ตอนที่ 4 สินค้าชั้นดีคือสตรีโฉมงาม
ตอนที่ 4
สินค้าชั้นดีคือสตรีโฉมงาม
นางอยู่ที่ไหน นั้นคือคำถามแรกหลังจากที่นางลืมตาตื่นขึ้นมาอยากจะรู้มากที่สุด
ไป๋ชิงหนี่ว์พยายามที่จะใช้มือยันพื้นไม้เพื่อพยุงตัวของนางเองให้ลุกขึ้นยืนจากพื้นให้จงได้ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีของนางหายไปไหนหมด สายตาที่ยังคงมองเห็นได้ไม่เต็มที่นี่อีก
“เมี่ยวจือ เมี่ยวจือเจ้าอยู่ไหน” นางเอ่ยเรียกหาสาวใช้คนสนิทหวังให้เมี่ยวจือนั้นเป็นผู้เข้ามาช่วยและเข้ามาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเหตุใด นางนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“เจ้าฟื้นแล้ว อย่าเพิ่งเสียงดังไป”
ไม่ใช่เสียงของเมี่ยวจือที่ตอบกลับมาตามเสียงเสียงเรียกของนาง แต่กลับเป็นเสียงของสตรีผู้หญิง ซึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงของสตรีผู้นั้นนางก็หันไปทางที่เสียงดังขึ้น
“เจ้าเป็นใคร เหตุใดข้าถึงได้มาอยู่กับเจ้าที่นี่ได้ แล้วที่นี้คือที่ใดกัน”
นางเอ่ยถามทันทีอย่างสงสัยและร้อนใจยิ่งนัก ตัวของนางในยามนี้อยู่ที่ใดก็ไม่รู้ แถมร่างกายยังไร้เรี่ยวแรง ดวงตาก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อย่างชัดเจน คล้ายว่าภาพที่นางเห็นผ่านดวงตาของนางในยามนี้นั้นพร้อมที่จะดับวูบลงทุกนาที
“ข้าชื่อว่านอันหยี่ ข้ากับเจ้าถูกจับตัวมาด้วยกัน ส่วนที่ถามเมื่อครู่ว่าที่นี่คือที่ใด ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัด รู้เพียงว่าพวกเราอยู่บนเรือ”
อันหยี่เอ่ยตอบสตรีที่นับว่าเป็นสหายรวมชะตากรรมกับนางอย่างไม่คิดปิดบัง นางเอ่ยบอกทุกอย่างที่นางพอจะรู้ ซึ่งแน่นอนว่าคงจะไม่ได้มากมายอะไร
“ข้าจะถูกจับตัวมาได้เช่นไรกัน ข้าจำได้ว่าตัวเองนอนอยู่ที่ห้องพักในโรงเตี๊ยมพร้อมกับสาวใช้ของข้า”
“พวกเราโดนคนจากโรงเตี๊ยมขายมาอย่างไรเล่า ข้าเองบังเอิญไปเห็นเจ้าถูกนำตัวออกมาจากด้านหลังโรงเตี๊ยมพอดีจึงได้โดนจับมาด้วยพร้อมกันกับเจ้าด้วย” นางเล่าต่อ
ตอนนั้นเป็นเพราะนางไปเจอเข้ากับการกระทำผิดของคนที่โรงเตี๊ยมพอดีนี่แหละ ถึงโดนทำร้ายจนสลบพอตื่นขึ้นมาแล้วก็เจอกับนางและก็รู้ว่าอยู่บนเรือเพียงเท่านี้
เมื่อสติของไป๋ชิงหนี่ว์เริ่มที่จะเพิ่มมากขึ้น นางเริ่มเรียงลำดับเหตุการณ์ที่ว่านอันหยี่เล่ามาให้ฟังได้ทั้งหมด นางถูกและเมี่ยวจือถูกวางยาจนหลับไม่ได้สติ
นางถูกจับมาขายแต่ไม่รู้ว่ายามนี้เมี่ยวจือจะเป็นเช่นไรบ้าง เมื่อครู่ว่านอันหยี่เอ่ยแค่เพียงเห็นนางถูกนำออกมาจากโรงเตี๊ยมไม่ได้บอกว่าเหตุผู้อื่นด้วย อีกอย่างหากเมี่ยวจือถูกนำตัวมาด้วยกันกับนางแน่นอนว่าอย่างไรเสียเมี่ยวจือย่อมต้องถูกขังเอาไว้ที่นี่เช่นเดียวกัน
เสียงฝีเท้าหนักๆคล้ายกับกำลังมีใครกำลังจะเดินเข้ามาในห้องที่พวกนางถูกขังอยู่ ทำให้ไป๋ชิงหนี่ว์ต้องแกล้งทำเป็นยังหลับไม่ได้สติเช่นเดิม เช่นเดียวกับว่านอันหยี่ที่ทำเป็นไม่ได้สติเช่นกัน
ไม่นานนักประตูห้องที่พวกนางถูกขังก็ถูกเปิดเข้ามา ก่อนจะมีเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาข้างในห้องและก้าวมายืนหยุดอยู่ไม่ไกลจากนางเท่าใดนัก
“พวกนางทำไมยังไม่ได้สติกันอีก ยาน่าจะหมดฤทธิ์แล้วไม่ใช่หรืออย่างไร”
“สตรีเปราะบางน่าจะต้องใช้เวลาหน่อยกระมัง เอาไว้อีกครึ่งชั่วยามพวกเราค่อยเข้ามาดูใหม่อีกรอบก็แล้วกัน”
“เอาอย่างที่เจ้าว่าก็แล้วกัน หากอีกครึ่งชั่วโมงพวกนางยังไม่ฟื้นคงต้องรีบแจ้งนายท่าน หากพวกนางเป็นอะไรไปนายท่านคงเอาพวกเราตาย”
นางได้ยินทั้งสองคนคุยกันเกี่ยวกับพวกนาง เช่นนั้นแปลว่าบนเรือลำนี้มีนายท่านที่พวกนั้นพูดถึง เป็นคนที่จับตัวพวกนางมาขาย
“คนพวกนั้นตั้งใจจับพวกเราไปขายที่ไหนก็ไม่รู้ หากจะหนีพวกเราต้องรีบคิดวิถีก่อนที่คนเหล่านั้นจะเข้ามาอีกคราหนึ่ง” นางเอ่ยขึ้น
“คนเหล่านั้นตั้งใจจับแค่เจ้า ส่วนข้าแค่พลอยติดร่างแหมากับเจ้าด้วย” ว่านอันหยี่เอ่ยแก้
“ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่อย่างไรเสีย พวกเราก็ต้องถูกขายไปด้วยกันทั้งคู่” ไป๋ชิงหนี่ว์เอ่ยต่อ
“เจ้าหน้าตางดงามราวกับเทพธิดาส่วนข้าที่หน้าตาธรรมดาไม่มีสิ่งใดโดดเด่น พวกนั้นเป็นไปได้มากที่ขายเจ้าในพวกเศรษฐี ส่วนข้าอาจจะถูกขายไปเป็นทาสหรือไม่ก็ฆ่าให้ตายเสีย”
ตัวนางพอจะรู้ดีว่าสตรีโฉมงามตรงหน้านั้นจะต้องถูกขายหรือไม่ก็นำไปเป็นของกำนัลกับพวกมากอำนาจหรือไม่ก็ถูกนำไปขายได้เงินเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวนางนั้นอาจจะถูกตัดลิ้นให้เป็นใบ้ หรือไม่ก็ถูกฆ่าและทิ้งลงทะเล เพื่อไม่ให้เหลือร่องรอยหรือมีผู้ใดที่พบเห็นหรือเป็นพยานในการขายสตรีโฉมงามในครานี้
หลังจากที่พวกมันเข้ามาเห็นนางและว่านอันหยี่ซึ่งก่อนหน้าได้แกล้งทำเป็นยังไม่ได้สติ รู้สึกตัวขึ้นแล้ว พวกมันก็เอาหมั่นโถมายื่นให้พวกนางกิน แน่นอนว่านางและว่านอันหยี่รับหมั่นโถเอาไว้เพราะไม่อยากให้พวกมันมาวุ่นวายกับพวกนางมากนัก
นางรู้ดีว่าการที่นางตื่นขึ้นมาและไม่โวยวายเรื่องที่ถูกจับมาจะเป็นที่ผิดสังเกต นางจึงได้ทำทีเป็นร้องไห้อ้อนวอนพวกมันอยู่ครู่หนึ่งให้ปล่อยพวกนางไปทั้งที่รู้ว่าอย่างไรพวกมันก็ไม่มีทางปล่อยพวกนางไปแน่ๆ
ในเมื่อตอนนี้พวกนางอยู่บนเรือแน่นอนว่าย่อมไม่มีทางที่จะหนีไปไหนได้ ฉะนั้นนางจึงคิดว่า เอาไว้พวกมันพานางขึ้นฝั่งเมื่อใดค่อยหาทางหลบหนีจะเป็นการง่ายกว่า
