บทที่ 2 บ้านหลังใหม่
เชนทร์โยนยาหยีลงโซฟาจนร่างกระดอน ทำให้เธอรู้สึกเจ็บและตกใจจนต้องร้องออกมาอย่างไม่พอใจ
“อ๊า! คุณโยนฉันลงถังหรือยังไง? คุณเอาฉันมาเพื่อจะฆ่าเหรอ?” เธอกรีดร้องเสียงดัง เขาเห็นว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงตาบอดแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ? ทำไมถึงโหดร้ายกับเธอขนาดนี้
“โซฟา” เขาตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ยาหยีสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วค่อยสงบสติอารมณ์ เขาไม่ได้จะฆ่าเธอ จึงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจขึ้น
กลิ่นหอมของอากาศในห้องนี้ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสงบ เธอแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าที่อยู่อาศัยแห่งนี้จะหรูหรามากแค่ไหน เธอสัมผัสได้จากกลิ่นรอบตัว มันต้องหรูหรากว่าบ้านที่เธออาศัยมากแน่นอน
“เธออยากได้อะไรไหม?” เชนทร์เอ่ยถามเพื่อให้เธอตื่นจากภวังค์ของเธอ
“ไม่” เธอตอบสั้น ๆ
“ถ้างั้น เธอไปพักผ่อนที่ห้องของเธอก่อนนะ” เขาบอกแล้วตะโกนเรียกสาวใช้คนหนึ่ง “รัญดา! รัญดา!”
สาวใช้ที่ชื่อรัญดารีบวิ่งเข้ามาจนเกือบสะดุดล้ม “ค่ะ คุณผู้ชาย”
“พายาหยีไปที่ห้องของเธอ และแนะนำสิ่งของทั้งหมดให้เธอด้วย”
“ค่ะ คุณผู้ชาย” รัญดาโค้งศีรษะเพื่อตอบรับ
“ยาหยี เธอไปดูห้องของเธอก่อน สำรวจดูบรรยากาศรอบ ๆ แล้วเดี๋ยวเจอกันตอนมื้ออาหารเย็น” เชนทร์บอกแล้วเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง
“คุณยาหยี เชิญตามฉันมาค่ะ” รัญดาบอกพร้อมกับช่วยประคองแขนเธอข้างหนึ่งเพื่อให้เดินตามไปที่ห้องนอน
ยาหยีไม่ได้ปฏิเสธที่รัญดาช่วยเหลือ เธอเดินตามไปอย่างเงียบๆ ยังห้องนอนชั้นสอง คฤหาสน์หลังนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งชั้นที่ 3 เป็นที่ตั้งที่ทำงานของเชนทร์ เซฮุน และยังเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาด้วย ไม่จำเป็นก็ไม่มีใครได้ขึ้นไป
“บนชั้น 2 มีห้องนอนอยู่ 5 ห้อง เมื่อเดินขึ้นบันไดมาก็จะเป็นห้องรับรองแขก ถัดไปทางด้านซ้ายมืออีกสองห้องก็เป็นห้องรับแขกเช่นกันนะคะ ส่วนทางขวามือจะมีสองห้องซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน เมื่อคุณยาหยีเดินขึ้นบันไดมาก็เดินมาทางขวามือ เดินตรงไปจนสุดทางประมาณ 200 เมตร ห้องของคุณจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนห้องทางขวามือจะเป็นห้องนอนของคุณผู้ชายค่ะ” รัญดาแนะนำ
“ฉันนอนห้องตรงข้ามเขาเหรอ? ทำไมไม่ให้ฉันอยู่ห้องรับแขกทางฝั่งซ้ายของบันไดล่ะ?” เธอไม่อยากอยู่ห้องใกล้เขาเลยสักนิด อยู่ห่างไกลเขาหน่อยจะดีกว่า
“คุณผู้ชายได้จัดเตรียมและตกแต่งห้องนี้เพื่อคุณโดยเฉพาะ ตั้งนานแล้วค่ะ” รัญดาบอกพร้อมกับอมยิ้ม
ญาณินไม่ได้ถามอะไรอีก ผู้ชายคนนี้คงวางแผนเอาไว้ตั้งนานแล้วสินะ ไม่งั้นเขาคงไม่ไปทวงหนี้ด้วยตัวเองที่บ้านป้าของเธอทุกอาทิตย์หรอก เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องการตัวเธอมาเท่านั้น
เมื่อเดินมาถึงห้องของตัวเอง ยาหยีรับรู้ถึงอากาศที่บริสุทธิ์ภายในห้อง กลิ่นที่หอมสะอาดและสดชื่นนี้ สามารถทำให้เธอพักผ่อนได้อย่างสงบและนอนหลับสนิททั้งคืนได้แน่นอน
“คุณผู้ชายให้ฉันแนะนำพื้นที่ภายในห้องให้คุณ แล้วคุณจะจำสิ่งของต่าง ๆ ในห้องนี้ได้ยังไงคะ?” รัญดาถามอย่างสงสัย รู้สึกเห็นใจและสงสารผู้หญิงตรงหน้า เป็นผู้หญิงที่สวยงามมากแท้ๆ แต่ไม่น่าตาบอดเลย
“ฉันสามารถนับจำนวนการก้าวเดินได้ค่ะ เพียงแค่มีไม้เท้านี้ ฉันก็จะไม่เดินชนอะไร” เธอยิ้มตอบ
“ถ้างั้นก็ค่อย ๆ เดินตามฉันมานะคะ ฉันจะแนะนำคุณว่าอะไรอยู่ตรงไหน”
รัญดาจับมือยาหยีเดินจากประตูไปหาเตียงนอน หลังจากนั้นก็ไปยังห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้รองเท้า รัญดาแนะนำว่าตู้เสื้อผ้าทั้งหมดแยกเป็นช่องยังไง แล้วแต่ละช่องเป็นชุดสไตล์ไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าและเสื้อผ้า ต่างก็มาจากหลายแบรนด์ชั้นนำทั้งนั้น
เนื่องจากยาหยีมีปัญหาเรื่องสายตา ดังนั้นเชนทร์จึงหลีกเลี่ยงในการเลือกรองเท้าส้นสูงให้เธอ ในตู้รองเท้าจึงมีเพียงรองเท้าที่ไม่มีส้นเท่านั้น
หลังจากที่ฟังคำแนะนำแล้วหนึ่งรอบ ยาหยีก็ลองเดินสำรวจด้วยตัวเอง เธอเริ่มตั้งแต่การเดินเข้ามาในห้องแล้วเริ่มนับจำนวนก้าว ว่าจะไปแต่ละจุดภายในห้องต้องใช้กี่ก้าว
“เป็นยังไงบ้างคะ พอจะจำได้หรือเปล่า? มีอะไรที่เป็นอุปสรรคบ้างมั้งคะ?” รัญดาเอ่ยถาม
“ฉันยังต้องเรียนรู้ก่อนค่ะ” ยาหยีตอบ “ว่าแต่ ตะกร้าผ้าที่เอาไว้ใส่เสื้อผ้าที่ใส่แล้วอยู่ตรงไหนเหรอ?”
“ตะกร้าผ้าอยู่ทางขวามือที่หน้าห้องน้ำนะคะ ใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วลงไปได้เลย ทุกวันจะมีแม่บ้านมาเก็บเพื่อเอาไปซักให้ค่ะ”
“ไม่! ไม่ต้องหรอกค่ะ” ยาหยีโบกมือไปมา “ไม่ต้องให้แม่บ้านมาซักเสื้อผ้าที่สกปรกให้ฉันหรอก ฉันจัดการเองได้ค่ะ” เธอเอ่ยอย่างเกรงใจ และไม่อยากให้คนอื่นมาซักเสื้อผ้าที่สกปรกของตัวเองด้วย ปกติเธอก็ซักเสื้อผ้าของตัวเองเป็นประจำอยู่แล้ว
“คุณผู้หญิงไม่ต้องเกรงใจนะคะ มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว หากคุณผู้ชายรู้ว่าพวกเราปล่อยให้คุณผู้หญิงซักผ้าเอง พวกเราคงถูกไล่ออกกันหมดแน่”
ญาณินจึงพยักหน้าตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ รัญดามองเห็นใบหน้าของเธอแดงระเรื่อเพราะความเขินอาย จึงอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ คงอายที่จะให้คนอื่นมาซักชุดชั้นในของตัวเองสินะ
“ตอนนี้คุณผู้หญิงควรเตรียมตัวให้พร้อมได้แล้วนะคะ อีก 30 นาที ก็จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ”
“ฉันก็พร้อมแล้วนะ ยังต้องเตรียมตัวอะไรอีกเหรอ?” ยาหยีไม่เข้าใจ ก็แค่ทานอาหารไม่ใช่เหรอ? พอถึงเวลาก็แค่เดินลงไปที่ห้องอาหารเท่านั้น
“จะพร้อมได้ยังไงล่ะคะ คุณผู้หญิงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ก่อนค่ะ มาค่ะ ฉันจะช่วยคุณแต่งหน้าและแต่งตัว”
“เอ่อ..พี่รัญดา..ฉันแต่งตัวคนเดียวได้ค่ะ” เธอปฏิเสธพร้อมหน้าแดง
รัญดายิ้มก่อนจะไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเลือกชุดเดรสตัวหนึ่งออกมา
“มาค่ะ ให้ฉันช่วยคุณแต่งตัวนะคะ”
