บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เยี่ยมปู่กับย่า

กมลพรรณยิ้มพรายรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เพราะกัลยาเปรียบเสมือนลูกสาวของมธุสรและม่านหมอกอีกคน เพียงแต่หลังจากกัลยาเริ่มเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายจนตอนนี้เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่สี่แล้วก็ยังไม่ได้มีโอกาสได้มาที่บ้านประกายฤกษ์สักที ถึงแม้เธอจะเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯก็ตาม

“ครับคุณแม่ ผมโทรบอกขิมก่อนนะครับ”

“ได้จ้ะ” คุยเสร็จก็เดินมาหาลูกชาย

“หมอกเป็นยังไงบ้างลูก” เดินเข้าไปเอาหลังมืออังศีรษะลูกชาย

“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากครับแม่” บอกแม่เสียงเรียบ

“กินข้าวเยอะๆ หน่อยนะลูกจะได้หายเร็วๆ พักหลายวันหน่อยก็ดี ไม่ต้องห่วงเรื่องงานหรอก ให้น่านดูแลไปก่อนก็ได้” กมลพรรณรู้ว่าลูกทั้งสามของเธอชอบทำงานหนักแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากให้ม่านหมอกหักโหมในช่วงที่เขาป่วยเช่นนี้ อย่างน้อยน่านฟ้าก็มีกรรวีภรรยาคนเก่งคอยช่วยงานอยู่เสมอ

“ครับแม่ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ” ช่วงนี้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังหมดไฟในการทำงาน มองไปทางไหนก็ดูน่าเบื่อ สมบัติมีตั้งมากมายก็ไม่รู้จะทำไปเพื่อใคร

กมลพรรณปล่อยให้ลูกชายได้พักผ่อน ส่วนตัวเธอเดินออกไปอ่านหนังสือที่ระเบียงของบ้านอีกด้านหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศเย็นร่มรื่นดี บ้านม่านหมอกเป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์คล้ายกับรีสอร์ต รอบบ้านมีการจัดสวนสวยงาม และมีน้ำตกจำลองด้วย อารมณ์แบบนั่งอยู่ในป่าย่อมๆ เลยก็ว่าได้

ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบไฟนอลเทอมสองปีสี่ของกัลยา

“ขิมได้ข่าวว่าเธอได้งานแล้วเหรอ” เพื่อนของเธอเอ่ยถาม ขณะที่ทั้งสองเดินออกมาจากตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์

“ได้แล้วจ้ะ พ่อเราหาให้”

“ที่ไหนเหรอ”

“โรงงานน้ำตาลประกายฤกษ์ที่อีสาน”

“โชคดีจังอ่า เรายังหาไม่ได้เลย” ใคร ๆ ก็อยากทำงานกับบริษัทประกายฤกษ์

“ค่อย ๆ หาเดี๋ยวก็ได้เอง ที่จริงของเราพ่อเลี้ยงเป็นคนฝากเราเข้าทำงานเองแหละ” เพื่อนสนิทของเธอรู้ว่าพ่อเลี้ยงของเธอเป็นใคร แต่แค่ไม่เคยเจอหน้าเขา

“แต่เธอก็เก่งจริง ๆ นี่นา ถึงเป็นเด็กฝากก็ไม่ใช่ปัญหา” ที่จริงที่บ้านกัลยาก็ทำธุรกิจ แต่เธออยากลองทำงานกับบริษัทอื่นดูบ้าง ถ้าเบื่องานค่อยกลับไปทำช่วยพ่อก็ได้

“การทำงานถึงเก่งแค่ไหนยังไงก็ต้องเริ่มจากศูนย์ทั้งนั้นแหละ” กัลยาบอกเพื่อน

ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ของกัลยาดังขึ้น เธอเห็นพ่อเธอโทรมาหลายสาย ว่าจะโทรกลับแต่ก็ติดคุยกับเพื่อนเสียก่อน

“เรากลับห้องก่อนนะขิม” เพื่อนบอกแล้วโบกมือให้ กัลยายิ้มให้และโบกมือตอบ มือพลางกดรับสาย

“ค่ะพ่อ”

“ไปเยี่ยมพ่อเลี้ยงให้พ่อหน่อยสิ เห็นคุณย่าบอกว่าพ่อเลี้ยงไม่ค่อยสบาย” บอกลูกสาวน้ำเสียงอ่อนโยน

“งั้นเหรอคะ โอเคค่ะขิมสอบเสร็จพอดี เดี๋ยวขิมไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าด้วยเลยค่ะ” เจ็ดปีแล้วสินะที่เธอไม่ได้เจอหน้าพ่อเลี้ยงของเธอเลย แต่พ่อของเธอก็คอยเล่าความเป็นไปของพ่อเลี้ยงให้ลูกสาวฟังอยู่บ่อยครั้ง

“โอเค ได้เรื่องยังไงแล้วบอกพ่อด้วยนะ”

“ได้ค่ะพ่อ”

“แล้วขิมจะกลับวันไหนเดี๋ยวพ่อจะไปรับ” ปกติถ้ากัลยากลับบ้านเธอจะต้องนั่งเครื่องบินกลับตลอด

“คงอีกสองสามวันค่ะพ่อ แต่พ่อไม่ต้องมารับก็ได้ค่ะ หนุ่ยเขาบอกจะมารับขิมน่ะค่ะ” กัลยาหมายถึงคู่หมั้นของเธอ

“เห็นผู้ชายดีกว่าพ่อ” แกล้งทำเสียงเหมือนงอน

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่า พ่ออ่า”

“หึ หึ พ่อล้อเล่น แค่นี้แหละรีบไปดูใจพ่อเลี้ยงเราหน่อย ป่านนี้ลงแดงแล้วมั้ง”

“ค่ะพ่อ แท็กซี่มาพอดีเลยค่ะ จุ๊บ ๆ ค่ะพ่อ” วางสายเสร็จก็โบกแท็กซี่ทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel