บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 นายน้อยคลั่งรัก

การเริ่มงานวันแรกสำหรับปุณณดาจะว่าแฮปปี้ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็คงไม่ขนาดนั้นอีกเช่นกัน เพราะเธอถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน เผลอ ๆ ตื่นเร็วกว่าตอนที่อยู่ค่ายมวยด้วยซ้ำ พอตื่นมาก็ต้องเข้าโรงยิมไปฝึกรวมกับคนอื่น ๆ ที่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น และเธอคือผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาบอดีการ์ด

ฝึกซ้อมเสร็จยังไม่ทันจะได้พักหายใจหายคอก็ถูกเรียกให้ไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวมาดูแลนายน้อยเจอราร์ดที่จะลงมารับมื้อเช้าตอนเวลาแปดนาฬิกาตรง จนปุณณดาเกิดคำถามมากมายในใจหลายประโยค

“นี่พี่ นายน้อยพี่เขากินข้าวไม่อร่อยเหรอ ถ้าไม่มีบอดีการ์ดมายืนเรียงแถวหน้ากระดานในท่าหวงเป้าตัวเองแบบนี้น่ะ” ปุณณดากระซิบถามบอดีการ์ดหน้าโหดที่ยืนข้าง ๆ

อีกฝ่ายเหล่สายตามามองเล็กน้อย ก่อนจะป้องมือกระซิบบอกเหตุผลให้บอดีการ์ดมือใหม่ได้รับทราบ

“ไม่ใช่ นายน้อยกลัวว่าจะถูกลอบทำร้ายต่างหาก”

“ในบ้านเนี่ยนะพี่”

“อืม ใช่”

พอได้ยินคำตอบปุณณดาถึงกับกลอกตามองบนทันที เรื่องกลัวตายเธอเข้าใจ แต่กลัวจนหลอนไปเองว่าจะมีคนมาลอบทำร้ายในบ้าน ทั้งที่บอดีการ์ดก็เดินกันยั้วเยี้ยยิ่งกว่าตัวอ่อนในรังผึ้งขนาดนี้ ศัตรูหน้าไหนจะโผล่เข้ามาได้ เห็นจะมีก็แต่คนในนี่แหละที่เป็นหนอน_

ทุกคนยืนตัวตรงไหล่ผึ่งกันได้ไม่นาน นายน้อยตระกูลรัสเซลล์ก็เยื้องย่างลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์อย่างมาดมั่นด้วยลุกออลแบล็กทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทั้งเสื้อยืดแบรนด์ดังราคาหลายหมื่น ทั้งกางเกงเนื้อผ้าดีที่ถูกสั่งตัดเย็บเป็นพิเศษ และแว่นตากันแดดสีดำที่สวมใส่แม้กระทั่งตอนอยู่ในที่ร่ม ทุกอย่างล้วนเสริมให้เจอราร์ดโดดเด่นเหนือใคร โดยเฉพาะ...เสื้อยืดสีดำที่ใส่ลงมาแบบกลับตะเข็บ!

“นายน้อย” คิมหันต์อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก

เจอราร์ดที่มั่นใจว่าตัวเองเท่มากก็หันกลับไปมองอย่างงุนงง แต่พอเห็นสัญลักษณ์ชี้มือชี้ไม้มายังเสื้อยืดที่ใส่อยู่เขาก็รีบก้มหน้ามองดูทันที

“แดมน์! เสื้อกลับด้าน” เขาสบถกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะรีบลนลานถอดเสื้อออกมากลับตะเข็บให้ถูกต้องทันที

แต่นั่นกลับเปลี่ยนจากเจอราร์ดที่ลนลานกลายมาเป็นคิมหันต์แทนเสียอย่างนั้น

“อย่าครับนายน้อย!” คิมหันต์ว่าพลางรีบพุ่งตัวเข้าไปประชิดเจ้านายตรงหน้าทันที ก่อนที่กลางแผ่นหลังกว้างที่มีรอยสักอันน่าเกรงขามจะประจักษ์ต่อสายตาของบอดีการ์ดทุกคน

รอยสักที่ใคร ๆ ต่างก็ขนานนามต่อ ๆ กันไปว่าน่ากลัว ดุดัน และน่ายำเกรง ตอนนี้กลายเป็นเพียง...แทตทูที่ถูกติดกลับหัวกลับหาง!

“มีอะไรคิมหันต์” เจอราร์ดเอี้ยวตัวไปถามอย่างงุนงง

“หยุดครับนายน้อย หยุดก่อน อย่าเพิ่งขยับ” คิมหันต์พูดไปก็เอื้อมแขนไปโอบกอดรอบลำตัวกำยำของเจอราร์ดเมื่อเจ้านายทำท่าจะหันหน้ามาคุย

คิมหันต์ต้องใช้ลำตัวบึกบึนของตนเองเป็นเกราะกำบังเพื่อปิดแผ่นหลังไว้ไม่ให้เล็ดลอดไปถึงสายตาของใคร จนล่วงรู้ความลับได้ว่าแท้ที่จริงร่างกายของนายน้อยตระกูลรัสเซลล์นั้นไม่มีรอยสักแม้แต่รอยเดียว! มีแต่แทตทูล้วน ๆ และที่สำคัญ...เจอราร์ด รัสเซลล์ กลัวเข็มจนเป็นลมมาก่อน

เขาอุตส่าห์บอกแล้วว่าจะติดให้ แต่นายน้อยก็รั้นจะติดเอง สุดท้ายไม่เบี้ยวก็กลับหัวตลอด

“เอ่อ อันนี้ปกติเหรอพี่” ปุณณดาที่เห็นภาพการกอดรัดฟัดเหวี่ยงของเจอราร์ดกับมือขวาคนสนิทก็อดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ จึงต้องหันไปถามคนข้าง ๆ เพราะแบบนี้มันดูทะแม่ง ๆ ชอบกล

“อืม นายน้อยกับคุณคิมหันต์เขาสนิทกัน”

“ถึงขั้นกอดกันเนี่ยนะ”

“อืม”

คิมหันต์จัดการดึงเสื้อยืดในมือของเจอราร์ดแล้วเป็นฝ่ายสวมให้แทน กว่าเหตุการณ์ชุลมุนของนายน้อยและมือขวาจะสงบสุขได้ก็ใช้เวลาหลายนาทีอยู่

ร่างสูงของเจอราร์ดเดินมาดมั่นผ่านหน้าบอดีการ์ดในสังกัดทีละคน คนแล้วคนเล่า ก่อนจะเดินผ่านหน้าปุณณดาไปในที่สุด

หญิงสาวกำลังจะถอนหายใจโล่งอกที่ไม่โดนอีกฝ่ายยียวนกวนโมโห ทว่าก็ต้องกลับมาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ต่อ เมื่อจู่ ๆ เจอราร์ดก็ถอยหลังกลับมาหาเธออีกครั้ง

“นี่เธอ” เขาเอ่ยเรียกบอดีการ์ดคนใหม่พร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้กดสันแว่นกันแดดให้ลงมาอยู่ในระดับล่างของสายตา จะได้มองหน้าของคนตรงหน้าให้ชัด ๆ

“ว่า?” ปุณณดาขานรับ

“ทำไมแต่งตัวแบบนี้เนี่ย”

“แบบไหนล่ะ”

“ก็แบบที่เธอใส่อยู่ไง จืดชืดไร้สีสันชะมัด” เจอราร์ดว่าพลางเบ้ปากและส่ายหน้าขัดใจกับการแต่งกายมาทำงานในวันแรกของบอดีการ์ดมือสมัครเล่น ก่อนจะใช้สายตากวาดมองร่างตรงหน้าขึ้นลงอย่างไม่พอใจ

ไม่เชิงว่าปุณณดาแต่งตัวแย่ เธอแต่งตัวสุภาพน่ามองด้วยเชิ้ตสีขาวแขนยาวพอดีตัว ท่อนล่างเป็นกางเกงสแล็กส์เข้าทรง ดูเคลื่อนไหวร่างกายสะดวก ไม่ได้ต่างจากบอดีการ์ดผู้ชายคนอื่นสักเท่าไหร่ ทว่าสำหรับเจอราร์ดนั้นเขายังไม่พอใจ

ไม่ใช่แต่งตัวไม่พอใจ แต่เขายังแกล้งยายกอริลลานี่ไม่พอใจต่างหาก

“แล้วจะให้แต่งยังไงไม่ทราบคะ คุณนายน้อยเจอราร์ด” ปุณณดากัดฟันถามจนกรามสั่น

เจอราร์ดได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าพึงพอใจ แล้วเต๊ะท่ายืนกอดอกมองดูรูปร่างของหญิงสาวขาโหดตรงหน้าอีกครั้งว่าอีกฝ่ายควรสวมใส่เสื้อผ้าประเภทไหน จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปในใจ

“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ชุดจืดชืดแบบนี้” เจอราร์ดบอก

“อะไรก็ได้ใช่ไหม”

“ใช่ อะไรก็ได้ที่ไม่ไร้รสนิยมเหมือนหน้าเธอ ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้” เขาพูดพลางสะบัดข้อมือไล่ไปด้วย

“ได้ เดี๋ยวจัดให้ค่ะ”

ปุณณดาได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกับตัวเอง เธอพยายามหายใจเข้าให้ลึก หายใจออกให้ยาว และนับหนึ่งถึงล้านไปด้วยในใจเพื่อไม่ให้ระเบิดอารมณ์จับเอาคนตรงหน้าโขกกับกำแพงให้น็อกตายคามือเสียก่อน

หลังจากบอดีการ์ดสาวคนใหม่สะบัดก้นเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เจอราร์ดจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารเพื่อรอรับมื้อแรกของวัน อาหารเช้าง่าย ๆ ตามสไตล์นายน้อยตระกูลรัสเซลล์ถูกนำมาเสิร์ฟทีละอย่าง เริ่มตั้งแต่กาแฟดำที่มีน้ำตาลก้อนแนบมาด้วยสามก้อน ขนมปังโฮลวีต ไข่ลวกสองฟอง ซุปฟักทองเข้มข้น และตบท้ายด้วยโจ๊กหมูร้อน ๆ

เจอราร์ดถอดแว่นตาวางไว้บนโต๊ะแล้วชื่นชมบรรดาอาหารเช้าตรงหน้า ก่อนจะหันกลับไปยกนิ้วหัวแม่มือให้คิมหันต์นำไปชมแม่ครัวต่ออีกทอด ก่อนจะเริ่มลงมือรับประทาน

กาแฟที่หวานเชื่อมผ่านไปได้ด้วยดี ไข่ลวกเขาก็ซัดหมดไม่เหลือ เห็นทีจะมาสะดุดตรงโจ๊กหมูร้อน ๆ หรือมันอาจจะไม่สะดุดเลยก็ได้ถ้าหากปุณณดาไม่กลับมาปรากฏต่อหน้าเจอราร์ดในเวลานี้

“นี่คุณ ฉันมาแล้ว ชุดโอเคไหม” ปุณณดาวิ่งกลับมาด้วยชุดเครื่องแบบนักมวยหญิงเต็มยศ

ท่อนบนเป็นเสื้อแขนกุด ท่อนล่างเป็นกางเกงนักมวย แถมเครื่องประดับเป็นมงคลที่หัวและประเจียดที่ต้นแขนทั้งสองข้าง นาทีนี้ไม่ใช่แค่เจอราร์ดที่อึ้ง ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้อึ้งกันหมด ไม่มีใครคาดคิดทั้งนั้น

แค่ก! แค่ก!

“โอ๊ย ร้อน! ร้อน!” เจอราร์ดที่เผลอสำลักโจ๊กให้กับการแต่งตัวของปุณณดาโวยวายดังลั่น

เสียงร้องโอดโอยของนายน้อยทำเหล่าบอดีการ์ดหัวหมุนลนลานไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอะไรเป็นอันดับแรกดี ระหว่างเรียกหน่วยกู้ภัยหรือโทรเรียกรถพยาบาล

ในขณะที่ทุกคนสติเตลิด เห็นทีจะมีแค่คิมหันต์ที่รับมือกับสถานการณ์ตอนนี้ได้ไวที่สุด ไม่ต้องรอให้นายน้อยตะโกนส่งเสียงร้องด้วยน้ำตาคลอเบ้าเพราะโจ๊กลวกปากนาน เขาก็เข้าไปประชิดตัวทันที

“คายออกมาก่อนครับนายน้อย” ว่าแล้วคิมหันต์ก็ใช้ทิชชูวางแผ่บนฝ่ามือให้เจอราร์ดคายโจ๊กออกมา ก่อนจะใช้ทิชชูอีกแผ่นไปซับคราบเมล็ดข้าวที่ติดตรงมุมปากให้ด้วยความเคยชิน

ปุณณดายืนกอดอกมองดูพฤติกรรมของทั้งคู่แล้วยิ้มเล็กยิ้มน้อย เธอคิดอยู่แล้วว่ามันทะแม่ง ๆ ตั้งแต่เมื่อกี้ ที่แท้ทั้งสองคนก็กำลังรักใคร่ชอบพอกันอยู่ แถมยังดูแลกันดีจนภาพตรงหน้าดูราวกับซีรีส์เรื่องนายเจอราร์ดตัวน้อยตัวนิดของบอดีการ์ดผู้แสนอ่อนโยน

ด้วยสภาพชุดนักมวยพร้อมขึ้นชกของปุณณดาทำให้เจอราร์ดรับไม่ได้อย่างแรง ร่างสูงจัดการไล่ให้อีกฝ่ายกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดเดิม ก่อนจะรีบพาออกมาหาซื้อเสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้าทันที

เมื่อเข้าไปในห้างทุกย่างก้าวที่เดินผ่าน ผู้คนที่ยืนคุยกันหรือกินข้าวอยู่ต่างก็หันมามองพวกเขากันเป็นตาเดียว บ้างก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป บ้างก็มองหากล้องที่อาจจะแอบซ่อนอยู่ เพราะตอนนี้เจอราร์ดใส่แว่นตาดำเดินล้วงกระเป๋านำหน้าเหล่าบอดีการ์ดอีกห้าหกคน จนปุณณดาเริ่มรู้สึกอายกับสถานการณ์แปลกใหม่นี้

เมื่อเดินมาถึงร้านเสื้อผ้าสตรีแบรนด์ดังของฝรั่งเศสเจอราร์ดก็ยกมือขึ้นเพื่อให้ทุกคนหยุดเดิน ก่อนจะหมุนตัวไปหาเหล่าบอดีการ์ด

“ทุกคนรอตรงนี้ละกัน ยกเว้นเธอ” ท้ายประโยคเขาหันไปพูดกับปุณณดา

“ร้านนี้แน่เหรอคุณ” ปุณณดาถามให้แน่ใจว่าเจ้านายที่เธอไม่อยากนับถือจะพามาซื้อเสื้อผ้าในร้านหรู ๆ

“อืม เข้าไปเลือกสิยัยนักมวย”

“งั้นก็เดินนำไปสิพ่อคนคลั่งรัก”

“คลั่งรักเหรอ” เจอราร์ดถึงกับทวนคำพูดของปุณณดาเสียงหลง คนอย่างเขาไปคลั่งรัก ตอนไหน

“ใช่ พ่อนายน้อยคลั่งรักเดินนำไปสิคะ” ปุณณดาผายมือไปข้างหน้าให้เขานำไปก่อน

แม้จะยังไม่เข้าใจความหมายที่หญิงสาวพูดออกมามากนัก แต่เจอราร์ดก็ยอมเออออปล่อยผ่านไปก่อน เพราะสิ่งสำคัญกว่าคือวันนี้เขาต้องปรับลุกเธอให้ได้

เมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาในร้านราวแขวนเสื้อผ้าก็ถูกเลื่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของปุณณดาในทันที ตามที่เจอราร์ดได้โทรสั่งพนักงานให้หาเสื้อผ้าผู้หญิงเตรียมไว้ให้

ปุณณดาได้แต่ยืนมึนงงเมื่อถูกบรรดาพนักงานสาวมารุมทาบชุดนั้นชุดนี้ให้ แล้วลากเธอเข้าไปในห้องลองชุด

ส่วนเจอราร์ดก็ทิ้งก้นลงนั่งจิบน้ำชารออย่างสบายอารมณ์ เพื่อคอยดูว่าวันนี้เขาจะถูกใจชุดไหนที่บอดีการ์ดสาวกอริลลาจะใส่ออกมา แล้วเสียววาบไปถึงชาติหน้าเมื่อยกขาทำท่าจระเข้ฟาดหาง

“ชุดนี้ได้ไหม” ปุณณดาเดินออกมาถามเมื่อเธอเปลี่ยนชุดแรกเสร็จแล้ว ตอนนี้หญิงสาวอยู่ในเสื้อแขนยาว กระโปรงผ้ายืดสั้นเหนือเข่า

เจอราร์ดมองเพียงปราดเดียวก็โบกมือไล่ให้อีกฝ่ายไปเปลี่ยนเป็นชุดต่อไปทันที

“แล้วชุดนี้ล่ะ” ปุณณดาถาม คราวนี้เธอใส่ชุดเดรสผ้าพลิ้ว ตกแต่งด้วยระบายลากยาวไปทั้งชุดจนถึงข้อเท้า

เจอราร์ดมองแล้วทำท่าแขยงทันที

“โคตรรกรุงรัง เธอคงเหยียบชุดตัวเองตายตอนวิ่งมาปกป้องฉันแน่ ๆ”

ปุณณดาเปลี่ยนอีกสามสี่ชุดก็ยังไม่ถูกใจเขาสักที จนเธอเริ่มฉุนกับความเรื่องมากของเจ้านาย

“แล้วจะเอาชุดไหนกันแน่ฮะ คุณเดินมาดูเลยว่าจะให้ใส่ชุดไหน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมามันเหนื่อยนะโว้ย”

“ไม่ ฉันขี้เกียจลุก เธอมีหน้าที่เปลี่ยนก็เปลี่ยนไปสิ” เขาตอบกลับอย่างไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ในขณะที่ปุณณดาถอดชุดนั้นลองชุดนี้จนเหงื่อซ่กไปทั้งตัว แม้ว่าจะอยู่ในช็อปที่แอร์เย็นฉ่ำก็ตาม

เมื่อทำอะไรไม่ได้เธอจึงคว้าชุดหนึ่งเข้าไปในห้องลอง

“แล้วชุดนี้พอจะถูกใจคุณได้ยังคะ”

“ไหน ขอดูหน่อยซิ” เจอราร์ดเงยหน้าขึ้นจากถ้วยชา

หญิงสาวเดินออกมาอีกครั้งในชุดเดรสสีครีมรัดรูปโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งไปทั้งเรือนร่าง จนเจอราร์ดแอบลอบกลืนน้ำลายไปหลายอึกเหมือนกันเมื่อต้องใช้สายตาพิจารณาชุดนี้นาน ๆ

“เป็นไง พอใจยัง ถ้าพอใจฉันจะได้เปลี่ยนชุดกลับ” เมื่อเห็นว่าเขาใช้สายตาที่ดูมีเลศนัยมองปุณณดาจึงถลึงตาใส่

“พอใจแล้ว”

“ดี งั้นฉันไปเปลี่ยน...”

“วันนี้ใส่ชุดนี้ทำงานเลยนะ” ปุณณดายังพูดไม่จบเจอราร์ดก็พูดแทรกขึ้นมาทันที

“ชุดนี้เนี่ยนะ เอาจริงเหรอคุณ” เธอถึงกับเบิกตากว้าง

“จริงสิ ชุดนี้เลย คล่องตัว ดูทะมัดทะแมง เคลื่อนไหวง่ายดีด้วย”

เมื่อได้ยินเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ปุณณดาก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูกทันที ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับชีวิตเธอนักหนา ส่งให้มาทำงานกับคนปกติหน่อยก็ไม่ได้

“ผมเอาชุดนี้ มีกี่สีเอามาให้หมด อย่างละหนึ่งตัว” เจอราร์ดหันไปสั่งพนักงานพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตไปให้

“โอเค ฉันจะใส่โชว์หวอให้คุณดูจนเป็นตากุ้งยิงไปเลย”

“หวอ? ว้อต? ไอด้อนต์เก็ตอิต” พอเจอคำศัพท์ยาก ๆ เข้าหน่อยหนุ่มลูกครึ่งอย่างเจอราร์ดก็ถึงกับไปไม่ถูก แต่พอถามปุณณดากลับไม่ตอบ

หญิงสาวยักไหล่ไม่สนใจก่อนจะเดินไปรับถุงเสื้อผ้ามาจากพนักงาน

ภารกิจการมาห้างสรรพสินค้าของเขาวันนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากพาปุณณดามาเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ถูกใจเขาเพียงเท่านั้น พอหมดธุระเจอราร์ดก็ตัดสินใจจะกลับไปนั่งรอประชุมผ่านโปรแกรมซูมที่บ้าน

“เชิญด้านนี้ครับนายน้อย” คิมหันต์ว่าพลางผายมือไปยังประตูรถตู้ที่เปิดอ้ารอ

ส่วนปุณณดายืนหิ้วถุงเสื้อผ้านับยี่สิบถุงเพียงคนเดียวอยู่ด้านหลัง เพราะนายน้อยสั่งบอดีการ์ดทุกคนว่าเธออยากถือเอง

ทว่ายังไม่ทันที่เจอราร์ดจะก้าวขาขึ้นรถ เสียงตะโกนบอกถึงสัญญาณอันตรายจากบอดีการ์ดโดยรอบก็ดังขึ้นเสียก่อน

ปุณณดาปล่อยถุงช็อปปิงทิ้งและรีบเข้าไปประกบข้างตัวเจ้านายในทันที บริเวณพื้นที่จอดรถวีไอพีตอนนี้เต็มไปด้วยชายชุดดำที่ปกปิดตัวเองอย่างมิดชิด และพยายามจะเข้ามาทำร้ายเจอราร์ดให้ได้

“ยืนข้างหลังฉันไว้สิคุณ” ปุณณดาหันไปมองนายน้อยของตนเอง ก่อนจะเริ่มวาดลีลาการต่อสู้ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เด็กเข้าใส่ผู้บุกรุกที่ดาหน้ากันเข้ามา

เธอใช้ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก แต่สิ่งที่ทำให้เจอราร์ดตกตะลึงได้อยู่ตลอดก็คงไม่พ้นท่าจระเข้ฟาดหางที่เรียวขายาว ๆ นั้นฟาดออกไป

“ท่าดีสุด ๆ” เขาเอ่ยชื่นชมเมื่อได้เห็นเธอเตะก้านคออีกฝ่าย

“มันใช่เวลาไหมฮะ!” ดุไปเธอก็ต้องปกป้องนายน้อยที่โตแต่ตัวไปด้วย เธอบอกให้หลบด้านหลังเขาก็หลบอย่างเดียวจริง ๆ ไม่คิดจะปกป้องตัวเองเลยแม้แต่น้อย

กว่าจะจัดการทุกคนให้ราบคาบก็เล่นเอาปุณณดาทั้งเหนื่อยและเจ็บตัวไปหมด ราวกับว่าอีกฝ่ายวางแผนมาเป็นอย่างดี พอเห็นท่าจะแพ้ก็รีบถอยกลับโดยไม่ยอมปล่อยให้ใครนอนสลบเหมือดให้ได้ลากตัวไปเค้นคอสอบถามเลยสักคน

“น่าหงุดหงิดชะมัด” ปุณณดาบ่นแล้วก้มมองชุดเดรสที่ตัวเองยกขาเตะคนพวกนั้นจนชายกระโปรงขาดและแหวกมาจนถึงต้นขาด้านบน

เจอราร์ดหลุบตามองตามเล็กน้อย ก่อนจะถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ไปพันไว้รอบเอวคอดของเธอด้วยเหตุผลที่ทำเอาคนฟังแทบอยากจะทำท่าจระเข้ฟาดหางใส่ไปอีกคน

“ใส่ไว้ซะ ผิวเธอกร้านมาก ฉันรับไม่ได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel