บทที่ 3. ตอน หนีไม่พ้น
เฉินเฟยลงจากเครื่องบินได้ก็ลงนั่งรถมายังคฤหาสน์ของตนเอง การค้าครั้งนี้เขาได้ตกลงกับหุ้นส่วนใหม่สำเร็จ จะมีการเปิดคาสิโนเพิ่มอีกแห่ง เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจ จึงกดโทรหาซินแสประจำตระกูล สอบถามถึงฤกษ์เข้าหอของเขากับเจ้าสาวเทพีแห่งโชค ทางซินแสได้ดูฤกษ์ยามแล้วบอกว่า
“วันนี้ ช่วงเวลาสามทุ่มเก้านาที เป็นฤกษ์ดี ดวงดาวแห่งโชคกำลังจรัสแสง หากคุณชายเข้าหอในช่วงเวลานี้ จะทำให้เสริมมงคลกับชีวิต พลังแห่งโชคของเจ้าสาวจะช่วยทำให้คุณชายโชคดีเป็นเวลายี่สิบปี หากตั้งครรภ์ก็จะให้กำเนิดบุตรชาย อย่าให้พลาดช่วงเวลาสำคัญนี้ เพราะจะมีเพียงห้าปีครั้งเท่านั้น”
“ซินแสไม่ต้องห่วง ผมได้สั่งป้าหลิวให้เตรียมการไว้แล้ว กลับไปทันเวลาแน่นอน”
เฉินเฟยกดวางสาย ใบหน้าหล่อเหลาแต้มรอยยิ้ม ตั้งแต่เขาแต่งเจ้าสาวคนนี้เข้ามา ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่เขาทำจะราบรื่นไปหมด การค้าที่เคยยืดเยื้อหาบทสรุปไม่ได้ ครั้งนี้กลับตกลงกันได้อย่างง่ายดาย นี่คงเป็นเพราะเทพีแห่งโชคอยู่ในกำมือของเขา ถึงได้ช่วยให้เขาทำได้สำเร็จ
“เทพีแห่งโชค ฉันจะครอบครองเธอ ทำให้เธอกลายมาเป็นภรรยาของฉันอย่างสมบูรณ์ในคืนนี้”
มาเฟียหนุ่มนึกอย่างหมายมาด ขณะรถได้เคลื่อนตัวไปตามทางมุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลเฉิน
///
มารีญาแต่งตัวเสร็จก็มานั่งรอที่เตียง ในใจครุ่นคิดหาทางรอดให้ตัวเอง มือก็กดส่งข้อความหาคนเป็นลุงกับป้ารัวๆ แต่ทั้งสองไม่ตอบกลับมาสักคำ สร้างความร้อนใจให้หญิงสาวมาก นาฬิกาบนผนังห้องบอกเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว ปกติจะรับประทานอาหารเย็นกันในช่วงเวลานี้ อาเจียวได้จัดอาหารมาให้หญิงสาวรับประทานในห้อง พร้อมกับบอกว่า
“ป้าหลิน ให้นายหญิงรับประทานอาหารในห้องค่ะ”
พูดจบก็เดินออกไป ปล่อยให้มารีญานั่งกินอาหารที่เตรียมไว้ เมื่อรับประทานเสร็จก็มาเก็บของ จัดการฉีดน้ำหอมปรับอากาศ เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารติดอยู่ในห้อง
“อีกสักครู่คุณเฉินจะมาแล้วนะคะ คุณผู้หญิงเตรียมตัวไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ”
นางหลินฮวาเข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย พลางเอ่ยถามเจ้าสาวของผู้เป็นนาย
“ค่ะ ฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะป้าหลิน”
มารีญาไม่รู้ธรรมเนียมจีน การเข้าหอมีพิธีการใดบ้างเธอก็ไม่รู้ เห็นเพียงการตกแต่งห้องหอด้วยสีแดงทั้งหมด
“พอคุณเฉินเข้ามา ก็จะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว จากนั้นก็ดื่มสุรามงคล แล้วก็เอ่อ... ร่วมเตียงกันค่ะ”
นางหลินฮวาอธิบายคร่าวๆ นางมองมารีญาด้วยสายตาเอ็นดู ตัวนางเคยมีลูกสาวแต่เสียชีวิตไปตั้งแต่แรกคลอด สามีก็มาเสียชีวิตไปอีก ในชีวิตนี้จึงอุทิศตนให้กับตระกูลเฉิน ทำงานเป็นแม่บ้านดูแลเฉินเฟยมาตั้งแต่ยังเล็ก จึงรักผู้เป็นนายเหมือนลูกตัวเอง เฉินเฟยเองก็ให้เกียรตินางเหมือนนางเป็นญาติผู้ใหญ่ของเขาคนหนึ่ง จึงได้ให้นางเตรียมพิธีการเข้าหอให้
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ป้าออกไปรอรับคุณเฉินเถอะค่ะ”
จัดการทุกอย่างเสร็จก็ปล่อยให้มารีญาอยู่ในห้อง ตัวนางลงมารอรับผู้เป็นเจ้านายที่ห้องโถง หนึ่งชั่วโมงต่อมา รถของเฉินเฟยก็แล่นมาจอดหน้าตึก เมื่อเขาลงมาจากรถ นางหลินฮวารีบเข้าไปต้อนรับทันที
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณเฉิน”
“ป้าหลินทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม”
เฉินเฟยเอ่ยถาม มาเฟียหนุ่มมองไปยังชั้นสองของบ้าน พบว่าห้องที่เตรียมไว้เปิดไฟสว่าง
“เรียบร้อยดีทุกอย่างค่ะ คุณจะดื่มน้ำชาก่อนไหมคะ หรือจะรับประทานอาหารก่อน”
นางหลินฮวาเอ่ยถามอย่างห่วงใย ด้วยรู้ว่าผู้เป็นนาย มักจะทำงานเพลินจนลืมรับประทานอาหารอยู่บ่อยครั้ง
“ไม่ต้อง ฉันจะอาบน้ำแต่งตัว แล้วต้องเข้าหอตามฤกษ์ของซินแส”
เฉินเฟยมองดูนาฬิกาแล้ว พบว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ใกล้ถึงฤกษ์ที่ซินแสบอกไว้ เขาไม่อยากพลาดช่วงเวลาที่ดีนี้ไป จึงเดินไปยังห้องจัดการอาบน้ำ เปลี่ยนชุดเป็นชุดเจ้าบ่าวสีแดง เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าหอ
สองทุ่มครึ่ง เฉินเฟยก็ยืนอยู่หน้าห้องหอ นางหลินฮวายืนรอรับอยู่ด้านหน้า ทำหน้าที่ส่งเขาเข้าหอ
“ขออวยพรให้คุณเฉินมีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมืองนะคะ”
นางหลินฮวาปาดน้ำตาด้วยความตื้นตัน ไม่คิดว่านางจะได้รับหน้าที่ส่งเขาเข้าหอ แทนมารดาที่จากไป
“ขอบคุณมากป้าหลิน ป้าไปพักผ่อนเถอะ ห้ามใครขึ้นมารบกวนผม”
เฉินเฟยกล่าวขอบคุณนางหลินฮวา ขณะกุมหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นแรง เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อจะได้ครอบครองเทพีแห่งโชค ยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นดู ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มสี่สิบนาที เขาจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องหอ
ภายในห้องตกแต่งด้วยสีแดงทั้งหมด มีภาพอักษรมงคลเกี่ยวกับการแต่งงานประดับไว้บนผนัง ไฟถูกเปิดไว้เพียงสลัวๆ สร้างบรรยากาศแสนโรแมนติก มองไปบนเตียงนอนพบร่างของเจ้าสาวนั่งรออยู่ด้วยชุดเจ้าสาวสีแดง บนศีรษะถูกคลุมด้วยผ้าปักลายหงส์สีแดง เป็นภาพที่น่าประทับใจสำหรับเจ้าบ่าว
“ผมมาแล้ว คุณรอนานหรือเปล่า”
เฉินเฟยเดินเข้าไปหาเจ้าสาวของเขา มองดูร่างงามที่นั่งตัวตรงแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะค่อยๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของเธอย่างเบามือ เมื่อผ้าคลุมหน้าถูกดึงออก เขาก็ขมวดคิ้วทันที
“นี่มันคืออะไร เจ้าสาวของฉันอยู่ที่ไหน!”
เจ้าสาวบนเตียงกลายเป็นหุ่นโชว์เสื้อ ไม่ใช่หญิงสาวที่มีชีวิต มาเฟียหนุ่มผลักหุ่นตัวนั้นล้มลง แล้ววิ่งออกจากห้องทันที ปากก็ตะโกนเรียกนางหลินฮวากับลูกสมุนไปด้วย
“ป้าหลินอยู่ที่ไหน จางหยวน หลี่คุน พวกแกสั่งคนค้นหาเจ้าสาวของฉันให้ทั่ว”
นางหลินฮวาวิ่งมาหาเจ้านายสีหน้าแตกตื่น จางหยวนกับหลี่คุนรีบสั่งให้คนอื่นๆ ค้นหาเจ้าสาวของผู้เป็นนายทันที ตัวเขานำแทปเล็ปมาเปิดดูกล้องวงจรปิด
“คุณเฉินครับ นายหญิงปีนต้นไม้ที่ระเบียงหนีลงมาทางด้านหลังตึกครับ ตอนนี้อยู่บนต้นไม้ข้างกำแพง กำลังจะปีนออกไป”
ในกล้องแสดงภาพของผู้หญิงคนหนึ่งสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ปีนลงมาจากระเบียงห้องด้านหลัง แล้วไต่ลงมาตามกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้ระเบียง หญิงสาวลงจากต้นไม้ได้ก็วิ่งไปยังกำแพงด้านหลัง พยายามปีนขึ้นไปยังขอบกำแพงสูงกว่าสี่เมตร โดยไม่รู้ว่าด้านบนกำแพงปล่อยกระแสไฟฟ้าความแรงสูงไว้
“สั่งให้ปิดกระแสไฟก่อน บ้าจริง ยายผู้หญิงโง่นี่ คิดจะหนีรึ”
เฉินเฟยเห็นแล้วรู้สึกโมโหมาก ไม่คิดว่าเจ้าสาวของเขาจะคิดหนี มองดูนาฬิกาใกล้ถึงฤกษ์เข้าหอแล้วเขาจึงวิ่งไปยังจุดที่หญิงสาวกำลังปีนต้นไม้อยู่
“คุณเฉิน นายหญิงอยู่บนต้นไม้ครับ”
ลูกน้องของเฉินเฟยยืนอยู่ใต้ต้นไม้ บางส่วนข้ามไปยังอีกฝั่งของกำแพงเพื่อรอจับหญิงสาว มารีญาอยู่บนกิ่งไม้กิ่งใหญ่ มือข้างหนึ่งโอบลำต้นไว้แน่น ขณะมองลงไปยังพื้นดินแล้วหลับตาด้วยความหวาดเสียว
“โอย ทำไมรู้ตัวเร็วแบบนี้ จบเกมแล้วโดนจับได้แล้ว”
มารีญาโขกศีรษะใส่ต้นไม้ด้วยความสิ้นหวัง ก่อนหน้านั้นราวครึ่งชั่วโมง หลังจากนางหลินฮวาออกไปจากห้อง หญิงสาวก็กดมือถือโทรหาเมธาวี เธอติดต่อลุงกับป้าไม่ได้ จึงลองโทรหาพี่สาว ไม่คิดว่าเมธาวีจะรับสาย
“พี่เมย์ พี่อยู่ที่ไหน”
“พี่อยู่กับแฟนของพี่ เธอสบายดีใช่ไหม”
เมธาวีตอบกลับมา ทำให้มารีญาใจชื้นขึ้น รีบบอกพี่สาวว่า
“พี่เมย์ คุณลุงคุณป้า ให้มายสวมรอยมากับคุณเฉินแทนพี่ มายไม่รู้ว่าเขาเป็นมาเฟีย ถ้าเขารู้ความจริงเขาต้องฆ่ามายแน่”
มารีญาคร่ำครวญ เธอไม่รู้ว่าจะหาทางรอดยังไง
“ใจเย็นๆ ก่อน แฟนพี่เขาก็เป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง พี่ก็เลยหนีมาหาเขา ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่กับพี่ที่นี่แล้ว วันนี้พี่กำลังจะแต่งงาน มายไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไปช่วยมายออกมาแน่นอน”
“คุณลุงคุณป้าอยู่กับพี่เมย์ด้วยหรือคะ แล้วทำไมบอกมายว่ายังไม่พบพี่เมย์”
น้ำตาของมารีญาไหลออกมาด้วยความเจ็บช้ำ ไม่คิดว่าตัวเองกำลังถูกคนในครอบครัวหลอก
“ยายเมย์คุยกับใครอยู่ ใกล้ถึงเวลาเข้าหอแล้วนะ”
เสียงของนางยุวดีแว่วเข้ามา ก่อนที่โทรศัพท์ในมือของเมธาวีจะโดนแย่งไป
