ตอนที่3 เจ็บกว่าหลายเท่า
สามหนุ่มองศากรกันต์และภูเมฆขับรถมาที่วัดที่เคยอาศัยกินข้าวก้นบาตรกันในเวลาใกล้ช่วงเย็น เพราะเพิ่งจะกลับมาถึงเชียงใหม่เมื่อช่วงบ่าย สามหนุ่มถือชุดสังฆทานพร้อมดอกไม้ไหว้พระกันมาคนละชุดเพื่อที่จะไปกราบหลวงตาสันต์ หลวงตาที่ชุบเลี้ยงทั้งสามมาตั้งแต่ยังแบเบาะ
“อ้าวพลอย มากราบหลวงตาเหมือนกันเเหรอ” องศาเอื้อนเอ่ยทักพรนัชชา ขณะที่หญิงสาวกำลังเตรียมสวมหมวกกันน็อคนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์คันสีขาว
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาเตรียมจะยิ้มตอบเพราะจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร แต่ก็ต้องหน้าเจื่อนเพราะเห็นว่าในกลุ่มชายทั้งสามมีภูเมฆยืนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ด้วย
“อืม มาหาคุณพ่อด้วยพลอยจะกลับแล้วล่ะ ต้องไปเข้าเวรต่อ ขอตัวก่อนนะ”
“โอเค ว่างๆ แล้วเจอกัน”
“จ้า”
พรนัชชาให้หันหัวรถมอเตอร์ไซด์ขับออกไปได้ ภูเมฆก็จับจ้องตามหลังหญิงสาวไม่ละ ทั้งขมวดคิ้วด้วยท่าทีครุ่นคิด
“อยากคุยกับพลอยทำไมไม่ทักไปล่ะ” องศาเอ่ยหยอกเอิญคนที่ยืนทำท่าทีอยากรู้อยากเห็น เหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
“ไม่ได้อยากคุยโว้ย แค่สงสัยว่าพลอยมาหาพ่อที่นี่ทำไม พ่อเธอบวชอยู่นี่เเหรอ”
"เออ ฉันลืมบอก หลังจากแกหายหน้าไปพ่อพลอยก็หัวใจวายในวันงานแต่งพลอยพอดี หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าทางบ้านแฟนใหม่พลอยย้ายไปอยู่อเมริกา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมพลอยถึงไม่ย้ายตามไป แถมธุรกิจร้านอาหารพ่อพลอยก็เจ๊งไม่เป็นท่า ตอนนี้พลอยเลยเหลือตัวคนเดียวเช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาล"
"พลอยเลิกกับแฟนแล้วเเหรอ" สิ่งที่เพิ่งรู้ยิ่งทำให้ภูเมฆมีสีหน้าสงสัยเข้าไปใหญ่ คราแรกคิดว่าพรนัชชายังอยู่กับสามีของเธอเสียอีก
"ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าอยู่คนเดียวนานแล้ว อีกอย่างพวกฉันก็เพิ่งจะมาคุยกับพลอยพักหลังๆ นี่เอง ถ้าแกอยากรู้รายละเอียดก็ลองไปถามพลอยเองสิ" องศาไม่ได้รู้รายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะช่วงที่พรนัชชาเลิกกับภูเมฆเขาก็เคืองใจแทนเพื่อน เลยไม่ได้ติดต่อกับพรนัชชาพักใหญ่
พอเห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่ดีกันตลอดมาจึงกลับมาสานสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนกันใหม่เมื่อไม่นานมานี้เอง และไม่ได้คิดจะคุยถึงเรื่องในอดีตกันด้วยว่าทำไมหญิงสาวถึงแยกกันอยู่กับสามี
“หรือจะให้ฉันถามให้” กรกันต์เอ่ยเสริม เพราะเห็นท่าทีของภูเมฆดูจะสงสัยเอามากพอสมควร
"ถามเฉยๆ ไม่ได้อยากรู้อะไรขนาดนั้น ไปหาหลวงตากันดีกว่า" ภูเมฆรีบส่ายหัวพัลวัน ก่อนจะเดินนำหน้าสองหนุ่มตรงไปที่กุฏิของหลวงตา
สามหนุ่มทำบุญรับศีลรับพรจากหลวงตาเสร็จเรียบร้อยก็นั่งสนทนากับหลวงตากันพักใหญ่ถึงเรื่องสัพเพเหระชีวิตการเป็นอยู่ จนหลวงตารู้ว่าองศาและกรกันต์จะได้ไปทำงานกับภูเมฆหลวงตาก็ยินดีด้วยอย่างมาก เพราะเด็กสามคนที่ท่านได้เลี้ยงมากำลังมีชีวิตที่ดีขึ้นกันทุกคน
"ปัจจัยสร้างโบสถ์ครับหลวงตา ถ้าไม่พอให้เด็กๆ ที่นี่ติดต่อผมไปได้เลยนะครับ" สนทนากันไปได้พักใหญ่ภูเมฆจึงยื่นซองสีน้ำตาลค่อนข้างหนาวางตรงหน้าของหลวงตา จำนวนเงินนี้เขาคิดว่ามันมากพอจะทำให้โบสถ์ที่หลวงตาตั้งใจจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ หากขาดเหลือเท่าไหร่เขาก็พร้อมช่วยเต็มที่ เพราะบุญคุณของหลวงตาที่มีให้เขามันมากกว่าเงินพวกนี้หลายเท่านัก
“อนุโมทนาบุญนะโยมนะ อ่อ ตอนที่โยมไม่อยู่โยมพลอยมาทำบุญที่นี่บ่อยๆ โยมพลอยอยากเจอโยมมาก เมื่อกี้ก็มาทำบุญให้พ่อของเค้า พวกเราได้เจอกันไหมล่ะ"
คนถูกถามยังคงนั่งก้มหน้า จนเป็นกรกันต์ที่คิดว่าต้องเอ่ยตอบหลวงตาแทนภูเมฆ
"เจอครับหลวงตา แต่พลอยรีบกลับไปเตรียมตัวทำงานครับ เลยไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย"
หลวงตาพยักหน้าให้กรกันต์ ก่อนจะหันกลับมามองที่ภูเมฆ
"เรื่องอะไรที่แล้วก็ให้มันแล้วกันไปนะโยม การให้อภัยเป็นจะยกระดับจิตใจเราสูงขึ้นนะโยมนะ"
สิ้นเสียงหลวงตาในกุฏิก็มีแต่ความเงียบ จนองศาและกรกันต์มองหน้ากันด้วยสายตาที่เป็นกังวล เพราะไม่รู้ว่าภูเมฆจะเอ่ยตอบหลวงตาเช่นไร ด้วยพวกเขาเคยเสนอให้ภูเมฆลืมเรื่องเก่าๆ ไปแล้วมองพรนัชชาให้เหมือนเพื่อน แต่ภูเมฆก็ไม่ยอม
หวังว่าคำสอนของหลวงตาจะทำให้เพื่อนพวกเขาอ่อนลงได้บ้าง ไม่ได้คิดเข้าข้างพรนัชชา แต่การที่ภูเมฆไม่ปล่อยวางเรื่องอดีตคนที่เจ็บและร้อนรนในใจก็คือตัวของภูเมฆเอง
"ครับหลวงตา ผมกราบลาล่ะครับ" ภูเมฆพยักหน้า เขารับคำหลวงตาเสียงอ่อน ก่อนจะก้มกราบลาหลวงตาเพราะเห็นว่าใกล้เวลาที่หลวงตาจะทำวัดเย็นแล้ว
“ครับคุณแม่ พรุ่งนี้ผมก็กลับแล้วครับ เรื่องพยาบาลดูแลยัยฟ้าผมว่าผมหาได้แล้วครับ”
ภูเมฆยืนคุยโทรศัพท์กับภาวินีที่ระเบียงห้องของโรงแรมเสร็จก็กลับมาทิ้งตัวที่โซฟานุ่ม เขายกแก้วไวน์ดื่มอึกใหญ่ สายตาตอนนี้ดูเจ้าเล่ห์เจ้ากลเป็นพิเศษ เพราะกำลังคิดแผนร้ายเอาคืนคนที่ท้ำเขาเจ็บ
คราแรกคิดว่าจะกลับมาทำให้ธุรกิจครอบครัวของพรนัชชามีปัญหาเท่านั้น แต่เมื่อรู้ว่าเธอเหลือตัวคนเดียวก็ยิ่งดีใหญ่ เขาก็จะได้มุ่งเป้าหมายในการทำร้ายตัวเธอโดยตรงเสียเลย
แม้เขาจะรับคำที่หลวงตาสอน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะทำตาม เพราะคนเห็นแก่เงินเห็นแก่ความสุขสบายจนยอมทิ้งคนที่รักเธอจนสุดหัวใจจะต้องเจอความเจ็บปวดมากกว่าเขาหลายเท่า
"ผมเอาเงินไปให้หลวงตาแล้วนะครับคุณแม่"
ภูเมฆมาถึงภูเก็ตในช่วงเย็นก็รีบเข้ามาหาภาวินีที่โรงแรมแจ้งเรื่องเงินที่แม่ตนฝากไปทำบุญ อีกอย่างเขาก็มีเรื่องสำคัญที่จะบอกกับคนเป็นแม่ให้รับทราบด้วย
"นี่ถ้าแม่ไม่ยุ่งก็จะไปด้วยตัวเองแล้วล่ะ แล้วที่นั่นมีอะไรขาดเหลืออีกหรือเปล่า" ใจของภาวินีอยากจะกราบหลวงตาตั้งแต่เจอตัวลูกชายแล้ว แต่ถูกภูเมฆขอเอาไว้ว่ารอให้เขานั้นฝึกเรื่องการทำงานให้สำเร็จก่อน พอภูเมฆเป็นงานทุกอย่างเธอก็กลับยุ่งมากๆเสียจนไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน เพราะช่วงนี้กำลังเร่งโปรโมทโรงแรมใหม่ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จ
"ไม่มีครับ แต่ผมฝากหลวงตาไว้ว่าถ้าขาดเหลืออะไรให้เด็กที่วัดติดต่อมาได้ตลอดครับ”
“ดีแล้วล่ะลูก”
“คุณแม่ครับ ผมก็จะแต่งงานกับแอ้นะครับ"
สิ้นเสียงลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ภาวินีก็ละมือจากเอกสารที่กำลังนั่งเซ็น สีหน้าของภาวินีดูดีอกดีใจมากเป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่าภูเมฆนั้นยอมแต่งงานกับอารยาลูกสาวของพิมพรรณเพื่อนสนิทของเธอรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว
