บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 เปิดใจให้กัน

เช้าวันรุ่งขึ้น

ญาณินลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกหนักเนื้อหนักตัว ร่างกายเหมือนถูกอะไรบางอย่างพันธนาการเอาไว้ ทั้งรู้สึกหนักและอึดอัดจนไม่สบายตัว โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องของตัวเอง จึงเผลอเอามือไปลูบหน้าท้อง พบว่าเป็นแขนของใครบางคนที่กำลังกอดรัดตัวเองเอาไว้

คเชนทร์เหรอ? ใช่เขาจริงๆ ใช่ไหม? ญาณินมั่นใจว่าต้องเป็นคเชนทร์จึงยังไม่อยากขยับตัว แทนที่จะรู้สึกโกรธ แต่เธอกลับไม่ทำแบบนั้น กลับรู้สึกว่าอ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นมากจริงๆ ยิ่งสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาตรงซอกคอ ก็ยิ่งรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากของคเชนทร์ เขารู้สึกสบายใจที่ภายในวงแขนมีร่างอันบอบบางของญาณินแนบชิดอยู่ เขาพอจะสัมผัสได้ว่าหญิงสาวนั้นตื่นนอนแล้ว และเธอก็ไม่กล้าขยับตัวด้วย เหมือนว่าเธอจะไม่ขัดขืนเขาอีกต่างหาก เธอเริ่มจะไม่ต่อต้านเขาแล้วใช่ไหม?

ใบหน้าของคเชนทร์ซุกเข้าไปในซอกคอขาว “ตื่นแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยเสียงเบา

“อืม”

“ไม่ขัดขืนแล้วเหรอ?” เขาถามพร้อมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น แล้วพลิกตัวเธอขึ้นมาทับเขา

“อ๊ะ! คุณเชนทร์!” ญาณินกรีดร้องอย่างตกใจ

คเชนทร์จ้องมองใบหน้าอันสวยงามของหญิงสาวตรงหน้า แม้ดวงตาของเธอจะมองไม่เห็น แต่มันไม่มีผลกระทบอะไรต่อความงามของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาเขี่ยปอยผมที่ปกคลุมใบหน้าส่วนหนึ่งของเธอออก จากนั้นก็ลูบแก้มเธอเบาๆ และโน้มตัวเข้าไปจูบริมฝีปากอันบอบบาง

“อรุณสวัสดิ์ครับ ที่รัก” น้ำเสียงของเขาเซ็กซี่มาก

“....” ญาณินเงียบไป หัวใจก็เต้นแรงด้วย เธอกลัวว่าคเชนทร์จะได้ยินถึงเสียงเต้นของหัวใจ จึงรีบเอ่ยขึ้น “ฉัน..ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” เธอหน้าแดงและรู้สึกเขินอาย

คเชนทร์อุ้มญาณินไปส่งที่ห้องน้ำเพื่อให้เธอได้จัดการตัวเอง ส่วนเขาก็กลับไปจัดการธุระส่วนตัวที่ห้องของตัวเองเช่นกัน ระหว่างนี้ยังพึมพำกับตัวเองไปด้วย

คเชนทร์ยิ้มแล้วลูบหน้าอกตัวเอง ‘ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงขนาดนี้นะ ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงมาก่อนสักหน่อย ตื่นเต้นยิ่งกว่าครั้งแรกเสียอีก’

ญาณินยืนอยู่ที่หน้ากระจกโดยไม่ทำอะไร เธอยังรู้สึกชาไปทั้งตัวอยู่เลย ทำไมคเชนทร์ถึงทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ตอนนี้หัวใจเต้นแรงหมดแล้ว หน้าก็ชา มือก็สั่น ญาณินจับแก้มของตัวเองแล้วก็รู้สึกว่ามันร้อน เธอตื่นเต้นที่คเชนทร์ทำแบบนี้ นี่เธอหวั่นไหวกับเขาแล้วใช่ไหม?

สองปีมาแล้ว ก่อนหน้านี้คเชนทร์ก็ไปบ้านป้าของเธอบ่อยๆ เขาตามตื๊อเธอและขอให้เธอมาเป็นผู้หญิงของเขา สองปีมานี้เธอยังไม่เคยหวั่นไหวให้เขาเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้ เพียงแค่ได้ใกล้ชิดกับเขาแค่สองวัน หัวใจก็เริ่มหวั่นไหวแล้วเหรอ?

ดูเหมือนว่า คเชนทร์คงจะเอาชนะหัวใจของญาณินได้ในเร็วๆ นี้แน่นอน สิ่งที่เขาทำเพื่อเธอมาทั้งหมดนี้ สุดท้ายแล้วก็ใกล้จะประสบผลสำเร็จแล้ว

อพาร์ทเมนต์อันหรูหราใจกลางเมือง มีชายหนุ่มรูปงามยืนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สายตาจ้องมองไปนอกหน้าต่าง มองวิวทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ของกรุงเทพ ช่างสวยงามจริงๆ

“เจ้านาย เราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้วครับ” ผู้ช่วยเอ่ย พร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลให้

เป็นหนึ่งรับซองสีน้ำตาลนั้นแล้วไปนั่งที่โซฟา เขาเปิดซองนั้นแล้วดูข้อมูลด้านในอย่างละเอียด

“เธอมาจากครอบครัวธรรมดาครับ เมื่อ 7 ปีก่อนอาศัยอยู่ที่ภาคอีสานกับครอบครัว แต่เพราะอุบัติเหตุเมื่อ 7 ปีก่อนนั้น ทำให้พ่อและแม่ของเธอเสียชีวิต ส่วนเธอก็ตาบอดเพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้นด้วยเช่นกันครับ หลังจากนั้นก็เข้ามาอยู่ในกรุงเทพกับป้าของเธอ ก็คืออุษณีย์ครับ” ผู้ช่วยรายงาน

เป็นหนึ่งจ้องมองรูปถ่ายของญาณินและข้อมูลของเธออย่างสนใจ

“คุณญาณินกับคุณคเชนทร์ไม่ได้รู้จักกันแบบส่วนตัว ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องอะไรกันด้วย แต่เป็นเพราะอุษณีย์เป็นหนี้คุณคเชนทร์ ดังนั้นจึงยกคุณญาณินให้แก่คุณคเชนทร์เพื่อแลกกับหนี้ก้อนนั้นครับ”

เป็นหนึ่งขมวดคิ้ว “ป้าของเธอขายเธอเพื่อใช้หนี้เหรอ?” เขากำหมัดแน่น

“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นครับ ป้าของเธอติดการพนัน และทำงานเป็นเพียงแม่บ้านในโรงแรม คงจะใช้หนี้คุณคเชนทร์ไม่ไหวแล้ว เลยยกหลานสาวให้เขาเพื่อล้างหนี้ครับ”

เป็นหนึ่งกำหมัดแน่นและดวงตาแดงก่ำ ‘ชีวิตของคุณช่างน่าสงสารเสียจริง ผมน่าจะเจอคุณให้เร็วกว่านี้ คุณจะได้ไม่ตกไปอยู่กับอาชญากรอย่างคเชนทร์’

ภายในห้องนอนของญาณิน เธอกำลังเล่าเรื่องของตัวเองให้คเชนทร์ฟังบ้าง เขาถามอะไรเธอก็ตอบออกไปตามตรง กิริยาและคำพูดของเธอไม่ได้แข็งกระด้างและต่อต้านเขาอีกแล้ว

“คุณเป็นคนขอนแก่นเหรอ? ผมคิดว่าคุณเป็นคนกรุงเทพตั้งแต่แรกซะอีก”

“ฉันนึกว่าคุณรู้เรื่องทั้งหมดของฉันแล้วเสียอีก ที่จริงฉันมาอยู่ในกรุงเทพกับป้าได้ 7 ปีแล้วค่ะ และคุณพึ่งจะมารู้จักฉันเพียงแค่ 2 ปีนี้เอง”

“เปล่าครับ ผมไม่รู้เรื่องอดีตของคุณเลย หากเมื่อ 2 ปีก่อนคุณเปิดโอกาสให้ผม ตอนนี้เราคงจะมีลูกด้วยกันแล้วล่ะ” เขากุมมือเธอไว้

ญาณินหัวเราะกับคำพูดของคเชนทร์ เรื่องการแต่งงานและการมีลูก เธอไม่เคยคิดอยู่ในสมองด้วยซ้ำ ใครจะมาแต่งงานกับคนพิการตาบอดอย่างเธอกันล่ะ

“ผมดีใจนะ ที่เห็นคุณหัวเราะแบบนี้ ผมพยายามเข้าหาคุณมา 2 ปี แต่คุณก็เย็นชากับผมตลอด” เขาดึงเธอเข้ามาในวงแขน “คุณไม่รู้เหรอว่าผมจริงใจกับคุณมากแค่ไหน?”

“ฉันมองไม่ออกหรอกค่ะ ว่าใครจริงใจหรือไม่จริงใจ”

“แต่สำหรับผมแล้ว จริงใจกับคุณร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน ผมสาบาน” คเชนทร์ยกมือชูสามนิ้ว

“ฉันไม่รู้ว่าจะเชื่อคำพูดของคุณได้เต็มร้อยไหม แต่ฉันไม่อยากเสียใจภายหลัง”

“คุณลองเปิดโอกาสให้ผมสิ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณต้องเจ็บและเสียใจ”

“...” ญาณินเงียบ เธออยากเห็นแววตาของเขาเสียจริง เพื่อยืนยันความจริงใจจากเขา แต่ก็คงไม่มีโอกาส

“คุณเชนทร์ ฉันขอถามคุณได้ไหม?”

“ถามมาสิ ผมจะตอบทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง”

“หากฉันยอมเป็นของคุณแล้ว หลังจากนั้นคุณจะเบื่อฉันไหม? คุณจะมองว่าฉันเป็นตัวภาระของคุณหรือเปล่า?” ญาณินสนใจเรื่องนี้มาก เพราะเธอเคยเจอมาแล้ว ด้วยการกระทำของผู้เป็นป้า ตอนแรกก็ดีกับเธอมาก แต่พอเงินประกันชีวิตของพ่อและแม่หมดไป ป้าก็มองว่าเธอเป็นภาระทันที

คเชนทร์ดึงญาณินมากอดอย่างสงสาร “ไม่แน่นอน หากผมต้องการเอาผู้หญิงมาเป็นของเล่นชั่วคราว ก็ยังมีผู้หญิงตั้งมากมายที่พร้อมขึ้นเตียงกับผมโดยไม่มีข้อแม้ด้วยซ้ำ แล้วทำไมผมถึงต้องตามตื๊อคุณมาถึง 2 ปีด้วยล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมรักคุณ”

“แล้ว..ตอนนี้ความสัมพันธ์ของคุณกับปูเป้-”

“มันจบไปแล้ว” คเชนทร์รีบตอบ “ตอนนี้ผมเกลียดเขามากด้วยซ้ำ”

“แล้วน้องชายของคุณกับปูเป้ยังเกี่ยวข้องกันไหม?”

“ก็น่าจะจบไปแล้วมั้ง” คเชนทร์ไม่ได้สนใจเรื่องของทั้งสองคนนี้

“หากว่าจบกันแล้ว แล้วทำไมคุณยังไม่ให้อภัยน้องชายคุณล่ะ?”

“ผมไม่ได้เกลียดไอ้วินท์เพราะปูเป้หรอก แต่ผมเกลียดมันเพราะมันเป็นคนฆ่าแม่ต่างหาก”

ญาณินสัมผัสได้ว่าคำตอบนี้ทำให้คเชนทร์เจ็บปวด “ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่ควรทำให้คุณพูดถึงอดีตที่เจ็บปวดอีก”

“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องที่คุณควรรู้ และผมจะไม่ปิดบังอะไรกับคุณ”

“ที่รัก ตอนนี้คุณเริ่มเห็นใจผมแล้วใช่ไหม? คุณยอมเปิดใจให้ผมแล้วใช่ไหม?”

“ไม่รู้สิคะ ฉันไม่เคยมีความรักมาก่อน” ญาณินหน้าแดง เธอไม่กล้าบอกว่าตอนนี้เธอรู้สึกดีต่อเขามาก

คเชนทร์ยิ้มกว้าง ตอนนี้เขาพอจะมองออกแล้วว่าญาณินนั้นก็รู้สึกดีกับเขาเหมือนกัน เพียงแต่เธอไม่กล้าพูดเท่านั้น

“แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่ที่กรุงเทพล่ะ?”

“เมื่อ 7 ปีก่อน ครอบครัวของฉันเกิดอุบัติเหตุจนทำให้พ่อและแม่เสียชีวิต ส่วนฉันก็ตาบอด ในเวลานั้นฉันไม่มีใครดูแล ญาติทางพ่อก็ไม่อยากได้ฉันไปเป็นภาระ ฉันจึงโทรหาป้านีซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ให้มาหา ตอนแรกป้าก็ไม่อยากรับฉันมาดูแลเหมือนกัน แต่ตอนนั้นทางบริษัทประกันติดต่อมาพอดี พอป้าได้ยินว่าฉันจะได้รับเงินประกันชีวิตของพ่อและแม่ ป้าก็เลยยอมรับฉันมาอยู่ด้วย”

“ป้าของคุณดูแลคุณดีไหม?”

“จะพูดยังไงดีล่ะ อย่างน้อยก็ยังให้ฉันมีที่อยู่ ที่กิน”

“เขาไม่ได้ทำร้ายคุณใช่ไหม?” หากเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาต้องไปสั่งสอนอุษณีย์แน่นอน

“ถึงแม้ฉันจะตาบอด ฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมใครง่ายๆ เหมือนกัน”

“ที่รักของผมเก่งมาก ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณเอง ผมจะไม่ให้คุณต้องลำบากทั้งกายและใจแน่นอน”

ญาณินพยักหน้าตอบรับ เธอไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนที่ทำดีกับเธอแบบนี้อยู่จริงๆ และยิ่งไม่คาดคิดว่าจะสามารถเปิดใจเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นฟังแบบนี้ด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel