บทที่ 3 ความจริงที่แสนเจ็บปวด
กรุงเทพมหานคร
หลังจากส่งพวกเขากลับไปแล้ว ชีวิตของพวกเราก็เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง มันเหงามันเจ็บที่หัวใจ
ทุกครั้งที่คิดถึง และทุกครั้งที่ต้องมามหาลัย เพื่อซ้อมรับปริญญาสำหรับการจบของมหาลัย มันเป็นอะไรที่ทุกคนในคณะเข้าใจ และไม่มีใครอยากถามพวกเรา ทั้งห้าคนว่าเป็นยังไงบ้างทุกคนต่างเงียบ หลังจากที่พวกเขาไป ก็ไม่การโทรหาอีกเลย มีแต่ส่งเป็นกิจวัตรประจำวันของพวกเขามาทางเชทส่วนตัวที่พวกเราทำไว้ เพื่อติดต่อกัน ไม่ค่อยได้คุยเพราะเวลาเราต่างกัน และไม่อยากรบกวนเวลาของพวกเขา แค่งานของพวกเขาที่ทำ ก็ทำให้คิดว่า พวกเขาได้นอนกันไหม ส่วนพวกเราก็วุ้นวายกับการซ้อม เวลาก็ช่างไม่สงสารพวกเรากันเลย ไม่มีใครอยากซ้อม เพราะทุกครั้งที่ซ้อมก็จะได้ยิน การประกาศชื่อพวกเขาพร้อมฐานะที่แท้จริง และแจ้งว่าพวกเขาจะไม่มาร่วมงาน เพราะพวกเขาถือเป็นกรณีพิเศษ แล้วจะเรียกชื่อพวกเขา ตลอดเวลาที่ซ้อมเพื่ออะไร
" เอ้อ รุ่นน้องทุกๆคนที่จบพร้อมพวกพี่ๆ อย่าคิดมากนะ พวกเราเข้าใจอาจารย์เขาต้องการที่จะบอกให้ทุกคน รู้ว่ามหาลัยเรานี้ได้รับเกียรติจากเจ้าชาย ในการเลือกมาเรียนที่นี้นะ อีกอย่างพี่เองก็รู้เรื่องนี้นานแล้ว แต่ไม่อยากให้ทุกคนวางตัวไม่ถูก บวกกับพวกเขาอยากอยู่แบบธรรมดาดูเหมือนกัน ว่ามันเป็นแบบไหน จะได้เอาไปปรับใช้ที่บ้านพวกเขานะ"
"นายธีระ นายนี้เก่งเนอะ ปิดพวกเราได้สนิทใจเลย นึกว่านายจะเพิ่งรู้ เหมือนพวกเราเสียอีก"
"ก็มันบังเอิญไปได้ยินเท่านั้น เลยต้องยอมช่วยพวกเขาปกปิด และอาจารย์ทุกคนก็รู้ แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ เพื่อให้พวกเขาได้เข้าใจชีวิตของมหาลัยเราจริงๆ ที่ไม่ได้ทำตามใจใคร จบได้ด้วยความพยายามของตัวเองทั้งหมด อาจารย์มีหน้าป้อนข้อมูล นักเรียนอยากรู้อะไรต้องหาเอง ทำให้ขึ้นชื่อว่าเข้าง่ายออกยาก ยิ่งคณะเรากับบัญชี ยิ่งโครตยากเลย แต่รุ่นน้องรุ่นนี้ทำลายสถิติของมหาลัยที่จบได้เร็วกว่าทุกรุ่น เพราะมีรุ่นพี่ดีด้วยมั่ง เป็นทั้งรุ่นพี่แล้วก็ พี่ขอโทษแค่อยากให้น้องๆตลก ไม่เครียด"
"นายธีระ พวกเราจะฆ่าแก่ ทำให้รุ่นน้องร้องให้จนได้เห็นไหม"
"พวกเราขอบคุณรุ่นพี่ทุกคนที่เป็นห่วงพวกเรา พวกเราไม่เป็นไรคะ แค่กำลังทำใจเท่านั้น"
"ว่าแต่ขอถามหน่อยนะ ว่าพวกเขาเป็นไงบ้างสบายดีไหม"
"สบายดีคะ แต่ทำงานตลอดเวลาเลย พวกเราเป็นห่วง โดยเฉพาะเจ้าชายทรงงานหนักกว่าคนอื่น ทรงรับหน้าที่แทนพ่อหมดเลยเห็นราเชฟกับราชิคบอก และ อาเมส กับอามิสก็เสริมมาว่าใช่ อีกอย่างในห้องบรรทม เจ้าชายมีแต่รูปยายเมเลย มีทุกอิริยาบทเลย จนพวกเขาอดขำไม่ได้ ทรงคิดถึงเมียที่รักมาก แต่ไม่มีเวลาโทรหา เพื่อให้ได้เห็นหน้า เพราะเวลาต่างกันพอสมควร ทั้งไม่อยากให้เมีย เห็นว่าตัวเองโหมงานหนัก กลัวเมียจะดุเอานะ พวกเขาเล่าให้ฟังมีแต่เรื่องเจ้าชายกับยายเม จนบ้างครั้งพวกเราแอบงอน ที่ไม่สนใจพวกเราเลย แต่พอพวกเขาบอกว่าที่บอกเพราะ อยากให้มาบอกกับยายเมนะ ส่วนพวกเขาไม่เคยลืมพวกเรา เพราะว่าพวกเขาก็หมั้นพวกเราแล้วเหมือนกัน รอเคลียร์ทุกอย่าง จะมารับพวกเราไปแต่งงานนะ"
"โอ้นี่พวกรุ่นพี่ตกข่าวเหรอ นึกว่ามีแค่เจ้าชายที่หมั้นยายเมเสียอีก ดีใจกับรุ่นน้องด้วยนะ"
"ขอบคุณคะ"
"ฉันดีใจกับพวกแก่ด้วย อ้อม แต ต่าย ขวัญ พวกเราจะได้เป็นเพื่อนกัน และอยู่ด้วยกันทุกที่ฉันรักพวกแก่นะ ขอบใจที่คอยดูแลฉัน เห็นพวกแก่มีความสุขฉันก็มีด้วย"
"ก็แก่เป็นเพื่อนรักของพวกเรานี้ แถมยังเป็นราชินีของพวกเราอีก ไม่อยู่ดูแลแก่พวกเราก็ทำหน้าทีบกพร่องสิ เพราะพวกเราเป็นภรรยาขององครักษ์แก่นี้ มีหน้าที่ดูแลแก่ตลอดเวลาและตลอดไปอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราไม่ทิ้งแก่หรอกเจ้าหญิงของพวกเรา"
"พวกแก่ก็พูดไป เดี่ยวใครมาได้ยินจะเข้าใจผิดกันพอดี มันยังไม่เป็นทางการสักหน่อย รู้แค่พวกเรากับรุ่นพี่ที่จบพร้อมกันคนอื่นไม่รู้ เดี่ยวงานจะเข้าพวกเรา หาว่าหมิ่นเบื้องสูงเอานะ เรียนมากันนี้อยากโดนจับเข้าคุกไง"
"ผิดแล้วน้องเม คือเจ้าชายได้แจ้งเรื่องการหมั้นของน้องกับทางมหาลัยแล้ว และคนที่จะรับใบจบแทนพวกเขาก็คือพวกน้องๆไงนี่แสดงว่าไม่ได้ฟัง ตอนที่เขาประกาศใช่ไหม ไม่สงสัยไง ทำไมทุกคนถึงมองพวกน้องๆแปลกไป และไม่สงสัยไงทำไมพวกน้องๆ ถึงต้องเป็นกลุ่มแรกของการรับ และตอนรับมีสองใบ และก่อนรับเขาจะประกาศชื่อเจ้าชาย กับพระสหาย แล้วต่อด้วยชื่อพวกเราตามเป็นคู่ๆนะ แสดงว่าไม่ได้ฟังจริงๆ"
"เอ้อคะ พวกเราไม่ได้คิด ไม่ได้ฟังเพราะไม่อยากได้ยินชื่อ ของพวกเขานะ"
"เฮ้อเป็นงั้นไป แต่ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหม งั้นก็ตั้งใจซ้อมเพื่อพวกเขาด้วย อีกอย่างของขวัญจากพวกเขามาถึงแล้ว แต่พวกพี่กับพวกเราทุกคน จะได้รับจากอาจารย์ของคณะเรา ที่จะเป็นคนมอบให้ในวันจบนะก็เดือนหน้า พวกเขาส่งมาให้ตามความต้องการของทุกคน รับรองว่าต้องชอบแน่นอนเขาฝากบอกมานะ"
"แสดงว่านายคุย กับพวกเขาตลอดใช่ไหม แบบนี้ขี้โกงกันนี้ พวกเราก็อยากคุย กับพวกเขาด้วยนี่"
"วันจบได้คุยทุกคนแน่ เฮ้อ เผลอพูดจนได้ พวกนายทำให้ฉันผิดคำพูดเลย ทรงบอกไว้ให้เก็บเป็นความลับ จบแล้วชีวิตฉัน ตายก่อนมีเมียแน่"
"ขนาดนั้นเชียว "
"ใช่ เพราะตั้งใจ จะเซอร์ไพรส์น้องเม ทรงเตรียมการกับพระสหายอย่างดี ขนาดรุ่นน้องที่เป็นแฟนยังไม่รู้ เพราะพวกเขาตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เหมือนกัน"
"ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับความคิดถึง ที่ไม่สามารถคิดถึงได้หรอกคะ ขอบคุณพวกพี่ๆ เมขอตัวเมรู้สึกเหนื่อยๆ และเวียนหัวตั้งแต่เช้าแล้วคะ ว่าจะให้พวกนี้พาไปหาหมอเพราะมันเป็นมานานแล้ว ไม่อยากเป็นอะไรมากไปกว่านี้ เดี่ยวไม่หายก่อนวันงานจะแย่ไม่ต้องห่วงเม ไม่ต้องเอาไปบอกเจ้าชายหรอก เพราะเมรู้ว่า เมไม่สำคัญขนาดนั้นหรอกคะ"
"ไม่เอาน่า แก่เป็นอะไร ช่วงนี้ขี้งอนจัง อารมณ์นี่แปรปรวนตลอดเวลา จนพวกเรากลัวว่าแก่จะเป็นบ้า คิดน้อยใจ
ฆ่าตัวตายประชดเจ้าชายรู้ไหม"
"พวกแก่ก็รู้ว่าฉันไม่ทำ เพราะว่าฉันเชื่อพระเจ้า ไม่คิดแบบนั้น เพี่ยงแต่ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน เลยจะให้แก่พาไปตรวจไง ถ้าพวกแก่ไม่ไปฉันไปคนเดี่ยวก็ได้ ลาละคะพี่ๆเจอกันวันรับจริงนะ"
"เอ้อ พี่ว่า รีบไปเช็คก็น่าจะดี ชักจะเป็นห่วงซะแล้วสิ"
"เม ขออย่างหนึ่ง พี่ธีระห้ามบอกเจ้าชาย ว่าเมไม่สบายพวกแก่ด้วย ไม่งั้นตัดพี่ตัดเพื่อนนะเมย่าคนนี้พูดจริงทำจริง รุ่นพี่และพวกแก่ด้วยนะ"
"รับทราบ อาการแบบนี้ คงไม่ล้อเล่นแน่ ยังไม่อยากถูกตัดความสัมพันธ์ "
"เอาเป็นว่า พวกเราทุกคนจะไม่บอกเจ้าชาย รีบไปกันเถอะ เดี่ยวเป็นหนักกว่านี้จะแย่เอา"
"งั้นพวกเราไปนะคะ บายคะรุ่นพี่"
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่มีใครพูดเรื่องเมให้เจ้าชายฟัง เพราะพวกพี่ๆเป็นห่วงทั้งสองคนจะกังวลมากเกินไปจนเสียงาน แต่พวกเขามารวมตัวกันที่บ้านธีระ เพื่อที่จะมาคุยกับเจ้าชาย พอได้เห็นก็ตกใจที่เจ้าชายเปลี่ยนไป มีหนวดเคราเต็มหน้ายิ่งดูน่าเกรงขามมากๆ พวกพระสหายก็เช่นกัน แต่ทุกคนอยู่ในชุดประจำชาติ
นี้โคตรหล่อเลย ทำเอาสาวๆเขินเวลาที่ได้คุยกับเจ้าชาย แต่พวกเจ้าชายกลับตกใจ ที่พวกเขามากันทั้งรุ่นเลย คิดถึงพวกเขาเช่นกัน
"ทุกคนสบายดีนะ พวกเราต้องขอโทษที่ไม่ได้ส่งข่าวให้ทุกคนรับรู้นะ แต่ธีระคงบอกทุกคนหมดแล้ว ว่าเราสบายดี ก็อย่างที่ทุกคนเห็น เราไม่ค่อยมีเวลาโกนหนวดเครา อีกอย่างทุกคนที่นี้เขาจะไว้หนวดเครากัน มันเป็นธรรมเนียมนะ เราในรูปแบบนี้ดูเป็นไงบ้าง "
"ก็ทรงดูเอาเองเถอะ สาวๆจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเองแล้ว คนอะไรหล่อไม่เผื่อใครเลย เอาไปคนเดียวเลย ทำให้พวกเราไร้ค่าเลย เฮ้อ"
"อย่าน้อยใจเลยธีระ พวกนายก็หล่อเหมือนกัน เพี่ยงแต่น้อยกว่าพวกเราเท่านั้น"
"พวกนายนี้นะ มันน่า รู้อย่างนี้บอกพวกรุ่นน้องให้หมดเลย ว่าพวกนายโดนจับหมั้นทุกคน และยังหาทางออกกันไม่ได้ ดีไหมเดี่ยวโทรไปหาพวกน้องๆดีกว่า"
"หยุดเลย ถ้าแก่ยังคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อน ก็ต้องหาทางช่วยส ไม่ใช่มาทำร้ายกันแบบนี้"
"หา นี้บ้านพวกนาย เขาจะให้มีเมียเป็นโหลไง แล้วพวกนายบอกพวกเขายัง ว่ามีเมียแล้ว อยู่ที่ไทยนะ"
"บอกแล้ว แต่พวกเขาว่า ผู้ชายสามารถมีเมียได้หลายคน มีฮาเล็มก็ไม่ผิดด้วย ทำให้พวกเราเครียดกันมากเลย คนที่เครียดสุดก็เจ้าชายนี้แหละที่จะต้องรีบมีทายาท และรับหมั้นเจ้าหญิงจากต่างแคว้น ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เป็นสิบ นี่สินี่เฉพาะแค่คนที่มีสิทธิเป็นราชินี ไม่ร่วมนางสนมในฮาเล็มอีกที่ต้องทำแบบนี้ ก็เพื่อความเป็นหนึ่งเดี่ยวกันของประเทศที่ต้องการอยู่ในการปกครองของเจ้าชายนะ"
"โอ้ งานนี้น้องเมย่าเรา คงนอนร้องให้จนเป็นลมไปแน่ถ้ารู้เรื่องนี้ ยิ่งไม่สบายด้วย อุ็บ เอ้อเปล่าไม่มีอะไร แค่พรรณาเท่านั้น อย่าคิดมากจริงไหมทุกคน"
"จริงๆ ไม่มีอะไร"
"พวกนายคิดว่า โกหกพวกเราได้เหรอ บอกเรามาเมียเราเป็นอะไร"
"ยังกล้าเรียกว่าเมียอีก ทั้งๆที่กำลังจะหมั้นกับสาวๆนี้นะ น่าน้อยใจแทนน้องเมจริงๆ"
"เรากำลังหาทางออกอยู่ ตอนนี้ก็มีทางออกแล้ว รอแค่ให้พวกเขาช่วยเท่านั้น ตอนนี้เรื่องของเราไม่สำคัญ เรื่องเมียเราสำคัญกว่า บอกมาได้โปรด เราเป็นห่วงเมียเรามาก ยิ่งเราไม่มีเวลาให้นาง ยิ่งเป็นห่วง เรารู้ว่านางคงเจ็บปวดมากเราก็ไม่ต่างกัน"
"ก็ได้ จะยอมเชื่อว่า จะไม่ทำให้น้องเมของฉันเสียใจอีก จะบอกเท่าที่รู้แล้วกัน "
"ยายเก๋ น้องเมบอกว่า ไม่ให้บอกเจ้าชายนะ แก่จะผิดคำพูดหรือไง อยากถูกตัดพี่ตัดน้องไง"
"ก็ถ้าพวกแก่ไม่บอก น้องสาวของฉันก็ไม่มีทางรู้ ไหนๆก็พูดให้เจ้าชายรู้แล้ว ก็ไม่อยากให้กังวลจนเป็นอะไรไปอีกคน ถ้าน้องเมรู้ว่าเจ้าชายคิดมากจนไม่สบาย พวกแก่ไม่คิดว่าน้องสาวที่น่ารักของเรา จะไม่ช็อคจนเป็นลมไง "
"เอ้อ แก่พูดก็ถูกวะ ช่วงนี้ยิ่งบอกว่าหน้ามืดบ่อยด้วย อารมณ์ก็แปรปรวนจนน่าเป็นห่วง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ตอนซ้อมนี่เหมือนหุ่นเดินได้เลย "
"เป็นมากขนาดเลยเหรอเมียเรา เราต้องรีบเคลียร์เรื่องนี้ให้จบเร็วๆ แล้วพวกนายทั้งสี่คน รับคำสั่งของเราแล้วเอาไปส่งให้เจ้าชายทั้งสิบที่เจ้าหญิงหลงรัก เราจะวางแผนซ้อนแผนท่านพ่อ วันหมั้นจะมีขึ้นตามที่กำหนดไว้ แต่เจ้าชายที่จะหมั้นไม่ใช่เราไปเตรียมการได้ เรื่องนี้อาจจะมีการแถลงข่าว ช่วยอธิบายให้เมียเราฟังด้วย ว่าไม่ใช่เราที่หมั้น แต่ใช้นามเราเพื่อไม่ให่ท่านพ่อสงสัย ฝากดูแลเมียเราแทนเราด้วย พวกเราวางใจพวกนาย ว่าจะสามารถช่วยดูแลพวกนางแทนเรา เรื่องของพวกสหายก็จะมีพร้อมกับพวกเราเช่นกัน แต่พวกเขา ก็หาตัวตายตัวแทนได้แล้วเหมือนกัน แต่เพื่อไม่ให้ท่านพ่อรู้แผนเลยต้อง ทำเป็นยอมรับหมั้นในวันนั้น แล้วค่อยตบท้ายเป็นบรรดาพวกเจ้าชายและพวกองครักษ์ที่เป็นคนรักของพวกนาง และประเทศของพวกนางจะยังอยู่ในการดูแลของเรา พร้อมมีเมืองอีกสิบเมืองขอร่วมเป็นเมืองขึ้นของเรา เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่ตนรัก งานนี้เรามีแต่ได้กับได้ และไม่มีฮาเล็มด้วย เพพวกนางเราจะจับให้แต่งงานกับคนที่นางรัก เราจะเป็นเจ้าภาพจัดงานให้พวกนาง ฝากพวกนายช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้เมียพวกเราเข้าใจด้วย เพราะพวกเราอาจจะไม่ได้ ติดต่อพวกนางอีกจนกว่า พวกเราจะจัดการเรื่องนี้เสร็จ ฝากด้วยเราขอไปทำงานต่อ เลขาเอางานมาให้เซ็นอีกแล้ว ยังจะต้องประชุม และเลี้ยงต้อนรับเมืองต่างๆ ที่ถยอยกันมาก่อนที่จะถึงวันงาน คือหลังวันรับปริญญาวันเดียว ที่เราจะได้เห็นหน้าทุกคนอีกครั้ง พร้อมทั้งหน้าพวกนางด้วย และเช้าอีกวัน จะมีการแถลงการหมั้นของเรากับพระสหาย"
"ได้พวกเราจะช่วยพูดเท่าที่พวกน้องๆยอมรับฟังนะ ไม่รับประกันว่าจะเป็นยังไงนะ"
"ขอให้พระเจ้าช่วยพวกนายแล้วกัน "
"ขอบใจ เจอกันวันรับปริญญานะ "
"เห็นพวกนายยังเหมือนเดิมเราก็มีความสุขแล้ว แม้ความเป็นจริงเราจะเจ็บปวดที่ไม่อาจปกป้องดูแลเมียเรา และอยู่เคียงข้างได้ แต่เราบอกพวกนายที่เป็นเพื่อนเราไว้เลยว่า เรารักเมียเราคนเดียวไม่คิดมีใคร เราไม่อาจลืมนางได้เลยสักวินาที ที่เราบ้างานเพราะเราไม่อยากคิดถึงนางจนทำให้เรา ต้องทิ้งหน้าที่เพื่อไปหานางไปอยู่กับนาง จนไม่สนใจประชาชน ทั้งๆที่อยากสละบัลลังก์ แต่ก็ทำไม่ได้มันเจ็บปวดมากแค่ไหน เรารู้ว่านางก็คงเจ็บมากเหมือนกัน แต่เพราะเราคือคนของประชาชน พวกเขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรา แม้ว่าเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันถ้าไม่มีนาง แต่ขอเวลาให้เราได้พิสูตรให้ท่านพ่อยอมรับในตัวเราและนาง แล้วเราจะรีบกลับไปรับนางมาอยู่เคียงข้างเราตลอดไป"
"เฮ้อ พวกเราเข้าใจ จะช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้วกัน บาย เจอกันวันงาน"
จากนั้นเจ้าชายก็ตัดสาย และพวกเขาก็แยกยายกันกลับบ้าน วันนี้พวกเขารู้สึกว่า พวกเขาเจ็บปวดไปพร้อมๆกับเพื่อนๆพวกเขาเลย และพวกเขาเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย ที่ต่างไม่อยากคิดถึงให้ปวดใจ แต่ก็ไม่อาจลืมความรักนั้นได้ จะจบแบบไหนพวกเขาเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด
