เกือบโดนจับเสียเอง
ร้อยดาววิ่งเข้าไปตามหาสมุดไดอารี่ของตนเองอีกครั้ง เธอวิ่งกลับไปยังจุดที่เธอคิดว่าน่าจะทำสมุดร่วงหล่นตอนที่เธอเดินชนกับกลุ่มของมาคินแน่นอน เธอวิ่งไปยังจุดที่เดินชนเธอเดินหาตามพื้นไปทั่วเผื่อมีคนเตะไปไหนต่อไหน เธอเดินถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่าเจอสมุดไดอารี่ของเธอไหม หน้าสมุดของเธอจะเป็นรูปการ์ตูนที่คล้าย ๆ เธอ จะมีผ้าผูกผมบนหัวเหมือนที่เธอชอบคาดเอาไว้ทุกวันเวลาออกมาข้างนอก
"พี่ค่ะ พี่เห็นสมุดบันทึกที่หน้าปกเป็นรูปผู้หญิง ผมยาว คาดโบว์แบบนี้ไหมคะ " เธอเอ่ยถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แทบจะทุกคน แต่ไม่มีใครสักคนที่เจอสมุดเล่มนั้นเลยสักคน
เธอแหงนหน้าขึ้นไปมองเจอกล้องวงจรปิดที่กำลังหมุนวนไปมา เธอเลยคิดว่าจะต้องมีคนเก็บไปแน่นอน เธอเลยอยากจะขอเข้าไปในห้องควบคุม เธออยากขอดูกล้องวงจรปิดตรงมุมดังกล่าว เธอเลยเดินไปขอติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดตรงประชาสัมพันธ์
"คุณค่ะ เอ่อคือว่าถ้าฉันอยากขอดูกล้องวงจรปิดตรงมุมนั้นต้องทำยังไงคะ" เธอเอ่ยถามประชาสัมพันธ์
"กล้องวงจรปิด ต้องเป็นคนสำคัญของที่นี่ หรือต้องมีเหตุจำเป็นค่ะ ไม่ทราบว่าน้องจะขอดูกล้องจุดประสงค์อะไรคะ" เจ้าหน้าที่เห็นว่าเธอยังเป็นนักศึกษา คิดว่าเธอจะเป็นมิจฉาชีพ
"หนูทำสมุดเขียนเพลงหล่นตรงบริเวณกล้องตรงนั้นนะคะ เลยอยากดูกล้องตรงนั้นค่ะ ว่าใครเก็บสมุดของหนูไปไหม"
"สมุดหรอค่ะ"
"ค่ะสมุดบันทึก หนูเป็นนักแต่งเพลง ในนั้นมันมีเพลงของหนูที่จะเอาให้พี่โปเต้ค่ะ" ร้อยดาวเอ่ยถึงงานของตนเอง
"โอ๊ยคุณน้อง ใครที่เดินผ่านไปผ่านมามีเยอะแยะ ถ้างั้นน้องต้องไปแจ้งความก่อนนะคะ" เจ้าหน้าที่บอกเธอในการดูกล้องวงจรปิด
"ต้องแจ้งความเลยหรอค่ะพี่คะหนูแค่ขอดูกล้องอยากดูของที่มันหล่นหาย"
"ทุกวันมีมาแบบน้องขอดูกล้องวงจรปิด ตามหานั่นนี่เยอะแยะ เต็มไปหมด แล้วน้องเนี่ยะนะคะเป็นนักเขียนเพลง" เขามองเธอแบบเหยียด ๆ
"นี่พี่ไม่เชื่อหรอค่ะ งานเพลง ของนักร้องดัง ๆ ผลงานของหนู พี่ลองค้นหาดูบ้างก็ได้นะคะ "
"โอ๊ยน้องพวกพี่ต้องทำงานไม่ว่างมาเล่นปาหี่หรอกนะคะ ร.ป.ภ. มาทางนี้หน่อย " เจ้าหน้าที่เรียกร.ป.ภ. มาเพื่อพาเธอออกไปจากตรงนี้
"ไม่ต้องเรียกก็ได้ค่ะ" เธอเดินออกมาด้วยความรู้สึกโดนเขาดูถูก
ร้อยดาวเลยเดินออกมาจากตรงนั้น ก้าวพ้นประตูออกมาเรียกรถเพื่อที่จะกลับบ้าน เธอจำเนื้อเพลงไม่ได้ด้วย เธอก้าวขึ้นรถโดยสารด้วยความรู้สึกเหม่อลอย หยอดเหรียญจ่ายเงินค่าโดยสาร และไปนั่งริมหน้าต่าง นั่งครุ่นคิดว่าเธอเดินชนกับนายคนนั้น เขาต้องเป็นคนเก็บสมุดโน๊ตของเธอแน่นอน
"พรุ่งนี้พี่โปเต้นัดนายนั่นไปคุยที่ค่ายเพลง งั้นเราโทรหาพี่โปเต้ก่อน"
ร้อยดาวโทรหาโปเต้ รอสายสักพักพี่เขาก็รับสายของเธอ และส่งเสียงมาตามสาย
"มีอะไรอีกค่ะ แม่สาวน้อยร้อยเรื่อง" โปเต้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแกมหยอกน้องแบบนี้เป็นประจำ
"พรุ่งนี้พี่จะให้หนูเข้าไปที่ค่ายเพลงกี่โมงค่ะ"
"สักหกโมงเย็นได้ไหม ร้อยดาวเย็นไปไหม"
" ไม่ค่ะพี่ พรุ่งนี้เข้าไปนะคะ " ร้อยดาวบอกเขาไปรีบวางสาย เพราะรถที่เธอนั่งมาจอดหน้าปากซอยบ้านแล้ว เธอก็รีบมากดออดเพื่อลงจากรถ และก็ต่อรถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะเข้าบ้าน
ทางด้านมาคิน ที่เพื่อนๆ พากันขับรถมาจอดที่หน้าประตูบ้านของมาคิน บ้านพักข้าราชการครูที่มีรถกระบะสี่ประตูจอดอยู่ในบ้าน เป็นรถคุณพ่อของมาคินที่กลับมาถึงบ้านก่อนหน้านั้นแล้ว ทำเอามาคินเหงื่อตก
"พ่อแกคงยังไม่ทันได้ดูข่าวหรอกมั้ง" เจเจ พูดเพื่อให้เพื่อนสบายใจ
"แต่ถ้าพ่อแกรู้แล้วล่ะนักข่าวแทบจะทุกช่องเลยนะเว้ย" เอินนี่ที่ยิ่งพูดมาคินก็ยิ่งหวั่น ๆ
"มึงนี่ก็พูดตัดกำลังเพื่อน แทนที่มันจะกล้าเข้าบ้านเอาไงวะ หรือจะไปนอนกับพวกเรา" เจเจชวนมาคินไปนอนด้วยกันก่อน
"เออ ก็ดีนะ นี่กูยังไม่พร้อมจะเจอหน้าพ่อกูเลยกลัวจนขี้หดตดหายแล้ว" มาคินพูดออกมาน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ สักพักเสียงประตูรั้วก็เปิดออก แม่ที่เดินออกมาทิ้งขยะพอดี เห็นรถของเจเจที่จอดอยู่ กำลังจะเดินเข้าไปหาที่รถ เจเจเองก็เลยถามเพื่อนอีกครั้ง
"มึงจะเอายังไงไอ้คิน แม่มึงเดินมาทางรถกูแล้ว" เจเจเองก็หันมาถามเพื่อนอีกครั้งถ้ามาคินไม่ลง เจเจก็จะขับออกไปเลย
"กูนอนที่บ้านนี่หละ พรุ่งนี้เข้าไปที่ค่ายกัน กูจะไม่ยอมพลาดโอกาสเด็ดขาด กูต้องทำให้พ่อแม่กูปลดหนี้ น้องกูต้องเรียนต่อสูง ๆ " มาคินบอกเพื่อนทั้งสองคนก่อนเดินลงจากรถ เดินไปหาแม่ที่กำลังเดินมาจะถึงรถ
"มันคงไม่อยากให้พวกเราเดือดร้อน" เอินนี่ บอกเจเจ ก่อนจะลงจากรถมาสวัสดีแม่ของเพื่อนพร้อมกับเจเจ
"สวัสดีครับแม่ดา" เสียงสองหนุ่มที่ลงมาสวัสดีแม่เพื่อน
"มาส่งมาคินกันหรอ เข้าบ้านก่อนไหมลูฏ " แม่ดาเอ่ยปากชวนเพื่อนของลูกชาย
"พวกมันมีธุระต่อครับแม่ ไป ๆ รีบไปสิ พรุ่งนี้เจอกันนะ" มาคินเอ่ยปากไล่เพื่อนทั้งสองคน
"ไอ้ลูกคนนี้ทำไมไปไล่เพื่อน"
"พวกผมมีนัดกันจริง ๆ ครับแม่ " เอินนี่พูดเสียงแมน ๆ บอกแม่เพื่อน
"พวกผมลาแล้วครับอแม่ดา สวัสดีครับ" สองหนุ่มไหว้ลาแม่ของมาคินอีกครั้ง แม่เองก็รับไหว้ ก่อนที่เด็กทั้งสองคนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป
"แล้วนี่แกไปไหนมา กลับบ้านผิดเวลา เดี๋ยวพ่อแกก็โวยวายขึ้นมาอีกหรอก" แม่หันมาถามแกมต่อว่าลูกชายคนโตที่ไปไหนมาจนเย็น
"มีงานต้องทำนี่ครับแม่ มาเย็นหน่อย ช่วงนี้งานที่มหาลัยผมเยอะ" มาคินยังไม่ได้บอกที่บ้านเรื่องดร็อปเรียน เพราะเขายังคงไปเรียนทุกวันมาตลอด
"ไป ๆ เข้าไปข้างใน พ่อมาตั้งนานแล้ว " เพียงแค่แม่เอ่ยชื่อพ่อก็ขนลุกขนพองขึ้นมา
" พ่ออารมณ์ไหนครับวันนี้ วันนี้ดูรายการทีวีกันไหมครับ"
"มีอะไร ปกติเขาก็ดูทุกวัน แกดูแปลก ๆ ไปทำอะไรมา "
" ผมบอกแม่แล้วแม่อย่าเพิ่งไปบอกพ่อนะ ให้ผมทำสำเร็จก่อน" มาคินยอมเล่าให้แม่ตนเองฟังที่หน้าบ้าน
มาคินกับแม่ที่มานั่งคุยกันที่ม้าหินหน้าบ้าน มุมเล่นกีตาร์เป็นประจำ เขาเล่าเรื่องที่ตนเองแอบไปร้องเพลงทำงานมา
"ผมแอบไปประกวดร้องเพลงมาครับแม่ พรุ่งนี้พี่โปรดิวเซอร์เขาเรียกไปคุยเรื่องงานเพลงครับแม่"
"ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวพ่อแกก็โวยวายอีกหรอกลูกคนนี้ " แม่ดาตีเข้าที่แขนลูกชายคนโตเบา ๆ
"วันนี้แม่เลี่ยงๆ รายการบันเทิงไปก่อนนะครับ ที่ผมทำ ทำเพื่อให้ทุกคนสบาย ไม่ต้องคอยหลบเจ้าหนี้แบบทุกวันนี้นะแม่" มาคินเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกที่มีเจ้าหนี้มาตามทวงเงินที่บ้านหรือที่ทำงาน
"แล้วเรื่องเรียนของลูกหละ ตอบแม่มาตรง ๆ ทุกวันนี้แกมีเงินมาให้แม่ทุกวัน จนแม่เองเริ่มสงสัยแล้วนะคิน" แม่ดาเอ่ยถามตรงไปตรงมากับลูกชาย
"ผมให้สัญญาครับแม่ ผมจะเรียนจบให้แม่ดู ตอนนี้ผมอยากเดินตามความฝันของผมก่อน " มาคินยังยืนยันที่จะเดินตามรอยตนเองเขาอยากทำงานเพลงเป็นนักร้อง
สองแม่ลูกนั่งคุยกันสักพักก็พากันเข้าบ้าน คุยกันไปตลอดทางแต่เรื่องที่คุยกลับกลายเป็นเรื่องอื่น ตอนเข้าไปในบ้านพ่อก็ไม่ได้นั่งอยู่ในห้อง คุณพ่อเดินขึ้นบ้านไปแล้ว
