บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 หุบเขาหมื่นบุปผา

ตอนที่ 1

หุบเขาหมื่นบุปผา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝนตกตั้งแต่เมื่อคืนจนเกือบจะฟ้าสางถึงได้เพิ่งจะหยุดลงไปหรือเปล่า เช้าวันนี้อากาศบนหุบเขาหมื่นบุปผาจึงได้ปลอดโปร่งเช่นนี้ ดอกไม้ต่างๆก็พากันเบ่งบานรับแสงตะวันอ่อนๆที่ทอส่องลงมายังสวนดอกไม้ คล้ายว่าเจ้าแสงตะวันอ่อนๆนี้กำลังส่องแสงของมันทักทายเจ้าดอกไม้ เจ้าดอกไม้เองก็เบ่งบานทักทายตอบกลับเจ้าแสงตะวันอย่างไม่น้อยหน้า

จุดที่ไป๋ชิงหนี่ว์ยืนอยู่ในขณะนี้นับว่าเป็นจุดที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจนประหนึ่งอยู่เบื้องหน้าของนางห่างไปไม่ไกล แต่ความจริงนั้นท้องฟ้าเบื้องหน้าอยู่ไกลมากเท่าไหร่ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางจะรู้ได้

นางหัวเราะออกมาเบาๆกลับความคิดของนาง ถึงจะชื่นชอบท้องฟ้าก็ใช่ว่าจะไขว่คว้าหรือแม้แต่จะไปถึงท้องฟ้าได้อย่างที่คิด

แต่ถึงจะไปไม่ถึงท้องฟ้า แต่นางก็มีสิ่งหนึ่งที่ชอบและนางสามารถสัมผัสมันได้ สามารถชื่นชมความงามและกลิ่นของมันได้ตามที่นางต้องการ อีกทั้งสามารถเฝ้ามองมันเติบโตขึ้นมาโชว์ความสวยงามของพวกมันได้ เท่านี้นางก็มีความสุขมากๆแล้ว

“คุณหนูๆ เจ้าคะ!!!”

เสียงสาวใช้คนสนิทที่ดังขึ้น ทำให้ไป๋ชิงหนี่ว์ต้องหันไปมองตามที่มาของเสียงอย่างเสียไม่ได้

“เมี่ยวจือเจ้าเอะอะอะไรแต่เช้ากันเชี่ยว” นางเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เมี่ยวจือวิ่งมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง

“คุณหนูท่านรีบตามบ่าวไปที่เรือนหมู่ตันเถิดเจ้าคะ”

“ทำไมหรือที่เรือนหมู่ตันเกิดอันใดขึ้น” นางรีบถามกลับอย่างร้อนใจ

“บานแล้วเจ้าค่ะ ดอกหมู่ตันที่คุณหนูปลูกบานแล้วเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบคุณหนูของนางอย่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง

“จริงหรือ เช่นนั้นเจ้าก็รีบพาข้าไปดูเร็วเข้า”

เมื่อได้ยินว่าดอกหมู่ตัน (ดอกโบตั๋น) ที่นางอุตส่าห์ประคบประหงมมาเป็นเวลาเกือบสองปีนั้นได้ออกดอกเบ่งบานแล้ว

นางก้าวเดินไปพร้อมกับสาวใช้คนสนิท ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก อยากจะรีบไปให้เห็นกับตาตนเองว่าดอกหมู่ตันที่นางปลูกนั้นจะออกดอกมาได้งามเพียงใด

ใช้เวลาเพียงไม่นานนางและเมี่ยวจือก็มาถึงเรือนหมู่ตัน เรือนหมู่ตันไม่ได้เป็นเช่นเรือนพัก ไม่ได้มีผนังไม้หรือว่าสิ่งใดกลั้นเป็นกำแพงปกปิด แต่ที่เรียกว่าเรือนนั้นเป็นเพราะว่านางได้ให้คนมาสร้างให้มีเสาและหลังคาไม้เพื่อให้สามารถเลื่อนเปิดปิดหลังคาได้

ครั้งใดหากมีฝนตกหนักหรือว่าแดดส่องลงมาแรงเกินไปไม่เหมาะกับดอกหมู่ตันนางก็จะให้คนเลื่อนปิดหลังคาเรือนมู่ตัน

ที่เรือนมู่ตันแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเมื่อเกือบสองปีก่อนนางคิดที่จะปลูกดอกหมู่ตันให้ได้ครบทุกสี จึงได้แบ่งแยกแปลงให้เท่ากับจำนวนสีของดอกหมู่ตันที่มีทั้งหมดถึงแปดสีด้วยกัน

เนื่องด้วยดอกหมู่ตันเป็นดอกไม้ที่ขึ้นชื่อว่าต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีถึงจะออกดอกนางจึงได้เลือกที่จะปลูกดอกหมู่ตันสีละสิบสองดอกเท่านั้น ทุกๆวันเมื่อนางตื่นและจัดการความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จจะต้องรีบมาดูแลรดน้ำพรวนดินอย่างดีไม่ได้ขาด

วันๆหนึ่งนางเดินเข้าเดินออกที่เรือนหมู่ตันแห่งนี้ไม่น้อยกว่าสี่รอบต่อวัน อาทิตย์ก่อนตอนเห็นว่าดอกหมู่ตันนี้ใกล้จะบานแล้ว แต่ก็อาจจะใช้เวลาอีกกว่าครึ่งเดือนเลยทีเดียวจึงจะบาน

นึกไม่ถึงว่าเพียงล่วงเข้าอาทิตย์ที่สองกลับบานแล้ว นับเป็นเรื่องดียิ่งนักสำหรับผู้ที่รอคอยการเบ่งบานของดอกหมู่ตันนี้มาเป็นปีๆเช่นนาง

จากที่เห็นดอกบานมาตั้งแต่ไกลๆเมื่อได้เข้ามาที่เรือนหมู่ตันแห่งนี้ได้เห็นความงามของดอกหมู่ตันใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกว่าเหล่าดอกหมู่ตันนั้นช่างงดงามไร้ที่ติ กลีบเรียบตูมสวยเป็นระเบียบราวกับจัดเรียงเองกับมือ แถมยังพากันส่งกลิ่นหอมอบอวลเคล้าคลุ้งไปหมดราวกับร่ายมนต์สะกดก็ไม่ปาน

“เจ้ารีบไปตามพี่ชายข้ามาเร็วเข้า”

เป็นอีกครั้งที่นางเอ่ยสั่งสาวใช้คนสนิทด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น นางอยากจะรู้ว่าหากพี่ใหญ่ได้เห็นดอกหมู่ตันเหล่านี้แล้วจะเป็นเช่นไรเต็มทีแล้ว

“เจ้าค่ะคุณหนู เมี่ยวจือจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

โถงเถาวัลย์หยก (หุบเขาหมื่นบุปผา)

“ของที่จะนำไปขายที่แคว้นอี้ซาน เรียบร้อยดีแล้วหรือไม่” ไป๋หูเอ่ยถามคนสนิทที่พึ่งจะก้าวเข้ามายืนหยุดอยู่เบื้องหน้าของเขาด้วยน้ำเสียงและใบหน้านิ่งเฉย ท่าทางเปี่ยมไปด้วยอำนาจ

“เรียนนายท่าน ทุกอย่างเรียบร้อยตามที่นายท่านสั่งขอรับ” ห่านหย่งเทียนเอ่ยตอบคำถามของนายท่านของตน

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เอาไว้ข้าดูวันเวลาให้แน่นอนอีกที พวกเราค่อยเดินทางไปแคว้นอี้ซาน”

“ข้าน้อยทราบแล้วขอรับ”

สองคนนายบ่าวพูดคุยกันเกี่ยวกับการค้าต่อได้อีกไม่นาน คนเฝ้าประตูทางเข้าโถงเถาวัลย์หยกก็เข้ามารายงาน

“เรียนนายท่าน จี้เมี่ยวจือสาวใช้ของคุณหนูมาขอเข้าพบนายท่านขอรับ”

“ให้นางเข้ามา”

หลังจากสิ้นเสียงคำสั่งของไป๋หู คนเฝ้าประตูก็โค้งทำความเคารพนายท่านของพวกเขา ก่อนจะก้าวออกจากโถง ส่วนด้านห่านหย่งเทียนเขาก็เร้นกายหายไปในทันทีอย่างรู้หน้าที่ทำให้เมื่อจี้เมี่ยวจือเข้ามาที่โถงเถาวัลย์จึงไม่ได้พบห่านหย่งเทียน

“บ่าวคาราวะนายท่านไป๋เจ้าค่ะ” เมี่ยวจือนางไม่ลืมที่จะกล่าวนอบน้อมต่อนายท่านผู้ที่ถือเป็นเจ้านายอีกคนหนึ่งของนางเช่นเดียวกัน

“หนี่ว์เอ๋อร์ให้เจ้าลงมาหาข้าถึงนี่ นางมีเรื่องอันใดเร่งด่วนอย่างนั้นหรือ”

ไป๋หูเอ่ยถามอย่างใจเย็น น้ำเสียงของเขายามนี้ไม่ได้เรียบนิ่งหรือแข็งกระด่างเมื่อก่อนหน้านี้ที่คุยกับห่านหย่งเทียน สำหรับไป๋ชิงหนี่ว์น้องสาวของเขาไม่ว่าเรื่องอันใดเขาก็พร้อมจะอ่อนให้นางเสมอ

“คุณหนูให้บ่าวมาเชิญนายท่านให้ขึ้นไปที่เรือนหมู่ตันยามนี้เลยเจ้าค่ะ คุณหนูรอนายท่านอยู่ที่นั้นแล้วเจ้าค่ะ”

“คุณหนูของเจ้านี่จริงๆเลย อากาศดีเช่นนี้แทนที่นางจะนอนตื่นสายเสียหน่อย แต่กลับไปขลุกอยู่ที่เรือนหมู่ตันของนางแต่เช้าอีกแล้ว” ไป๋หูแกล้งเปรยบ่นทีเล่นทีจริงกับสาวใช้คนสนิทของน้องสาว

ส่วนเมี่ยวจือนางก็ได้แต่ก้มหน้ายิ้มรับคำพูดของนายท่านที่เอ่ยถึงคุณหนูของนางเพียงเท่านั้น แต่ก็มิได้คิดจะพูดสิ่งใดตอบกลับนายท่านไป เพราะรู้ดีว่านายท่านเองเป็นคนที่รู้จักคุณหนูของนางดีที่สุด และรักคุณหนูของนางมากที่สุดจริงๆ เรียกได้ว่านายท่านช่างเป็นพี่ชายเอ็นดูรักใคร่น้องสาวเป็นยิ่งนัก

“แล้วนี่คุณหนูของเจ้าได้ทานมื้อเช้าหรือยัง” เขาเอ่ยถามต่อ ทั้งที่ในใจก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

“คุณหนูยังไม่ได้ท่านมื้อเช้าเลยเจ้าค่ะ” กล่าวตอบไปนางเองก็แอบหวั่นใจกลัวที่จะถูกดุหรือต่อว่าที่ดูแลคุณหนูไม่ได้ดีเท่าที่ควรเป็น

คำตอบที่ได้จากสาวใช้คนสนิทของน้องสาว ทำเอาไป๋หูอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ ก็คำตอบที่ได้กับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ช่างไม่ต่างกันเลย

“เช่นนั้นเจ้าไปจัดเตรียมสำรับมื้อเช้าให้หนี่ว์เอ๋อร์เถอะ ข้าจะรีบไปพบนางที่เรือนหมู่ตัน เสร็จแล้วจะไปกินมื้อเช้ากับนางที่ศาลาชมเมฆ”

“เจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปจัดการให้ประเดี๋ยวนี้”

เมี่ยวจือรับคำก่อนจะโค้งตัวลา และรีบไปจัดการตามที่ได้รับคำสั่งมา

หลังจากที่เมี่ยวจือออกไปแล้ว ห่านหย่งเทียนก็ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้เขายืนอยู่ไม่ไกลจากน้อยท่านของเขานัก

“ข้าจะไปหาหนี่ว์เอ๋อร์ ส่วนเรื่องใดที่ต้องรายงานข้าเอาไว้ข้ากลับมาเจ้าค่อยรายงาน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel