19 ข้ามน้ำข้ามทะเล
มิรันดามาถึงมิลานได้สองวันแล้วแต่ยังไม่ได้ออกไปไหนเพราะมาร์คัสก็มีงานส่วนเธอนั้นปวดท้องและเจทแล็คผสมปนเปกันจนไม่อยากจะออกไปไหน หญิงสาวจึงใช้เวลาสองวันในการนอนพักและชาร์ตพลังอย่างเต็มที่
เช้าวันนี้มิรันดารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเธอคิดว่าถ้ามาร์คัสไม่ว่างเธอก็จะออกไปเที่ยวเองเพราะไม่อยากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
แต่ยังไม่ทันจะได้ถามมาร์คัสก็ถามขึ้นในขณะที่เธอกำลังทานอาหารเช้า
“เป็นไงบ้างมิรัน เช้านี้คุณโอเคไหม พร้อมจะไปเที่ยวหรือยังครับ” มาร์คัสถามอย่างเอาใจ
“วันนี้ไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ”
“งานเสร็จแล้วครับ”
“เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างคะ”
“วันนี้เที่ยวในตัวเมืองก่อนครับ ส่วนนอกเมืองเราค่อยวางแผนกันอีกที มิรันอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม”
“รันอยากไปหอเอนปิซ่าจะได้ถ่ายรูปไปอวดเพื่อน มันไกลจากที่นี่ไหมคะ”
“ก็จับรถประมาณสี่ชั่วโมงครับ ถ้านั่งเครื่องไปก็ไม่นาน”
“เรานั่งรถไปดีไหม รันอยากชมวิวไปด้วย จะลำบากพี่มาร์คไปหรือเปล่าคะ
“ไม่เลย พี่บอกแล้วว่าจะตามใจมิรันทุกอย่าง”
“ขอบคุณนะคะ”
มิรันดารีบทานอาหารเช้าจากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุดให้ทะมัดทะแมงขึ้น
“พี่มาร์คใส่กางเกงยีนแล้วเท่มากเลยค่ะ”
มิรันดามองมาเฟียหนุ่มที่อยู่ในชุดกางเกงยีนสีเข้มกับเสื้อยืดสีขาวแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตยีนมันดูดีจนเธออดชื่นชมไม่ได้
“วันนี้เราจะไปกันสองคน”
“จะไม่เป็นไรเหรอคะ” แม้จะอึดอัดที่มักจะคนตามไปด้วยทุกที่แต่เธอก็ห่วงความปลอดภัยของเขา
“ไม่หรอกครับ พี่ว่าวันนี้พี่ปลอมตัวสักหน่อยก็คงไม่มีใครจำได้หรอก”
มาร์คัสหยิบแว่นกรอบสีดำมาใส่จาก นั้นก็สวมหมวกแก๊ปอีกใบ
มาเฟียหนุ่มให้ลูกน้องขับรถมาส่งที่ Piazza del Duomo ซึ่งถือเป็นจัตุรัสหลักของเมืองมิลาน บริเวณโดยรอบมีทั้งโบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์รวมถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมาก
มิรันดาตื่นตากับความสวยงามของ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) หรือที่เรียกกันว่า ดูโอโม่ (Duomo) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน มาร์คัสบอกว่าที่นี่เป็นศิลปะสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกรองซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 กว่าปี
ออกจากดูโอโม่เขาก็พาเขาก็พามายัง กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน ภายในห้างเป็นโดมแก้ว มีห้างร้านต่าง ๆ มากมาย
มาร์คัสคะยั้นคะยอให้มิรันดาซื้อของที่อยากได้ แต่เดินจนเมื่อยหญิงสาวก็ยังไม่ซื้ออะไรเพราะเห็นราคาแต่ละอย่างแล้วก็แทบไม่อยากจับ
“มิรัน ไม่อยากได้อะไรจริงๆ หรือที่ไม่กล้าซื้อเพราะราคามันแพงใช่ไหม”
“ค่ะ รันว่ามันไม่เหมาะกับรันเลย พี่มาร์คพารันไปเที่ยวหรือหาของกินดีกว่าค่ะ”
“แต่เรามาถึงที่นี่แล้วนะ ถ้าไม่ซื้ออะไรเลยจะเสียเที่ยวเอานะ”
“แต่รันไม่อยากได้อะไรเลย”
“พี่ว่าเราไปดูกระเป๋าร้านนั้นดีไหม มันมีเป้แบบวัยรุ่นด้วยนะ”
มิรันดาเดินตามเขาไปยังร้านกระเป๋า แล้วเธอก็ได้เป้ใบเล็กที่ราคามันเล็กตามขนาดเลย เหตุผลที่ซื้อก็เพราะทั้งมาร์คัสและพนักงานขายบอกว่ามันเข้ากับตัวเธอ
หลังทานอาหารกลางวันก็เดินเที่ยวกันต่อ มาร์คัสเป็นเจ้าบ้านที่ดี เขาอธิบายทุกอย่างระหว่างทางให้มิรันดาฟังราวกับตัวเองเป็นไกด์ของที่นี่
หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยแม้ว่าตัวเองจะฝังและพูดภาษาอิตาลีไม่ได้เลยสักนิด แต่มาร์คัสก็ไม่เคยปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียว เขาจับมือเธอเดินไปทุกที่ราวกับว่าทั้งสองเป็นคู่รักนักเดินท่องเที่ยว
พอตกบ่ายเขาก็พาเธอทานขนมที่ร้าน marchesi ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ มิรันดาชอบทานขนมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงนั่งอยู่ที่นานเป็นพิเศษ
มาร์คัสรอจนพระอาทิตย์ตกดินก็พาเธอมาชมวิวตอนกลางคืนก่อนจะพาไปทานอาหารค่ำแล้วจึงกลับบ้านของเขาในเวลาเกือบสี่ทุ่ม
หลังจากมิรันดาเข้านอนแล้วมาร์ก็ออกมาประชุมกับลูกน้องในห้องทำงาน ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน
“ทุกอย่างปกติครับบอส” แพทริครีบรายงานเพราะตลอดทั้งวันเขาให้คนคอยตามดูเจ้านายอยู่ห่างๆ แต่ก็ไม่มีลูกน้องของวาเลนติโน่ตามเจ้านายเขาเลยสักคน
“ก็ดีเหมือนกันพรุ่งนี้ฉันจะได้พามิรันดาเที่ยวอย่างสบายใจ”
“ผมว่านายนั่งเครื่องไปดีกว่านะครับประหยัดเวลา”
“ไม่ละฉันอยากขับรถไปเอง”
“ให้ผมขับให้ดีกว่าไหมครับบอส” แพทริครีบเสนอเพราะระยะทางไปกลับมันไกลมาถ้าหากระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นพวกเขากลัวว่าจะช่วยเหลือเจ้านายทัน
“แค่ขับตามก็พอ อีกอย่างช่วงนี้วาเลนติโน่มันก็เอาแต่ยุ่งกับกาสิโนใหม่ของมัน คงไม่มีเวลามาสนใจฉันหรอก”
“ผมก็หวังว่าเขาจะเลิกสนใจนายสักที”
การเดินทางไปกลับระหว่างมิลานไปยังเมืองปิซ่าผ่านไปได้ด้วยดี มิรันดามีความสุขมากที่ได้ไปยังสถานที่ซึ่งเธอเคยเห็นแต่ในหนังสือเรียน มาร์คัสก็ตามใจเธอทุกอย่างเป็นทั้งตากล้อง เป็นไกด์และเป็นคนขับรถที่ดีเยี่ยม
ทั้งสองกลับมาถึงมิลานและไปทานอาหารค่ำมื้อพิเศษที่ร้านอาหารหรูใจกลางเมือง
“มาร์คัส นั้นคุณใช่ไหมคะ”
เสียงทักทายดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงด้วยซ้ำ
“เอลลีน่า มาทานอาหารเหมือนกันเหรอ”
“ค่ะ ลีน่ามากับเพื่อน คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะไม่เห็นบอกลีน่าเลย” หญิงสาวเดินมายังโต๊ะของมาร์คัส
“ทำไมผมต้องบอกคุณล่ะครับ”
“ที่รักยังงอนลีน่าอยู่เหรอคะ เดี๋ยวคืนนี้ลีน่าจะทำให้คุณหายงอนเองนะคะ”
หญิงสาวพูดโดยไม่สนใจเลยว่ายังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่กับมาร์คัสด้วย
“ไม่ดีกว่าครับ สำหรับผมจบก็คือจบครับ”
“คุณแน่ใจนะคะว่าผู้หญิงที่คุณพามาด้วยจะทำให้คุณมีความสุข ดูท่าทางจืดชืดมาก”
“ของบางอย่างดูด้วยตาคงไม่รู้หรอกครับ มันต้องลอง”
“อย่าบอกนะคะว่าคุณจะคบกับเธอ”
“ไม่ได้จะคบครับ เราคบกันแล้ว เธอเป็นคนของผม เป็นผู้หญิงของผม”
“ไม่จริง คุณก็แค่หลงชั่วครั้งชั่วคราว ลีน่ารู้นะคะว่าในใจคุณยังไม่ลืมไลร่า”
“ครับ ผมไม่เคยลืมเธอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะมีคนอื่นไม่ได้นี่ครับ”
“เธอมีอะไรดีกันเชียว ถึงทำให้คุณเปลี่ยนไปขนาดนี้” เอลลีน่ามองการแต่งตัวของมาร์คัสที่เปลี่ยนไปจากเดิม อีกทั้งใบหน้าบึ้งตึงของเขาก็ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยนเวลามองไปทางผู้หญิงคนนั้น
“เรื่องนี้ผมว่าไม่จำเป็นต้องบอกคุณนะลีน่า”
“คอยดูนะ ลีน่าจะทำให้คุณกลับมาหาลีน่า”
“ถ้าผมคิดจะกลับไปหาคุณผมคงไม่พอเธอมาที่นี่ มานอนที่บ้านของผม”
เอลลีน่ามองไปยังมิรันดาด้วยสายตาโกรธแค้น ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตนเองกับเพื่อนซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร
“มิรันดา คนเมื่อกี้เคยเป็นคู่ขาของพี่ แต่เราจบกันแล้วตั้งก่อนที่พี่จะไปเมืองไทย” มาร์คัสรีบบอกทันทีเมื่อเอลลีน่าเดินกลับไป
“คุณคุยอะไรกับเธอบ้าง”
“แน่ใจนะว่าอยากฟัง”
“ความลับเหรอคะ”
“เปล่าเลย ถ้ามิรันอยากฟังพี่ก็จะเล่าให้ฟัง”
“ไม่ดีกว่าค่ะ รันไม่อยากสนใจอดีตของพี่”
“พี่กลัวมิรันมาสบายใจ กลัวมิรันเข้าใจผิดเอาเป็นว่าเรารีบกินก่อน แล้วขากลับพี่จะเล่าให้ฟังนะครับ”
แม้ปากจะบอกว่าไม่สนใจอดีตแต่มิรันดาก็ยังไม่สบายใจ ยิ่งได้ฟังมาร์คัสเล่าว่าเขากับเอลลีน่านั้นคบหากันมาเกือบครึ่งปี เธอก็ยิ่งกังวลมากขึ้น
ผู้หญิงคนนั้นทั้งสาวทั้งสวย แถมยังหุ่นดีมาก ขนาดเธอเป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดชื่นชมไม่ได้
“พี่มาร์คจะไม่กลับไปหาเธอใช่ไหมคะ”
“พี่มีมิรันคนเดียว ไม่คิดจะมีใครอีกแล้ว”
“มิรันเชื่อพี่คะ”
“น้ำคงเต็มอ่างแล้วมิรันไปอาบก่อนละเลยนะ”
“พี่มาร์ค มิรันอยากอาบพร้อมพี่”
“ได้สิ พี่ขอไปสั่งงานแพทริคก่อน ไม่เกินห้านาทีนะครับ”
มิรันดาอยากเอาใจมาร์คัสบ้างเพราะสองวันมานี้เขาพาเที่ยวแล้วยังต้องกลับมาทำงานอีกจนดึก เธออยากให้เขามีความสุข อยากให้เขาผ่อนคลายและอยากได้ยินเสียงแหบพร่ายามที่เขามีความสุข
