บท
ตั้งค่า

ตอนที่9 แม่บ้านจำเป็น

ตอนที่9 แม่บ้านจำเป็น

มื้อเช้าง่ายๆ คือไข่ตุ๋นนมสดกับข้าวเปล่าร้อนๆ เมนูที่เรย์ชอบทานประจำ อุ่นร้อนพร้อมทานถูกยกมาวางบนโต๊ะกินข้าว

ระหว่างรอชายหนุ่มอุ่นกับข้าวอยู่นั้นวารินที่แอบเสียมารยาทเดินสำรวจบริเวณรอบๆ ห้อง ภาพถ่ายครอบครัววัยเด็กที่มีพ่อแม่ลูก 4 คนยิ้มกว้างให้กับกล้องเป็นภาพที่แสดงออกถึงความอบอุ่นภายในครอบครัว

“ตอนเด็กยิ้มเก่งขนาดนี้ทำไมโตมาถึงชอบทำหน้านิ่งตลอดเวลานะ” วารินแอบนึกเสียดายรอยยิ้มน่ารักสดใสนี้ ถ้าตอนนี้ชายหนุ่มยิ้มสดใสแบบตอนเด็กคงจะอบอุ่นและดูมีเสน่ห์มากทีเดียว

“เป็นไงตอนเด็กฉันหล่อไหม” เสียงทุ้มดังขึ้นจากข้างหลัง

“อุ๊ย!” หญิงสาวสะดุ้งตกใจรีบวางกรอบรูปกลับลงที่เดิม

“ตอนเด็กก็น่ารักนะ ทำไมโตมาถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้” วารินแกล้งว่าให้ขณะที่เดินเลี่ยงไปดูของในตู้โชว์ถัดไป

“นายชอบของเล่นพวกนี้ด้วยเหรอ” ตุ๊กตาหมีแบร์บริคหลายสิบตัววางเรียงรายอยู่ในตู้โชว์นิรภัย

“อือ..มันน่ารักดี”

“เดินสำรวจพอหรือยังครับคุณวาริน จะเข้าไปสำรวจในห้องนอนไหมเดี๋ยวฉันพาไป” แขนแกร่งท้าวกับตู้โชว์หันหน้าเข้าหาหญิงสาวเอ่ยถามเสียงราบเรียบ

“ฉันหิวข้าวไส้จะขาดอยู่แล้วนายอุ่นกับข้าวเสร็จหรือยัง” วารินเฉไฉเอาตัวรอดไปเรื่องอื่นรีบหันหลังเดินออกจากตรงนั้น แล้วตรงดิ่งเข้าห้องครัวทันที

“ฮึ..ยัยบื้อเอ๊ย” รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า เรย์ไม่รู้ตัวว่าวันนี้เขายิ้มไปเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว

“อาหารในตู้มีแค่นี้กินรองท้องไปก่อน ไว้ตอนเที่ยงจะสั่งอาหารมาให้”

“ไม่ต้องหรอกฉันกินอิ่มก็จะกลับแล้ว”

“ทำความสะอาดห้องให้หน่อย ผ้าปูที่นอนก็ไม่ได้ซักมาสองอาทิตย์แล้ว” เรย์พูดขึ้นหลังจากที่นั่งคิดอยู่นานว่าจะรั้งหญิงสาวให้อยู่กับเขาได้นานที่สุดด้วยวิธีไหน

“ห้องนายก็สะอาดดีนี่ ส่วนพวกเสื้อผ้านายก็ส่งร้านซักรีดไม่ใช่เหรอ” ที่เธอเดินสำรวจห้องชายหนุ่มก่อนหน้ายังแอบชมอยู่เลยว่าห้องสะอาดเป็นระเบียบมากฝุ่นแค่เม็ดเดียวก็ไม่มีให้เห็น ส่วนเสื้อผ้าคงหนีไม่พ้นส่งร้านซักรีด

“ช่วงนี้ฉันเริ่มจามสงสัยฝุ่นเริ่มเยอะ ฉันแพ้ฝุ่นน่ะแค่นิดหน่อยก็จะจาม” เรย์บอกอาการป่วยของตัวเองซึ่งเป็นโรคฉุกเฉินที่วินิจฉัยเจอเมื่อสักครู่โดยที่ไม่ต้องให้แพทย์ตรวจหรือวิเคราะห์หาสาเหตุให้ยุ่งยาก

“นายก็โทรเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดสิ”

“แม่บ้านคนที่มาทำประจำไม่สบาย ฉันไม่อยากเรียกใช้คนอื่น เธอก็เห็นว่าห้องฉันมีแต่ของราคาแพงและหายากถ้าเกิดหายขึ้นมาจะทำยังไง” เหตุผลร้อยแปดถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างจนในที่สุดวารินก็ต้องยอม

“ได้ แต่ฉันคิดค่าจ้างนะ”

ติ๊ง

สิ้นคำตอบเสียงแจ้งเตือนข้อความโทรศัพท์มือถือวารินดังขึ้น

“นายโอนเงินมาให้ฉันทำไมตั้งห้าพัน” วารินตาโตกับยอดเงินที่เด้งเข้ามาในบัญชี

“ค่าจ้างทำงานบ้านไง กวาดบ้านถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ปกติฉันก็จ้างแม่บ้านราคานี้อยู่แล้ว” เรย์ตอบกลับด้วยท่าทีสบายใจ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับจำนวนเงินที่จ่ายไป

“คนรวยเขาใช้เงินแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องจริงๆ” ความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาแว็บเข้ามาในความรู้สึก ใบหน้าเรียวเล็กดูเศร้าลงจากก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด

“สักวันเธอจะประสบความสำเร็จในชีวิต เธอจะมีชีวิตในแบบที่เธอต้องการ คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ และถ้าเธออยากรวยเร็วก็มาเป็นแฟนฉันไหมล่ะ รับรองฉันจะเลี้ยงดูเธอให้สุขสบาย” ประโยคแรกบอกออกไปน้ำเสียงจริงจัง ประโยคหลังใช้น้ำเสียงทะเล้นเรียกรอยยิ้มจากหญิงสาว

“ฉันไม่คิดสั้นมาเป็นแฟนนายหรอก เป็นเพื่อนกันแบบนี้แหละดีแล้ว” วารินพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับชายหนุ่ม

“ตามใจ” เรย์ไม่เซ้าซี้หรือเร่งรัดวารินมากเกินไปเพราะพวกเขาพึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน การที่จะพัฒนาความสัมพันธ์อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

หลังที่ทั้งสองทานข้าวเสร็จก็นั่งเล่นดูทีวีกันสักพักรออาหารย่อย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงวารินก็เริ่มทำงานที่ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินเธอมาล่วงหน้าก่อนแล้ว

“ห้องนอนนายห้องไหน” วารินหันไปถามเรย์ที่ตอนนี้กำลังจดจ่ออยู่กับกราฟตรงหน้า

“ห้องนั้น ผ้าปูที่นอนอันใหม่อยู่ในตู้ซ้ายสุด ส่วนเครื่องซักผ้ากับอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ด้านหลัง” นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่ห้องนอนฝั่งซ้ายบนชั้นสอง

“เวลาทำงานดูจริงจังและดูเป็นผู้ใหญ่มาก” วารินแอบชื่นชมชายหนุ่มในใจ

กลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกันกับชายหนุ่ม ที่นอนที่ถูกเก็บเป็นระเบียบราวกับว่าเมื่อคืนไม่ได้ผ่านการนอนมา แม้แต่รอยยับของผ้าปูที่นอนยังไม่มีให้เห็น วารินเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก็ตกใจเพราะเสื้อผ้าถูกแขวนแยกสีกันอย่างเป็นระเบียบ ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้แล้วก็ถูกแยกตะกร้ากันอย่างชัดเจน

“สมกับเป็นนายจริงๆ”

วารินเริ่มจากเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มไปซักทิ้งไว้ ระหว่างนั้นก็จัดการดูดฝุ่นเริ่มจากห้องนอนชั้นบน บันได แล้วมาห้องรับแขกที่เรย์นั่งทำงานอยู่ ดีที่เครื่องดูดฝุ่นราคาแพงไม่เสียงดังเหมือนของเธอที่ใช้อยู่ที่ห้อง ทุกการเคลื่อนไหวของวารินอยู่ในสายตาของเรย์ตลอด และโชคดีที่วารินเคยไปทำความสะอาดบ้านให้คนรวยๆ ครั้งสองครั้งจึงรู้วิธีทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงที่วางอยู่ในห้องชายหนุ่ม

เวลาผ่านไปครึ่งวันงานบ้านทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงรีดผ้างานชิ้นสุดท้ายของวันนี้

“รินมากินข้าว” อาหารเหนือหลากหลายเมนูถูกจัดใส่จานวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะหน้าตาน่ารับประทาน

“ฉันขอรีดผ้าให้เสร็จก่อน” วารินตะโกนตอบกลับไป

“จะรีบไปไหนกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปทำ วันนี้ยังมีเวลาเหลืออีกตั้ง 12 ชั่วโมง” เรย์เดินออกมาจากในครัวส่งสายตาดุมองหน้าหญิงสาว

“เวลานายคนเดียวสิ ฉันต้องรีบกลับไปทำรายงานอีก” วารินตอบกลับขณะที่มือยังแยกผ้าในราวเตรียมรีดไม่หยุด

“รายงานฉันจัดการเอง มากินข้าวเดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด”

“อะไรของนาย”

บนโต๊ะอาหาร

ครืด ~ ครืด ~ ครืด ~

เทมป์ หน้าจอโทรศัพท์โชว์หราชื่อคนโทรเข้ามา เรย์ปล่อยให้สั่นอยู่แบบนั้นจนสายตัดไป

ครืด ~ ครืด ~ ครืด ~

เทมป์โทรเข้ามาอีกครั้งและเรย์ก็ปล่อยให้สายตัดไปเช่นเดิม

ครืด ~ ครืด ~ ครืด ~

“เทมป์อาจจะมีธุระก็ได้นายไม่รับสายหน่อยเหรอ” วารินบอกออกไปเพราะเป็นสายที่สามแล้วที่โทรเข้ามาติดๆ กันและชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอนั้นคือเทมป์

“มันไม่มีธุระอะไรหรอก ถ้าไม่ชวนเล่นเกมก็ชวนออกไปเล่นบาส” เรย์รู้นิสัยเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กเป็นอย่างดี

“แต่เทมป์โทรมาติดๆ กันเลยนะ ฉันว่าเขาน่าจะมีเรื่องด่วน” วารินวิเคราะห์จากพฤติกรรมที่เห็น ถ้าไม่มีเรื่องด่วนคงไม่โทรติดๆ กันแบบนี้หรอก

ครืด ~ ครืด ~ ครืด ~

“ไอ้เรย์มึงทำอะไรอยู่เข้ามาช่วยกูหน่อย กูแบกไอ้โซนจนจะตายห่าอยู่แล้ว แม่งเล่นไม่ได้เรื่องเลย” เสียงของเทมป์ดังขึ้นทันทีที่เรย์กดรับสายและเปิดสปีกเกอร์โฟน

“กูไม่ว่าง แค่นี้แหละ” เรย์ตอบกลับและกดตัดสายทันที

“ทีนี้เชื่อฉันหรือยัง” สายตาคมมองหน้าหญิงสาว วารินดูหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย

“ดูพวกนายรู้ใจกันดีนะ”

“ฉันกับไอ้เทมป์ แล้วก็ไอ้โซนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก” คำตอบสั้นๆ แต่สามารถอธิบายความสัมพันธ์ได้ชัดเจน วารินพยักหน้าว่าเข้าใจ

“รายงานวิชาอะไรที่ยังทำไม่เสร็จ”

“วิชาสารสนเทศและเทคโนโลยีเพื่อการค้นคว้า” เป็นวิชาที่วารินไม่ค่อยถนัดจึงใช้เวลารวบรวมข้อมูลค่อนข้างนาน

“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จวารินก็กลับมารีดผ้าที่ทำค้างไว้ ส่วนเรย์ก็ยังนั่งอยู่หน้าจอ Laptop เหมือนเดิม ต่างคนต่างทำงานของตัวเองไปเงียบๆ วารินรีดเสื้อผ้าเสร็จก็เอาไปเก็บเข้าตู้อย่างเรียบร้อย ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายจึงเอนหลังผ่อนคลายก่อนจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

“ยัยบื้อเอ๊ย ง่วงก็ไม่นอนดีๆ ใครใช้ให้มานั่งหลับแบบนี้ตื่นมามีหวังบ่นปวดหลัง” เรย์จัดท่านอนให้หญิงสาวใหม่ในท่าสบายขึ้น ผ้าห่มผืนบางถูกคลุมเพื่อลดความเย็นจากอุณหภูมิในห้อง

เรย์นั่งทำงานต่อจนเกือบเย็น วารินก็ยังไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัวตื่น ดวงตากลมโตที่ปิดสนิทภายใต้แพขนตางอน จมูกโด่งรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกมันอมชมพูเล็กน้อย

“ถ้าฉันลักหลับเธอจะรู้ตัวไหมเนี่ยยัยบื้อ นอนขี้เซาขนาดนี้” นิ้วเรียวยาวยื่นไปเขี่ยปอยผมที่หลุดลงมาปกคลุมใบหน้าออกอย่างเบามือ ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้าเนียนทำให้คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวตื่น วารินแกล้งหลับต่อเพราะไม่กล้าลืมตาขึ้นสู้หน้ากับชายหนุ่มในสถานการณ์แบบนี้

“ข้าวที่กินเข้าไปมันไปอยู่ที่แก้มป่องๆ นี่หมดใช่ไหม” นิ้วเรียวยาวลูบไล้แก้มเนียนอย่างหลงใหล วารินเริ่มเกร็งจนหายใจแทบไม่ออก

กริ๊ง ~

เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นช่วยชีวิตหญิงสาว

“ใครวะ” เสียงฮึดฮัดบ่นไปขณะเดินไปยังประตู

“เซอร์ไพรส์..”

“พวกมึงมาทำเชี่ยอะไรที่นี่”

“ไอ้เรย์แม่งไม่ช่วยกูเลย กูเกือบจะตกแรงค์เลยไอ้ห่า มึงต้องช่วยกูเก็บคะแนนคืนมานะโว้ย” เทมป์ไม่สนใจตอบคำถาม เดินดุ่มๆ เข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ

“เชี่ย! ทำไมรินมานอนอยู่ห้องมึง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel