มังกรกลืนจันทร์

37.0K · จบแล้ว
CalpisLacto/ เจ้าหญิงตาปรือ
16
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

- เพียงแค่ร่มธรรมดาหนึ่งคันในวันฝนพร่ำ กลับตกหัวใจลูกคุณหนูจอมเย่อหยิ่งได้ และยอมให้เขาเชยชมเรือนร่างอันงดงามของตนเองอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่รู้แม้กระทั่ง...ชื่อของเขา - . . . จันทร์เจ้าได้เจอรักแรกพบ เธอต้องการจะครอบครองตัวและหัวใจของเขา แต่เขาดันมอบหัวใจให้เพื่อนสนิทที่ไม่ได้รักเขา แผนการอันวาบหวามจึงเกิดขึ้น เมื่อเธอเลือกที่จะเอาตัวเข้าแลกเพื่อดึงดูดความสนใจจากกรวี! . . . นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นๆ ไม่ยาวมากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องราวของพระรองที่อกหักจากการรักเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นภาคต่อจากเรื่องหลักจึงมีเพียงแค่ 16 ตอนจบเท่านั้นค่ะ ปล. หากต้องการให้เนื้อหาต่อเนื่อง อยากทราบเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังของกรวี แนะนำให้กลับไปอ่านเรื่อง 'บำบัดรัก บำรุงใจ คุณชายเจ้าน้ำตา' ให้จบก่อนนะคะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักหมอรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติกผู้ชายอบอุ่น25+

1 ผู้ชายที่มาพร้อมกับร่ม

ช่วงเวลาเดียวกัน…

ภายในคาเฟ่ที่กรวีกำลังคุยกับอลิสอยู่นั้น ก็ได้มีหญิงสาวอีกคนซึ่งกำลังนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟ ด้วยท่วงท่าหยิ่งยโสรอคอยผู้ชายที่เธอนัดอยู่

เวลานี้เขาควรจะต้องปรากฏตัวได้แล้ว เพราะมันเลยเวลานัดมาเกือบยี่สิบนาที แต่กลับยังไม่มีแม้แต่เงาของชายหนุ่ม นั่นทำให้ใบหน้าสวยเฉี่ยวมีแววความไม่พอใจปรากฏอย่างเด่นชัด

เธอคนนี้มีนามว่า ‘จันทร์เจ้า’ หรือจันทร์จิรา ธรจิรกานต์ ลูกสาวเพียงคนเดียวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เนื่องจากมารดาของเธอเสียชีวิตไปนานพอสมควรแล้ว ทำให้หญิงสาวถูกเลี้ยงดูโดยผู้เป็นพ่อเพียงคนเดียว

แต่เพราะความเป็นผู้ชายเลี้ยงลูกไม่เป็นบวกกับเป็นคนเจ้าชู้มาก ทำให้พ่อของเธอใช้เงินเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่สิ่งที่ลูกสาวต้องการที่สุดคือความรักจากครอบครัว แต่เขากลับยัดเยียดสิ่งนอกกายให้เธอแทน

ในเมื่อไม่ได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อ จันทร์เจ้าจึงต้องออกไปตามหาสิ่งที่เธอต้องการจากคนอื่น เธอกลายเป็นผู้หญิงโหยหาความรักและถูกมองว่าขาดผู้ชายไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ผิดไปจากความเป็นจริงเลยสักนิด เพราะเธอขาดผู้ชายไม่ได้จริงๆ

ในทุกคืนจันทร์เจ้าต้องมีคนคอยนอนอยู่ข้างๆ เพราะตกดึกเธอมักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์ที่แม่ของเธอผูกคอตาย แล้วจะผวาตื่นขึ้นมาร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง การที่มีใครสักคนนอนอยู่ข้างกาย และมีอ้อมกอดที่เธอคิดว่าสามารถปกป้องเธอจากฝันร้ายได้ เธอถึงจะกลับไปหลับสนิทได้เหมือนเดิม

แต่ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจไม่มีใครขัดได้ ทำให้จันทร์เจ้าเอาแต่ใจและค่อนข้างบ้าอำนาจ เธอจึงมักข่มผู้ชายของเธอให้อยู่ในโอวาท และบีบบังคับให้เขาทำตามในสิ่งที่เธอต้องการ

สุดท้ายแล้วก็ไม่มีผู้ชายคนไหนทนเธอได้สักคน แม้ว่าหญิงสาวจะปรนเปรอเงินทองให้คนรักสารพัดก็ตามที และส่วนมากก็จะจบด้วยการนอกใจดั่งเช่นครั้งนี้ที่พึ่งจะเกิดขึ้น

“เฮ้เบบี๋ มารอนานหรือยังจ๊ะ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่พึ่งเดินเข้ามาในร้านด้วยท่วงท่าสบายใจ ทรุดกายนั่งไขว่ห้างพร้อมเอ่ยทักทายแฟนสาวของตนอย่างไม่สำนึกว่ากำลังทำผิด

“คุณนี่มันทุเรศจริงๆ เลยนะ ผิดนัดฉันเกือบครึ่งชั่วโมง ยังมีหน้ามาถามอีกว่ารอนานไหม?” ริมฝีปากอวบอิ่มซึ่งถูกฉาบไปด้วยลิปสติกสีแดงสด ต่อว่าแฟนหนุ่มของตนเองอย่างรู้สึกเอือมระอาในตัวเขา

“แหมที่รัก สายนิดสายหน่อยอย่าบ่นนักเลย คุณก็น่าจะรู้ว่าผมน่ะธุระเยอะ” คำขอโทษยังไม่มีวี่แววว่าจะหลุดออกจากปากชายตรงหน้า เขายังคงสรรหาคำมาแถให้ตนเองพ้นผิด

“ช่างมันเถอะ ฉันคงหาความละอายแก่ใจจากคนที่ไม่มีมันไม่ได้ ยังไงซะวันนี้คุณก็ต้องกระเด็นออกไปจากชีวิตฉันอยู่แล้ว เวลาแค่ 20 นาทีถือว่าฉันทำทานก็ละกัน”

“…!”

“อ้อ! อะนี่ แถมกาแฟให้แก้วหนึ่งด้วย” พูดจบมือบางก็จับแก้วกาแฟที่เธอพึ่งดื่มสาดใส่หน้าอีกฝ่าย ซึ่งกำลังนั่งทำหน้าไม่เข้าใจอยู่ทันที ทำเอาคนที่ถูกกาแฟอุณหภูมิเกือบร้อนสาด ร้องลั่นพร้อมโวยวายใส่หญิงสาวอย่างไม่พอใจ

“เธอกำลังทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย! แล้วที่พูดเมื่อกี้หมายความว่าไง?” สรรพนามที่ใช้เรียกคู่สนทนาเปลี่ยนไป ร่างสูงลุกขึ้นปัดหยดกาแฟออกจากเสื้อผ้าของตน ก่อนจะยืนจ้องหน้าแฟนสาวด้วยความโกรธเคือง

“หมายความว่าฉันกำลังจะหลุดพ้นจากแมงดาอย่างแกไงล่ะ ออกไปจากชีวิตฉันซะ”

“…!!”

“แล้วก็อย่าเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีก ไม่งั้นฉันจะเอาคลิปที่แกหิ้วอีตัวไปคั่วบนรถที่ฉันซื้อให้ ไปปล่อยให้ว่อนเน็ตเลยคอยดูสิ” หญิงสาวกล่าวอย่างถือดี

“เหอะ! แน่ใจเหรอว่าจะเลิกกับฉัน เธออยู่คนเดียวได้จริงเหรอ?” เขาแค่นเสียงหัวเราะอย่างดูแคลน เพราะเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างจันทร์เจ้าไม่มีทางนอนหลับสนิทได้ ถ้าไร้อ้อมกอดจากใครสักคน

“หึ! ถึงฉันอยู่ไม่ได้ ฉันก็ไม่เลือกอยู่กับผู้ชายหน้าตัวเมียที่เกาะผู้หญิงกิน แถมยังเอาเงินฉันไปบำเรอผู้หญิงคนอื่นแบบแกหรอก ไอ้ขยะ!!” คำก่นด่าที่อัดแน่นอยู่ภายในใจมาทั้งวัน ทำให้จันทร์เจ้าไม่รู้สึกกระดากปากที่พูดคำไม่สุภาพออกมา

“ไปก็ได้วะ ใครจะอยากอยู่กับผู้หญิงเอาแต่ใจแถมยังข่มคนอื่นเขาไปทั่วแบบเธอ ยัยโรคจิต!” ผู้ชายคนนั้นทำท่าจะหันหลังเดินจากไป แต่ก็ถูกคนที่พึ่งด่ารั้งเขาเอาไว้เสียก่อน

“ก่อนไปกรุณาคืนกุญแจรถสปอร์ตของผู้หญิงโรคจิตคนนี้มาด้วย อย่าเนียน”

“…!” เขาไม่กล้าตอบโต้อะไรเพราะตอนนี้สายตาคนในร้าน เริ่มหันมาให้ความสนใจเขากันมากขึ้น สิ่งที่ทำได้คือยอมวางกุญแจคืนและรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เหลือเพียงตัวเธอลำพังแล้ว มือบางจึงหยิบเงินสดในกระเป๋าแบรนด์เนมใบหรู ขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะให้พนักงาน ทั้งค่ากาแฟและค่าเสียหายที่ทำร้านเปื้อน ก่อนจะหยิบกุญแจรถที่อดีตแฟนเก่าหมาดๆ พึ่งคืนมาถือไว้ และลุกเดินออกจากโต๊ะไปหน้าร้านเพื่อเดินทางกลับคอนโด

แต่เนื่องจากหยาดฝนที่ทำท่าว่าจะตกในตอนแรก ได้โปรยปรายลงมาไม่ขาดสายในตอนนี้ ทำให้ร่างระหงในชุดเดรสเปิดไหล่ความสั้นแค่คืบ บนรองเท้าส้นเข็มเกือบสี่นิ้ว ต้องยืนมองหยดน้ำซึ่งกำลังทิ้งตัวลงจากฟากฟ้าอย่างทำอะไรไม่ได้ ครั้นจะกลับเข้าไปหลบด้านใน ก็อายสายตาที่มองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นอีก

“รู้งี้หยิบร่มมาซะก็ดีหรอก” เธอบ่นอุบอิบกับตัวเองก่อนจะยื่นมือออกไปสัมผัสกับน้ำฝน ความเย็นของมันทำให้ขนเส้นเล็กๆ บนผิวเนื้อพร้อมใจกันลุกตั้งชัน

สายตาคมเฉี่ยวมองไปยังรถสปอร์ตของเธอ ซึ่งจอดเอาไว้ข้างฟุตบาทหน้าร้านด้วยแววตาละห้อย มันอยู่ห่างแค่เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นแต่กลับเดินไปหาไม่ได้ ระดับความรุนแรงของฝนซึ่งกำลังตกลงมา สามารถทำให้เธอเปียกได้เพียงแค่ก้าวเท้าออกไป

กริ๊ง!

เสียงกระดิ่งของประตูคาเฟ่ถูกเปิดออก ร่างสูงโปร่งของกรวีก้าวอาดๆ เดินออกมา ในมือของเขาถือร่มสีดำอยู่คันหนึ่ง หากแต่เขากลับไม่คิดจะใช้มันในเวลานี้ ร่างสูงอยากจะร้องไห้ออกมาโดยให้น้ำฝนชะล้างมันออกจากใบหน้า และปิดบังความอ่อนแอของเขาเอาไว้ไม่ให้ใครได้เห็น

ดวงตาเลื่อนลอยทอดมองสายฝนตรงหน้า ก่อนจะเบนสายตามองมายังหญิงสาวที่ยืนแอบอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน เขาตัดสินใจยื่นร่มที่ตนถืออยู่ให้กับเธอ สายตาหวานมองสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ด้วยความงุนงง ไร้คำพูดและคำอธิบายใดๆ จากชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเทาควันบุหรี่คนนี้ และเมื่อเธอยื่นมือไปรับไว้เขาก็เดินตากฝนจากไปอย่างเงียบๆ

การเสียสละร่มเพียงคันเดียวให้กับคนแปลกหน้า สำหรับกรวีมันเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่สำหรับจันทร์เจ้าที่ชีวิตนี้ไม่เคยได้พบไมตรีจากใคร การกระทำนั้นกลับสั่นหัวใจของหญิงสาวให้เต้นรัว

จันทร์เจ้ามองตามแผ่นหลังกว้างซึ่งเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ราวกับว่าเม็ดฝนอันหนาวเหน็บนั้นไม่อาจทำอะไรเขาได้ เขาดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มแดงก่ำเหมือนกับว่าเขากำลังจะร้องไห้

กรวีเดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ลับสายตาเธอ หญิงสาวจึงใช้ร่มที่ชายหนุ่มแปลกหน้ามอบให้เมื่อครู่ พาร่างของตนไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

จันทร์เจ้าขับรถเข้ามาจอดยังร้านล้างรถซึ่งอยู่ไม่ห่างจากคอนโดเธอมากนัก ก่อนจะเปิดประตูก้าวลงไปยืนข้างล่าง ไม่นานนักพนักงานชายคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามารับหน้าเธอ

“สวัสดีครับคุณลูกค้า สนใจล้างแบบไหนดีครับ ล้างธรรมดา ล้างพร้อมเคลือบ ล้างอบโอโซน หรือว่าล้างแบบเต็มระบบเลยดีครับ” เขาแจกแจงบริการของตนเองให้ลูกค้าสาวสวยดูมีสตางค์รับทราบ

“แบบไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่ล้างเสนียดจัญไรของแมงดาออกหมดก็พอ” พูดจบเธอจึงโยนกุญแจรถในมือให้อีกฝ่าย ก่อนจะก้าวฉับๆ เข้าไปนั่งรอยังพื้นที่รองรับลูกค้าด้านใน ปล่อยให้เขาจัดการกับรถเธออย่างเต็มที่

มือบางหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตนขึ้นมา ก่อนจะพิมพ์ข้อความลงในแชทของกลุ่มเพื่อน ที่เธอรู้ดีว่ามีแต่ความฉาบฉวยในความสัมพันธ์นั้น

จันทร์เจ้า : วางกันม๊ะ? คืนนี้ไปกินเหล้ากัน

พิมพ์ : แกเลี้ยงใช่ป๊ะ?

โบว์ : ถ้าแกเลี้ยงฉันไป

หนุงหนิง : ฉันไปด้วย แต่แกเลี้ยงนะจันทร์เจ้า

มีแต่ความเห็นแก่ตัวและต้องการจะเกาะเธอกินกันทั้งนั้น หาความจริงใจจากใครไม่ได้เลยสักคน แต่จันทร์เจ้าก็เลือกที่จะเก็บคนพวกนี้เอาไว้ใช้ยามเธอเหงา

จันทร์เจ้า : อืม เดี๋ยวเลี้ยงเอง

จันทร์เจ้า : เจอกันที่ผับเดิมเวลาเดิม