ตอนที่ ๕: พันธมิตรใต้เงาจันทร์
การได้รับความช่วยเหลือจากรัชทายาทหวังเจี๋ยตงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสืบสวนของซูเหมยและเฟิ่งหลัน พวกเขาเริ่มทำงานร่วมกันอย่างลับๆ โดยมีรัชทายาทคอยให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลบางอย่างในวังหลวง
หวังเจี๋ยตงทรงเล่าถึงความผิดปกติในการตัดสินใจของฮองเฮาในช่วงหลัง รวมถึงการแต่งตั้งขุนนางที่ไม่น่าไว้วางใจเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญ และการแทรกแซงกิจการต่างๆ ในราชสำนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ข้าเคยเตือนเสด็จแม่แล้ว แต่พระองค์ไม่ทรงฟัง" รัชทายาทตรัสด้วยความกังวล "ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนมีอิทธิพลเหนือพระองค์"
ซูเหมยและเฟิ่งหลันแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาสงสัยว่า "ใครบางคน" ที่รัชทายาทกล่าวถึงนั้นอาจเป็นบุคคลเดียวกับที่อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของตระกูลซูและเกี่ยวข้องกับคำสาปของเฟิ่งหลัน
ด้วยความช่วยเหลือของรัชทายาท พวกเขาเริ่มตรวจสอบเอกสารและบันทึกต่างๆ ในห้องสมุดหลวงอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้องกับชนเผ่าโบราณและพิธีกรรมลึกลับ พวกเขาพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรพิเศษที่มีพลังในการรักษาและต้านทานพลังเวทมนตร์ ซึ่งเป็นความรู้ที่ตระกูลซูเคยเชี่ยวชาญ
"ดูเหมือนว่าจะมีคนพยายามทำลายหรือซ่อนบันทึกเหล่านี้" เฟิ่งหลันกล่าวขณะที่พบร่องรอยการถูกแก้ไขในม้วนคัมภีร์เก่าแก่
"ฮองเฮาอาจรู้เรื่องเหล่านี้" ซูเหมยสันนิษฐาน "นางอาจต้องการปกปิดความจริงเกี่ยวกับคำสาปและความเกี่ยวข้องของตระกูลซู"
ในขณะที่การสืบสวนดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ก็มั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างซูเหมยและเฟิ่งหลันก็ยิ่งลึกซึ้งขึ้น พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันในสวนบัวลับภายใต้แสงจันทร์ พูดคุยถึงความหวังและความฝันที่พวกเขาอยากจะสร้างร่วมกันหากอุปสรรคทั้งหมดนี้ผ่านพ้นไป
"ข้าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน" เฟิ่งหลันตรัสด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาในคืนหนึ่ง "การมีเจ้าอยู่เคียงข้าง... มันทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไป"
ซูเหมยจับมือของเฟิ่งหลันอย่างอ่อนโยน "ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอ เฟิ่งหลัน"
ภายใต้แสงจันทร์สีนวล ความรู้สึกรักใคร่และผูกพันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างงดงาม ท่ามกลางความมืดมิดและอันตรายที่รายล้อม
อย่างไรก็ตาม ความสงบสุขนั้นอยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่ง ข่าวร้ายก็มาถึงตำหนักจันทรา
"ทูลองค์หญิง ทูลคุณชายซู ท่านหมอหลวงหลี่ถูกจับกุมแล้วพ่ะย่ะค่ะ!" ขันทีน้อยวิ่งเข้ามาแจ้งข่าวด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ซูเหมยและเฟิ่งหลันมองหน้ากันด้วยความตกใจ "เกิดอะไรขึ้น?"
"ทหารจากกรมวังหลวงบุกเข้าไปในเรือนของท่านหมอหลวง และจับตัวท่านไป โดยไม่มีใครทราบสาเหตุ"
ความกังวลถาโถมเข้าสู่จิตใจของซูเหมย นางรู้ทันทีว่าการจับกุมท่านหมอหลวงหลี่ต้องเกี่ยวข้องกับการสืบสวนของพวกเขา ท่านหมอหลวงหลี่เป็นพันธมิตรที่สำคัญ และการหายตัวไปของท่านอาจทำให้ทุกอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น
"เราต้องช่วยท่านหมอหลวง" ซูเหมยกล่าวด้วยความร้อนใจ
"แต่เราจะทำอย่างไร?" เฟิ่งหลันตรัสด้วยความกังวล "ฮองเฮามีอำนาจมากในวังหลวง"
"เราต้องหาทางเข้าถึงตัวท่านหมอหลวงให้ได้" รัชทายาทหวังเจี๋ยตงซึ่งทราบข่าวก็รีบรุดมาที่ตำหนักจันทรา "ข้าจะลองสืบข่าวจากคนของข้าในกรมวังหลวง"
ด้วยความช่วยเหลือของรัชทายาท พวกเขาได้ทราบว่าท่านหมอหลวงหลี่ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับขุนนางกลุ่มหนึ่งเพื่อก่อกบฏ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริงโดยสิ้นเชิง
"นี่เป็นการใส่ร้าย!" ซูเหมยกล่าวด้วยความโกรธ "ฮองเฮากำลังพยายามปิดปากทุกคนที่รู้ความจริง"
"เราต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของท่านหมอหลวง" เฟิ่งหลันกล่าวอย่างหนักแน่น "และเราต้องเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของฮองเฮาให้ได้"
คืนนั้น ภายใต้แสงจันทร์ที่ดูเศร้าสร้อย ซูเหมยและเฟิ่งหลันวางแผนอย่างรอบคอบ พวกเขารู้ว่าเวลากำลังเหลือน้อย และอันตรายกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ
"ข้ามีแผนบางอย่าง" ซูเหมยกล่าวด้วยแววตาแน่วแน่ "มันอาจเสี่ยง แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น"
แผนของซูเหมยคือการแทรกซึมเข้าไปในคุกหลวงเพื่อพบท่านหมอหลวงหลี่และหาข้อมูลเพิ่มเติม ในขณะที่เฟิ่งหลันและรัชทายาทจะพยายามหาหลักฐานที่จะโยงไปถึงฮองเฮา
"เจ้าจะไปคนเดียวไม่ได้" เฟิ่งหลันตรัสด้วยความเป็นห่วง
"ข้าต้องไป" ซูเหมยตอบ "ท่านหมอหลวงอาจมีข้อมูลสำคัญที่จะช่วยเราได้"
ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องลอดเมฆดำ ซูเหมยในชุดขุนนางสีเข้มอำพรางตัวออกจากตำหนักจันทรา มุ่งหน้าไปยังคุกหลวงที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในวังวนแห่งอำนาจและความมืดมิด
การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย แต่ความมุ่งมั่นที่จะช่วยท่านหมอหลวงและเปิดโปงความจริงนั้นแข็งแกร่งกว่าความกลัวใดๆ ในใจของนาง
ในขณะเดียวกัน เฟิ่งหลันและรัชทายาทก็เริ่มปฏิบัติการตามแผนของพวกเขา โดยหาร่องรอยของหลักฐานที่จะเชื่อมโยงฮองเฮาเข้ากับการใส่ร้ายตระกูลซูและการจับกุมท่านหมอหลวงหลี่
ภายใต้เงาจันทร์ที่ทอดยาว ความหวังและความเสี่ยงต่างก็เติบโตเคียงคู่กัน การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง...
โปรดติดตามตอนต่อไป...
