ตอนที่2 เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ
4 ปีต่อมา...
วันนี้คุณยายบอกว่าพี่แอลจะพาแฟนขึ้นมาเยี่ยม คุณยายเล่าให้ฉันฟังว่าพี่แอลรักแฟนมาก ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้เจอแฟนพี่แอลเพราะปิดเทอมที่ผ่านมาพี่แอลมาเยี่ยมคุณยายและอยู่ที่ไร้กุหลาบเกือบเดือน คุณยายบอกว่าพี่แอลอกหักเพราะตัวเองเจ้าชู้จนแฟนของพี่แอลทนไม่ได้จึงบอกเลิก พี่แอลที่เจ้าชู้แต่รักแฟนมากเลยเฮิร์ทหนัก
"หนูมะลิวันนี้มีเรียนพิเศษไหมลูก"คุณยายถามฉันขนาดที่ฉันกับท่านกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ด้วยกันสองคน
"ไม่มีค่ะคุณยาย วันนี้มะลิว่าจะไปตอนกิ่งดอกกุหลาบช่วยลุงเพิ่มในสวนนะคะ"ฉันตอบคุณยายถึงโปรแกรมที่คิดว่าจะทำหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ
"ตอนบ่ายพี่แอลกับแฟนจะมาถึงไร่แล้ว หนูมะลิกลับมาจากในสวนก่อนบ่ายสามนะลูก"คุณยายบอกถึงจุดประสงค์ของท่าน
"ได้ค่ะคุณยาย หนูมะลิตื่นเต้นจังเลยค่ะคุณยายจะได้เจอแฟนพี่แอลอยากเห็นหน้าพี่เขาจังเลยไม่รู้จะน่ารักขนาดไหน"
"ยายก็อยากเจอเหมือนกันนะ อยากเห็นผู้หญิงที่ตาแอลเล่าให้ฟังบ่อยๆที่สุด ฟังจากที่ตาแอลเล่ามาแม่หนูคนนั้นคงจะเป็นคนน่ารักและนิสัยดีแน่ ไม่งั้นหลานชายจอมเจ้าชู้ของยายถึงขนาดไปไหนไม่รอดได้ฮ่าๆ"คุณยายพูดแล้วก็หัวเราะพี่แอลมันก็จริงนั่นแหละขนาดพี่แอลมาเยี่ยมคุณยายแล้วช่วยคนงานตอนรับนักท่องเที่ยวที่มาชมสวนกุหลาบ ยังเห็นมีสาวๆเข้ามาขอเบอร์เขาเลยเสน่ห์แรงจริงๆพี่ชาย
"หนูอิ่มแล้วงั้นไปก่อนนะคะคุณยาย เดี๋ยวไม่ทันลุงเพิ่มแกจะน้อยใจที่ปล่อยให้แกทำคนเดียวทั้งๆที่ขอช่วยแกทำเองแท้ๆฮ่า" ฉันบอกคุณยายอย่างรีบเร่งเพราะว่าวันนี้จะต้องตอนกิ่งตั้งประมาณ1000ต้น ลุงเพิ่มเป็นหัวหน้าคนสวนในส่วนของการเพาะพันธุ์ต้นดอกกุหลาบ ไร่เราเป็นไร่กุหลาบที่นำส่งขายทั่วทั้งเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงแถบโซนภาคเหนือที่ใหญ่และได้รับความนิยมที่สุด เวลาทำการปลูกกุหลาบจึงมีการแบ่งหน้าที่และหัวหน้าคนงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะมันต้องทำเยอะอาจจะเกิดความวุ่นวายและดอกกุหลาบไม่ได้ผลผลิตตามความต้องการของลูกค้าที่สั่งมา
"เดินระวังหน่อยแม่มะลิ เดี๋ยวก็หกล้มหัวขม่ำไปหรอกเป็นสาวเป็นนางต้องมีกิริยามารยาทให้สำรวมหน่อยนะลูก"
คุณยายเอ็ดตามหลังฉันที่รีบวิ่งออกจากโต๊ะกินข้าวก็คนมันรีบจริงๆนี้น่า คุณยายท่านเป็นคนแก่พี่ค่อนข้างมีระเบียบแต่ก็ไม่เคร่งครัดชักเท่าไหร่หรอกคนไม่คุ้นชินจะคิดว่าท่านเป็นคนดุแต่จริงๆ แล้วท่านเป็นคุณยายที่น่ารักและอารมณ์ดีไม่ค่อยจะดุหรอก
เรือนเพาะชำ
"มาแล้วค่ะทุกคน มีอะไรให้หนูมะลิทำบ้างคะบอกมาได้เลยพร้อมเต็มที่แล้ว"ฉันพูดด้วยเสียงร่าเริงปนหอบนิดเพราะปั่นจักรยานมาไกล
"หนูมาลิมาพอดีเลย มาเอาดินกรอกใส่ถุงดำพวกนี้ช่วยป้าๆมาลูก"ป้าคนงานที่นั่งกรอกดินใส่ถุงบอกฉัน
"ค่ะคุณป้า"ฉันยิ้มให้ท่านแล้วก็เดินไปนั่งลงบนท่อนไม้ที่พวกป้าๆ นั่งกรอกดินใส่ถุงดำกันอยู่ แล้วลงมือทำอย่างขะมักเขม้น หลักจากช่วยคนงานตอนกิ่งดอกกุหลาบเสร็จแล้วก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านเพื่อรอต้อนรับพี่แอลกับแฟนของพี่แอล
"คุณยายเดี๋ยวมะลิจะนวดขาให้น่า"ฉันนั่งลงกับพื้นข้างโซฟาตัวกลางห้องรับแขกที่คุณยายท่านนั่งอ่านหนังสืออยู่
"แม่มะลิ แล้วเป็นไงบ้างตอนกิ่งต้นดอกกุหลาบ" คุณยายถามฉันขึ้นเมื่อฉันเริ่มบีบนวดขาของท่าน
"ก็ได้เกือบ1000ต้นแล้วค่ะคุณยาย แต่บางต้นที่ตอนไว้เมื่อเดินที่แล้วเริ่มจะเอาไปลงแปลงใหญ่ได้แล้วค่ะ"
ฉันบอกท่านอย่างภูมิใจในผลงานที่ได้ช่วยคนงานทำเพราะเวลาว่างจากการไปโรงเรียนและเรียนพิเศษฉันก็ชอบไปช่วยคนงานปลูกกุหลาบบ้าง รดน้ำบ้าง บางทีก็ไปตัดดอกกุหลาบช่วยทั้งหมดมันเป็นความสุขและสนุกที่ได้ทำ
"ดีแล้ว คราวก่อนที่เราเอากิ่งไปเพาะชำมันตายจนเกือบร้อยต้น ยายนึกว่าพ่อเพิ่มจะไม่ยอมให้เราไปยุ่งแล้วเสียอีกฮ่าๆ"คุณยายทำไมต้องรื้อฟื่นเรื่องหน้าอายของฉันมาพูดนึกว่าจะเสียลืมแล้ว วันนั้นฉันจำได้ว่าเรียนการงานอาชีพกับคุณครูที่โรงเรียนครูสอนวิธีเพาะชำดอกไม้ ฉันก็ตื้นเต้นอยากลองเอาวิชาความรู้ที่ได้เรียนมาทำ เลยขอลุงเพิ่มไปทำเองปรากฏว่าต้นกุหลาบเกือบร้อยแห้งเหี่ยวตายหมด ขายหน้าคนงานที่ทำงานอยู่ในส่วนของเรือนเพาะชำจนแทบจะพลิกแผ่นดินมีแต่คนหัวเราะกับผลงานอันล่ำค่าของฉันฮื่อ
"โถวคุณยายยังอุตส่าห์จำเรื่องนั้นได้อีกเหรอคะ"ฉันโอดโอ้ยออกมาแต่คุณยายกับหัวเราะไม่หยุดเชอะงอนดีไหมเนี้ยคนแก่ขี้แกล้ง
"ฮ่าๆก็มันตลกจริงๆนี้แม่มะลิ เรานี้ก็ทำไปได้ดีหน่อยที่ตาเพิ่มไม่ดุเอาฮ่าๆ"ไม่ดุอะไรละแค่บอกว่าหนูมะลิถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเข้ามาทำเองอย่างนี้อีกนะ ถ้าอยากช่วยเพาะเดี๋ยวคราวหน้าลุงจะสอนให้เองห้ามเอาความรู้ที่คิดว่าจำมาถูกมาทำผิดๆอีก
"คุณยายหนูมะลิอายนะ"ฉันบ่นอุบอิบ
"สวัสดีครับคุณยายคนสวยของแอล"เป็นพี่แอลนั้นเองที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกแล้วก็โผล่เข้ากอดคุณยายท่านทันที
"ตายแล้วตาแอลมาถึงตอนไหนทำไมยายไม่เห็นได้ยินเสียงรถ"คุณยายพูดอย่างดีอกดีใจที่พี่แอลมาหา
"ก็คุณยายมัวแต่นั่งหัวเราะกับมะลิอยู่จะได้ยินได้ไงละครับ"พี่แอลพูดยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
"สวัสดีค่ะพี่แอล"ฉันทักพี่แอลที่คุยกับคุณยายอยู่แล้วพี่แอลก็ยิ้มให้แล้วพี่แอลก็แนะนำผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวสว่างนั่งอยู่ข้างพี่แอลให้คุณยายท่านรู้จัก
"คุณยายครับนี้น้ำหนาวแฟนผมที่เล่าให้ฟังไงครับ"พี่แอลแฟนสาวของพี่แอลให้คุณยายท่านได้รู้จักพี่สาวคนสวยสวัสดีคุณยายอย่างน่ารักแล้วก็หันมามองฉันแล้วยิ้มให้นิดๆ
"สวัสดีค่ะคุณยาย"พี่น้ำหนาวแฟนพี่แอลยิ้มให้ฉัน
"สวัสดีจ้ะหนูน้ำหนาว มานั่งข้างยายมาลูกทำไมหน้าตาสวยน่ารักน่าเอ็นดูอย่างนี้"คุณยายพูดกับพี่น้ำหนาวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
"ขอบคุณค่ะคุณยาย"พี่น้ำหนาวตอบท่านยิ้มหวานน่ารักมาก
"เอ่อนี้หนูมะลิ พี่น้ำหนาวแฟนพี่ครับ สวัสดีพี่เขาสิ"พี่แอลบอกให้ฉันสวัสดีพี่น้ำหนาวคนสวย ฉันไหว้พี่เขาแล้วยิ้มหวานให้
"หนูมะลิเป็นเด็กที่คุณยายอุปการะเลี้ยงดูครับ"พี่แอลอธิบายให้พี่น้ำหนาวฟัง แล้วพี่แอลก็เล่าเรื่องที่พี่แอลกับพี่น้ำหนาวไปเที่ยวทะเลให้คุณยายฟังอย่างอารมณ์ดี
พี่แอลมีของฝากมาให้ฉันด้วยยิ่งขนมตั้งหลายหอมีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยฉันถึงกับตาลุกโชยเพราะขนมคือของชอบของฉันกินได้ทุกประเภทที่เป็นขนมคือชอบมากจริงๆ จนคุณยายดุตอนเด็กเพราะฟันผุกินแล้วลืมแปรงฟัน แล้วพี่แอลก็ขอตัวไปพักผ่อนข้างบนห้องที่พี่จันจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ตอนเย็นฉันลงมาทานข้าวพร้อมกับคุณยายพี่แอลพี่น้ำหนาว วันนี้ฉันช่วยเป็นลูกมือทำอาหารกับคุณยายท่านดีใจที่หลานชายคนเล็กมาหาเลยทำอาหารมากมายเต็มโต๊ะเลยมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นฉันชิมแล้ว
"อร่อยไหมหนูน้ำ ทานเยอะๆนะลูก"คุณยายบอกคุณยายบอกพี่น้ำหนาวอย่างใจดี
"ค่ะคุณยาย"พี่น้ำหนาวยิ้มรับคุณยายที่ท่านคุยด้วย แล้วพี่น้ำหนาวก็หันมาคุยกับฉันที่กำลังตั้งใจกินอาหารอร่อยจนไม่สนใจคนรอบข้างก็มันหิวนี้น่า
"แล้วนี่น้องมะลิจะเรียนต่อในคณะอะไรเหรอคะ"ฉันถึงกับวางช้อนแล้วยิ้มนิดให้พี่น้ำหนาวแล้วตอบพี่เขาไปอย่างคิดหนักนิดๆ
"หนูสอบชิงทุนได้ที่อเมริกาค่ะพี่น้ำหนาว เป็นคณะสถาปัต หนูชอบแต่ไปเรียนไกลถึงเมืองนอกหนูไม่ค่อยอยากไปแล้วต้องห่างคุณยายคงทนไม่ไหวแน่ หนูมะลิต้องคิดถึงคุณยายมากแน่ๆเลยค่ะ ก็เลยว่าจะรอผลสอบอันอื่นเอาดีกว่า"ฉันตอบอย่างคนที่ตัดสินใจได้แล้ว ก็เรื่องนี้มันทำให้ฉันคิดหนักเกือบเดือนได้แล้วตั้งแต่ประกาศผล ทั้งอยากไปเรียน ทั้งไม่อยากห่างคุณยายมันสับสนไปหมดจนไปร้องไห้กับเพื่อนสนิทมาแล้วเลย มันเป็นเรื่องที่ทำให้หนูมะลิคนนี้เครียดที่สุดตั้งแต่มาอยู่กับคุณยายเลยนะ
"แม่มะลิยายบอกแล้วว่าชอบก็ไปเรียนไม่กี่ปีเอง อีกอย่างได้ทุนด้วยไม่ต้องห่วงยายหรอกแม่ตาแอลก็มาหายายทุกเดือน"คุณยายบอกฉันด้วยน้ำเสียงเอ็นดูและตามใจฉันสุดๆ ฉันรู้ว่าท่านรักฉันมากรักเหมือนหลานสาวแท้ๆเลย ฉันก็รักและผูกพันกับท่านมากจนไม่อยากจากท่านไปไหนเลย
"ไปก็ดีนะมะลิเพราะยังไงพี่เอ็มพี่เอ็นมันก็ไปทำงานรับช่วงต่อแด็ดดี๊ที่อเมริกาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนรู้จักและดูแลเดี๋ยวพี่ฝากเรากับพี่เอ็มแล้วกันเพราะลายนั้นอยู่อเมริกานานกว่าเอ็นมันที่แฟนอยู่ไทยบินไปบินมาบ่อยเกิน"พี่แอลก็สนับสนุนฉันอีกคนเอาไงดีนะ แต่ไปก็ดีนะอย่างน้องก็มีพี่เอ็มถึงจะไม่สนิทกับพี่เขามากเท่าพี่แอลกับพี่เอ็นแต่อย่างน้อยก็รู้จักกันนะลองทำตามฝันดูสักครั้งสู้ๆมะลิ ฉันบอกตัวเองอย่างมุ่งมั่น
"งั้นมะลิจะไม่สละสิทธิ์แล้วก็ได้ค่ะ"ฉันบอกทุกคนอย่างตัดสินใจได้แล้ว
บันทึกของเอ็ม
"พี่เอ็ม จำน้องมะลิที่คุณยายเราอุปการะได้ไหม"ไอ้แอลมันโทรมาหาผมดึกดื่นเลยนะได้น้องเลว ก็รู้อยู่ว่าตอนนี้เวลาที่อเมริกามันเป็นตอนกลางคืนยังโทรหากวนอีก
"อืมจำได้ แล้วมึงมีไร" ผมตอบมันเสียงนิ่งทั้งที่ในความเป็นจริงหัวใจผมกำลังเต้นแรงที่ได้ยินชื่อของเด็กคนนั้น อยู่ๆใบหน้าของเธอก็ลอยเข้ามาในหัวของผม
"คืออย่างนี้นะพี่น้องมะลิสอบชิงทุนได้ที่อเมริกา แล้วแอลกับคุณยายก็สนับสนุนให้น้องไปเรียนต่อ น้องเลยตกลงแล้วน้องก็ยังเด็กไม่เคยไปไกลถึงเมืองนอกเลยอยากฝากให้พี่เอ็มช่วยดูแลน้อระหว่างเรียนอยู่ที่นู่นหน่อย"ไอ้แอลมันบอกผมมายืดยาว
"ทำไมต้องเป็นฉัน ไอ้เอ็นละทำไมไม่ฝากไว้กับมันเห็นสนิทกัน"ผมพูดออกไปเสียงใส่อารมณ์คิดภาพเมื่อ4ปีก่อนแล้วมันหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"พี่ก็รู้ว่าพี่เอ็นมันบินไปบินมาไทยกับอเมริกาทุกอาทิตย์ มันติดแฟนจะตายจะเอาเวลาไหนไปดูแลน้องมะลิ"
"เอ่อเดี๋ยวดูแลให้ก็ได้ว่ะมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม กูจะนอน"ผมบอกมันก่อนที่มันจะเอาเรื่องใหม่มาเล่าอีก เพราะไอ้น้องชายคนเล็กของผมมันจะมีนิสัยสองแบบคือกับคนนอกจะเย็นชาเหมือนกับผม แต่กับคนในครอบครัวหรือคนที่สนิทมันจะพูดมากจนน่ารำคาญ
"ครับแค่นี้ก็ได้ไอ้พี่ชาย"มันตอบมาแบบกวนผม จะมาอยู่กับผมเหรอมะลิตอนนี้เธออายุ18แล้วสินะ โตแล้วหน้าตาจะเปลี่ยนแปลงมากไหมนะผมคิดกับตัวเองขำๆ ก่อนจะนอนลงบนเตียงคิงไซต์อย่างอารมณ์ดี มีรอยยิ้มที่คนทั่วไปไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เห็นมันนอกจากคนในครอบครัว
จบบันทึกของเอ็ม
วันเดินทางไปอเมริกา...
ณ. สนามบินสุวรรณภูมิ
ทำไมวันที่ฉันจะต้องเดินทางไปเรียนต่อเมริกาทำไมเวลามันเร็วอย่างนี้นะ สักไม่อยากจะไปเรียนต่อแล้วคิดถึงคุณยาย คิดถึงคนที่ไร้กุหลาบมาลี
"ฮื่อฮึกฮื่ออออคุณยายยย"ฉันพูดไปร้องไห้ไปขนาดนี้พวกเราทุกคนซึ่งก็มีฉัน คุณยายพี่จันและอิงฟ้า(เพื่อนสนิทของฉัน) มาส่งฉันที่สนามบินพวกเราลงมาจากเชียงใหม่มาพักบ้านคุณแม่พี่แอลที่กรุงเทพ1คืน
"โอ๊ยโตแล้วนะหนูมะลิหยุดร้องได้แล้วลูก หนูไปเรียนแค่3-4ปีเองนะปิดเทอมก็บินกลับมากลับพี่เอ็มพี่เอ็นได้ทำไมต้องร้องด้วยหยุดๆ"คุณยายพยายามปลอบฉันขนาดที่ท่านก็น้ำตาคลอเบ้าตาเหมือนกัน
"มะลิจะไม่ร้องค่ะคุณยายฮึก"ฉันพูดไปแต่ก็ยังคงสะอื้นไห้อยู่
"โชคดีนะแม่มะลิเดินทางปลอดภัย ยายขอให้หนูตั้งใจเรียนสมกับที่ได้ทุนนะลูกไปอยู่ที่นู่นก็ให้เชื่อฟังพี่เอ็มเขาละเพราะเขาจะเป็นคนดูแลหนูแทนยาย อย่าดื้อกลับพี่เขานะแล้วก็โทรมาหายายบ่อยๆด้วยนะลูก" คุณยายให้พรและสั่งสอนฉันก่อนออกเดินทางไปไกลบ้าน
"ค่ะคุณยายมะลิจะเป็นเด็กดีจะเชื่อฟังพี่เอ็ม"ฉันสัญญากับคุณยายแล้วก็กอดท่านไว้แน่น หันไปกอดพี่จันคนที่เป็นทั้งพี่และเพื่อนคนแรกของฉัน
"โชคดีนะหนูมะลิของพี่จันไปอยู่ที่นู่นก็อย่าลืมคิดถึงพี่จันและโทรมาหาบ่อยๆ นะหนูมะลิ"พี่ฉันพูดไปน้ำตาก็ไหล
"ค่ะพี่จัน มะลิรักพี่จันนะ"แล้วฉันก็หันไปกอดอิงฟ้าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน
"โชคดีนะแกไปเรียนที่นู่นแล้วก็อย่าลืมฉันละเข้าใจไหม หนูมะลิฮึกฮื่อ" เพียงฟ้าถึงกับร้องไห้ออกมาเลย
"ฮึกฮื่อ แกอย่างร้องสิอิงฟ้าฉันร้องตามแกเลยนะฉันรักแก แล้วฉันจะโทรหาแกบ่อยๆอยู่ที่นี้ก็ตั้งใจเรียนนะแก"แล้วเราสองคนก็กอดกันร้องไห้ จนประกาศเรียกคนที่จะบินไปอเมริกาอบเวลาที่ฉันจองไว้ให้ขึ้นเครื่องได้แล้ว
"หนูมะลิไปก่อนนะคะทุกคนฮึก"ฉันสะอื้นแล้วยิ้มให้ทุกคนก่อนจะก้าวเดินหันหลังไปขึ้นเครื่อง ไปทำตามความฝันของเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันและหวังว่าการเดินทางไปในที่ไกลแสนไกลครั้งนี้จะนำพาความสำเร็จและความภาคภูมิใจมาให้กับคนที่เธอรัก
คอมเม้นติชมและให้กำลังใจมาได้เลยนะคะ
