บท
ตั้งค่า

4 รับผิดชอบ

ร่างบอบบางที่พึ่งผ่านการนอนหลับสนิทอย่างเต็มที่ ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มของตน มือเล็กจับท่อนแขนของชายหนุ่ม ซึ่งนอนหลับสบายอยู่ข้างๆ ออกจากเอวคอดของเธอ ก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นว่าเขายังอยู่ไม่ได้หายไปไหน

มันเป็นการย้ำชัดในความรู้สึกของเธอว่าเขาคนนี้มีตัวตนอยู่จริง เรื่องเมื่อคืนที่ทั้งคู่ร่วมรักกันอย่างดุเดือดไม่ใช่ความฝัน รักแรกพบของเธอกำลังอยู่ตรงหน้าไม่ใช่จินตนาการที่เธอมโนเอาเอง

ฝ่ามือนุ่มนิ่มเอื้อมไปสัมผัสผิวแก้วสากจากตอหนวดที่โกนไม่เกลี้ยงอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนละออกมาและก้าวขาลงจากเตียง เพื่อเดินไปยังหน้ากระจกตั้งพื้นบานใหญ่

เธอต้องการเช็กสภาพร่างกายของตนเองอย่างละเอียด เพราะรู้สึกเหมือนมีความเจ็บแปลบแผ่ซ่านไปทั้งกาย ทันทีที่ภาพสะท้อนปรากฏแก่สายตา ใบหน้าสวยก็แสดงความตื่นตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น

ผิวเนื้อขาวอมชมพูของเธอเต็มไปด้วยรอยจ้ำเลือด ทั้งบริเวณลำคอ ไหปลาร้าเล็ก และเนินอกอวบอิ่ม เรียวนิ้วเล็กยกขึ้นสัมผัสไล้ลงบนรอยแต้มพวกนั้น พร้อมกับดวงตากลมโตหลับลงนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

ภาพต่างๆ ฉายชัดเป็นฉากๆ ทุกๆ ที่ที่เขาสัมผัสยังคงร้อนวูบวาบไม่จางหาย จันทร์เจ้าพยายามสลัดภาพอนาจารในหัวสมองออกไป ก่อนที่เธอจะเดินไปหยิบชุดนอนตัวบางเฉียบในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ และออกไปทำอาหารง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้สร่างเมาได้ ให้กับคนซึ่งยังคงหลับอยู่

เวลาผ่านไปสักพักร่างหนาที่นอนหลับอุตุอยู่บนเตียงก็เริ่มมีปฏิกิริยา กรวีขยับกายเล็กน้อยหลังจากรู้สึกเหมือนได้นอนเต็มอิ่มแล้ว ก่อนที่เขาจะปรือตาขึ้นมารับแสงสว่าง ซึ่งสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเลื่อนมองไปรอบๆ ก่อนสมองจะเริ่มประมวลผลและรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมเบิกตาโพลง เขากวาดสายตามองสำรวจภายในห้องอีกครั้ง เพื่อหาความกระจ่างให้กับความสงสัยของตนเอง ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่

เพราะสภาพแวดล้อมของห้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสีผนัง เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของต่างๆ ในห้องนี้ ไม่ได้มีความคล้ายคลึงกับห้องของเขาเลยสักนิด และเมื่อก้มลงมองสภาพร่างกายของตน ก็พบว่าเสื้อผ้าที่ควรจะต้องสวมใส่อยู่ กลับอันตรธานหายไปหมดทุกชิ้นแม้กระทั่งกางเกงชั้นใน และเปลี่ยนพื้นที่จากการอยู่บนร่างกายไปเป็นที่พื้นแทน

ร่างสูงรีบลุกลี้ลุกลนลงจากเตียงซึ่งตนเองกำลังนั่งอยู่ ลงไปเก็บเสื้อผ้าของเขาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น และมันไม่ได้มีเสื้อผ้าของเขาเพียงชุดเดียว เพราะมันยังมีชุดของสุภาพสตรีกองอยู่ด้วย นั่นทำให้กรใจแป้วเข้าไปใหญ่

“เมื่อคืนกูทำอะไรลงไปวะเนี่ย!?” เขาสบถกับตัวเองในขณะที่สวมใส่เสื้อผ้าอย่างลวกๆ และเมื่อชุดกลับมาอยู่บนตัวแม้จะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่แล้ว ร่างสูงก็เริ่มเดินสำรวจห้องที่มีเพียงเขาอาศัยอยู่ทันที

ชายหนุ่มไม่ได้ลื้อค้นข้าวของ หากแต่เขาทำเพียงแค่เดินดูรอบๆ เท่านั้น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าห้องๆ นี้เป็นของสุภาพสตรีสักท่าน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าคนๆ นั้นเป็นใคร จนเท้าใหญ่พาร่างของตัวเองมาหยุดยืนอยู่หน้ารูปใครคนหนึ่ง ซึ่งวางตั้งไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง

มือหนาหยิบกรอบรูปนั้นขึ้นมาพิจารณา บุคคลในรูปเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย ท่าที่เธอใช้โพสต์บ่งบอกบุคลิกของเจ้าของรูปได้เป็นอย่างดี ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงมาก แถมยังมีเคล้าความหยิ่งยโสปรากฏให้เห็นอีกด้วย

“ตื่นแล้วเหรอคะ เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม?”

ในขณะที่กรวียังคงยืนมองรูปถ่ายในมือ บานประตูห้องซึ่งปิดสนิทในตอนแรกก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของผู้หญิงในภาพเดินก้าวเข้ามาภายใน

สายตาคมหันไปมองอย่างแปลกใจก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี เพราะอิสตรีที่ยืนเด่นตรงหน้าอยู่ในสภาพซึ่งล่ออารมณ์กลัดมันได้เป็นอย่างดี

ร่างกายอวบอิ่มสัดส่วนเว้าโค้งชัดเจน ในชุดนอนผ้าเนื้อบางจนมองเห็นทะลุเข้าไปยังด้านใน กำลังยืนกอดอกมองเขาด้วยแววตาวิบวับเป็นประกายอยู่

แต่แทนที่เธอจะยืนเฉยๆ อยู่ตรงนั้น หญิงสาวกลับก้าวเข้ามาหาเข้าใกล้มากขึ้น และสุดท้ายมือบางก็สอดเข้ามาโอบเอวแกร่งของชายหนุ่ม เล่นเอาคนที่ถูกสวมกอดหลวมๆ ตกใจยืนตัวแข็งทื่อ และเมื่อสติกลับมาทำงานเขาจึงรีบผลักเธอออกด้วยความตื่นตระหนก แต่เนื่องจากแรงที่สัมผัสโดนกายสาวไม่รุนแรงมากนัก ร่างเล็กจึงผละออกไปไม่ไกลและไม่ได้เกิดอันตรายขึ้นกับเธอ

“คุณเป็นใคร?”

กรวีเอ่ยถามโดยไม่หันไปมองหน้าคู่สนทนาสักนิด เพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึกประหม่าและเขินอาย ตั้งแต่เกิดมาเป็นชายชาตรีอกสามศอก ยังไม่เคยมีประสบการณ์สัมผัสใกล้ชิด และได้เห็นอะไรต่อมิอะไรของผู้หญิงชัดขนาดนี้

“คิกๆ คุณคงเมาจนจำอะไรไม่ได้สินะคะ” เสียงหวานหัวเราะออกมาอย่างชอบใจในท่าทีเงอะงะของอีกฝ่าย เขาดูแตกต่างจากเมื่อคืนที่ดุดันกร้าวใจเสียเหลือเกิน

“ครับ?” ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวสื่อเท่าไหร่นัก

“ฉันก็เป็นผู้หญิงที่นอนอยู่กับคุณบนเตียงนั้นทั้งคืนไง คงไม่ต้องอธิบายลงลึกหรอกใช่ไหมว่านอนกันท่าไหนบ้าง” เธอเหย้าหยอกเขาอย่างสนุกสนาน การที่ได้เห็นผู้ชายกลายเป็นลูกไก่เปียกฝนในกำมือ มันทำให้จันทร์เจ้ารู้สึกลำพองในใจเป็นอย่างมาก

“…!!”

กรวีช็อกนิ่งไปสักพักกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะเริ่มรู้สึกหัวเสียและโกรธตัวเองมาก ที่เขาเมาจนพลาดทำอะไรขาดสติลงไป และเมื่อคิดตรึกตรองดีแล้ว ความเป็นสุภาพบุรุษก็สั่งให้เขาพูดคำๆ นี้ออกมา

“กรุณาบอกด้วยครับว่าคุณต้องการให้ผมรับผิดชอบแบบไหน”

ใบหน้าสวยเฉี่ยวมีแววความแปลกใจ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับความรับผิดชอบจากฝ่ายตรงข้าม เพราะที่ผ่านมาเวลาเธอมีวันไนท์สแตนด์ ผู้ชายพวกนั้นก็มักจะจากไปเงียบๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเท่าไหร่นัก เพราะถือว่าเป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่าย แถมยังได้รับความสุขกันทั้งคู่ก็ถือว่าแฟร์ๆ

แต่ในเมื่อเขาเสนอมีหรือเธอจะไม่สนอง ในเมื่อเขาต้องการรับผิดชอบเธอก็ยินดีให้เขาทำ กลีบปากบางจึงคลี่ยิ้มอย่างมีแผนการ พร้อมเอ่ยคำซึ่งทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ

“คบกับฉันสิ”

“…!!”

“ฉันต้องการให้คุณคบกับฉันเป็นการรับผิดชอบเรื่องเมื่อคืน” เธอย้ำในสิ่งที่เธอต้องการ นั่นทำให้กรวีรู้สึกอึดอัดและลำบากใจ

“ผมต้องขอโทษด้วย แต่ผมไม่สามารถทำในสิ่งที่คุณเรียกร้องได้ ผมคบกับคุณไม่ได้จริงๆ” ดวงตาคมหลุบต่ำมองลงพื้น เขารู้สึกละอายแก่ใจในความผิด แต่ก็ไม่สามารถทำตามคำขอของเธอได้ เพราะหัวใจเขาไม่มีที่ว่างพอจะให้ใครเข้าไปอยู่ได้ในตอนนี้

จันทร์เจ้ารู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจ ราวกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่กลางถนนสาธารณะ เธอไม่เคยถูกปฏิเสธเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอับอายขายขี้หน้าเป็นที่สุด ยิ่งเป็นฝ่ายเอ่ยขอผู้ชายคบก่อนแบบนี้มันทำให้เธอรับไม่ได้ เขาโชคดีแค่ไหนแล้วที่ผู้หญิงซึ่งมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตาและฐานะมาขอสานความสัมพันธ์ แต่เขากลับปฏิเสธโดยไม่หยุดคิดสักนาที

“คุณกำลังปฏิเสธฉัน?” เธอแค่นถามด้วยความใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ตอนนี้อุณหภูมิของความรู้สึกจะพุ่งสูงลิ่ว

“ครับ” กรวีตอบรับอย่างไม่เต็มปากมากนัก เพราะเขาเองก็สังเกตได้ถึงความไม่พอใจในแววตาคู่สวย

“ในเมื่อคุณบอกว่าจะรับผิดชอบ แล้วคุณปฏิเสธคำขอของฉันทำไม?” เธอถามต่ออย่างไม่เข้าใจในความคิดของอีกฝ่าย

“ผมต้องการจะรับผิดชอบคุณจริงๆ แต่ขอเป็นวิธีอื่นได้ไหมครับ” กรวีพยายามต่อรอง

“พอจะบอกเหตุผลได้ไหมว่าเพราะอะไร?”

“…!!” ชายหนุ่มนิ่งเงียบไม่กล้าตอบคำถาม แต่เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วว่าถ้าหากไม่ตอบออกไป ผู้หญิงคนนี้จะไม่รามือง่ายๆ แน่ เขาจึงเลือกที่จะพูดความจริงออกมา “ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว”

“เท่าที่ดูได้จากสภาพของคุณเมื่อคืน คงไม่น่าจะใช่รักสมหวังสินะ” เธอแค่นเสียงต่ำอย่างดูหมิ่น ซึ่งมันเป็นความจริงที่แทงใจกรวีจนเขารู้สึกจุก

“ผมขอไม่อธิบายรายละเอียดละกันนะครับ”

“…”

“เอาเป็นว่าถ้าคุณคิดได้เมื่อไหร่ ถึงวิธีอื่นที่จะให้ผมรับผิดชอบคุณก็ติดต่อมาละกัน ผมรบกวนคุณมามากพอแล้ว ขอตัว” เขายื่นนามบัตรที่พึ่งหยิบออกมาจากกระเป๋าสตางค์ให้กับเธอ ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหลบไปอีกทางเพื่อออกไปจากที่นี่ เพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก

จันทร์เจ้าหันมองตามร่างสูงซึ่งเดินจากไปอย่างเงียบๆ ด้วยสายตาผิดหวัง เธอคาดหวังไว้มากว่าจะได้ทำความรู้จักกับเขาให้ดียิ่งขึ้น แต่สุดท้ายมันกลับพังลงอย่างไม่เป็นท่า แต่ถ้าจะให้เธอยอมแพ้ง่ายขนาดนั้นก็คงจะไม่มีทาง อะไรที่เธออยากได้เธอก็ต้องได้ ไม่มีคำว่ายอมแพ้สำหรับผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็คงต้องแบล็คเมล์

สายตาหวานมองนามบัตรในมือที่ตนกำลังถืออยู่ และก็ได้รับรู้ว่าผู้ชายคนนี้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของครอบครัวเธอ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิตก็คงเป็นเวรกรรม ที่เขาทำเอาไว้กับเธอเมื่อชาติที่แล้วแล้วล่ะ ไม่งั้นคงไม่เหวี่ยงให้เขาได้มาพบกับเธอ แถมยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันถึงขั้นนี้อีก

“คุณกรวี เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับจันทร์เจ้าคนนี้ได้เลย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel