บท
ตั้งค่า

๔ ความคิดถึงสั่งให้มาเจอ (๑)

ความคิดถึงสั่งให้มาเจอ

ส่งลัลนาถึงบ้านก็ขับรถกลับทันที ดวงตาคมมองตามแผ่นหลังบางจนหล่อนลับสายตา พรูลมหายใจด้วยความเสียดายเมื่อรู้ว่าสาวที่ตนหมายตาต้องใจมีเจ้าของแล้ว ไม่น่าเล่าเธอถึงตั้งใจอ่านหนังสือสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองหลวง

เพราะต้องการไปหาคนรักนั่นเอง...

หลงเข้าข้างตัวเองคิดว่าจะได้รับความรักจากลัลนาเช่นเดียวกัน ไม่นึกว่าหัวใจหล่อนจะไม่ว่างซะแล้ว

“ตาหลาน...ชอบน้องเขาใช่หรือเปล่า” ถึงบ้านสองชั้นที่แสนอบอุ่น มีเพียงยายหลานอยู่ด้วยกันและแม่บ้านอีกสองคน

บิดาของภาวิชเสียชีวิตตั้งแต่ชายหนุ่มยังเด็กด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือกขาว ถึงจะรักษาอย่างไรก็ไม่อาจมีชีวิตยืนยาวได้ สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้บอกลาโลกใบนี้ไปด้วยความอาวรณ์ ห่วงทั้งภรรยาและลูกชายตัวน้อย

เมื่อพ่อจากไปแม่ของเขาก็พบรักกับชายคนใหม่อย่างรวดเร็ว ฝากลูกชายเพียงคนเดียวให้มารดาเลี้ยงส่วนตนก็ชุบตัวใหม่ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง โด่งดังในเมืองศิวิไลซ์พร้อมมีลูกคนใหม่กับไฮโซรูปหล่อ เขาจึงคิดมาเสมอว่าตนมีแค่ยาย

ไม่มีแม่!

“เปล่าครับ ไม่ได้ชอบสักหน่อย” คำถามของยายทำให้ภาวิชรีบส่ายศีรษะ หลอกคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก

แต่อย่างไรก็ปิดสายตาของคนอาบน้ำร้อนมาก่อนไม่มิด ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าหลานชายชอบหญิงสาวคนนั้น

“อย่าโกหกยายเลย ยายเลี้ยงเรามาแต่เด็กทำไมจะดูแววตาตาหลานไม่ออกว่าชอบน้องเขามากแค่ไหน” ร่างสูงนั่งลงข้างท่านแล้วโอบกอดยายเอาไว้เหมือนต้องการกำลังใจ แววตาเศร้าโศกไม่คิดว่าตนจะอกหักทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มจีบ

“เฮ้อ ยายรู้ใจผมตลอดเลย เหมือนมานั่งในใจ” เสียงเศร้าจนท่านนึกสงสาร

“ตัดอกตัดใจเถอะนะลูก ผู้หญิงมีอีกเยอะแยะ ยายเชื่อว่าตาหลานของยายจะต้องมีคนดีๆ เข้ามาอีก” จับมือหนาแล้วลูบปลอบปะโลม เหลือกันเพียงสองคนจึงห่วงหลานคนนี้เป็นอย่างมาก ถึงอยากให้รักของภาวิชสมหวังแต่ก็ไม่อาจบังคับใจลัลนา

ทางที่ดีคงต้องบอกคนของตัวเองให้หักอกหักใจ ไม่คิดถึงหญิงที่มีเจ้าของ

“ครับ ผมคงไม่กล้าพอจะจีบคนที่มีแฟนแล้ว”

“ยายอยากกินขนมอะไรครับ เดี๋ยวผมจะทำให้เป็นพิเศษ...ขอแค่เป็นที่ปรึกษาตอนหลานคนนี้อกหักได้หรือเปล่า” สูดลมหายใจเรียกกำลังใจให้ตัวเอง ค่อยเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ไม่อยากตกอยู่ในความเศร้านานกว่านี้

ทว่าเริ่มอยากรู้ว่าชายคนใดได้ใจลัลนาไปครอง ถ้าเธอเลือกเขาแทนไม่ได้เหรอ...

อย่างไรรักทางไกลมันก็ยาก

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เดี๋ยวยายพาไปร้องคาราโอเกะดีไหม ตาหลานจะได้ตะโกนสิ่งที่อัดอั้นออกมา” คำพูดของคุณยายเรียกรอยยิ้มหวานจากภาวิช เขาไม่คิดว่าท่านจะพาไปร้องคาราโอเกะ ด้วยอายุของท่านที่ใกล้จะแปดสิบปีในอีกไม่กี่เดือน แต่กลับหัวสมัยใหม่ทั้งเข้าใจหลานชายเป็นอย่างดี

“ไอเดียของยายแจ่มไปเลยครับ” ยิ้มกว้างแล้วชวนกันคุยเรื่องอื่น ทิ้งเรื่องของลัลนาเอาไว้ไม่พูดถึงอีก

รักครั้งนี้หลุดลอยไปจากมือซะแล้ว เขาคงไม่มีโอกาสพัฒนาสถานะ เป็นได้เพียงพี่ชายเท่านั้น

การมาอยู่เมืองหลวงของอติกานต์นอกจากเรื่องเรียนก็เป็นสังคมใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจ ว่างจากการเรียนก็ไปเที่ยวกับเพื่อนและรุ่นพี่ ชายหนุ่มเป็นที่รู้จักของคนทั้งคณะด้วยความหล่อเหลา สาวหลายคนพยายามมาขอเบอร์ แต่ก็ถูกปฏิเสธพร้อมทั้งบอกว่ามีแฟนแล้ว

ร่างสูงจึงกลายเป็นสมบัติที่ไม่อาจแตะต้องได้ กระนั้นก็ยังมีหญิงสาวหลายคนชอบชายหนุ่มมากถึงขนาดยอมเป็นกิ๊กเพราะรู้ว่าแฟนของเขาไม่ได้เรียนที่เดียวกัน ระยะทางคือปัญหาให้รักจืดจาง

ทว่าสำหรับชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกรักลัลนาน้อยลงเลย ถึงไม่ค่อยได้โทรหาเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังจดจำกลิ่นหอมของเธอได้จากถุงหอมที่เพิ่งเอากลับมาเมืองหลวง นับรอวันที่หล่อนจะมาเรียนที่นี่ด้วยกัน

อีกไม่นานหรอก วันนั้นต้องมาถึงแน่นอน...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เพิ่งกลับมาจากอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนและทำรายงานเดี่ยว กำลังจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็มีคนมาเคาะประตูห้องซะก่อน เขาจึงรีบสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงบอลแล้วตรงไปเปิดประตูทันที

“มีอะไรเหรอมุก” แขกที่มาเยือนคือเพื่อนสนิทที่เรียนคณะเดียวกัน

ความจริงพวกเขาต่างถูกจับให้คู่กัน ทุกคนลงความเห็นว่าเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก แต่ร่างสูงก็บอกชัดเจนว่าเป็นเพียงแค่เพื่อน ไม่รู้เลยว่าทำให้คนแอบรักน้อยใจมากแค่ไหน หวังอยู่ตลอดว่าตนจะเป็นตัวจริงสักที

ความรักระหว่างอติกานต์กับลัลนาคงหมดลงในเร็ววันเพราะปัญหาเรื่องระยะทาง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น

หัวใจของเขายังมีเพียงรุ่นน้องแสนสวยคนเดียว

“ปลื้มว่างไหม ฝักบัวห้องน้ำเราไหลช้า โทรหานิติคอนโดเขาก็บอกให้รอช่างประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่เรารอไม่ไหว ปลื้มช่วยไปดูให้ก่อนได้หรือเปล่า” คำขอร้องกับดวงตาเว้าวอน อีกทั้งไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง

“ได้สิ” พูดจบก็หยิบกุญแจห้องของตัวเองแล้วลงกลอน พากันไปยังห้องของประกายมุก

เธอเหลือบมองร่างสูงตลอดเวลา ตอนอยู่มัธยมว่าหล่อแล้ว พอขึ้นมหาวิทยาลัยกลับเปล่งออร่ามากกว่าเดิม หล่อนไม่อาจห้ามใจตนเองเอาไว้ได้ ดวงตากลมเป็นประกายแสดงถึงความชื่นชมต่อเพื่อนร่วมโรงเรียนที่มาเรียนคณะเดียวกัน

ชอบอติกานต์เหลือเกิน...

“มันเป็นอะไรเหรอ” เข้ามาในห้องแล้วก็ตรงไปยังห้องน้ำของหล่อน ตรวจเช็คทุกอย่างแล้วหันไปตอบเจ้าของห้อง

“มีพวกสิ่งอุดตันน่ะ เดี๋ยวเราออกไปซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนให้ นิติเขาก็คงให้ช่างมาเปลี่ยน เสียเวลารอ...เราทำให้เองดีกว่า มุกรออยู่ห้องนะ เราไปซื้อแป๊บเดียว” พอรู้ปัญหาก็ขันอาสาด้วยความเต็มใจ คนที่รอโอกาสก็รีบเกาะติดทันที

“เราไปด้วยสิ จะได้เลือกว่าอยากได้แบบไหนด้วย”

“ไปสิ”

พวกเขาพากันไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้เพื่อซื้ออุปกรณ์ ภาพของหนุ่มหล่อสาวสวยกลายเป็นจุดสนใจของคนที่เดินผ่าน หนึ่งในนั้นคือเพื่อนร่วมรุ่นซึ่งยกโทรศัพท์ขึ้นบันทึกภาพเอาไว้ตอนคนทั้งสองกำลังเลือกฝักบัวอันใหม่

เหมือนข้าวใหม่ปลามันที่ใช้ชีวิตร่วมห้องกัน

เสร็จแล้วจึงกลับมาที่คอนโดมิเนียม จัดการเปลี่ยนฝักบัวโดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด เขาเองก็อยากรีบกลับห้องไปอาบน้ำพักผ่อน

ประกายมุกมองร่างสูงจากทางด้านหลัง กล้ามแน่นกับแผ่นหลังกว้าง ยิ่งทำให้อยากซุกซบแต่กลับไม่มีโอกาสเพราะสถานะของเราเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิท

“ปลื้มเก่งจังเลย ถ้าไม่ได้ปลื้มเราคงแย่...อยู่ตัวคนเดียวก็แบบนี้แหละ” รีบเอ่ยชมพร้อมกับเสิร์ฟน้ำเย็นเมื่อเขาจัดการทุกอย่างให้ตนเรียบร้อย อติกานต์รับน้ำมาดื่มจนหมดแก้วแล้วเอ่ยอย่างใจกว้าง อย่างไรหล่อนก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว มีอะไรช่วยได้ก็อยากช่วย

“มีอะไรเรียกใช้ได้ ส่วนมากเราก็อยู่ห้องไม่ค่อยได้ไปไหนหรอก ถ้าพวกไอ้ป๊อดมันไม่ลากไปนะ”

“เราลงไปอ่านหนังสือด้วยกันไหม ใกล้สอบปลายภาคแล้วด้วย...” รีบหาเรื่องเพื่ออยู่ใกล้ชิด โดยใช้ข้ออ้างการเรียนมาพูด

“เอาสิ ดีเลยเผื่อเราสงสัยตรงไหนจะได้ถาม ไปเอาหนังสือที่ห้องก่อนนะจะรีบตามลงไป” เขาเองก็ไม่ได้ติดขัด มีเพื่อนติวให้ดีกว่าอ่านเอง ทั้งเธอยังจดเลคเชอร์เยอะน่าจะสามารถอธิบายส่วนที่เขาพลาดได้

“อือ” พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ค่อยมองตามอติกานต์ที่ออกจากห้องตน ฮึมฮัมเพลงในลำคอด้วยความสุขระหว่างไปเตรียมหนังสือเพื่อติวให้เขา

ข้ออ้างที่ใช้ถือว่าประสบความสำเร็จ อาจจะต้องใช้บ่อยๆ แล้วล่ะ

ช่วงที่เธอหยุดก็ช่วยบิดาทำงานสวน หญิงสาวอ่านหนังสือจนตาเบลอจึงต้องออกมาหาอย่างอื่นทำ คิดถึงแฟนที่อยู่ทางไกล จ้องโทรศัพท์หลายครั้งหวังให้เขาโทรมาหรือส่งข้อความหา แต่ก็ไร้วี่แววจนน่าโมโห

ช่วงปิดเทอมเขามักจะกลับบ้านทุกครั้ง แต่คราวนี้บอกว่าได้เข้าทีมวิจัยกับอาจารย์จึงเลือกจะอยู่มหาวิทยาลัย เธอพยายามทำความเข้าใจแต่ก็ยังรู้สึกน้อยใจ ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ทำเพียงแค่ส่งข้อความอย่างเดียว โทรคุยแต่ละครั้งก็คุยไม่นาน อติกานต์มักจะอ่านหนังสือหรือสังสรรค์กับรุ่นพี่

พอกลับถึงห้องเขาก็เหนื่อยจนนอนหลับโดยมีเสียงของหล่อนกล่อม จนหลายครั้งหญิงสาวเริ่มนึกกังวล

ไม่รู้ว่ายังรักกันอยู่หรือเปล่า...

บางทีอาจจะลืมหล่อนไปแล้วก็ได้

“ปิดเทอมไม่รู้จักกลับบ้าน ลืมกันแล้วหรือไง..เฮ้อ ไม่สอบซะเลยดีไหม เรียนแถวบ้านก็ได้ไม่เห็นต้องพยายามขนาดนี้เลย” โมโหจนเด็ดหญ้าแถวนั้นมาขย้ำ ใบหน้าหวานบูดบึ้งจนไม่เป็นอันช่วยบิดาทำสวน

ตอนนี้ผลผลิตกำลังออกดอกงาม เก็บไปขายที่ตลาดได้ราคาดีพอสมควร ถึงพวกตนจะไม่ร่ำรวยมีเงินถุงเงินถังแต่ก็พออยู่พอกิน มักจะนำผลผลิตไปให้บ้านของอติกานต์เสมอ ครอบครัววัฒนาพิบูลย์ยิ่งรักเอ็นดูหล่อนมากขึ้น

“อะไรต่าย หงุดหงิดอะไรน่ะเรา” บิดาเห็นก็ต้องถามลูกที่ปากบอกจะมาช่วย แต่ดันเด็ดหญ้าเล่นพร้อมกับพึมพำคนเดียวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

“เปล่าพ่อ แค่เบื่อหญ้ามันขึ้นเร็ว เพิ่งตัดไปไม่กี่วันก็ขึ้นอีกแล้ว” หาข้ออ้างที่พอจะฟังขึ้น

“เดี๋ยวพ่อตัดเอง เราไปอ่านหนังสือเถอะ ไหนบอกว่าจะสอบเข้ามหา’ลัยในกรุงเทพฯ ไง ยากด้วยนะ เดี๋ยวก็สอบเข้าไม่ได้หรอก” ท่านรีบไล่บุตรสาวเข้าไปในบ้านทันที รู้ถึงความต้องการของลัลนาเป็นอย่างดีว่าอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองหลวงเพื่อไปหาอติกานต์

คนเป็นพ่อสนับสนุนเต็มที่ พยายามหาเงินแล้วเก็บไว้เพื่ออนาคตของลูกสาวคนเดียว แต่เงินก็ค่อยหมดไปทีล่ะน้อยเมื่อภรรยานำไปใช้กับการพนัน

“อย่างกับอ่านแล้วมันจะสอบเข้าได้ หัวสมองแค่นี้ฝันเฟื่องไปไกล” อนงลักษณ์แทรกกลางปล้องเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อลูกคุยกัน

นางไม่ชอบความทะเยอทะยานของบุตรสาว คิดว่ามันสิ้นเปลืองหากสอบไปเรียนที่เมืองหลวง สู้เอาเงินเหล่านั้นมาต่อทุนเพื่อทำให้มันงอกเงยไม่ได้

“ลูกตั้งใจ ทำไมจะสอบไม่ได้ล่ะแม่” รีบขัดทันทีพร้อมกับบอกลูกสาวที่หน้าเสีย

ลัลนาไม่เคยเข้าใจความคิดของมารดา เธอรู้ดีว่าตนไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของท่าน ลูกจึงเหมือนโซ่ตรวนที่คล้องให้อยู่กับชายที่ไม่ได้รัก

เพียงแค่คิดก็สงสารบิดาของตนเอง เพราะท่านรักผู้หญิงที่ไม่มีใจเสน่หาให้สักนิด...

“ใครจะมีปัญญาส่งไปเรียน ค่าเทอม ค่ากิน ค่าอยู่ โอ๊ย แต่ละเดือนจะหมดเท่าไหร่ มีแฟนรวยแล้วก็หัวสูง พ่อแม่แกรวยมากหรือไง” ค่อนขอดไปถึงครอบครัวของอติกานต์ที่รู้สึกไม่ชอบหน้า ร่ายยาวถึงข้อเสียของการไปเรียนเมืองหลวงที่มีค่าครองชีพสูง ทั้งที่พ่อแม่ก็เป็นเพียงชาวไร่ชาวสวน มีหนี้สินมากกว่ารายรับอีก

ไม่รู้ชาตินี้จะลืมตาอ้าปากได้หรือเปล่า ลูกสาวยังหัวสูงคิดจะโบยบินตามคนรักที่ร่ำรวยไปอยู่เมืองศิวิไลซ์

“เอาน่า ฉันส่งลูกไหว” ภีมเดชยังคงยืนกรานตามใจลูกสาว ลัลนาคือความภาคภูมิใจของท่านตั้งแต่สอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดได้แล้ว

“โอ๊ย! ส่งไหวๆๆ ลำพังขายกับข้าวมันจะได้เงินเท่าไหร่ ฉันต้องนั่งหลังขดหลังแข็งเย็บผ้าไม่ได้ออกไปไหนกับเขาสักที เบื่อ ฉันเบื่อเข้าใจไหม!” พูดจบก็กระแทกส้นเท้าเดินเข้าบ้าน ปล่อยร่างบางมองตามพลางขยับเข้าไปหาบิดา

“แม่เป็นอะไรน่ะพ่อ”

“โดนเจ้ามือกิน ไม่มีอะไรหรอก...อย่าไปคิดมากเรื่องที่แม่พูดเลยนะ พ่อส่งต่ายเรียนได้สบายอยู่แล้ว อีกไม่กี่เดือนผลไม้ก็ดกเต็มสวน ได้เงินมาเยอะแน่ๆ” รีบบอกไม่ให้ลูกสาวคิดมาก ตนพยายามหาเงินเพื่อส่งให้ลัลนาได้เรียนตามความต้องการ ถึงจะลำบากแค่ไหนก็ต้องทำเพื่อลูก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel