให้ใครเห็นกล้ามได้ง่าย ๆ
ได้ยินป้านวลพูดแบบนั้นสายตาพลันก้มลงมองตัวเอง ดึงผ้าห่มขึ้นหลุบตาต่ำมองท่อนล่างส่วนที่อยู่ใต้ผ้าห่มเพราะรู้สึกเหมือนน้องชายจะโล่ง ๆ ยังไงชอบกล
“เฮ้ย!” เห็นสภาพตัวเองแล้วก็ตกใจ ไม่ได้เปลือยแค่ท่อนบน ท่อนล่างก็ไม่เหลือสักชิ้น
“ตกใจอะไรคะ ลุกค่ะป้าจะเอาผ้าปูไปซักให้ ได้เวลาเปลี่ยนผ้าปูแล้วค่ะ” ป้านวลกำลังดึงผ้าปูที่นอนออกจากมุมหนึ่งของปลายเตียง สายตาม่านหมอกก็เหลือบไปเห็นรอยเลือดเป็นวงเล็กอยู่บนผ้าปูสีขาวนวล
“อย่าครับป้า!” ร้องขึ้นเสียงดัง ใช้มือตะครุบแล้วดึงผ้าปูที่นอนและผ้าห่มไว้จนสุดแรง ท่าทางเขาตกใจจนใบหน้าซีดเผือด
“ทำไมล่ะคะ”
“ขิมล่ะครับ” เขาไม่ตอบแต่กลับถามหาหญิงสาวด้วยความร้อนใจ
“น่าจะยังไม่ตื่นค่ะ ป้ายังไม่ได้เข้าไปดูที่ห้องเลยค่ะ”
“เมื่อคืนป้าบอกว่าขิมเอานมเข้ามาให้ผมอย่างงั้นหรือครับ”
“ใช่ค่ะ อย่าบอกว่าคุณหมอกหลับไปแล้วนะคะ” ได้ฟังคำตอบถึงกับต้องกลืนน้ำลายอันเหนียวหนืดลงคอ
“เอ่อ…น่าจะใช่ครับ” มือหนาสองข้างยกขึ้นดึงทึ้งผมตัวเองแล้วเลื่อนลงมาถูหน้าตัวเองแรง ๆ
“โอยยยย! ทำอะไรลงไปวะเนี่ย” ขบกรามแน่นแล้วพึมพำออกมา รู้สึกหัวหนักอึ้งจนคิดอะไรไม่ออก ทำไมเขาถึงได้เลวโคตร ๆ ได้ขนาดนี้ คงเห็นแก่ตัวเกินไปถ้าเขาจะโทษเหล้า
“คุณหมอกปวดหัวเหรอคะ ลุกมาทานข้าวทานยาหน่อยดีไหมคะ คุณหมอกยังไม่ได้ทานยาตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ เมื่อวานคุณดื่มเหล้าหนัก คุณขิมก็เลยสั่งห้ามป้าว่าไม่ต้องเอายาให้คุณหมอกทานค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับป้า ป้าออกไปก่อนนะครับ ผมอยากอยู่คนเดียว” พูดเสียงเครียดมาก ในใจเริ่มร้อนรน
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าค่อยเข้ามาเอาผ้าปูที่นอนไปซักนะคะ”
