บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ข้องแวะเพียงหนึ่ง

ตอนที่ 8

ข้องแวะเพียงหนึ่ง

หากเอ่ยถึงหอหมอกดำ คนที่เกาะหมอกดำคงไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก เกาะหมอกดำนั้นเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มากนักบนเกาะจะมีหมู่บ้านอยู่ทั้งหมดสี่หมู่บ้านด้วยกัน

โดยทั้งสี่หมู่บ้านจะมีที่ตั้งแยกตามทิศ แบ่งเป็น เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก โดยจะมีหอหมอกดำนั้นอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของทั้งสี่หมู่บ้าน

เกาะหมอกดำนั้นแรกเริ่มเดิมทีตั้งแต่หลายชั่วอายุคนก่อนนั้น เป็นของสกุลเฟิงสืบทอดต่อกันมายาวนาน ทุกคนในเกาะในสี่หมู่บ้านนั้นถือได้ว่าอาศัยพื้นที่ของสกุลเฟิงอยู่ แน่นอนว่าพวกเขานั้นทุกปีจะต้องส่งสิ่งของหรือไม่ก็เงินทองตามฐานนะที่มี เพื่อเป็นสินน้ำใจตอบแทนไปที่หอหมอกดำบ้าง ถึงแม้ทางหอหมอกดำจะไม่ได้ร้องขอหรือบังคับก็ตาม

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนในเกาะหมอกดำต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีก็คือ สกุลเฟิงแท้จริงแล้วยังเป็นเจ้าของหุบเขาพยัคฆ์หมื่นพิษหุบเขาที่ปลูกแต่สมุนไพรและหญ้าที่มีพิษเท่านั้น นอกจากยาถอนพิษแล้ว สมุนไพรที่เอาไว้ใช้รักษาโรคล้วนแล้วแต่ไม่มีทั้งสิ้น เรียกได้ว่าหากเกาะหมอกดำแห่งนี้เปรียบเป็นเกาะแห่งสวรรค์ หุบเขาพยัคฆ์หมื่นพิษนั้นย่อมเป็นสถานที่ที่แตกต่างกันคนละขั้วอย่างสิ้นเชิง

ฉะนั้นทุกคนจากสี่หมู่บ้านนั้นย่อมไม่ต้องการจะทำให้ท่านเจ้าหอที่นานๆทีจะเขามาพักผ่อนที่หอหมอกดำนั้นรู้สึกรำคาญใจ

ในขณะเดียวกันนั้นก็ต้องให้ท่านเจ้าหอรับรู้ให้ได้ว่าพวกตนนั้นยินดีต้อนรับท่านเจ้าหอเสมอ จึงเกิดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งขึ้นนั้นก็คือ ธรรมเนียมที่หัวหน้าหมู่บ้านทั้งสี่บนเกาะหมอกดำจะต้องเข้าพบท่านเจ้าเกาะ ซึ่งแน่นอนว่าหัวหน้าหมู่บ้านแต่ละคนย่อมไม่ยอมมามือเปล่าแน่ๆทุกคนจะต้องสรรหาสิ่งของมาเป็นของกำนัลแก่ท่านเจ้าหอ

ไม่ข้องแวะ จึงไม่วุ่นวาย

สองสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่เขาเฟิงอวิ๋นเค่อถือคติมาตลอด เมื่อข้องแวะ เรื่องที่ตามมาก็วุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น นั่นทำให้เขานั้นรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นที่สุด หากหลบได้เขาก็เลือกที่จะหลบ หรือหากเลี่ยงไม่ได้เขาก็จะข้องแวะให้น้อยที่สุด

แต่ดูเหมือนว่า ไม่ข้องแวะ ไม่วุ่นวาย ที่เขาถือมาตลอดนั้นถึงคราจะต้องวางลงเอาไว้ก่อน เขานั้นจะต้องข้องแวะให้น้อยที่สุดนั่นคือ ข้องแวะสตรีเพียงหนึ่งดีกว่าต้องข้องแวะกับสตรีถึงสี่นางด้วยกัน

เขาคงจะไม่ต้องมานั่งเลือกข้องแวะหรือไม่ หรืออะไรเช่นนี้เลยหากไม่ใช่ว่าเมื่อสองชั่วยามก่อนเฉินอี้นั้นได้เข้ามาแจ้งข่าวร้ายแก่เขา

ข่าวร้ายที่ว่านั้นไม่เพียงมาแค่ข่าว แต่กำลังจะบุกมาหาเขาถึงที่เลยด้วยซ้ำ ซึ่งผู้ที่จะมานั้นไม่ใช่ผู้ใดที่ไหน คนผู้นั้นคือท่านพ่อและท่านแม่ของเขาเอง

แน่นอนว่าการจะได้พบกับท่านพ่อและท่านแม่ของเขาที่พากันออกไปท่องเที่ยวเป็นเวลากว่าสามปี โดยที่ไม่ได้เดินทางกลับไปยังหุบเขาพยัคฆ์หมื่นพิษเลยหลังจากที่ท่านพ่อยกตำแหน่งเจ้าหุบเขาให้แก่เขานั้นนับเป็นข่าวดี แต่ที่นับเป็นข่าวร้ายได้โดยไม่ต้องคิดก็คือ ท่านแม่ของเขานั้นให้หัวหน้าหมู่บ้านทั้งสี่หมู่บ้านคัดเลือกสตรีที่งามเพียบพร้อมที่สุดของแต่ละหมู่บ้านมาให้เขาเลือกเป็นภรรยา

เท่านั้นยังไม่พอ จากข่าวที่เฉินอี้รายงานมานั้น ยังมีทางเป็นไปได้มากว่าท่านแม่จะให้เขานั้นรับสตรีพวกนั้นเป็นฮูหยินและฮูหยินรองของเขาทั้งหมด

เขาไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอน แค่สตรีผู้เดียวก็วุ่นวายเกินพอแล้วหากมาพร้อมกันถึงสี่นาง เขาคงต้องคลั่งจนไล่ฆ่าพวกนางทิ้งจนหมดเป็นแน่

“ส่วนเรื่องแม่นางที่นายท่านได้ช่วยชีวิตเอาไว้ ยามนี้นางได้สติแล้วนะขอรับ แต่ดูเหมือนจะมีปัญหาอยู่เล็กน้อย” เฉินอี้นั้นรีบเอ่ยรายงานต่อ

หลังจากที่ได้ยินคนสนิทของตนรายงานเฟิงอวิ๋นเค่อก็เริ่มรู้สึกตึงเครียดเพิ่มเข้าไปอีก นี่แหละเขาจึงคิดว่าเหล่าสตรีเป็นที่มาของความวุ่นวายเข้าใกล้ให้น้อยที่สุดถึงจะเป็นเรื่องดี

“นางมีปัญหาอะไร”

“เรียนนายท่าน ปัญหาที่ว่าคือนางเสียความทรงจำไปทั้งหมดขอรับ”

“เสียความทรงใจไปทั้งหมด” เฟิงอวิ๋นเค่อเอ่ยซ้ำคำออกมา เมื่ออยู่ๆประโยคที่เฉินอี้เอ่ยออกมาเมื่อครู่ก็ทำให้เขาคิดสิ่งหนึ่งออกมาได้

สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เขารอดพ้นจากสตรีสี่นางที่กำลังจะมาถึง…

ภายในเรือนรับรองของหอหมอกดำ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ยามนี้มีสตรีผู้หนึ่งพักอาศัยอยู่มาหลายวันแล้ว แม้จะเอ่ยว่าหลายวันแล้วแต่ความจริงก็เพียงแค่สองวันเท่านั้นที่นางมีสติฟื้นขึ้นมา

สองวันมานี้แม้นางจะได้สติขึ้นมา ยามเช้ามีคนมาคอยช่วยนางล้างหน้าแต่งตัว ถึงเวลากินยาและอาหารก็มีคนค่อยนำมาให้ไม่ได้ขาด แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี เพราะถึงแม้นางจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่กลับไม่รู้สิ่งใดเลย นางไม่รู้ว่าตัวเองชื่ออะไร ไม่รู้แม้แต่ที่นี่คือสถานที่ใด และนางมีฐานเช่นไรที่นี่

หลายครั้งที่นางพยายามจะถามเกี่ยวกับตัวนางแต่กับไม่ได้คำตอบกลับคืนมาเสียสักครั้ง จนนางเริ่มที่จะท้อใจเต็มทีแล้ว

คิดแล้วนางก็ได้แต่ถอนใจออกมาเสียก็เท่านั้น นางนั่งมองไปที่ดอกไม้ต้นหญ้าที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่นางรู้สึกคุ้นเคยมากที่สุดก็ว่าได้

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเจ้าหอให้บ่าวมาแจ้งแก่ท่านว่าอีกเดี๋ยวจะมาพบคุณหนูเจ้าค่ะ”

สาวใช้ผู้หนึ่งที่นางคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะว่ามักจะอยู่คอยดูรับใช้นางอยู่ปล่อยครั้ง เป็นผู้เอ่ยขึ้น

นางเองเมื่อได้ฟังก็หันไปทางสาวใช้ผู้นั้นพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

ท่านเจ้าหอเช่นนั้นหรือ ใช้ผู้ที่เป็นเจ้าของที่นี่หรือไม่นะ

นางคิดในใจ ก่อนจะพยักหน้ารับคำสาวใช้คนนั้นไป สาวใช้ผู้นั้นเมื่อเห็นนางพยักหน้ารับรู้ก็ถอยไปยืนรอท่าอยู่ไกลๆเหมือนที่ทำเป็นประจำ

รออีกประเดี๋ยว เมื่อใดที่ท่านเจ้าหอคนที่สาวใช้คนเมื่อครู่กล่าวถึงมา นางก็จะได้ไขขอข้องใจของนางเสียที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel