บท
ตั้งค่า

ตอนที่7 แผนพัง

ตอนที่7 แผนพัง

“แวะซื้อขนมให้ไอ้เทมป์ก่อนแป๊บหนึ่ง เธอจะเอาอะไรหรือเปล่า”

“ไม่ ฉันอิ่มแล้ว” วารินปฏิเสธเพราะข้าวต้มที่ทานเข้าไปเมื่อกี้ยังไม่ย่อย เธอยังรู้สึกอิ่ม

มหาวิทยาลัย

“กูสั่งแค่ถุงเดียวมึงจะซื้อมาทำไมตั้งหลายถุง ซื้อมาประชดกูหรือไง ฝากซื้อแค่นี้ทำมาประชด” เมื่อเห็นเรย์เดินมาพร้อมถุงขนมในมือ เทมป์ที่หิวจนตาลายก็ว่าประชด และถ้ามีสติหน่อยก็จะเห็นว่าเรย์และวารินเดินมาด้วยกัน

“มึงแดกเป็นคนเดียวหรือไง” ถุงขนมสี่ห้าถุงวางลงตรงหน้าเทมป์พร้อมกับน้ำเต้าหู้อีกสี่แก้ว

“รินกินสิขนมร้านนี้อร่อยมากนะ น้ำเต้าหู้ก็หอมอร่อยมากด้วย” ไม่รอช้าเทมป์หยิบขนมตรงหน้ามาจัดการอย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่เป็นไร คงอร่อยจริงนั่นแหละคนต่อแถวซื้อยาวมากเลย”

“ชอบขนาดนี้ไม่ย้ายบ้านไปอยู่แถวนั้นเลยล่ะ จะได้ไม่เดือดร้อนกูต้องไปซื้อให้ทุกวัน” เรย์ว่ากลับหลังจากที่นั่งดูเทมป์กินสีหน้าจริงจัง

“ทางผ่านมึงมามหาลัยอยู่แล้วจะบ่นทำไม แต่เอ๊ะ! รินเห็นได้ไงว่าร้านคนเยอะเมื่อเช้านั่งรถอะไรมา” เทมป์ที่ขนมตกถึงท้องบ้างแล้วและสมองเริ่มสั่งการแล้ว

“เอ่อ..เรานั่งแท็กซี่มาน่ะ” วารินตอบกลับหน้าเลิ่กลั่ก

“ฮึ! แท็กซี่ ใครแม่งเอารถคันเป็นสิบล้านไปขับแท็กซี่วะ” เรย์พึมพำคนเดียวเบา ๆ

“มึงบ่นอะไรของมึงไอ้เรย์” เทมป์หันไปถาม

“เปล่า เมื่อเช้ากูดูข่าวมีคนเอารถคันเป็นสิบล้านไปขับแท็กซี่ แถมพาผู้โดยสารไปแวะเลี้ยงข้าวอีกต่างหาก แล้วผู้โดยสารคนนั้นยังไม่คิดที่จะขอบคุณคนขับแท็กซี่ด้วยนะ” สายตาคมมองหน้าหญิงสาวขณะพูดกับเทมป์ จนวารินต้องหยิบแก้วน้ำเต้าหู้ขึ้นมาดื่ม

“แม่งมีคนโง่แบบนั้นด้วยเหรอ สมองมันต้องมีปัญหาแน่ๆ ถึงทำเรื่องแบบนั้นได้ มึงเห็นหน้ามันไหมเหมือนโรคจิตหรือเปล่าวะ” เทมป์เอ่ยลอยๆ พลางยกน้ำเต้าหู้ขึ้นดื่มอย่างมีความสุข

“คริ คริ” วารินหลุดขำออกมา สายตาคมมองเธอตาขวาง ปากบางจำต้องหุบลงเมื่อโดนดุด้วยสายตาของชายหนุ่ม

“ไฮ..สวัสดีทุกคน” เสียงของไนร่าดังมาก่อนเจ้าตัว

“สวัสดีทุกคน แม่งวันนี้รถติดฉิบหาย แล้วนี่ใครซื้อขนมมาเยอะแยะวะ” โซนเดินหน้ามุ่ยอารมณ์เสียมาแต่ไกลที่ต้องเสียเวลาอยู่บนถนนเกือบสองชั่วโมงเพราะมีอุบัติเหตุรถจึงติดยาวกว่าทุกวัน

“ไอ้เรย์ซื้อมา น้ำเต้าหู้นั้นด้วยช่วยกันแดกให้หมด” เทมป์หันไปบอกโซน

“ไอ้เรย์มึงอารมณ์ดีไปซื้อขนมให้มันด้วยเหรอวะ แล้ววันนี้เป็นห่าอะไรตื่นเช้าได้” โซนแปลกใจราวกับเห็นหิมะตกเมืองไทย

“เออ..กูก็ว่าแปลกๆ มันยังมีเวลาดูข่าวตอนเช้าด้วยนะ อะไรนะ..คนบ้าเอารถคันเป็นสิบล้านมาขับแท็กซี่แถมยังพาผู้โดยสารไปเลี้ยงข้าวด้วยอีกใช่ไหม” เทมป์ยังติดใจไม่หายกับเรื่องที่เรย์สร้างขึ้นมา

“เฮ้ย! มันมีคนบ้าแบบนั้นด้วยเหรอวะ” โซนพูดขึ้นเสียงดัง เรย์ที่นั่งฟังอยู่ถึงกับกัดฟันกรอด ส่วนวารินนั่งกลั้นขำฟังคำวิจารณ์ของเพื่อนๆ ที่แสดงความคิดเห็นกันแบบออกรสออกชาติ

“ใช่ แถมมันยังว่าผู้โดยสารคนนั้นด้วยนะว่าไม่ขอบคุณมัน มันบ้าหรือเปล่าวะเขาไม่แจ้งความจับมันก็ดีเท่าไหร่แล้วพาเขาออกนอกเส้นทาง”

“มัวแต่พูดกันอยู่นั่นแหละ รีบแดกให้เสร็จจะได้เข้าเรียน” เรย์ตะคอกเสียงใส่ด้วยความโมโหที่ตัวเองกลายเป็นคนบ้าคนโรคจิตให้เพื่อนวิจารณ์กันสนุกปาก

“เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงมึงจะรีบไปทำห่าอะไร เสือกขยันอะไรขึ้นมาอีก” เทมป์หันไปว่าให้

“ก็รีบแดกให้เสร็จอย่ามัวแต่พูด มารยาทไม่มี ขนมเต็มปากแม่งยังแหกปากพูดอยู่นั่นแหละ” เรย์ว่าเพื่อนออกไปอีกครั้ง สีหน้าตอนนี้แสดงออกว่าหงุดหงิดมากทีเดียว วารินเห็นจึงช่วยพูดออกไป

“คนขับแท็กซี่เขาคงคิดว่าคนทั่วไปไม่มีโอกาสนั่งรถแพงๆ แบบนั้นจึงเอามาขับให้ได้นั่งกัน ความฝันหลายคนก็อยากมีรถแพงๆ นั่งกันทั้งนั้นฉันว่าเขาเป็นคนใจดีมากเลยนะ” วารินนั่งคิดอยู่นานกว่าจะพูดขึ้น

“ฉันก็ว่างั้นแหละ เขาเป็นคนรวยที่จิตใจดีมาก ขนาดพวกเราที่บ้านมีรถตั้งหลายคันบางคันแทบไม่ได้ใช้งานเลยด้วยซ้ำยังไม่เอาออกมาทำประโยชน์เพื่อคนอื่นเลย สังคมต้องการคนแบบนั้นนะมีแล้วรู้จักแบ่งปัน” ไนร่าพูดเสริมคำพูดของวาริน

ดวงตากลมโตสังเกตเห็นสีหน้าของเรย์ดีขึ้น จากก่อนหน้าที่ดูตึงๆ ตอนนี้ดูอารมณ์ดีขึ้นมานิดหนึ่ง

“ก็อาจจะเป็นอย่างที่พวกเธอพูด” เทมป์เปลี่ยนมาเห็นด้วยกับสิ่งที่สองสาวพูด

“เออ..ถ้าคิดอีกด้านก็อาจจะเป็นแบบนั้น” โซนเองก็เห็นด้วย

วันทั้งวันเรย์ไม่คุยกับวารินสักคำบ่งบอกว่าชายหนุ่มนั้นกำลังโกรธหรือไม่พอใจเธอเรื่องเมื่อเช้า

ห้าทุ่ม

“เราก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องนี้นี่ เขาเป็นคนเริ่มเองทั้งหมดแล้วจะพาลโกรธเราทำไม” วารินพูดกับหน้าจอโทรศัพท์ที่พิมพ์ข้อความขอโทษเรย์ค้างไว้ แต่ชั่งใจว่าจะส่งไปดีหรือไม่

“แต่เราเองก็เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ที่บอกว่าเขาเป็นคนขับแท็กซี่ทั้งที่เขามีน้ำใจมารับเรา” วารินถามตอบตัวเองอยู่นานก่อนจะตัดสินใจกดส่งข้อความไปขอโทษเรย์

ติ๊ง!

“นึกว่าจะให้ฉันรอถึงเที่ยงคืน ยัยบื้อเอ๊ย!” รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นมุมปาก เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนขึ้นก็โยนโทรศัพท์ทิ้งแทนที่จะเปิดอ่าน ก่อนจะล้มตัวลงนอนราวกับว่าข้อความนั้นไม่ได้ส่งมาจากคนที่รอ

“สงสัยจะโกรธจริงๆ เมื่อกี้ยังคุยอยู่ในไลน์กลุ่มอยู่เลย” วารินนั่งจ้องหน้าจอแชตอยู่นาน ข้อความที่ส่งไปยังไม่ขึ้นสถานะว่าอีกฝ่ายเปิดอ่านทั้งๆ ที่ชายหนุ่มยังอยู่หน้าจอแชตด้วยตอนนี้

“เชี่ย! ไอ้เรย์มึงนัดสาวมาห้องเหรอวะ ดึกดื่นป่านนี้ยังจะหิวอีก พรุ่งนี้มึงมีเรียนนะเว้ย” เทมป์โพล่งขึ้นเสียงดัง ทุกคนในไลน์กลุ่มรีบจ้องไปที่เรย์ แต่ภาพก็ตัดไปเป็นเพดานห้อง

“แม่งมือไวฉิบหาย แน่จริงมึงปรับกล้องลงสิวะ” โซนออกอาการเสียดายที่ไม่ได้เห็นคู่ซ้อมของเพื่อนคืนนี้

“ไม่เสือกเรื่องส่วนตัว” เรย์ว่าสวนกลับไป

“ฉันขอตัวออกจากแชตกลุ่มก่อนนะ ฉันง่วงนอนแล้ว” วารินบอกเพื่อนออกไปเสียงอ่อย ก่อนจะปิดกล้องและกดออกจากแชตไป

ทางด้านเรย์

“ยัยบื้อเข้าใจผิดจนได้ เธอจะเดินมาห้องฉันทำไม ดึกๆ ดื่นๆ เดินเข้าห้องคนอื่นไม่มีมารยาท” เรย์หันไปว่าให้หญิงสาวที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงไม่มีท่าทีสะทกสะท้านกับการกระทำของตัวเอง

“แค่เดินเข้ามานอนเล่นมีปัญหาอะไรหนักหนา คนมันนอนไม่หลับยังปรับเวลาไม่ได้..เข้าใจไหม” เสียงแหลมของหญิงสาวที่พึ่งเดินเข้ามา

“นอนไม่หลับจะทำอะไรก็ไปทำที่ห้องเธอโน่น มายุ่งวุ่นวายอะไรห้องฉัน สงสัยฉันต้องเปลี่ยนรหัสประตูหน้าห้องใหม่แล้วล่ะ” เสียงเข้มดุว่าให้หญิงสาวที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง

“แค่เดินเข้ามาเล่นฉันผิดอะไรหนักหนา” คนมีความผิดยังไม่สำนึก ยังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง

“ยังไม่รีบออกไปอีก หรือรอให้ฉันจับเธอโยนออกไป” ครั้งนี้เรย์เสียงดังขึ้นกว่าเดิม

“ฉันเป็นพี่แกนะ” คนบนเตียงแหวกลับเสียงดัง ลุกจากเตียงเดินกระทืบเท้าออกจากห้องไป

“เหยื่อกำลังติดเบ็ด แม่งทำแผนกูพังหมด” เรย์หัวเสียพยายามคิดหาทางออกกับเรื่องนี้

“หรือต้องส่งข้อความไปอธิบายความจริงให้ยัยบื้อนั่นฟังวะ แล้วจะไปอธิบายในฐานะอะไร แฟนก็ไม่ใช่ โอ๊ย! ปวดหัวโว้ย!” โทรศัพท์แบรนด์ดังถูกโยนทิ้งราวกับของไร้ประโยชน์

เช้าวันต่อมาเรย์พยายามเข้าหาวารินแต่อีกฝ่ายก็เลี่ยงหนีตลอด จึงตัดสินใจพิมพ์ข้อความส่งไปในไลน์

“เย็นนี้หลังเลิกเรียนรอฉันที่หน้ามหาลัย ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

“ฉันมีธุระ มีอะไรคุยทางไลน์นี้เลย” วารินส่งข้อความตอบกลับไป

“ฉันต้องการคุยต่อหน้า”

“ขอโทษด้วยฉันไม่สะดวก” วารินตอบกลับข้อความสุดท้ายก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า ตั้งใจดูสไลด์ที่อาจารย์สอนทั้งที่ตอนนี้ไม่มีสมาธิสักนิด ที่อาจารย์อธิบายมาทั้งหมดตลอดสองชั่วโมงไม่มีอะไรเข้ามาในหัว แต่ยังดีที่เทคโนโลยีสมัยนี้ช่วยทุ่นแรงไว้เยอะ สามารถบันทึกวิดีโอแล้วกลับมาดูภายหลังได้

“รายงานที่อาจารย์สั่งขอให้นักศึกษาทุกคนส่งภายในวันศุกร์นี้ก่อนเที่ยงคืนนะครับ” สั่งงานเสร็จก็เก็บของเดินออกไป มีเพียงเสียงโอดครวญของเหล่านักศึกษาที่ต้องอดหลับอดนอนทำรายงานให้เสร็จทันเวลาที่กำหนด

“ฉันอยากจะบ้าตาย คนเราจะเก่งจะประสบความสำเร็จเพราะทำรายงานส่งอาจารย์นี่เหรอวะ วิชาไหนก็สั่งแต่ให้ทำรายงาน ไม่เคยถามเลยว่ากูทำทันไหม” ไนร่าบ่นยาวเหยียด เงินค่าขนมเดือนนี้ของเธอก็ร่อยหรอลงทุกวันเพราะต้องแบ่งเงินไปจ้างทำรายงาน

“เธอจะบ่นทำไมเธอไม่ได้ทำเองอยู่แล้วนี่ ฉันนี่แทบจะเป็นซอมบี้ต้องทำเองทั้งหมด” วารินฟุบหน้าแนบกับโต๊ะราวคนหมดแรง สายตาดูสิ้นหวัง

“ไอ้เรย์มึงใช้บริการใครให้ทำรายงานให้วะ คราวก่อนกูจำได้ว่าอาจารย์ชมว่ารายงานที่มึงทำมาเนื้อหาละเอียดครบถ้วนดีมาก ส่งคอนแทรคให้กูหน่อยสิ” เทมป์หันไปถามเรย์ที่เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์สีหน้าเคร่งเครียดตั้งแต่ต้นชั่วโมงจนอาจารย์สอนเสร็จ

“ไอ้เรย์ที่กูถามมึงได้ยินไหม ส่งคอนแทรคเขามาให้กูหน่อย”

“กูมีสิทธิ์ใช้บริการคนเดียว คนอื่นอย่ายุ่ง” เสียงเรียบตอบกลับ คว้ากระเป๋าสะพายเดินออกจากห้องไปดื้อ ๆ

“แม่งเป็นห่าอะไร แค่คนทำรายงานก็หวง”

“มันคงเก็บไว้ใช้บริการคนเดียวแหละมั้ง กลัวว่าคนอื่นมาใช้บริการแล้วเขาจะทำงานให้มันไม่ทัน” โซนบอกเพื่อนออกไปตามที่คิด

ติ๊ง!

“ทำรายงานให้ฉันด้วย” ข้อความแจ้งเตือนทางไลน์พร้อมกับข้อความแจ้งเตือนจากธนาคารว่ามียอดเงินเข้ามา 3 พัน

“เฮ้อ! นายไม่เคยคิดที่จะทำเองเลยใช่ไหม” วารินทำได้แค่ถอนหายใจ ใจหนึ่งเธอก็ดีใจที่สามารถหาเงินได้เยอะแต่อีกใจก็ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel