บทที่ 8 นักดาบเต็มตัว
“นางฟ้า แต่นางฟ้านี่หน้าคุ้นๆ แฮะ ใช่คุณเอรินหรือเปล่าครับนั่น” ราดิชร้องทักด้วยความดีใจที่ได้เจอดาราที่ตัวเองชื่นชอบ
‘ตายล่ะ เขาจำเราได้ด้วย เราก็ตกใจที่อยู่ๆ มีการแจ้งว่ามีคนผ่านภารกิจพรกจากนางฟ้าเลยต้องมาทำตามหน้าที่ ไม่นึกจะเป็นคนคนนี้ ไม่ได้ๆ ต้องทำตามหน้าที่’ เอรินที่คิดในใจ ก่อนรีบสะบัดหน้าเพื่อพูดตามบทที่วางไว้
“มนุษย์เอ๋ย เจ้าได้ผ่านการทดสอบของเราแล้ว นางทั้งสองนั้นเป็นร่างแบ่งภาคของเราที่ส่งไปทดสอบเหล่ามนุษย์ เรามาเพื่อมอบรางวัลให้กับเจ้า” นางฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะดุจระฆังสวรรค์
ราดิชถามด้วยความงุนงง “การทดสอบอะไรเหรอครับ ผมยังไม่เห็นว่าจะได้ภารกิจอะไรเลย”
“การทดสอบของเราเริ่มตั้งแต่ที่เจ้าพูดคุยกับสองคนนั้นแล้ว” นางฟ้าบอกพร้อมกับพูดต่อว่า
“หนึ่ง เจ้ายอมให้การช่วยเหลือสองคนนั้นทั้งที่ไม่รู้จักมาก่อน
สอง เจ้าไม่หลงไปกับรูปโฉมของพวกนาง
สาม เจ้ามีน้ำใจที่จะแบ่งปันของให้นางอย่างยุติธรรมไม่เอาเปรียบ
สี่ เจ้าปกป้องพวกนางด้วยชีวิตของเจ้าเองอย่างไม่เสียดายมัน
ห้า เจ้าทำตามสัญญาที่รับปากกับพวกนางแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
หก เจ้าช่วยเหลือพวกนางโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
และเจ้าเป็นคนแรกที่ทำภารกิจนี้ผ่านในระดับสูงสุด คนอื่นอาจจะแค่ช่วยเหลือพาพวกนางมาทำภารกิจ แต่ก็ไม่แบ่งของให้ บางคนก็ขายขนมจีบพวกนาง บางคนพอเจอเรื่องอันตรายก็เผ่นหนีไปก่อน และแค่เรื่องพวกนี้ก็ทำให้ภารกิจล้มเหลวทันที มีแต่เจ้าเท่านั้นแหละที่ทำได้ถึงระดับนี้” นางฟ้าเอรินบอกเขา
“แต่ผมก็ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ นี่ครับ แค่ทำเพราะผมมีพลังมากพอที่จะทำได้ และเป็นสิ่งที่สมควรทำ” ราดิชบอกนางฟ้าในสิ่งที่เขาคิด
“นั่นแหละมนุษย์ สิ่งที่เจ้าทำให้ผ่านภารกิจนี้ได้ หัวใจพิสุทธิ์ยังไงล่ะ ซึ่งมันก็หายากมากในยุคสมัยแห่งการแก่งแย่งชิงดีกันนี้ เอาล่ะ มาถึงของรางวัลกันบ้าง เจ้าจะได้รับสิ่งนี้เป็นของรางวัลในความดีงามของเจ้า แต่ขอให้เจ้าจงตั้งมั่นอยู่ในความดีงามนี้ มิฉะนั้นแล้วของที่ได้รับไปจะถูกส่งกลับมายังเรา” นางฟ้าบอกพร้อมกับแบมือออกมา แล้วมีของสิ่งหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากมือเธอลอยมาตรงหน้าของราดิช
พอราดิชยื่นมือออกไปมันก็หล่นลงบนมือเขา สิ่งนั้นเป็นแหวนวงหนึ่ง ทำจากทองคำสีเหลืองอร่าม ตัวแหวนเป็นสีทองเรียบทั้งวง หัวแหวนถูกทำเป็นรูปปีกสองอันม้วนเข้าหากัน ตรงกลางประดับด้วยเพชรสีขาวเม็ดโต ราดิชลองดูความสามารถของมันว่าเป็นเช่นไร
- แหวนนางฟ้าประทานพร (S) (ราดิช)
พลังป้องกัน 5 พลังป้องกันเวท 5
(- สามารถป้องกันสถานะผิดปกติได้ทุกอย่าง
- สามารถป้องกันคำสาปได้ทุกอย่าง
- เพิ่มค่าสถานะ STR AGI CON DEX INT WIT LUCK MEN 20 จุด
- ใช้ผนึกสัตว์เลี้ยงและใส่อาหารได้ไม่จำกัด
- เป็นที่รักของนางฟ้าและได้รับพรจากนางฟ้า)
ราดิชมองค่าสถานะของแหวนอย่างอึ้งๆ ว่าทำไมมันช่างมากมายมหาศาลเสียจริง แต่เขาก็ไม่หลงระเริงไปกับสิ่งที่มี
“ขอบคุณมากครับคุณนางฟ้าเอริน อิอิ” ราดิชยิ้มให้เธอ
“แหมๆ ยังจำกันได้อีกนะคะ นึกว่าลืมกันไปซะแล้ว ยังไงก็ขอให้คุณราดิชเล่นเกมให้สนุกนะคะ ตอนนี้ฉันขอกับไปทำหน้าที่ต่อนะคะ” เอรินบอกอย่างอายๆ และตัวเธอก็เปล่งแสงสว่างจ้าออกมาอีกครั้งและหายไปในที่สุด
“มาไวไปจริงๆ เลย ว่าแต่เราได้ค่าประสบการณ์อะไรมามั่งนี่” ราดิชจึงเปิดดูหน้าต่างข้อมูลว่าเขาได้อะไรมาบ้าง
-ท่านสังหารสัตว์อสูรระดับราชา สเกลเลตันคิงระดับ 30 ได้รับค่าประสบการณ์ 90,000
-ท่านสังหารสัตว์อสูร สเกลเลตันไนท์ระดับ 23 จำนวน 5 ตัวได้รับค่าประสบการณ์ 8,000
-ท่านได้รับค่าประสบการณ์รวมทั้งหมด 98,000
-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 23
-ทักษะหลบหลีกเพิ่มเป็นระดับ 50 -ทักษะชำนาญดาบเพิ่มเป็นระดับ 45
-ทักษะชำนาญเวทเพิ่มเป็นระดับ 25
-ท่านได้รับเงินจำนวน 72,000 G
ราดิชดูทักษะที่เพิ่มมาเสร็จก็สวมแหวนนางฟ้าประทานพรเข้าที่นิ้วก้อยข้างซ้าย พอตัวแหวนสวมเข้าที่นิ้วมันก็ปรับขนาดเข้ากับขนาดของนิ้วโดยอัตโนมัติ จากนั้นราดิชก็สำรวจและเก็บของที่ยังหล่นอยู่แถวนั้นจดหมดทุกอย่าง แล้วใช้ม้วนคาถาพากลับเมืองเพื่อไปส่งภารกิจเสียที
หลังจากวาร์ปมาที่ลานกลางเมืองก็มีสายตามองเขาอีกเหมือนเดิม ราดิชเองก็มอมแมมไม่ใช่น้อยจากการต่อสู้มาตลอดทั้งวัน ตอนนี้ยังเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ อยู่ เขารีบเดินไปที่อาคารภารกิจเพื่อส่งภารกิจก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อคอยไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกคิวของเขา เขาจึงเดินไปยังช่องที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็ว
“มีอะไรให้รับใช้ครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มถามราดิช
“ผมมาส่งภารกิจเปลี่ยนอาชีพนักดาบครับ” ราดิชบอก พร้อมกับยื่นนาฬิกาไปให้เจ้าหน้าที่แล้วหยิบของที่ใช้ส่งภารกิจออกมาวางให้อย่างรู้งาน เจ้าหน้าที่ก็เอาเครื่องสแกนมาตรวจผลภารกิจ
“ภารกิจคุณเรียบร้อยครับ เดี๋ยวรับบัตรใบนี้ไปแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสองที่บันไดด้านนู้นเลยครับ พอขึ้นไปแล้วจะมีป้ายบอกอยู่ว่าห้องไหนของอาชีพอะไร คุณก็เข้าไปที่ห้องของอาชีพนักดาบได้เลยนะครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มบอก และยื่นบัตรใบหนึ่งที่มีขนาดเท่าบัตรคิวที่เขาเคยรับมา แต่มันมีสีขาว และมีคำว่านักดาบเขียนอยู่ ราดิชก็กล่าวขอบคุณและเดินไปที่ชั้นสองทันที
หลังจากเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นสองเขาก็พบระเบียงทางเดินยาวไปจนสุด ทั้งสองฝั่งมีประตูอยู่หลายบาน เขาเห็นป้ายที่เขียนว่า นักดาบ นักรบ นักธนู โจร นักเวท พ่อค้า นักบวชอยู่หน้าห้อง แต่ละห้อง เขาจึงเดินไปยังห้องที่มีป้ายนักดาบ ที่หน้าห้องนั้นบอกว่าว่างอยู่ เขาจึงเปิดประตูเข้าไป
พอเปิดประตูเข้าไปเขาก็พบว่าภายในทาสีแดงไปทั่วทั้งห้อง มีโต๊ะตัวหนึ่งและเก้าอี้สองตัวตั้งอยู่ มีเจ้าหน้าที่ชายใส่แว่นดูคงแก่เรียนคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ ลักษณะเหมือนห้องสอบสัมภาษณ์งานที่เขาเคยเจอไม่มีผิด
“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อน ผมเป็น NPC มอบอาชีพนักดาบและอธิบายทักษะของอาชีพนี้ครับ” เจ้าหน้าที่คนนั้นบอกกับราดิช เขาก็ปิดประตูแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ตามคำเชิญ
“ขอนาฬิกาหน่อยครับ ผมจะได้ตรวจสอบและมอบอาชีพให้คุณครับ” เจ้าหน้าที่บอกราดิช เขาก็ยื่นมือข้างซ้ายไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมกับที่มีเสียงจากระบบดังขึ้น
-ท่านได้รับอาชีพนักดาบ
-ท่านได้รับทักษะของอาชีพนักดาบ สามารถดูได้ที่หน้าต่างทักษะ
“เรียบร้อยแล้วครับ คุณได้อาชีพเป็นนักดาบเรียบร้อยแล้ว ต่อไปผมจะอธิบายเรื่องทักษะนะครับ” เจ้าหน้าที่ปล่อยมือราดิชจากเครื่องสแกน และเริ่มอธิบายให้ราดิชฟัง
“ทักษะของอาชีพนักดาบนั้น จะเกี่ยวกับการใช้อาวุธประเภทดาบล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นดาบมือเดียว ดาบสองมือ ดาบคู่ ทักษะของนักดาบนั้นเน้นการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรงในการต่อสู้ และยังมีทักษะเสริมความสามารถต่างๆ ให้อีกด้วย
ในตอนแรกนั้นคุณจะได้ไป 6 ทักษะ เมื่อระดับเพิ่มขึ้นก็จะมีทักษะใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และเมื่อเรามีระดับถึง 50 ก็สามารถที่จะเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองได้ แต่เรื่องนั้นไว้ว่ากันอีกทีนะครับ เท่าที่ฟังมาคุณผู้เล่นมีอะไรสงสัยหรือเปล่าครับ ถ้ามีก็สอบถามได้เลย หรือถ้าออกไปเก็บระดับแล้วมีข้อสงสัยก็สามารถมาสอบถามที่นี่ได้ตลอดเวลานะครับ” เจ้าหน้าที่แว่นบอกกับราดิชด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ตอนนี้ยังไม่มีข้อสงสัยหรอกครับ ขอบคุณมากนะครับ ถ้ามีเรื่องสงสัยยังไงเดี๋ยวผมกลับมาสอบถามอีกทีละกัน ถ้ายังไงตอนนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ” ราดิชกล่าวลาเจ้าหน้าที่ และเดินออกจากห้องลงบันได้มาที่ชั้น 1 ตอนนี้มีคนมาใช้บริการมากกว่าเดิมพอสมควร เขาจึงเดินไปหาที่นั่งและเปิดดูค่าสถานะของเขา รวมทั้งทักษะที่สามารถใช้ได้ตอนนี้ดู
ทักษะของอาชีพนักดาบที่ได้มานั้น มีทั้งทักษะที่โจมตีเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรงอย่างทักษะซอร์ดสไตรค์ ทักษะโจมตีเป็นวงกว้างอย่างทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรก ทักษะโจมตีระยะกลางถึงไกลอย่างทักษะคลื่นดาบ ทักษะเสริมพลังตัวเองอย่างทักษะมาเจสตีที่เพิ่มความเร็วอย่างมหาศาล รวมถึงทักษะติดตัวที่เพิ่มค่าความสามารถต่างๆมากขึ้น ส่วนค่าสถานะของเขาก็เพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะค่าพลังชีวิตและพลังมานาเพิ่มขึ้นมากพอสมควร ต่อไปนี้เขาคงใช้ทักษะต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องขึ้น พอดูเสร็จเขาก็ไปที่ร้านขายอาวุธต่อ ระหว่างทางก็เจอผู้เล่นหลายคนที่ยังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ คงเป็นเพราะราดิชนั้นสภาพดูไม่ได้ถึงได้มีคนมองแบบนี้ พอไปถึงร้านขายอาวุธก็เปิดประตูเข้าไปในร้าน
“สวัสดีลุงแบล๊ค สบายดีหรือเปล่าครับ” ราดิชกล่าวทักทายเจ้าของร้านขายอาวุธที่กำลังขายของให้ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งอยู่ เขาหันมาตอบราดิช “ก็สบายดีแหละ”
“พวกเจ้าเลือกกันไปก่อนนะ ข้าไปดูลูกค้าก่อน” ลุงแบล็คบอกกับคนกลุ่มนั้น และพยักหน้าเรียกราดิชไปอีกทางของเคาน์เตอร์
“เป็นไงมาไงละนั่น” ลุงแบล๊คถาม
“ผมมีของมาให้ลุงดู กับมีของมาขายน่ะ” ว่าแล้วราดิชก็หยิบดาบจู่โจม และอาวุธอีกหลายชิ้นที่ไม่ได้ใช้ขึ้นมาให้ลุงแบล็คดู ซึ่งเรียกสายตาของคนกลุ่มนั้นได้ทันที
“อืม ดาบจู่โจม ถึงจะเป็นระดับ C แต่มันก็มีสามารถพิเศษที่ดีเลยทีเดียว เจ้าจะขายข้าเหรอ” ลุงแบล็คถาม และพิจารณาดาบจู่โจมในมือ
“เปล่าหรอกลุง เล่มนั้นผมไว้ใช้เอง ส่วนที่จะขายคือของพวกระดับ D กับ C พวกนี้น่ะ” ราดิชบอก พร้อมหยิบของเหล่านั้นให้ลุงแบล็คดู
“คุณขายของพวกนั้นให้เราได้ไหมครับ พวกเรากำลังต้องการอาวุธอยู่พอดีเลย” ชายคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังเลือกของอยู่กล่าวกับราดิช
“พ่อหนุ่ม ข้าแนะนำว่าขายให้กับผู้เล่นโดยตรงเลยจะดีกว่านะ ข้าขี้เกียจรับมาแล้วต้องมานั่งขายอีกต่อหนึ่ง พวกเจ้าไปตกลงกันเองที่นอกร้านละกัน ข้าจะได้ขายของต่อ” ลุงแบล็คว่า พร้อมกับส่งของคืนให้ราดิช เขาก็เดินออกไปนอกร้านพร้อมคนกลุ่มนั้นเพื่อตกลงเรื่องสินค้ากัน
“ผมมีดาบเหล็กกล้าระดับ C ธนูเหล็กกล้าระดับ C โล่เหล็กกล้าระดับ C และก็เสื้อหนังระดับ C พวกคุณสนใจอะไรบ้างล่ะ” ราดิชบอกในสิ่งที่เขาขายได้ ซึ่งก็มีผู้เล่นหลายคนในกลุ่มนั้นสนใจและสอบถามราคา แน่นอนว่าราดิชก็ลดให้พวกเขานิดหน่อย ทำให้ขายหมดอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีคนหนึ่งถามขึ้นมาว่า
“แล้วดาบเล่มนั้นล่ะที่ชื่อดาบจู่โจม คุณขายหรือเปล่าครับ” ชายคนนั้นถาม
“อ้อ ไม่ขายหรอกครับ ผมเก็บไว้ใช้เองนะครับ” ราดิชตอบด้วยความสุภาพ
“ว้า เสียดายจังเลย ถ้ายังไงมีของดีๆ มาขายอีกก็ติดต่อพวกผมได้นะครับ” ชายคนนั้นยื่น
คำขอเป็นเพื่อนมา ทำให้รู้ว่าเขาชื่อ ฮาจังกรึม ราดิชก็ตอบตกลงแล้วบอกลาผู้เล่นกลุ่มนั้นเพื่อไปร้านขายยาต่อ พอไปถึงก็พบป้าไวท์กำลังขายของอยู่ราดิชจึงเข้าไปทักทาย และบอกจำนวนของที่ต้องการทันที
“นี่จ้า ตามที่พ่อหนุ่มต้องการ เรดโพชั่นขวดเล็ก 300 ขวด บลูโพชั่นขวดเล็ก 500 ขวด ทั้งหมดก็ 80,000 G พอดี” ป้าไวท์บอกราคา พร้อมหยิบยาออกจากลังส่งให้ราดิช
“ขอบคุณมากครับป้า นี่ครับเงิน” ราดิชโอนเงินให้ป้าไวท์และรับยามา จากนั้นก็กล่าวลาป้าไวท์และออกจากร้านขายยาไป แล้วจึงแวะไปที่ร้านขายอุปกรณ์ของเถ้าแก่อ้วนเพื่อซื้อเชือกมาผูกดาบจู่โจมอีกเล่ม
หลังออกจากร้านขายอุปกรณ์แล้ว เขาก็คิดว่าจะออกนอกเกมไปหาอะไรกิน เขาเล่นเกมเป็นเวลาถึงสามวัน เวลาข้างนอกคงผ่านไปได้สามชั่วโมงแล้ว เมื่อเขาดูเวลาก็พบว่านอกเกมเป็นเวลาเกือบบ่ายโมง แล้วเขาก็กะว่าจะโทรหาพี่ชายเพื่อคุยเรื่องในเกมด้วย เขาจึงตั้งดาบจู่โจมเป็นอาวุธรอง แล้วหาที่สงบในตรอกแถวๆ ร้านขายอุปกรณ์ออกจากเกมไปทันที
โอ๊คตื่นขึ้นและถอดหมวกเบรนแคปออกและบิดขี้เกียจไปมา จากนั้นก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าในห้องน้ำและเข้าไปที่ห้องครัว ก่อนจะเริ่มทำอาหารกลางวันกิน แน่นอนว่าเป็นข้าวไข่เจียวหมูสับเหมือนเคย เพราะเขาทำอาหารได้ไม่กี่อย่าง หลังจากอิ่มแล้วเขาก็ต่อโทรศัพท์หาพี่ชายทันที
“ฮัลโหล ว่าไงเจ้าตัวดี โทรมามีอะไรหรือเปล่า” พี่ชายเขาทักทายขึ้น
“พี่ว่างคุยหรือเปล่า ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ” โอ๊คถามพี่ชาย
“ตอนนี้พี่ก็ว่างอยู่ คุยได้ มีอะไรหรือเปล่า” พี่ชายบอกกลับมา
“อยากจะบอกว่าเกมที่พี่ให้เล่นสนุกมากเลยแหละพี่ สมจริงมากๆ เลย” จากนั้นราดิชก็เล่าเรื่องการผจญภัยต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเข้าเล่นเกม ได้ของจากกล่องปริศนา สู้กับราชาหมาป่า ราชากบเขียว ราชางูเขียวและสุดท้ายที่เผชิญกับสเกลเลตันคิงจนทำภารกิจสำเร็จได้
“แกนี่โชคดีนะ เปิดได้ของดีตั้งแต่เริ่ม ความจริงดาบโฟเทียยังไม่มีคนอื่นได้ไปเลย เพราะมันตกจากสัตว์อสูรชั้นจักรพรรดิ ระดับ 90 ที่โหดมากๆ ตอนนี้ยังไม่มีใครฆ่าได้เลยนะ ส่วนภารกิจที่แกทำได้ก็คงมีแต่คนบื้อๆ อย่างแกล่ะมั้งที่ทำสำเร็จ” พี่ชายพูดประชดโอ๊ค
“พูดซะเสียเลย ไม่ชมว่าผมเก่งมั่งเลยนะ” จากนั้นโอ๊คก็คุยเรื่องในเกมต่อและก็คุยเรื่องสัพเพเหระอีกหลายเรื่อง จนพี่ชายเขาบอกว่าต้องไปทำงานต่อ เขาจึงวางสายไป
“ทำอะไรต่อดี...หาข้อมูลเกมต่อดีกว่า” จากนั้นโอ๊คก็เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อหาข้อมูลของเกมต่อไปอีกสักพักใหญ่ เวลาเดียวกับตอนที่โอ๊คออกจากเกมมาและคุยกับพี่ชายนั้น ในเกมก็มีการเคลื่อนไหวของคนหลายกลุ่มเกิดขึ้น...
สำนักงานใหญ่กิลด์เทพประยุทธ์ เมืองโอคอน ทางตอนใต้ของทวีปอเมเนียน ที่ห้องทำงานของหัวหน้ากิลด์เทพประยุทธ์ ชายผู้หนึ่งรูปร่างใหญ่โต ผิวเกรียมไหม้จากแดด ตัดผมสั้นติดหนังตัว หน้าตาดุดันกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมืออยู่อย่างตั้งใจ
ก๊อกๆ ๆ
“ขออนุญาตครับ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับการมาของคนคนหนึ่ง
“เข้ามาได้” เสียงอันทรงอำนาดดังมาจากชายผู้นั่งอ่านเอกสารอยู่
“มีข่าวสารมารายท่านหัวหน้าครับ ไม่ทราบจะฟังเลยหรือเปล่าครับ” คนส่งข่าวสอบถาม
“มีอะไรก็ว่ามาเลยล่ะกันจะได้ไม่เสียเวลา” ชายหัวหน้ากิลด์บอก
“ตอนนี้ที่เกาะเริ่มต้นทวีปเอเชียมีข่าวลือเรื่องของคนที่ครอบครองไอเทมระดับสูงปรากฏตัวออกมา และมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเป็นยอดฝีมือคนใหม่ด้วยครับ จะให้เราทำอย่างไรดีครับ” คนส่งข่าวบอก
“หืม แล้วคนคนนั้นมีฝีมือดีรึเปล่า ถ้าเขาสามารถพัฒนาจนเป็นยอดฝีมือได้ก็ควรชวนเข้ากิลด์เรา ยังไงก็ส่งคนไปสืบประวัติและก็จับตาดูไปก่อนก็แล้วกัน” ชายหัวหน้ากิลด์สั่งงาน
“ทราบแล้วครับท่านทอรัส เดี๋ยวผมจะไปบอกให้สายข่าวเราจัดการตามที่สั่ง ผมขอตัวก่อนนะครับ” คนส่งสารคำนับให้ทอรัสและออกจากห้องไป ที่แท้ชายหัวหน้ากิลด์ผู้นี้คือ ทอรัส หัวหน้ากิลด์เทพประยุทธ์ และเป็นผู้เล่นยอดฝีมือลำดับ 1 ของเกมนั่นเอง ‘ถ้าคนคนนั้นมีฝีมือจริงก็ควรค่าแก่การมาอยู่ในกิลด์ของเรา’ ทอรัสคิดในใจอย่างสบายอารมณ์ แล้วก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารต่อไป
ห่างออกไปอีกฝากทางตะวันออกของทวีป สำนักงานใหญ่กิลด์ราชันสวรรค์ เมืองลาบัส ที่ลานกว้างของกิลด์ ในตอนนี้กำลังมีการฝึกซ้อมการประสานงานร่วมกันของสมาชิกกิลด์ที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่อยู่ ชายผู้หนึ่งสวมชุดเกราะสีขาวทั้งตัว ใบหน้าดูมีเค้าหล่อเหลาอยู่ไม่น้อย ผมยาวถูกมัดรวบไว้ ร่างกายกำยำแต่ไม่ใหญ่โตเกินไป กำลังทอดสายตาดูกลุ่มคนเหล่านั้นที่กำลังฝึกซ้อมกันอยู่ด้วยสายตาชื่นชม
“เรียนท่านอหิงสา มีข่าวจากสายของเรามารายงานครับ” คนส่งสารส่งเสียงให้ชายคนนั้นรู้ตัวจึงหันกลับไปมอง
“มีข่าวสารอะไรหรือ” ชายที่ชื่ออหิงสาถามคนส่งสาร
“ตอนนี้ที่เกาะเริ่มต้นทวีปเอเชียเริ่มมีข่าวเรื่องคนที่มีไอเทมระดับสูงปรากฏตัวออกมา ซึ่งมีโอกาสที่ในอนาคตจะกลายเป็นยอดฝีมือได้ จะให้เราดำเนินการอย่างไรดีครับ” คนส่งข่าวบอก
“เรื่องนี้เองเหรอ จับตาดูเขาไว้ก่อน ถ้าเขาเป็นคนดีมีคุณธรรมเราจะไปเจรจาและชวนเขาเข้ากิลด์ของเราเอง เราเชื่อว่าถ้าเขามีอุดมการณ์เดียวกับเราเขาต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรหรอก กาลเวลาจะเป็นสิ่งพิสูจน์เอง” อหิงสาบอก
“ทราบแล้วครับ ข้าน้อยขอตัวไปบอกเรื่องนี้กับสายของเราก่อน” คนส่งสารคำนับอหิงสาและถอยออกมาและเดินออกไปจากลานกว้างนี้ทันที
อหิงสาบ่นกับตัวเอง “ขอให้เขาเป็นคนที่คิดดีและมีอุดมการณ์เช่นเดียวกับเราทีเถอะ” และหันไปดูการฝึกซ้อมของสมาชิกกิลด์ต่อไป คนผู้นี้คือ อหิงสา หัวหน้ากิลด์ราชันสวรรค์ ยอดฝีมือลำดับ 2 ของเกม
และเวลาห่างจากนั้นไม่นาน สำนักงานใหญ่กิลด์ดาวดึงส์ เมืองฉางอาน ทางตอนกลางของทวีปอเมเนียน ห้องทำงานของหัวหน้ากิลด์ ชายผู้หนึ่งเค้าใบหน้าแหลม ร่างกายผอมใส่ชุดจอมยุทธ์จีนสีม่วงสดใส กำลังร่ายรำเพลงหอกที่สวยงามอยู่
“เรียนท่านหวังเฉา สายของเรามีข่าวมารายงานครับผม” เสียงเรียกจากนอกห้องดังขึ้น ชายคนนั้นหยุดร่ายรำเพลงทวนทันที
“มีเรื่องอันใดมาแจ้งเรา ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญเจ้าจะโดนลงโทษมิใช่น้อยเชียวนะ ไม่รู้หรือไงเรากำลังฝึกวิชาอยู่” ชายชุดม่วงบอกพร้อมกับเดินไปประตูให้คนส่งสาร
“ตอนนี้ที่เกาะเริ่มต้นทวีปเอเชียมีข่าวว่าพบคนที่ครอบครองไอเทมระดับสูง และมีฝีมือสูงมากในหมู่ผู้เล่นใหม่ และมีโอกาสที่เขาจะกลายเป็นยอดฝีมือในอนาคตอันใกล้นี้ จะให้เราจัดการกับคนผู้นั้นอย่างไรดีครับ” คนส่งสารบอก
“หืม มีคนมีฝีมือเพิ่มมาหรือ เจ้าจงสั่งการไปให้จับตาดูไปก่อน ถ้าเขามีฝีมือก็ลองชักชวนเขาดู แต่ถ้าเขาปฏิเสธก็ดูเหตุผลเขาด้วย อย่าเพิ่งไปบังคับ เราไม่ชอบฝืนใจใคร” หวังเฉาบอก
“ทราบแล้วครับ ข้าน้อยขอลาไปแจ้งข่าวแก่สายของเราก่อน” คนส่งสารคำนับหวังเฉาและล่าถอยออกไปเพื่อจัดการงานที่ได้รับมอบหมาย
“คนมีฝีมืออีกแล้วหรือ เราชอบ ฮิฮิ” หวังเฉาพูดกับตัวเองและปิดประตูห้องลงจากนั้นก็กลับไปร่ายรำเพลงหอกต่อไป ชายผู้นี้คือหวังเฉา หัวหน้ากิลด์ดาวดึงส์ ยอดฝีมือลำดับ 3 นั่นเอง
ขณะที่ทุกกิลด์เริ่มมีความเคลื่อนไหวในเกม โอ๊คที่หาข้อมูลได้เยอะพอสมควรจึงเตรียมเข้าสู่เกมอีกครั้ง ครั้งนี้เขากะว่าจะเล่นยาวสัก 5-6 ชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงครึ่งแล้ว ตื่นมาจะได้กินข้าวเย็นพอดี จากนั้นเขาก็สวมเครื่องเบรนแคปและนอนลง แล้วเขาก็เข้าสู่เกมอีกครั้งหนึ่ง
