บทที่ 13 ถูกจับ
หลินหวานหว่านก็มีสีหน้าแปลกใจ นางเดินไปหาชุนหลันแล้วถามว่า “ชุนหลัน เจ้าเป็นอะไรไปเหรอ?”
“อือๆๆ” ชุนหลันอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออกสักคำ
หลินหวานหว่านหันกลับไปมองซิงเอ๋อร์แล้วพูดว่า “ชุนหลันเหมือนจะเป็นโรคลมร้อนนะ” นางพูดไปด้วย แล้วใช้โอกาสตอนที่ชุนหลันไม่ทันสังเกตเอาเข็มเงินสองเล่มออกมาจากตัวของนางเงียบๆ
ชุนหลันรู้สึกชาที่ข้อเท้าและท้ายทอย จากนั้นนางก็เห็นว่าตัวเองลุกขึ้นมาได้แล้ว
“อือๆๆ” นางอยากจะเปิดปากพูด แต่กลับเห็นว่าตัวเองยังพูดไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้นางตกใจจนเบิกตาโพลง
หลินหวานหว่านเห็นแล้วก็ลุกขึ้นแล้วมองดูชุนหลันพูดว่า “ชุนหลัน อาการโรคลมร้อนของเจ้าหนักมาก เจ้ารีบไปหาหมอเถอะ!”
ชุนหลันเองก็ตกใจเหมือนกัน ไม่กล้ารอช้า รีบพยักหน้าแล้ววิ่งโซเซออกไปทันที
รอชุนหลันออกไปแล้ว สีหน้าของหลินหวานหว่านก็เปลี่ยนไป แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองอย่างเย็นชาแล้วพูดกับซิงเอ๋อร์ว่า “ซิงเอ๋อร์ ต่อไปเจ้าไม่ต้องกลัวคนของฮูหยินรองแล้ว”
“แต่ว่าฮูหยินรองจะโกรธเอาได้นะเจ้าคะ เดี๋ยว…” ซิงเอ๋อร์เดินไปข้างหน้าสองก้าวอย่างลังเล เพราะยังไงนางก็ถูกสาวใช้ฮูหยินรองรังแกมาตั้งแต่เด็กจนโต ถูกรังแกจนชินไปแล้ว
จะบอกว่าไม่ต้องกลัวแล้วไม่กลัวได้อย่างไร?
“เดี๋ยวอะไร? ซิงเอ๋อร์ เจ้าต้องรู้ว่า เจ้าเป็นสาวใช้ของข้า หากเจ้าอ่อนแอ คนอื่นจะคิดว่าข้าอ่อนแอไปด้วย ดังนั้นเพื่อข้า และเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าจะต้องไม่ยอมให้คนอื่นมารังแกเจ้าได้ง่ายๆ!” หลินหวานหว่านยื่นมือไปจับไล่ของซิงเอ๋อร์แล้วพูด
นางเห็นซิงเอ๋อร์พยักหน้าแล้วก็ถึงปล่อยมือออก และหิวพอดี นางจึงเดินไปที่โต๊ะแล้วหยิบขนมขึ้นมากำลังจะกิน แต่ก็ต้องตกตะลึงเสียก่อน
ในขนมนี้มีแต่ยาเสน่ห์ ดูแล้ว ถึงแม้นางจะแกล้งตกลงหลินหว่านฉิงยอมถอนหมั้น ฮูหยินรองก็ไม่คิดที่จะปล่อยนางไปสินะ!
และอีกด้านหนึ่ง หลินหว่านฉิงเพิ่งกลับถึงห้อง นางนึกถึงท่าทางที่หลินหวานหว่านยอมแพ้อย่างนั้น ในใจก็รู้สึกดีใจมาก
ตอนนั้นที่หลินหวานหว่านกับอี้อ๋องหมั้นหมายกัน สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะราชครูทำนายว่าตระกูลหลินจะมีคนหนึ่งที่ได้เป็นฮองเฮา และอี้อ๋องก็ถูกอบรมสั่งสอนด้วยฐานะองค์รัชทายาท ถ้าหลินหวานหว่านยอมถอนหมั้น เพื่อตำแหน่งรัชทายาทของอี้อ๋องเตี้ยนเซี่ย ฝ่าบาทจะต้องพระราชทานการแต่งงานให้นางแน่นอน
หลินหว่านฉิงนึกถึงพวกนี้ก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา “เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าจะงีบสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ” พวกสาวใช้ก็พยักหน้าแล้วเดินออกไปทั้งหมด หลินหว่านฉิงเปิดประตูห้องนอนเดินเข้าไป
แต่ทว่า ในตอนที่นางเปิดประตูเข้าไปนั้น เงามืดหนึ่งก็กระโดดออกมาจากด้านหลังของนาง ต่อมาก็มีแสงเย็นวาบส่องประกายมาจากบนคาน
“อึก!” หลินหว่านฉิงแหงนหน้าขึ้นแล้วร่างกายก็ทรุดลงไปในอ้อมแขนของคนชุดดำด้านหลัง
คนชุดดำมองดูผู้หญิงในอ้อมแขน ดูแล้วมั่นใจว่าเป็นคุณหนูรองตระกูลหลินก็ถูกยกตัวนางขึ้นบ่าจากไป
อีกด้านหนึ่ง กลิ่นหอมอันอบอุ่นน่ารื่นรมย์มาก ในคืนที่มืดมิด ม่านผ้าบางปลิวไปตามสายลม และมองเห็นชายร่างสูงนอนเอนกายอยู่ข้างในรางๆ
แม้ว่าแสงเทียนสลัวๆทำให้มองเห็นลักษณะที่เข้มงวดของเขาได้ยาก แต่ยังคงรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่อยู่ห่างออกไปใกล้สามเมตร
ประตูตำหนักสีแดงชาดถูกเปิดออก ชายชุดดำเข้ามาแล้ววางหญิงสาวที่แบกไว้ตรงไหล่ลงข้างๆ จากนั้นก็คุกเข่าลงพื้น
และหญิงสาวก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือ หลินหว่านฉิง!
