ตอนที่7 ไม่รอแล้ว
"มาดูแลน้องฟ้าแบบนี้ คุณพลอยก็ไม่ได้ไปเที่ยวทะเลอีกแล้วสิครับ"
"ไม่นานน้องฟ้าน่าจะหายดีแล้วล่ะค่ะ แต่พลอยคิดว่าพลอยคงไม่ได้ไปที่นั่นบ่อยๆแล้ว"
"ไม่รอคนที่รักแล้วเเหรอครับ"
พรนัชชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวช้าๆ "พลอยว่าพลอยไม่รอแล้วค่ะ เค้าคงไม่กลับมาแล้ว"
"ผมดีใจนะครับที่ได้ยินคุณพลอยพูดคำนี้" ภูเมฆแสยะยิ้มดีใจจนออกนอกหน้า เมื่อมันถึงวันนี้เสียที วันที่เขาจะได้โอกาสขอดูแลเธอ
"ทำไมล่ะคะ" ดวงตาคู่สวยเริ่มจ้องมองคนที่ยืนข้างๆ ด้วยแววตาฉงน
"ผมจะได้มีโอกาสทำคะแนนกับคุณพลอยไงครับ"
"คะ? " หญิงสาวพอจะรู้ตัวว่าคำพูดของชายหนุ่มหมายถึงอะไร แต่คำพูดของเขาก็ทำเธอไปไม่เป็นในเวลานี้
"ถ้าผมจะขอดูแลหัวใจคุณพลอยจะได้หรือเปล่าครับ"
"เอ่อ พลอย"
"ยังไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้ก็ได้ครับ รอเก็บคะแนนผมไปเรื่อยๆ ก็ได้ แค่อย่าปิดโอกาสให้ผมทำคะแนนก็พอครับ"
"พลอยไม่มีอะไรเทียบกับคุณโอบได้เลยนะคะ"
"ผมไม่สนใจหรอกครับ ผมมองคนเท่ากันทุกคนครับไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร" พรนัชชาได้แต่ยืนยิ้มอ่อน รู้สึกชอบในความคิดความอ่านของโอบเอื้อมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอและได้พูดคุยกัน แต่เธอก็คิดกับเขาแบบเพื่อนเสมอมา เมื่อถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวก็ไม่รู้เลยว่าจะปฏิเสธเขาอย่างไร
"คุยอะไรกันตั้งนานสองนาน"
พรนัชชาถอนหายใจอ่อนขณะที่มาเตรียมอาหารกลางวันให้กับทุกคน
"เรื่องของพลอย"
"พลอยเป็นเมียภู อย่าหว่านเสน่ห์ไปทั่วเพราะภูไม่อยากให้มีใครมากินของร่วมกันกับภู ถ้าภูยังไม่เบื่อ" ภูเมฆกระชากแขนเรียวจนคนตัวเล็กหันหน้ามาประชันกับเขา
“จะพูดจะจาอะไรก็อย่าลืมว่าภูกำลังจะแต่งงานกับคุณแอ้” พรนัชชาจ้องมองไปยังหน้าประตูห้องครัว เพราะกลัวว่าใครจะมาได้ยินเข้าโดยเฉพาะอารยา ก่อนจะเงยหน้าจ้องมองค้อนประชันสายตากับคนตัวโตที่ทำตัวหวงก้างไม่เข้าเรื่อง
“จะทำอะไรก็อย่าลืมที่ภูเคยพูดไว้ด้วยก็แล้วกัน” ภูเมฆยอมปล่อยตัวหญิงสาว มือทั้งสองกำหมัดแน่น ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องครัวไป
พรนัชชาหลับตาพยายามสูดหายใจไล่อารมณ์โทสะ และพยายามไม่ให้มีน้ำตาน้อยใจกับคำพูดของเขาที่ไม่รู้จะดูถูกเธอไปถึงไหน
“แอ้ค้างที่นี่ได้ไหมคะ พรุ่งนี้เช้าเราก็กลับภูเก็ตพร้อมกัน” อารยาส่งเสียงอ้อนทั้งเอนตัวใช้หัวซบไหล่ของภูเมฆ
“ไปนอนโรงแรมก็ได้ยัยแอ้” โอบเอื้อรีบตัดบทน้องสาว เขารู้สึกเกรงใจที่มาที่ก็ไม่ได้บอกเจ้าของบ้านก่อน ทั้งยังจะมาขอนอนที่นี่อีก
“ไม่รบกวนหรอกครับผมว่าจะชวนพอดี ตอนเย็นเรามาจัดปาร์ตี้เล็กๆกันดีหรือเปล่าครับ”
“ดีสิคะน่าสนุกค่ะ” เป็นพราวฟ้าที่เอ่ยโพล่งขึ้นมา เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ร่วมสามเดือนเธอก็ไม่ค่อยได้มีกิจกรรมสนุกๆเลย เพื่อนๆ ที่จะได้พบปะเจอหน้ากันก็ไม่มีเพราะอยู่ต่างประเทศกันหมด
“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพี่อาสาไปซื้อวัตถุดิบให้เอง บ่ายนี้พี่ยืมตัวคุณพลอยไปกับพี่ได้หรือเปล่าครับน้องฟ้า”
“ได้สิคะ”
“เตรียมตัวนะครับ” โอบเอื้อหันมาเปรยยิ้มส่งสายตาหยาดเยิ้มให้กับพรนัชชาที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ค่ะ”
“อิ่มแล้ว ขอตัวไปเดินย่อยก่อนนะ” คนที่อดรนทนไม่ได้ที่จะเห็นพรนัชชาและโอบเอื้อยิ้มให้กันก็รีบวางช้อนวางส้อมในมือยกแก้วน้ำดืมอึกใหญ่และเดินออกไปหลังบ้านทันที เป็นอีกครั้งที่พฤติกรรมหวงแหนพรพัชชาของภูเมฆทำให้อารยาอดน้อยใจไม่ได้ แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้
“น้องฟ้าเชื่อไหมคะว่าพี่โอบพูดถึงผู้หญิงที่เจอที่ทะเลบ่อยมาก พี่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นพี่พลอย ท่าทางพี่โอบจะชอบพี่พลอยมากด้วย ถ้าสองคนนั้นเป็นแฟนกันก็ดูเหมาะสมมากเลยนะคะ น้องฟ้าว่าไหม” หลังจากที่โอบเอื้อและพรนัชชาออกไปข้างนอกกันแล้ว อารยาตั้งใจพูดให้ภูเมฆที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไกลได้ยิน
“พี่แอ้คิดว่าพี่โอบกับพี่พลอยเหมาะสมกันจริงๆเเหรอคะ”
“ใช่ น้องฟ้าเห็นด้วยกับพี่หรือเปล่าคะ พี่แอบเชียร์สองคนนี้ให้คบกันนะคะ เพราะพี่ไม่เคยเห็นพี่ชายพี่สนใจผู้หญิงคนไหนเท่ากับพี่พลอยเลย”
สิ้นคำตอบของอารยา พราวฟ้าก็เริ่มนั่งเงียบ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในหัว จนลืมที่จะต่อบทสนทนากับอารยา
“น้องฟ้าคะ เห็นด้วยกับพี่หรือเปล่า” อารยาเอื้อมมือไปแตะแขนคนที่นั่งนิ่งไป
“อ๋อค่ะ เค้าสองคนก็เหมาะกันดีนะคะ” พราวฟ้าพยักหน้าหงึกหงัก ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อน แอบไม่อยากจะให้เป็นอย่างที่อารยาพูด แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่เห็นโอบเอื้อสนใจพรนัชชาไม่ได้
ปาร์ตี้ในช่วงหัวค่ำถูกจัดขึ้นในสวนหลังบ้าน ทุกคนนั่งล้อมวงทานอาหารอีสานฝีมือของพรนัชชา แม้เธอจะเป็นคนเหนือแต่ก็ทำออกมาได้อย่างถึงเครื่อง ภูเมฆเปิดเพลงคลอฟังเบาๆเคล้ากับเสียงสายน้ำลำธารไหล เมื่ออาหารเริ่มที่จะพล่องไปบ้าง พรนัชชาและโอบเอื้อก็อาสาทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวที่เตรียมเอาไว้
“ดูพี่ชายแอ้จะยิ้มเก่งเป็นพิเศษนะคะ” อารยาพูดพร้อมเปรยสายตาไปยังโอบเอื้อและพรนัชชาที่กำลังยืนช่วยกันย่างบาร์บีคิวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“จริงค่ะ ตั้งแต่ที่ฟ้ารู้จักพี่โอบมาก็เพิ่งจะได้ยินเสียงหัวเราะเค้าก็วันนี้” พราวฟ้านั่งมองภาพคนสองคนที่หัวร่อต่อกระซิกนานสองนานแล้วเหมือนกัน แอบอิจฉาพรนัชชาอยู่บ้างที่เธอสามารภสร้างรอยยิ้มให้กับโอบเอื้อได้เป็นอย่างดี
ทั้งที่ในใจเธออยากจะไปยืนอยู่ตรงนั้น อยู่ใกล้ชายหนุ่มและสร้างรอยยิ้มให้กับเขาบ้าง แต่ก็รู้แก่ใจดีว่าหากเธอเป็นคนไปยืนตรงนั้น โอบเอื้ออาจจะไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะก็ได้
