บทที่ 3 พ่อเลี้ยง
กัลยามาถึงบ้านประกายฤกษ์เกือบหกโมงครึ่ง เพราะรถค่อนข้างติด เธอเดินไปทักทายคุณปู่กับคุณย่าก่อนที่จะเข้าไปหาม่านหมอก
“คุณปู่คุณย่าสวัสดีค่ะ” กัลยากระพุ่มมือไหว้ท่านทั้งสอง กัมปนาทและกมลพรรณเงยหน้าขึ้นมาตามเสียง และรับไหว้ มองเธออยู่สักพักเหมือนกำลังคิด เด็กสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้ม แก้มป่องนิด ๆ จมูกหน่อย ๆ ผมสีน้ำตาลประกายทองยาวสลวยคนนี้คือใคร แถมสวมชุดนักศึกษา
“คุณปู่ คุณย่าคะ ขิมเองค่ะ” เธอทำท่ากลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าปู่กับย่า
“หนูขิมเองเหรอลูก ทำไมถึงสวยขึ้นมากมายเพียงนี้ โถ ๆ ๆ ถ้าไปเจอข้างนอกย่าคงจำไม่ได้” กมลพรรณมองลูกสาวเพื่อนรักของลูกชายอย่างชื่นชม เธอสวยมากจริง ๆ
“มาให้ปู่กับย่ากอดหน่อยเร็ว โตเป็นสาวแล้วเนี่ย” กัลยาเดินเข้าไปนั่งข้างท่านทั้งสอง ทั้งปู่ทั้งย่ากอดเธอด้วยความคิดถึง
ถามสารทุกข์สุกดิบสักพักกัลยาจึงเอ่ยถึงม่านหมอก
“พ่อเลี้ยงเป็นยังไงบ้างคะ”
“ขิมไปดูเองเถอะลูก” กมลพรรณบอกหลาน
“ได้ค่ะ งั้นขิมไปบ้านพ่อเลี้ยงก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
พูดจบเธอก็เดินไปบ้านของม่านหมอก ที่อยู่ห่างจากบ้านใหญ่เกือบสามร้อยเมตร ในใจรู้สึกตื่นเต้นและประหม่านิด ๆ ที่จะได้เจอกับพ่อเลี้ยง นานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา ครั้งล่าสุดที่เจอคือตอนพ่อเลี้ยงไปดูงานที่อีสาน ตอนนั้นเธอเรียนอยู่มอสามเตรียมจะเข้ามอสี่พอดี และตั้งแต่วันนั้นเธอก็รู้สึกว่าในใจลึก ๆ เธอนึกถึงพ่อเลี้ยงอยู่เสมอ และคอยเป็นห่วงเขาตลอดว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ชีวิตเขาไม่มีแม่เลี้ยงแล้ว
“คุณหมอกคะ พอได้แล้วค่ะ คุณหมอกไม่สบายอยู่นะคะ” ป้านวลรู้สึกกังวลที่เห็นเจ้านายนั่งจิบเหล้าไม่หยุด
“ผมไม่เป็นไรครับป้า อย่าห่วงผมเลยครับ”
ถึงน้ำเสียงของเขาจะฟังดูเป็นปกติแต่ป้านวลก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดี มีที่ไหนทั้งเป็นไข้ทั้งดื่มเหล้า แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะหายสักที ป้านวลได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นที่เขานั่งตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ขยับไปไหน
กัลยาเดินเข้ามาในบ้านตามที่คนใช้อีกคนบอก
“ป้านวลคะ สวัสดีค่ะ” ป้านวลยืนจ้องเด็กสาวที่สวมชุดนักศึกษาอยู่ตรงหน้านิ่ง แล้วก็นึกขึ้นได้ที่กมลพรรณบอกไว้เมื่อเช้าว่าวันนี้กัลยาจะเข้ามาเยี่ยมม่านหมอก
“คุณขิมใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ พ่อเลี้ยงล่ะคะ”
“นั่งอยู่ทางโน้นค่ะ คุณขิมช่วยคุยให้หน่อยสิคะ ดื่มเหล้าไปหลายแก้วแล้วค่ะ ป้าบอกก็ไม่ฟัง” ป้านวลพูดด้วยความเหนื่อยใจ
“หื้อ ไม่สบายแล้วดื่มเหล้าได้ยังไงคะ”
“ก็ใช่ไงคะ ใครห้ามก็ไม่ฟังค่ะ”
“อย่างนี้ต้องโดนเอ็ดแล้วล่ะค่ะ”
“ตามสบายเลยค่ะคุณขิม อ้อ แล้วคืนนี้คุณขิมค้างที่นี่ใช่ไหมคะ”
“ทีแรกก็ว่าจะค้างค่ะ แต่ว่าขิมลืมไปว่าไม่ได้กลับห้อง เลยไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนด้วยค่ะ”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาค่ะ เดี๋ยวป้าเตรียมไว้ให้นะคะ”
“ได้ค่ะ ถ้างั้นขิมไปดูพ่อเลี้ยงก่อนนะคะ”
“โอเคค่ะ”
เดินย่องไปด้านหลังพ่อเลี้ยงเบา ๆ ก่อนจะแอบหอมแก้มเขาหนัก ๆ ทั้งสองข้าง เหมือนที่เคยทำทุกครั้งที่ได้เจอกันเมื่อครั้งที่ยังเยาว์ ถึงตอนนี้จะลืมไปว่าตัวเองโตเป็นสาวแล้วก็เถอะ ม่านหมอกตกใจจนต้องหันขวบมาดูว่าใครบังอาจมาหอมแก้มเขาจนทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ทั้งที่เขาห่างหายจากอาการแบบนี้ไปนานมาก
จ้องหน้าสาวน้อยอยู่นานเพราะเธอสวยขึ้นมากแต่ก็ยังพอจำเค้าโครงหน้าได้
“ขิม! ขิมลูกพ่อ” ม่านหมอกพูดด้วยความดีใจ เขาไม่คิดว่าเธอจะมาหาเขาถึงบ้าน
กัลยาเข้าไปนั่งคุกเข่าแล้วโน้มตัวเข้าไปกอดคนตัวใหญ่ที่ตอนนี้ใบหน้าดูซูบเซียว แต่ก็ยังคงความหล่อไว้มาก ใบหน้าเขาดูเข้มขึ้นเพราะมีไรหนวดที่เหมือนไม่ได้โกนมาหลายวัน
เขาจุมพิตที่หน้าผากของเธอเบา ๆ เหมือนที่เคยทำเป็นประจำ
“อื้อ เหม็นเหล้า” กัลยาย่นจมูก เมื่อได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจากลมหายใจของพ่อเลี้ยง
“ลูกพ่อทำไมสวยจัง ฮึ” ยิ่งมองก็ยิ่งชื่นใจ ถ้าเธอเป็นลูกสาวของเขาจริง ๆ ก็คงจะดี อย่างน้อยก็คงไม่ต้องเหงาแบบนี้
“ก็มีพ่อหล่อนี่คะ ก็ต้องสวยเป็นธรรมดา” พ่อที่พูดถึงก็หมายถึงผู้ชายรูปหล่อที่อยู่ตรงหน้า
“โอย แบบนี้ก็มีหนุ่ม ๆ มาจีบเพียบเลยสิ”
