มาเฟียเมียสวมรอย

48.0K · จบแล้ว
รวิญาดา ผการุ้ง นักเขียน
32
บท
642
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เฉินเฟยมาเฟียหนุ่มทายาทหัวหน้าแก๊งมังกรดำ เขาต้องการสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเฉินแทนบิดา จึงต้องหาหญิงสาวผู้มีดวงชะตาเป็นเทพีแห่งโชค มาเสริมบารมี เมธาวีคือหญิงสาวที่เกิดในฤกษ์มงคลนั้น เขาจึงเสนอปลดหนี้ก้อนใหญ่ให้ครอบครัวของเธอ แลกกับการได้แต่งงานกับเทพีแห่งโชค ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายกลับเล่นตุกติก หลังงานแต่งกลับจับหลานสาวก้นครัวมาสวมรอยแทน เมื่อเธอกล้าสวมรอยเป็นเจ้าสาวของเขา มาเฟียหนุ่มจึงไม่คิดยกโทษให้ การลงทัณฑ์แสนโหดหื่นจึงบังเกิดขึ้น!

นิยายรักมาเฟียเศรษฐีโรแมนติกแต่งงานแทนผู้สืบทอด

บทที่ 1. ตอน สลับตัวเจ้าสาว

พิธีแต่งงานอันเรียบง่ายจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง มีเพียงญาติทางฝั่งเจ้าสาวไม่ถึงยี่สิบมาร่วมงาน เจ้าบ่าวคือ เฉินเฟยนักธุรกิจชาวฮ่องกง ส่วนเจ้าสาวมาจากตระกูลจรัสแสง ไม่มีชื่อเสียงในสังคม ฐานะนั้นเทียบไม่ได้กับเจ้าบ่าว

แต่เรื่องฐานะไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เมื่อเฉินเฟยไม่ได้ต้องการหญิงสาวที่มาจากตระกูลผู้ดีสูงส่ง เขาต้องการเพียงหญิงสาวที่เกิดมาภายใต้วันและเวลาของเทพีแห่งโชค ซึ่งจะเป็นดาวนำโชคให้เขากับตระกูลเฉินของเขา หญิงสาวที่ซินแสประจำตระกูลค้นหาพบ เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลจรัสแสง นามว่า เมธาวี จรัสแสง

นายมนัส จรัสแสงกับนางยุวดีภรรยา มีกิจการร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ทั้งสองติดพนันอย่างหนัก จนทำให้ติดหนี้เจ้าของบ่อนในมาเก๊า ต้องเอาร้านอาหารและบ้านไปจำนอง เพื่อหาเงินมาจ่ายเจ้าหนี้ เมื่อเฉินเฟยรู้เรื่อง จึงได้ขอซื้อหนี้ต่อมาจากเจ้าหนี้ทั้งหลาย โดยยื่นข้อเสนอการแต่งงานพร้อมกับสินสอดก้อนใหญ่ นายมนัส กับนางยุวดีเหมือนฟ้ามาโปรดรีบตกลงเซ็นสัญญาทันที กำหนดการแต่งงานครั้งนี้จึงเกิดขึ้น

เฉินเฟยบินมาจากฮ่องกงมาแต่งงานที่ประเทศไทย โดยไม่มีญาติฝั่งเจ้าบ่าวมาร่วมงานสักคนนอกจากลูกน้องคนสนิทของเขาสองคน นายมนัสกับนางยุวดีเป็นลูกหนี้ของเขา การยื่นข้อเสนอการแต่งงานและเงินสินสอด เพื่อจบปัญหาที่จะตามมาทีหลัง งานแต่งงานจึงถูกจัดอย่างเรียบง่ายเช่นนี้

หลังพิธีแต่งงานเฉินเฟยเดินทางกลับฮ่องกงทันที ไม่มีการเข้าหอ เขาต้องการนำตัวเจ้าสาวของเขากลับไปด้วย นายมนัสกับนางยุวดี ตามมาส่งที่สนามบินซึ่งลูกเขยเศรษฐีของพวกเขา ใช้เครื่องบินเล็กส่วนตัวในการเดินทาง

“คุณเฉินครับ ฝากดูแลลูกสาวของผมด้วยนะครับ”

นายมนัสเอ่ยกับลูกเขยหมาดๆ ข้างกายเขา นางยุวดีเองก็เข้ามาอวยพรเช่นกัน

“ขอให้ครองคู่กันยืนยาว ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร มีลูกหลานเต็มบ้านนะคะ “

“ครับ ผมขอตัวก่อน”

เฉินเฟยรับคำสั้นๆ เขาให้คนพาตัวเจ้าสาวของเขาขึ้นเครื่องไปรอแล้ว โดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้มาร่ำลาบิดามารดา หลังงานแต่งงานตามพิธีแบบไทยที่แสนน่าเบื่อ เขาทนนั่งปวดขารดน้ำสังข์คู่กับเจ้าสาวอยู่ร่วมชั่วโมง จากนั้นก็ส่งเธอให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและให้คนของเขาพาตัวขึ้นไปรอบนเครื่องบิน งานแต่งงานครั้งนี้เป็นความลับไม่ได้บอกใคร เขาต้องการนำตัวเทพีแห่งโชคของเขากลับไปให้เร็วที่สุด ซ่อนตัวเธอไว้ก่อนวันทดสอบของบิดา

เฉินอวี้หนาน บิดาของเฉินเฟย ตั้งกฎการขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลเฉินคนใหม่ว่า ลูกสะใภ้ของเขาต้องมีดวงชะตาเป็นเทพีแห่งโชค เช่นเดียวกับภรรยาของเขา จึงจะได้รับการคัดเลือก โดยกำหนดเวลาทดสอบเป็นอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ตรงกับวันจันทร์เต็มดวง ผู้ที่มีสิทธิ์ร่วมทดสอบต้องนำภรรยาของตน ไปร่วมงานและทดสอบต่อหน้าผู้เฒ่าของตระกูล ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมนอกจากเฉินเฟยแล้ว ยังมีเฉินชิงบุตรชายของเฉินเซียว น้องชายของเฉินอวี้หนาน

ในอดีตภรรยาของเฉินอวี้หนาน มีดวงชะตาเทพีแห่งโชคเหนือกว่าภรรยาของเฉินเซียว ทำให้เฉินอวี้หนาน ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำตระกูล ตอนนี้ภรรยาของเขาได้จากไปแล้วด้วยโรคร้าย ตัวเฉินอวี้หนาน เองเมื่อสิ้นภรรยาก็เหมือนสิ้นคนเสริมดวง เขาล้มป่วยลงและต้องสละตำแหน่งหัวหน้าตระกูล เฉินเฟยเป็นลูกชายคนเดียวของเขา จึงต้องค้นหาหญิงสาวผู้มีดวงชะตาเป็นเทพีแห่งโชค เพื่อขึ้นมาเป็นหัวหน้าตระกูลแทนบิดา ด้านเฉินเซียวเองก็สนับสนุนให้เฉินชิงร่วมทดสอบด้วยเช่นกัน

“เจ้าสาวของฉันล่ะ”

เมื่อขึ้นเครื่องไป เฉินเฟยก็เอ่ยถามถึงเจ้าสาวของเขา

“คุณผู้หญิงบอกว่าเวียนหัว ขอนั่งด้านในครับคุณเฉิน”

หลี่คุนบอกกับเจ้านายของเขา ก่อนหน้าเขาได้พาเจ้าสาวของเฉินเฟยเดินทางมารอที่สนามบิน หญิงสาวสวมหน้ากากไว้บอกว่าไม่ค่อยสบาย ขอให้เขาจัดที่นั่งด้านหลังเครื่องให้

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เธอพักก่อน บอกป้าหลินแล้วใช่ไหมให้จัดห้องให้คุณผู้หญิง ฉันต้องเดินทางไปประชุมที่มาเก๊าสามวัน ให้ป้าหลินดูแลคุณผู้หญิงให้ดี”

เฉินเฟยเจียดเวลาน้อยนิดของเขามาแต่งงาน จากนั้นเขาต้องรีบกลับไปร่วมประชุมทางธุรกิจที่มาเก๊า เพื่อเปิดกาสิโนแห่งใหม่ งานสำคัญเช่นนี้ทำให้เขาจำต้องทิ้งเจ้าสาวหมาดๆ ไว้ที่บ้าน การเข้าหอต้องรอไปก่อน เขาต้องการฤกษ์ที่ดีในการร่วมหอกับเทพีแห่งโชค

///

เมื่อเครื่องบินมาถึงฮ่องกง เฉินเฟยสั่งให้คนของเขาพาเจ้าสาวของเขาไปยังคฤหาสน์ ส่วนตัวเขาเดินทางต่อไปยังมาเก๊า

"ยินดีต้อนรับค่ะนายหญิง ฉันชื่อหลินฮวาเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่นี่ค่ะ"

เมื่อเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังงาม นางหลินฮวาก็ยืนรอต้อนรับนายหญิงคนใหม่ พร้อมกับคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้าน

หญิงสาวในชุดเดรสสีขาว เพียงพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

"นายหญิงไม่ค่อยสบาย ป้าหลินรีบพานายหญิงไปพักเถอะครับ"

จางหยวนรีบบอก เขาสังเกตว่านายหญิงมีอาการเหมือนคนเป็นหวัด ระหว่างนั่งรถมามีอาการไออยู่สองสามครั้ง นี่คงเป็นเหตุผลที่นายหญิงสวมหน้ากากกันเชื้อโรคแพร่กระจาย

"เชิญทางนี้ค่ะนายหญิง"

นางหลินฮวาผายมือเชื้อเชิญ พลางเดินนำไปยังห้องชั้นบนที่ฝั่งซ้ายของคฤหาสน์ ซึ่งจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว

"ห้องนี้เป็นห้องพักของนายหญิงค่ะ และบริเวณฝั่งซ้ายทั้งหมด เป็นที่ส่วนตัวของนายหญิง จะมีสาวใช้สองคนคอยดูแลรับใช้นะคะ"

นางหลินฮวาพยักหน้าให้สาวใช้อายุราวยี่สิบปีสองคน เข้ามาทำความเคารพนายหญิงคนใหม่ พลางแนะนำชื่อ

"คนนี้ชื่ออาเจียว ส่วนอีกคนชื่ออาสุ่ย นายหญิงต้องการอะไร เรียกสองคนนี้รับใช้ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ"

หญิงสาวที่ถูกเรียกว่านายหญิงพยักหน้ารับ พลางยกมือขึ้นทำท่าโบก เหมือนต้องการให้ทุกคนออกไป

"ต้องการเรียกใช้ กดกริ่งได้เลยนะคะ"

นางหลินฮวาผายมือไปยังกริ่งที่วางบนหัวเตียง ก่อนจะพาสาวใช้ทั้งสองเดินออกไป พร้อมกับประะตูห้องได้ถูกปิดลง

คนที่นั่งตัวตรงวางท่าสง่างาม ถอนหายใจแรงอย่างโล่งอก รีบวิ่งไปกดล็อกห้อง แล้วมาทิ้งตัวลงบนที่เตียง นอนหงายแผ่หราบนที่นอนนุ่ม มือข้างหนึ่งยกขึ้นปลดหน้ากากออกจากใบหน้า

"นึกว่าจะไม่รอดแล้วเรา"

เสียงถอนหายใจแรง ดังมาพร้อมเสียงพูด เจ้าของเสียงมีใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ภายใต้เรียวคิ้วคมงาม จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่ม ใบหน้านั่นน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่าจะเรียกว่าสวยบาดตา

"อีตานั่นจะจับได้ไหมเนี่ย ว่าเราสวมรอยมาแทนพี่เมย์"

แท้จริงแล้ว หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า มารีญา เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเมธาวี เจ้าสาวของเฉินเฟย

"พี่เมย์นะพี่เมย์ ไม่อยากแต่งงานก็น่าจะปฏิเสธไป เล่นแอบหนีไปแบบนี้ คนที่ซวยเลยกลายเป็นยัยมายคนนี้"

มารีญาบ่นถึงพี่สาว ที่แอบหนีไปหลังจากพิธีรดน้ำ ทิ้งจดหมายไว้ว่า

'เมย์ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ เมย์มีคนรักอยู่แล้ว ไม่อยากเป็นภรรยาของคุณเฉินเฟย เมย์แต่งงานตามที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการแล้ว ที่เหลือเมย์ขอทำเพื่อตัวเองบ้าง'

เจ้าสาวหนีไปงานเข้ามารีญาทันที คนเป็นลุงกับป้า ได้ขอร้องให้เธอสวมรอยเป็นเมธาวี ตามเฉินเฟยกลับฮ่องกงไปก่อน

"นึกว่าเห็นแก่ลุงเถอะนะมาย ถ้าคุณเฉินเขารู้ว่าเจ้าสาวของเขาหนีไปลุงตายแน่ มายตามคุณเฉินไปฮ่องกงแทนพี่เขาได้ไหม ลุงขอร้อง"

มนัสเอ่ยของร้องหลานสาว ที่เขารับเธอมาเลี้ยงหลังจากน้องชายกับภรรยา เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทิ้งลูกสาววัยสิบขวบไว้เพียงลำพัง

"ฉันเลี้ยงแกมาสิบกว่าปี มีบุญคุณท่วมหัว ตอบแทนสักนิด ไม่ได้หรือไง รอให้ตามหาพี่สาวแกเจอ แกก็กลับมาบ้านได้แล้ว"

นางยุวดีไม่ใช่คนใจดี นางไม่เต็มใจรับเลี้ยงหลานกำพร้าของสามี แต่ขัดเขาไม่ได้ จึงเลี้ยงมารีญามาราวกับคนรับใช้คนหนึ่งของบ้าน ให้ทำงานบ้าน รับใช้ลูกสาวนาง กดข่มไว้แต่ในครัว ไม่เคยพาออกสังคม จึงไม่มีคนรู้ว่าบ้านนี้มีหลานสาวอีกคน

"ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณเฉินเขาจับได้ มายก็คงต้องพูดความจริง"

มารีญายอมรับปาก คิดเพียงว่าจะถ่วงเวลาไม่ให้เฉินเฟยจับได้ จนกว่าลุงกับป้าจะตามหาพี่สาวของเธอพบ หากถูกจับได้ก่อนก็จะยอมสารภาพความจริง เขาคงไม่ใจร้ายกับเธอหรอกนะ

หญิงสาวไม่รู้เลยว่า เฉินเฟยไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดา แต่เขาเป็นมาเฟียจอมโหด !

///