บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 จินซูอันฝึกฝนหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่ง 1/1

เลี่ยงหยางรับสัญญาการทำงาน มาเปิดอ่านร่วมกับชาวบ้านที่ตามมา ซึ่งในสัญญาได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า หากเป็นผ้าไหมสีพื้นธรรมดาทั่วไป ซูอันจะรับซื้ออยู่ที่ผืนละห้าสิบอีแปะ ส่วนผ้าไหมที่จะเพิ่มลวดลายในภายหลัง จะรับซื้ออยู่ที่ผืนละหนึ่งตำลึงเงิน และราคารับซื้อจะสูงขึ้นเมื่อชาวบ้านสามารถทอลวดลายยาก ๆ ที่ซูอันกำหนดให้

แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่าผ้าไหมจะต้องไม่เกิดความเสียหาย ไม่มีรอยขาดหรือจุดบกพร่องบนผืนผ้า ต้องส่งผ้าไหมให้ตรงเวลาตามที่กำหนดไว้ หากมีปัญหาทำให้ส่งล่าช้าอนุโลมให้ชี้แจงได้ แต่ต้องมีเหตุผลเป็นที่ยอมรับได้เท่านั้น ถ้าผ้าไหมที่ได้รับไม่ผ่านการตรวจสอบจะถูกหักเงินค่าจ้างหนึ่งส่วนต่อครั้ง

เมื่อเห็นว่าในสัญญาไม่มีจุดไหนที่เอาเปรียบพวกตน เลี่ยงหยางจึงยื่นสัญญากลับไปให้ซูอันและตอบตกลงทันที “คุณหนูเล็กพวกข้าไม่มีปัญหากับสัญญาฉบับนี้ขอรับ เงื่อนไขที่ท่านกำหนดพวกข้ายอมรับได้ เพราะราคาที่ท่านรับซื้อแพงกว่าคุณชายกู้ตั้งหลายเท่าขอรับ”

“เช่นนั้นพวกเราก็ลงชื่อในสัญญากันเถิด ข้าจะมอบให้ท่านลุงเลี่ยงหยางเก็บไว้หนึ่งชุด เมื่อกลับไปถึงหมู่บ้านแล้ว ท่านอย่าลืมเรียกทุกคนมาประชุมและบอกให้พวกเขาเริ่มทอผ้าได้” ซูอันคิดเอาไว้แล้วว่าชาวบ้านย่อมเห็นด้วยกับสัญญาของนางฉบับนี้

“ขอรับคุณหนูเล็ก” เลี่ยงหยางรับปากกับซูอันอย่างหนักแน่น

การทำสัญญาจ้างงานชาวบ้านเรื่องทอผ้าสำเร็จไปแล้ว เลี่ยงหยางจึงถือสัญญากลับหมู่บ้านกับคนที่ตามมาเป็นพยาน ส่วนกลุ่มของอวี้เหลียนนั้นเป็นเรื่องต่อไป ที่ซูอันจะต้องจัดการด้วยตนเอง เนื่องจากนางเป็นเพียงคนเดียวของครอบครัว ที่พูดจาคุยโวโอ้อวดไว้ว่ามีทักษะการต่อสู้ที่เก่งกาจ ดังนั้นบิดามารดาและพี่สาวอย่างเยี่ยนหลิง ย่อมไม่สอดมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้

ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาของพวกท่านแล้ว ตามข้าไปด้านหลังของจวนเนื่องจากสถานที่แห่งนั้นคือการเริ่มต้น เพื่อฝึกฝนร่างกายในการเป็นหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งของตระกูลจิน”

“ขอรับคุณหนูเล็ก”

ซูอันพาลูกน้องมือใหม่ไปยังด้านหลังจวน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจการทำหน้าที่ และค่าจ้างที่คนทั้งสิบจะได้รับ เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านหลังจวนสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอากลุ่มของอวี้เหลียนต้องหยุดชะงัก อ้าปากค้างกับสิ่งที่เรียกว่าสนามฝึก

“อะ อะ อวี้เหลียนเจ้าว่าพวกเรากำลังฝันอยู่หรือไม่ นี่ใช่ลานฝึกต่อสู้ที่คุณหนูเล็กพูดถึงงั้นรึ!” หยิ่งเจาเคยทำงานเป็นคนส่งผักมาก่อน เขาเคยเห็นในจวนของบุตรหลานคหบดี มักจะมีลานฝึกวิชาต่อสู้มาบ้าง

อึก “ข้าเองก็ตอบเจ้าไม่ได้เช่นกันหยิ่งเจา บางอย่างข้าไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ” อวี้เหลียนตอบสหายอย่างตรงไปตรงมา

คนอื่น ๆ ที่เหลือยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเขาไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ ว่าการจะฝึกวิชาต่อสู้ต้องมีอุปกรณ์มากมายเช่นนี้ แม้มีคำถามและอยากรู้เพียงใด ย่อมต้องรอให้ซูอันเป็นคนอธิบายเท่านั้น

ขณะที่ทุกคนกำลังมองไปรอบ ๆ ลานฝึกฝน ซูอันหันมามองพวกเขาทั้งสิบคน เพื่อทำความเข้าใจก่อนลงชื่อในสัญญา “เอาล่ะ พวกท่านจงฟังที่ข้าจะพูดให้ดี หลายวันก่อนทุกคนรับรู้เพียงว่า ข้าต้องการรับสมัครหน่วยคุ้มกัน เพื่อทำหน้าที่ปกป้องผ้าไหมให้ปลอดภัย เมื่อต้องนำไปส่งให้กับคู่ค้ายังต่างเมืองในอนาคต แต่อย่าลืมว่างานคุ้มกันเป็นงานที่เสี่ยง หากพบเจอพวกโจรหรือคนชั่วในคราบพ่อค้า เท่ากับว่าชีวิตของพวกท่าน อาจรักษาไว้ได้หรือตายระหว่างทำหน้าที่ได้ทุกเวลา ข้าจะถามพวกท่านเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าขี้ขลาดจงหันหลังเดินกลับบ้านไปเสีย เพราะงานของข้าต้องการผู้กล้าที่จิตใจเข้มแข็ง มีเป้าหมายในการทำภารกิจให้สำเร็จเท่านั้น”

อวี้เหลียนและสหายที่มาด้วยกันวันนี้ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่างานเช่นนี้ย่อมเสี่ยงอันตราย แต่แล้วอย่างไร หากพวกเขาทุกคนสามารถฝึกฝนวิชาต่อสู้ให้เก่งกาจ และขยันฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ย่อมสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ

“คุณหนูเล็กข้าอวี้เหลียนยินดีทำงานเป็นหน่วยคุ้มกัน เป็นตายจะไม่มีวันทรยศหักหลัง ขอเพียงครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้นขอรับ”

หยิ่งเจาและคนที่ยืนรวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน พวกเขาย่อมไม่อยากเป็นบุรุษขี้ขลาดเช่นกัน “พวกข้าทุกคนยินดีทำงานกับคุณหนูเล็ก เป็นตายจะไม่มีวันทรยศหักหลัง และจะทำภารกิจของคุณหนูให้สำเร็จขอรับ!!”

ซูอันได้ยินและได้เห็นท่าทางที่มุ่งมั่น ไม่เกรงกลัวความตายของลูกน้องกลุ่มแรก ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ “ดี! เช่นนั้นหลังจากพวกเจ้าลงชื่อในหนังสือสัญญาแล้ว ย่อมเป็นคนของตระกูลจิน และต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้ของข้า เพื่อรับการฝึกฝนที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ในทุกวันพวกเจ้าต้องตื่นตั้งแต่ยามเหม่า เตรียมตัวให้พร้อม

กับการฝึกที่หนักหน่วง อุปกรณ์ในลานฝึกแห่งนี้ คือสิ่งที่จะช่วยให้ร่างกายของพวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้น

วิชาการต่อสู้ข้าจะทำเป็นตัวอย่างและร่วมฝึกฝนกับพวกเจ้าทุกวัน จนกว่าพวกเจ้าจะผ่านการประเมินจากข้า ทั้งพวกเจ้าและข้ามีเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่ง เมื่อครบสามเดือนข้าจะเริ่มทำการค้าที่เมืองผู่เถียน หลังจากนั้นค่อยขยายไปยังเมืองใกล้ ๆ ข้ามีเพียงข้อแม้เดียวสำหรับพวกเจ้า นั่นก็คือต้องแข็งแกร่ง เด็ดขาด สำหรับศัตรูอย่าได้ใจอ่อน ต้องโหดเหี้ยมอำมหิตเท่านั้น เข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่!”

“พวกข้าจะจดจำคำสอนของคุณหนูเล็กให้ขึ้นใจขอรับ!”

“เมื่อครบสามเดือนพวกข้าทุกคนจะแข็งแกร่งให้ได้ เพื่อสนับสนุนงานของคุณหนูเล็กขอรับ!”

“ส่วนค่าจ้างที่พวกเจ้าจะได้รับคือสิบตำลึงเงินทุกเดือน เรื่องชุดที่ต้องใส่ให้เหมือนกัน รวมถึงอาหารการกินของพวกเจ้า ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบให้เอง ระหว่างที่ข้ามองหาแม่ครัวและสาวใช้ พวกเจ้าช่วยจัดการไปก่อนข้าจะหาคนมาให้โดยเร็ว” ซูอันมัวแต่คิดเรื่องกำลังคนและการฝึกจึงลืมไปว่า นางซื้อจวนหลังขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ และยังไม่มีแม้แต่พ่อบ้านหรือสาวใช้ในเรือน

เหนียนจื่อยกมือตอบเรื่องนี้กับซูอัน “คุณหนูเล็กคัดเลือกคนที่ไว้ใจได้เข้ามาทำงานเพิ่มเถิด ท่านไม่ต้องห่วงเรื่องทำอาหารเลยขอรับ พวกข้าทุกคนล้วนทำอาหารเป็นตั้งแต่เด็กแล้วขอรับ”

“อืม เช่นนั้นวันนี้พวกเจ้าทำความสะอาดเรือนพัก ซึ่งเป็นเรือนของบ่าวไพร่เพื่อเป็นที่พักของพวกเจ้า และส่งตัวแทนออกมาหนึ่งคนในการดูแลเรื่องเงินค่าอาหาร อย่าได้ประหยัดจนกินไม่อิ่ม แต่ก็อย่าใช้จนเกินเลยขอบเขตที่ควรจะเป็นก็พอ” ซูอันไม่พูดเปล่าแต่ทั้งน้ำเสียงและสายตาที่แข็งกร้าวของนางที่แสดงออกมา ทำให้กลุ่มคนตรงหน้ารู้สึกว่าน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย

หยิ่งเจาหันไปสะกิดอวี้เหลียน เพื่อให้เขาเป็นตัวแทนดูแลเรื่องนี้ พร้อมทั้งบอกกับซูอันเสร็จสรรพ “คุณหนูเล็กขอรับเรื่องเงินค่าอาหารของพวกข้า มอบให้อวี้เหลียนช่วยจัดการดูแลเถิด เพราะอวี้เหลียนละเอียดรอบคอบกว่าพวกข้ามากขอรับ”

“เช่นนั้นต่อจากนี้รบกวนเจ้าด้วยนะอวี้เหลียน หากขาดเหลือสิ่งใดให้ไปบอกข้าได้ทุกเมื่อ ในถุงเงินใบนี้มีอยู่สิบตำลึงเงิน พวกเจ้าแบ่งหน้าที่การทำอาหารให้เรียบร้อยด้วยล่ะ เมื่อพวกเจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าอธิบายทุกอย่างแล้ว ก็มาลงชื่อในสัญญาและแยกย้ายทำหน้าที่ของตนเถิด” ซูอันลอบสังเกตคนทั้งสิบ ไม่มีใครหลบสายตาของนางยามที่ต้องพูดหรือตอบสิ่งที่นางถาม ดังนั้นซูอันจึงวางใจในส่วนนี้ไปได้เปลาะหนึ่ง

“ขอบคุณคุณหนูเล็กที่ให้โอกาสพวกข้าขอรับ!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel