ตอนที่6 ยังไม่ลืม
"วันหลังก็ลองพามาเจอกันสิครับ" กรกันต์เอ่ยกับอารยาเติมไฟให้คนที่กำลังไม่สบอารมณ์มีโทสะมากขึ้นไปอีก
"ดีไหมคะพี่ภู" อารยายิ้มและพยักหน้าให้กับกรกันต์ ก่อนจะหันมาเขย่าแขนภูเมฆที่เพราะเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งเงียบไป
"ก็ แล้วแต่น้องแอ้เลยครับ" ภูเมฆเปิดปากเอ่ยเสียงห้วน เขายกแก้วน้ำขึ้นดื้มอึกใหญ่ ท่าทางของเขาไม่ต้องยอมรับกับกรกันต์และองศาพวกเขาก็ดูออกว่าภูเมฆไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดของอารยาแม้แต่น้อย
"แกโอเคไหมพลอย" ทรายแก้วแอบเคืองใจภูเมฆพอสมควร หากบอกว่าจะพาว่าที่ภรรยามาด้วยเธอจะไม่ให้พรนัชชามาด้วยกันแน่
"ขอกลับก่อนดีหรือเปล่า" ขวัญฤทัยเห็นว่าพรนัชชายังคงเงียบ เธอจึงเขย่าตัวคนที่ยืนเหม่อลอยเบาๆ พรนัชชาที่เริ่มได้สติก็รีบส่ายหัว
"ไม่ดีกว่า ถ้าฉันผ่านสถานการณ์ตอนนี้ไปได้ ใจของฉันคงจะแข็งแรงขึ้นเยอะ" พรนัชชาต้องอยู่เผชิญหน้ากับความจริงเพื่อทำให้หัวใจของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น เธอควรจะลืมผู้ชายที่เห็นเธอเป็นแค่ของเล่นที่หาความสนุกเข้าตัว หากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่เสียเวลารอคนๆ นี้แม้แต่วินาทีเดียว
"แกยังไม่ลืมพลอยจริงๆใช่ไหมภู" องศาอาศัยเวลาที่อารยาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เอ่ยถามภูเมฆเรื่องที่เขาและกรกันต์สงสัยในอาการของภูเมฆเมื่อครู่
"หึ ทำไมแกคิดงั้น" ภูเมฆส่ายหัวปฏิเสธพัลวัน
"ก็ดูแกไม่พอใจตอนที่น้องแอ้จะให้พี่ชายเธอจีบพลอย" กรกันต์เอ่ย
"เรื่องพลอยฉันไม่ได้สนใจว่าใครจะจีบใคร แต่เรื่องน้องแอ้ฉันคิดว่าเธอเหมาะสมกับฉันที่สุดแล้ว"
หากภูเมฆยืนยันเช่นนั้นพวกเขาก็พอจะวางใจ ไม่ใช่ยังลืมคนรักเก่าไม่ได้แต่เลือกจะหาคนเข้ามาในชีวิตใหม่ หากคนๆนั้นรู้ความจริงคงเจ็บปวดใจน่าดู
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลาร่วมเดือนแล้ว องศากับกรกันต์ได้ไปทำงานในบริษัทของภูเมฆ ส่วนทรายแก้วกับขวัญฤทัยก็ประจำอยู่ที่คลินิคของญาติภูเมฆ พรนัชชาก็มาอยู่ที่สระบุรีเพื่อดูแลพราวฟ้าหญิงสาววัย19ปีที่ขับรถไปชนต้นไม้จนขาหักทั้งสองข้างจึงต้องมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลตลอดเวลา
ระหว่างที่พรนัชชาดูแลพราวฟ้า ภูเมฆก็สละเวลามาที่นี่ตลอด ธุระแรกคือการมาดูน้องสาว และอีกเรื่องก็ไม่วายมาสร้างควางเจ็บปวดหัวใจยัดเยียดสถานะชู้ให้กับพรนัชชาโดยที่เธอหลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้
"แกงจืดตำลึงแบบนี้ฟ้าไม่ได้กินมานานมากเลยนะคะ ฝีมือพี่พลอยอร่อยสุดยอดไปเลยค่ะ พี่ภูลองสิคะ" พราวฟ้าตักแกงจืดตำลึงหมูสับเข้าปากได้ก็ยกนิ้วโป้งให้กับพรนัชชา ก่อนจะเชิญชวนพี่ชายเธอให้ลองชิม
"ไม่ พี่ไม่ชอบ"
“อ้าว” พราวฟ้าชะงักมือขณะที่กำลังจะหยิบช้อนกลางตักแกงจืดใส่จานภูเมฆ พรนัชชาหลุบสายตาลงต่ำถอนหายใจอ่อน จำได้ว่าเมื่อครั้งที่เธอใช้ชีวิตอยู่กับชายหนุ่มเขาชอบเมนูนี้มากๆ เพราะเป็นเมนูที่ประหยัดเงินและหาผักได้ง่ายตามริมรั้ว เธอพยายามคิดให้ปลงตลอดเวลาว่า เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนไปตามเวลาเช่นกัน
“น้องฟ้า พี่พลอย” อารยาส่งเสียงเจื้อยแจ้วเรียกพรนัชชาและพราวฟ้าที่กำลังง่วนกับการหัดเดินอยู่ที่สวนหย่อมหลังบ้านใกล้กับธารน้ำตกช่วงเช้า
“สวัสดีค่ะพี่แอ้พี่โอบ” พราวฟ้าทักทายสองหนุ่มสาวที่เดินนำหน้าภูเมฆเข้ามาหาเธอ
“จ้า”
“คุณพลอย” เป็นโอบเอื้อที่ยิ้มหน้าบานเอ่ยทักทายพรนัชชาที่กำลังพยุงพราวฟ้านั่งที่เก้าอี้ เขาแปลกใจอยู่พอสมควรที่ได้เจอหญิงสาวที่นี่ เพราะรู้คร่าวๆ ว่าเธอเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลที่เชียงใหม่
“คุณโอบมากับคุณแอ้ได้ยังไงคะ” เมื่อทุกคนนั่งลงพร้อมกันได้พรนัชชาก็เอ่ยถามโอบเอื้อ เพราะแปลกใจตั้งแต่ที่เห็นเขาเดินตามอารยามาที่หลังบ้านตั้งแต่แรกแล้ว
“ผมเป็นพี่ชายแอ้ครับ”
“พี่พลอยกับพี่โอบรู้จักกันด้วยเเหรอคะ” อารยามองหน้าพรนัชชาสลับกับพี่ชายของเธอ
“เราเคยเจอกันบ่อยๆ ตอนที่พี่ไปพักผ่อนที่ภูเก็ตค่ะ” พรนัชชาเอ่ยให้อารยาหายสงสัย
“อ๋อ แอ้พอจะจำได้แล้ว ผู้หญิงที่พี่โอบพูดถึงบ่อยๆก็คือพี่พลอยนี่เอง” อารยาเริ่มทำท่าครุ่นคิดก่อนจะคลี่ยิ้มออก เธอจำได้ว่าผู้หญิงที่พี่ชายเธอพูดถึงอยู่บ่อยๆ ชื่อพลอย ถือว่าโลกกลมพอสมควรที่ผู้หญิงคนนั้นคือพรนัชชานี่เอง
“จะมาทำไมไม่โทรบอกกันก่อนล่ะครับ” ภูเมฆเริ่มไม่อยากจะฟังที่มาที่ไปของพรนัชชาและโอบเอื้อเท่าไรนักจึงเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย
“แอ้มาเซอร์ไพรซ์พี่ภูไงคะ เอาแบบชุดแต่งงานมาให้เลือกด้วยน้า..” อารยารีบเปิดไอแพดยื่นตรงหน้าของภูเมฆ เพราะตอนนี้ร้านตัดชุดส่งแบบคร่าวๆ ให้เธอได้เลือกแล้ว
“ฟ้าอยากช่วยเลือกค่ะ” พราวฟ้าชะเง้อมองหน้าจอไอแพดในมือของอารยาอย่างอยากรู้อยากเห็น
“เลือกกันตามสบายเลยนะ เดี๋ยวพี่ขอตัวคุณพลอยไปคุยทางโน้นดีกว่า ไปกับผมนะครับ” โอบเอื้อเห็นจังหวะที่ดีจึงชวนพรนัชชาให้ไปที่ริมธารน้ำตก เพราะเขามีเรื่องบางอย่างที่อยากจะคุยกับเธอมานานแล้ว
“ตามสบายเลยค่ะ” อารยาส่งยิ้มอนุญาตให้โอบเอื้อก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากเก้าอี้ไป สายตาของภูเมฆยังคงจับจ้องไปที่พรนัชชาและโอบเอื้อด้วยสายตาไม่พอใจ ไม่รู้ว่าสองคนนั้นมีเรื่องลับลมคมในอะไรที่จะต้องปลีกตัวไปคุยกันสองคนแบบนั้น
“ชุดสวยทุกแบบเลยนะคะเนี่ย” พราวฟ้าตื่นเต้นกับแบบชุดแต่งงานในรูปพอสมควร ถึงเธอจะเป็นเด็กยุคใหม่ แต่ก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้ชุดแต่งงานมีความเป็นแฟชั่นหลากหลายแบบมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย แต่ละแบบก็สวยๆทั้งนั้นจนเธอเลือกไม่ถูก
“ใช่ พี่เลือกไม่ถูกเลย พี่ภูล่ะคะชอบแบบไหนบ้าง”
“แบบไหนแอ้ก็เลือกเอาเลย พี่ได้หมด”
อารยาเริ่มหน้าเสีย เพราะเห็นว่าภูเมฆไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เธอกำลังให้เขาดูเลยสักนิด เอาแต่จับจ้องไปที่พี่ชายเธอและพรนัชชาที่กำลังยืนหัวร่อต่อกระซิกอยู่ด้วยกัน
“เดี๋ยวพี่ไปหาของว่างมาให้นะ” ว่าจบชายหนุ่มก็ลุกพรวดออกไปด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ อารยามองตามหลังว่าที่สามีด้วยแววตาไหววูบ และนึกไปถึงเรื่องในร้านอาหารที่เชียงใหม่วันนั้น วันที่เธอขอตัวไปเข้าห้องและกลับมาก็ได้ยินเรื่องที่องศาเอ่ยถามภูเมฆ
"แกยังไม่ลืมพลอยจริงๆใช่ไหมภู"
"หึ ทำไมแกคิดงั้น" ภูเมฆส่ายหัวพัลวัน
"ก็ดูแกไม่พอใจตอนที่น้องแอ้จะให้พี่ชายเธอจีบพลอย"
"เรื่องพลอยฉันไม่ได้สนใจว่าใครจะจีบใคร แต่เรื่องน้องแอ้ฉันคิดว่าเธอเหมาะสมกับฉันที่สุดแล้ว"
ตอนนั้นเธอแอบฟังทุกอย่าง แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้และพอจะเข้าใจว่าพรนัชชาและภูเมฆเคยคบกัน และอาการที่เขาดูไม่พอใจที่เห็นพรนัชชาอยู่กับพี่ชายของเธอคงเป็นเพราะภูเมฆอาจจะยังไม่สามารถลืมพรนัชชาได้จริงๆ เธอไม่รู้ว่าทั้งสองจบกันด้วยดีหรือไม่ดี แต่ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นว่าที่ภรรยาของภูเมฆ เธอจะทำทุกวิถีทางให้ภูเมฆลืมพรนัชชาให้ได้
