บท
ตั้งค่า

บทที่ 23 ตะลุยทวีปอเมเนียน

โอ๊คที่ออกจากเกมมา ก็ถอดเครื่องเบรนแคปออก และค่อยๆ ลุกขึ้นบิดลำตัวให้หายเมื่อย จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนชุดเพื่อไปวิ่งออกกำลังกายรอบหมู่บ้านเหมือนทุกๆ วัน

โอ๊คที่วิ่งออกกำลังกายเสร็จกลับมาก็อาบน้ำแต่งตัวและทำอาหารเช้ากิน วันนี้เขาทำผัดผักรวมมิตรและไข่เจียวหมูสับอาหารหลัก หลังจากที่กินเสร็จแล้ว เขาก็ขึ้นห้องนอนและเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อหาข้อมูลเกมต่อว่าจะไปเก็บระดับที่ไหนดี

ตอนนี้ราดิชอยู่ที่เมืองฮาร์เบอร์ ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของทวีปอเมเนียน แหล่งเก็บระดับที่นิยมมากที่สุดคือ ดันเจี้ยนเมืองฮาร์เบอร์ที่อยู่ทางเหนือของเมือง มันเป็นดันเจี้ยนประจำเมืองที่มีสัตว์อสูรประเภทเห็ดระดับ 40 – 50 อาศัยอยู่ และเกือบทุกเมืองจะมีดันเจี้ยนประจำเมืองอยู่เช่นเดียวกัน

รองลงมาคือดินแดนร้างและรังมด เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง มีสัตว์อสูรจำพวกมดระดับตั้งแต่ 40 - 50 อยู่เป็นจำนวนมากเหมือนกัน และอีกที่คือทุ่งมรณะ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ที่นี่มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าสลับกับที่ต่ำน้ำท่วมขัง มีสัตว์อสูรหลายจำพวก ตั้งแต่เห็ด แมงมุม โกเล็ม ต้นไม้ ทำให้ที่นี่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรเพราะจัดปาร์ตี้มาสู้ลำบากต่างจากอีกสองที่ข้างบน โอ๊คดูข้อมูลแล้วตัดสินใจว่าจะไปทุ่งมรณะดีกว่า เขาคิดว่าน่าจะจัดการได้ไม่ยากเท่าไรนัก

หลังจากอัพเดตแพทช์ ทักษะตรวจสอบนั้นพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อนที่เห็นแค่ชื่อ ระดับและพลังชีวิตของสัตว์อสูร แต่ในตอนนี้นั้นมันจะบอกรายละเอียดของสัตว์อสูรด้วยว่าแพ้อะไรหรือต้านทานอะไรด้วย ทำให้โอ๊คคิดว่ามันเริ่มเป็นทักษะที่มีประโยชน์ขึ้นมาบ้าง และยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง

อย่างเรื่องการโจมตีเข้าจุดตายนั้น ในเกมนี้ต่อให้มีพลังชีวิตที่มากแค่ไหน แต่ถ้าโดนโจมตีใส่จุดตายก็จะตายได้แทบจะในทันที กลับกันถ้าโจมตีไม่โดนจุดตายละก็ จะเป็นแค่การลดพลังชีวิตเท่านั้น ส่วนวิธีป้องกันนั้นนอกจากหลบแล้ว ก็ต้องหาเครื่องป้องกันต่างๆ มาป้องกันที่จุดตายเอาเอง

หรือเรื่องสถานะผิดปกติต่างๆ อย่างเช่นสถานะสลบ ที่เกิดจากการโดนโจมตีแรงๆ หรือถูกกระแทกที่ศีรษะ หรืออาจเกิดขึ้นได้จากการใช้พลังมานาออกไปในคราวเดียว ซึ่งสถานะสลบนี้ถือว่าอันตรายเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีสถานะผิดปกติอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นสถานะอัมพาตที่จะทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ สถานะมึนงงที่ทำให้เห็นดาวเต็มฟ้า สถานะติดพิษที่ทำให้พลังชีวิต หรือค่าสถานะต่างๆ ลดลงตามชนิดของพิษ สถานะหน้ามืดที่เกิดจากการเสียเลือด หรือพลังมานา มากกว่าหนึ่งในสี่ทันที สถานะชาที่ทำให้ความรู้สึกและความเร็วช้าลง สถานะแช่แข็งที่ตัวเราจะโดนแช่กลายเป็นแท่งน้ำแข็งไป และยังมีสถานะผิดปกติอีกหลายอย่างที่น่ากลัวอยู่เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ด้วยหาเครื่องประดับที่ความสามารถป้องกันสถานะใส่ หรือใช้ทักษะป้องกันของพวกนักบวช

ยังมีเรื่องการแชร์ค่าประสบการณ์กับสัตว์เลี้ยงหรืออาวุธ จะคิดแค่ตอนสู้กับสัตว์อสูรเท่านั้น ไม่นับที่ได้จากภารกิจแต่อย่างใด ทำให้เขาหายกังวลไปได้เยอะที่ไม่ต้องมานั่งคอยปรับเวลาที่รับรางวัลภารกิจ หลังจากหาข้อมูลมาพักใหญ่ โอ๊คก็ดูเวลาพบว่าตอนนี้ก็เกือบ 9 โมงเช้าแล้ว เขาจึงจัดการสวมเบรนแคปและเข้าเกมไป

เขามาปรากฏตัวขึ้นที่เดิม คือข้างๆ โรงแรมที่เขาพักนั่นเอง ตอนนี้เป็นเวลาเช้ามืดพอดีในเกม ราดิชเรียกปิกามอนออกมา ดูเหมือนมันจะดีใจมาก

“คิดถึงเจ้านายจังเลย” ปิกามอนร้องเสียงดังและกระโดดกอดราดิช

“รู้แล้วๆ เดี๋ยวอัญเชิญอาธูเรียก่อนนะ” ราดิชว่าและร่ายเวทอัญเชิญอาธูเรียออกมา

“วันนี้เราจะไปไหนกันดี นายท่าน” อาธูเรียที่มาถึงก็ถามราดิชขึ้น

“ว่าจะไปทุ่งมรณะน่ะ แต่เดี๋ยวเราไปภัตตาคารกันก่อนแล้วค่อยเตรียมตัวออกเดินทางกัน” ราดิชบอกและพวกเขาก็ยกขบวนไปที่ภัตตาคารประจำเมือง แล้วต่างก็ลงมือสั่งอาหารกันหลายอย่าง แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

“นายท่านอยากเปลี่ยนอาชีพเป็นนักดาบสายเวทหรือ” อาธูเรียถามขึ้น

“ใช่ ผมคิดว่ามันน่าจะผจญภัยได้ดีกว่าเป็นแค่นักดาบหรืออัศวินล่ะนะ” ราดิชตอบกลับ

“เท่าที่ข้ารู้ มันต้องใช้ทักษะชำนาญเวทสูงมากเลยนะนายท่าน ข้าว่าท่านจะต้องเพิ่มทักษะชำนาญเวทของท่านหน่อยแล้ว ถึงตอนนี้มันจะระดับ 75 แล้วก็เถอะ” อาธูเรียแนะนำราดิช เขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไรที่อาธูเรียจะรู้ว่าเขามีทักษะอะไรบ้าง

ราดิชยิ้มและกล่าวว่า “ผมคิดว่าระหว่างเดินทางไปทุ่งมรณะจะเก็บทักษะชำนาญเวทเพิ่มอยู่พอดี สัตว์อสูรนอกเมืองเป็นพวกเห็ดยักษ์ระดับ 35 ที่ไม่โจมตีก่อนน่ะ” และมองออกไปที่ถนนใหญ่ที่ตอนนี้เริ่มมีผู้คนออกมาเดินกันมากขึ้น

พออาหารยกมาถึง พวกเขาก็ลงมือกินกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้สนรอบด้านเลยว่าเริ่มมีคนให้ความสนใจพวกเขาแล้ว หลังจากที่กินเสร็จราดิชก็จ่ายเงินและสั่งอาหารเพิ่มอีกหลายชุด เพื่อเป็นเสบียงสำรอง เพราะนี่อาจจะเป็นการเดินทางไกลก็เป็นได้

หลังออกจากภัตตาคารราดิชก็มุ่งหน้าไปที่อาคารภารกิจ เพื่อรับภารกิจที่เกี่ยวกับทุ่งมรณะ และเขาก็รับภารกิจมาสามอัน หลังจากนั้นก็ไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาเพิ่มพลังขวดใหญ่จำนวนมาก และเลยไปร้านขายอุปกรณ์เพื่อซื้ออุปกรณ์ยังชีพเพิ่ม งานนี้เขาหมดเงินไปเยอะเลยทีเดียว

พวกเขาเดินทางออกจากเมืองเมื่อเริ่มสาย โดยออกทางประตูทิศตะวันออกของเมือง เดินไปตามทุ่งหญ้าที่มีสัตว์อสูรเห็ดยักษ์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พวกมันมีรูปร่างเป็นเห็ดสีน้ำตาลตัวใหญ่ มีแขนขาเดินได้เหมือนคน

ราดิชใช้มันเป็นเป้าในการเก็บทักษะต่างๆ โดยยิงศรไฟเข้าไปก่อน พอมันเข้ามาใกล้ก็ระดมโจมตีมันด้วยหมัดและเท้าเพื่อเก็บทักษะไปในตัวด้วย เขาทำแบบนี้ไปตลอดการเดินทาง จนเวลาล่วงเลยไปจนเที่ยงราดิชจึงหยุดพักเพื่อกินข้าวเที่ยงกัน โดยเขาเอาอาหารที่สั่งออกมาแจกจ่ายเพื่อประหยัดเวลา

“อีกไกลไหมเจ้านาย กว่าจะถึงที่เก็บระดับน่ะ” ปิกามอนถามขึ้น

“เดินอีกสักสองสามชั่วโมงก็ถึงแล้ว ทุ่งมรณะมันอยู่ค่อนข้างไกลน่ะ” ราดิชดูเปิดแผนที่ขึ้นมาดูและบอกมัน พวกเขาก้มหน้าก้มตากินกัน หลังจากเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อ เวลาผ่านไปอีกราวๆ สองชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาสถานที่แห่งหนึ่งจนได้

มันเป็นที่ลุ่มสลับกับทุ่งหญ้า มีก้อนหินขนาดใหญ่และต้นไม้ที่ยืนต้นตายอยู่ให้เห็นเป็นระยะๆ เห็นสัตว์อสูรเห็ดยักษ์ตัวสีออกม่วงเขียว กับต้นไม้หน้าตาแปลกๆ อยู่กระจัดกระจาย ราดิชตรงเข้าไปหาเห็ดยักษ์ตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด เขาชักดาบโฟเทียออกมาและผนึกพลังใส่ไป แล้วจัดการยิงศรไฟใส่มันก่อน ศรไฟอัดเข้าเต็มหลังของมัน เจ้าเห็ดยักษ์หันกลับมาหาราดิชและร้องเสียงดัง พร้อมกับมีเสียงจากระบบดังขึ้น

-สัตว์อสูรเห็ดพิษยักษ์ระดับ 40 เตรียมโจมตี

มันกระโดดดึ๋งๆ ตรงเข้ามาหาราดิชพร้อมทั้งพ่นพิษใส่เขาไปด้วย เขาตกใจที่มันพ่นพิษได้แต่ก็หลบได้ไม่ยาก พอมันเข้ามาใกล้เขาก็พุ่งเข้าไปฟันใส่มันทันที ดาบนั้นฟันโดนลำตัวของมันเต็มๆ จนผงะไป มันตั้งหลักได้และพุ่งเข้าหาราดิชอีกครั้ง พร้อมเหวี่ยงหมัดใส่เขา ราดิชเบี่ยงตัวหลบได้อย่างสบาย และตวัดดาบฟันใส่มันเข้าที่ลำตัว แต่ว่าเจ้าเห็ดก็มีฝีมือใช่ย่อยมันกระโดดหนีไปได้หวุดหวิด

ราดิชเห็นว่ามันหลบออกไป เลยยิงศรไฟตามไป แต่คราวนี้เจ้าเห็ดเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว มันกระโดดหลบศรไฟลูกนั้นไปได้ และพ่นพิษสวนกลับใส่ราดิช เขาหลบพิษที่พ่นมานั้นได้อย่างง่ายดาย และพุ่งเข้าประชิดตัวมันอย่างรวดเร็ว เจ้าเห็ดเห็นแบบนั้นก็ต่อยใส่เขา แต่ราดิชเบี่ยงตัวหลบฟันใส่อย่างรุนแรงด้วยทักษะซอร์ดสไตร์คเข้าเต็มลำตัวจนมันชะงักไป เขาพลิกดาบเตรียมฟันซ้ำ แต่เจ้าเห็ดก็พ่นพิษใส่เขาในระยะประชิด ทำให้ราดิชต้องใช้ก้าวพริบตาหลบออกมา

หลังจากที่หลบออกมา เขาก็ใช้ก้าวพริบตาอีกครั้งไปโผล่ที่ด้านหลังมัน ตอนนี้เจ้าเห็ดยังยืนงงอยู่ว่าคู่ต่อสู้ของมันไปไหน ราดิชที่อยู่ด้านหลังก็ตวัดดาบขึ้นฟันใส่อย่างรุนแรงด้วยทักษะซอร์ดสไตร์คอีกครั้ง ดาบนี้ฟันเข้าเต็มหลังของมันอย่างแรง มันกระเด็นไปข้างหน้าและล้มลง ค่อยๆ กลายเป็นแสงหายไป เหลือไว้แต่กองไอเทมที่ปิกามอนพุ่งเข้าไปเก็บ

“เจ้าเห็ดนี่ไวใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย ประมาทไม่ได้เลย” ราดิชว่า แล้วเขาก็เดินหาเหยื่อรายที่สอง คราวนี้เขาลองเข้าไปใกล้ๆ เจ้าต้นไม้แปลกๆ นั่น ก็พบว่ามันเป็นต้นไม้ปกติ เพียงแต่ว่ามันมีกิ่งที่งอกมาเป็นแขนขนาดใหญ่อยู่สองข้าง และมีรากเป็นขาขนาดใหญ่ไม่ได้ติดอยู่กับพื้น เขาลองยิงศรไฟใส่มันดู ศรไฟเข้าเป้าหมายเต็มๆ เจ้าต้นไม้ถึงกับผงะไปตามแรงระเบิด เมื่อตั้งตัวได้มันก็วิ่งปรี่เข้าหาราดิชด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก พร้อมกับเสียงประกาศจากระบบ

-สัตว์อสูรต้นไม้พิษระดับ 45 เตรียมจู่โจม

ราดิชพุ่งทะยานเข้าหามันเช่นเดียวกัน พอเข้าประชิดตัวได้ เขาก็ตวัดดาบฟันใส่ลำต้นของมันอย่างรวดเร็ว แต่ทว่ามันกลับยกแขนมากันดาบของราดิชไว้ได้ เสียงเหมือนกับโลหะปะทะกัน แขนของมันแข็งแกร่งมากทีเดียว เขาจึงหลบออกข้าง และเหวี่ยงดาบฟันใส่ที่ลำต้นของมันทันทีด้วยทักษะซอร์ดสไตร์ค

เจ้าต้นไม้ยังใช้แขนกันไว้ได้ แต่ว่าตัวมันก็เซไปตามกระแทก ราดิชไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป เขาเงื้อดาบและฟันใส่มันอย่างรวดเร็วหลายทีติด แน่นอนว่าคราวนี้มันกันไม่ได้ ทำให้ลำตัวของมันโดนฟันเข้าไปหลายแผล พอมันตั้งตัวได้มันก็เหวี่ยงแขนใส่ราดิช ทำให้เขาต้องดีดตัวออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ราดิชถอยมาตั้งหลัก และคิดในใจเพื่อหาทางรับมือ ‘เจ้านี่ก็มีแขนที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าจำไม่ผิดมันน่าจะแพ้ไฟนี่ ลองดูดีกว่า’ ว่าแล้วเขาก็ยิงศรไฟใส่เจ้าต้นไม้ไปอีกหนึ่งดอก ศรไฟปะทะลำต้นของมันอย่างจังในคราวนี้ และเกิดการลุกไหม้ขึ้นมาด้วย มันพยายามดับไฟ แต่ราดิชใช้โอกาสนี้พุ่งเข้าหามันอย่างรวดเร็ว พอเข้าประชิดตัวได้เขาก็ฟาดดาบลงบนตัวมันและระเบิดพลังออกไปด้วยทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรก

เปลวไฟระเบิดออกไปอย่างรุนแรง ทำให้เจ้าต้นไม้พิษถึงกับกระเด็นไปและมีไฟไหม้หลายแห่ง ราดิชพุ่งตามต่อไปติดๆ และตวัดดาบฟันใส่ลำตัวของมันอย่างถี่เร็ว มันพยายามใช้แขนปัดป้องอย่างสุดความสามารถ แต่ในที่สุดก็ต้องกลายเป็นแสงหายไปจนได้ เหลือไว้แต่กองไอเทมให้ปิกามอนเก็บไปอย่างรวดเร็ว

ราดิชหยุดพักและประเมินผลการต่อสู้ในรอบนี้ “เจ้านี่จัดการไม่ยากเท่าไร ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็แพ้ไฟสุดๆ” เขาพอจะรู้มาจากอาจารย์ว่าสัตว์อสูรประเภทพืชส่วนใหญ่จะแพ้การโจมตีด้วยไฟเป็นพิเศษ

ราดิชหันไปหาอาธูเรียที่เดินตามอยู่ไม่ไกลและขอร้องเธอ “อาธูเรียจ๋า เดี๋ยวช่วยข้าน้อยเก็บระดับด้วยนะจ๊ะ สัตว์อสูรแถวนี้คงไม่คณามือท่านอาธูเรียผู้งามเลิศในสามภพใช่ไหม” เป้าหมายของเขาคืออยากให้อาธูเรียช่วยเก็บระดับ

“ไหนว่านายท่านจะฝึกฝนตนเองไงล่ะ ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากให้ข้าช่วยขึ้นมาละเนี่ย” อาธูเรียถามพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“มันก็ใช่อยู่หรอก แต่ตอนนี้ระดับของผมสำคัญกว่านะ ลองคิดดูสิ ถ้าผมระดับสูงๆ ก็สามารถไปที่โหดๆ ได้ แล้วจะได้ทำภารกิจของอาธูเรียได้สบายขึ้นด้วยไง” ราดิชยกเหตุผลต่างๆ นานามาอ้าง

“ก็ได้นะนายท่านของข้า ถ้าทำให้ท่านระดับสูงไวๆ ก็ดีเหมือนกัน” อาธูเรียตกลงรับปาก จากนั้นเธอก็ร่ายเวท เปลี่ยนไปใส่ชุดเกราะเต็มยศเตรียมลุย

ราดิชที่เห็นเธอเปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็ชี้มือไปด้านหนึ่งและพูดว่า “อาธูเรียไปด้านโน้นนะ เดี๋ยวตรงนี้ผมกับปิกามอนจัดการเอง” ราดิชแบ่งพื้นที่ให้เรียบร้อย อาธูเรียก็เดินไปหาเจ้าพวกเห็ดพิษยักษ์ และต้นไม้พิษกลุ่มหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลออกไป แล้วก็เริ่มลงมือสังหารหมู่พวกมันอย่างรวดเร็ว

กี้!!! ก๊าซ!!! กี้!!!!

เสียงร้องโหยหวนของเหล่าเห็ดและต้นไม้ดังมาเป็นระยะๆ ราดิชที่ตั้งหน้าตั้งตาจัดการพวกมันถึงกับหนาวไปถึงทรวงเหมือนกัน เมื่ออาธูเรียเล่นไล่จัดการพวกมันจนเรียบ ตลอดเวลาที่เหลือของบ่ายนั้น ราดิชและอาธูเรียตระเวนจัดการพวกเห็ดพิษยักษ์และต้นไม้พิษที่อยู่รอบนอกของบึงมรณะอย่างขยันขันแข็ง โดยราดิชนั้นใช้ทั้งเวทและมือเปล่าไปด้วยเพื่อเก็บทักษะ

ตะวันคล้อยต่ำจนเกือบตก ราดิชก็เลิกเก็บระดับและเดินไปตามอาธูเรียที่อยู่ห่างออกไป พอเข้าไปถึงก็พบว่าเธอเพิ่งจัดการต้นไม้พิษต้นหนึ่งไป

“เป็นไงบ้างอาธูเรีย เหนื่อยหรือเปล่า” ราดิชเอ่ยปากถามขึ้น

อาธูเรียที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จก็หันมาหาคุยกับเขา “ไม่เหนื่อยเท่าไรหรอกนายท่าน แต่วันนี้คงต้องกินเยอะหน่อย เพราะออกแรงไปมากเหมือนกัน” ราดิชที่ได้ฟังก็หัวเราะออกมา

“ไม่มีปัญหาหรอก ท่านอาธูเรียผู้งามเลิศในสามภพ ได้ตามที่ท่านบัญชาขอรับ” ราดิชว่า และทำท่าโค้งคำนับแบบอัศวิน อาธูเรียก็ขำกับการกระทำของเขาเหมือนกัน

“นี่ก็เย็นแล้ว เราไปหาที่พักกันก่อนดีกว่า” ราดิชกล่าวกับอาธูเรีย พวกเขาเดินหาที่พักจนได้ที่ว่างใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เขาเริ่มลงมือกางเต็นท์ และเริ่มเอาอาหารที่ซื้อไว้ขึ้นมาแจกจ่าย โดยให้อาธูเรียไปเยอะเป็นพิเศษตามคำขอ

‘สงสัยว่าเดี๋ยวกินเสร็จคงไปล่าสัตว์อสูรต่ออีกซักหน่อยจะดีกว่า’ ราดิชคิดในใจ หลังจากที่พวกเขากินกันเสร็จแล้ว ราดิชก็ก่อกองไฟขึ้นและเอาตะเกียงมาแขวนไว้ที่หน้าเต็นท์ อาธูเรียรับหน้าที่เฝ้าเต็นท์ไว้ ส่วนเขากับปิกามอนออกไปตีเห็ดพิษยักษ์กับต้นไม้พิษแถวนี้ต่ออีกสักพัก

หลังจากเก็บระดับกันต่ออีกพักจนฟ้ามืดแล้วใน Fate Online นั้น ตอนกลางคืนไม่ได้มืดสนิทเสียทีเดียว แต่จะมีความสว่างประมาณครึ่งหนึ่งของเวลาเช้ามืด ทำให้ยังพอมองเห็นได้แต่ไม่ถนัดเท่าใดนัก ราดิชที่เห็นว่าเริ่มมองไม่ชัดก็กลับมาที่เต็นท์ และเริ่มเช็กไอเทมที่ได้และดูหน้าต่างข้อมูลว่าวันนี้เขาพัฒนาไปเท่าไรแล้ว

-ท่านสังหารสัตว์อสูรเห็ดยักษ์ระดับ 35 จำนวน 160 ตัว ได้ค่าประสบการณ์ 640,000

-ท่านสังหารสัตว์อสูรเห็ดพิษยักษ์ระดับ 40 จำนวน 178 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 890,000

-ท่านสังหารสัตว์อสูรต้นไม้พิษระดับ 45 จำนวน 150 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 1,200,000

-ท่านได้รับค่าประสบการณ์รวม 2,730,000

-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 39

-ทักษะชำนาญเวทเพิ่มเป็นระดับ 90 -ทักษะต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพิ่มเป็นระดับ 85

-ท่านได้รับเงินทั้งหมด 1,368,442 G

“ให้ค่าประสบการณ์ดีเหมือนกันเจ้าพวกนี้” ราดิชว่า จากนั้นเขาก็ดูไอเทมที่ได้มา โดยส่วนใหญ่เป็นหนังสัตว์ แร่ตะกั่ว แร่ทองแดง ผงเห็ด และได้มีดสั้นระดับ B 5 เล่ม ผ้าคลุมระดับ C อีก 8 ผืน เจ้าพวกนี้ถือว่าตกของพอใช้ได้อยู่เหมือนกัน

“ข้าขอตัวก่อนนะนายท่าน เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ” อาธูเรียกล่าวลาราดิชและหายตัวไปในทันที เขาก็ไมได้ว่าอะไร ราดิชเปิดดูข้อมูลต่างๆ ของที่นี่เพื่อหาสัตว์อสูรตัวต่อไปที่จะสู้ด้วย และพบว่าถ้าเดินลึกเข้าไปอีกจะเจอกับโกเล็มหินผุที่มีระดับสูงกว่านี้ เขาดูข่าวอีกสองสามเรื่องจนดึก ก็ได้เวลาเข้านอน ราดิชอุ้มเจ้าปิกามอนเข้าไปในเต็นท์และเข้านอนพร้อมกับมันจนหลับไปในที่สุด

เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง ราดิชก็ตื่นแต่เช้าขึ้นมาล้างหน้าและเริ่มทำการเก็บเต็นท์ จากนั้นก็อัญเชิญอาธูเรียออกมาตามปกติ และเริ่มแจกจ่ายเสบียงอาหารเช้าให้อาธูเรียกับปิกามอน พวกเขานั่งกินข้าวเช้าไปคุยกันไปถึงเรื่องการเดินทางในวันนี้

“วันนี้นายท่านจะเข้าไปลึกกว่านี้หรือเปล่า” อาธูเรียถามขึ้นหลังจากรับกล่องข้าวไป

ราดิชส่งกล่องข้าวอีกกล่องไปให้ปิกามอนเสร็จก็ตอบกลับว่า “คงเข้าไปแถวที่มีโกเล็มหินผุ ที่มันให้ค่าประสบการณ์มากกว่านี้น่ะ”

“แล้วมันอยู่ไกลไหมล่ะเจ้านาย” ปิกามอนถามขึ้นมาบ้าง ราดิชเปิดแผนที่ขึ้นมาดูก่อนตอบว่า “เดินอีกไม่น่าจะเกินครึ่งวันคงถึงที่ที่โกเล็มหินผุอาศัยอยู่กันน่ะ”

“แล้วระหว่างทางจะตีสัตว์อสูรด้วยหรือเปล่า” อาธูเรียถามขึ้นมาบ้าง

“ผมคิดว่าคงเร่งเดินทางเข้าไปให้ถึงที่นั่นก่อนนะ แล้วค่อยปักหลักเก็บระดับกันทีเดียว” ราดิชบอกอาธูเรีย หลังจากนั้นพวกเขาก็ลงมือกินข้าวกันอย่างรวดเร็ว

พอกินข้าวเช้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อ โดยมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่โกเล็มหินผุอาศัยอยู่ พวกเขาเดินผ่านเจ้าพวกเห็ดพิษยักษ์ ต้นไม้พิษไป หลังจากใช้เวลาเดินทางไปสองสามชั่วโมงก็เริ่มพบว่าทุ่งหญ้าเริ่มน้อยลง แต่เป็นที่ชื้นแฉะมีน้ำขังมากขึ้น

ตอนนี้ราดิชเดินลึกเข้ามามาก พื้นที่แถวนี้ไม่ใช่ทุ่งหญ้าเหมือนตอนแรกแล้ว แต่เป็นพื้นที่ต่ำมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจุดๆ เขาเห็นสัตว์อสูรที่เขาคิดว่าเป็นโกเล็มหินผุ มันมีลักษณะใหญ่โตพอๆ กับโกเล็มดินที่เคยสู้ เพียงแต่ว่าตัวมันทำด้วยหินที่มีลักษณะปุพรุนไปด้วยรูเต็มไปหมด ราดิชลองใช้ทักษะตรวจสอบเพื่อหาจุดอ่อนของมันดู

-สัตว์อสูร โกเล็มหินผุ ระดับ 48

พลังชีวิต 8,000/8,000

(โกเล็มที่ทำจากหินจึงมีความแข็งแกร่งระดับหนึ่ง แพ้การโจมตีด้วยลม ทนต่อการโจมตีกายภาพ)

‘แพ้ลมอย่างนั้นเหรอ แต่พลังชีวิตมันเยอะจริงๆ ให้ตายสิ’ ราดิชคิดในใจ และเริ่มคิดหาวิธีจัดการกับเจ้าโกเล็มหินผุอย่างสบายๆ อยู่ พอคิดได้ก็ลงมือทันที เขาหาตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดและยิงศรลมเข้าใส่มัน ศรลมพุ่งเข้าเป้าอย่างแม่นยำ มันหันกลับมาเผชิญหน้ากับราดิช พร้อมเสียงประกาศจากระบบดังขึ้น

-สัตว์อสูรโกเล็มหินผุระดับ 48 เตรียมโจมตี

ราดิชเห็นว่ามันเคลื่อนไหวช้าเลยยิงศรลมใส่มันอีกหลายที ตอนแรกราดิชคิดว่าจะหมูๆ แต่มันกลับร่ายเวทโจมตีสวนใส่เขา ปรากฏวงเวทสีเขียวที่บอกถึงธาตุลม ราดิชที่ยังไม่ได้ทันทำอะไรก็ต้องกระโดดหลบโดยพลัน พื้นดินตรงที่เขาเคยอยู่เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่พอสมควร เขาคิดว่าถ้าโจมตีระยะไกลใส่ มันก็จะยิงเวทสวนได้ คิดได้ดังนั้นก็พุ่งเข้าประชิดตัว และเงื้อดาบฟันมันหลายทีอย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลย เขารีบดีดตัวออกมาก่อน และใช้ทักษะมาเจสตี เพื่อเพิ่มความสามารถให้ตัวเองก่อน จากนั้นเขาก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเข้าไปฟัน หมายตัดแขนมัน แต่พอราดิชเข้ามาใกล้มันก็ฟาดแขนลงทุบเขาทันที เขาเบี่ยงตัวหลบได้ทันและบิดเอวเหวี่ยงดาบพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คฟันเข้าซอกรักแร้ของมันด้วยความรวดเร็ว

แต่ว่ามันกลับพลิกตัวเข้าปะทะกับดาบของราดิช ทำให้รอดพ้นจากการแขนขาดไปได้ แต่ดูเหมือนว่าลำตัวของมันจะโดนฟันจนหินหลุดไปเหมือนกัน เขาถอยกลับออกมาก่อนที่มันจะยกแขนขึ้นฟาดเขา

‘ลองเคลื่อนที่ยิงศรลมไปมา และค่อยเข้าประชิดตัวตอนมันเผลอท่าจะดีกว่า’ ราดิชคิดในใจ และเริ่มยิงศรลมใส่มันอย่างรวดเร็ว เขายิงศรลมไปหนึ่งดอกก็เคลื่อนที่ไปและยิงอีกดอกหนึ่ง ทำให้เจ้าโกเล็มหินผุไม่สามารถร่ายเวทตามได้ทัน มันเริ่มเดินเข้าหาราดิชเพื่อที่จะเข้ามาทุบเขาให้แบนติดดิน

‘ยอมเดินเข้ามาแล้วเหรอ หึหึ’ ราดิชคิดในใจ เขารอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว เมื่อมันเดินเข้าหาเขา มันก็จะไม่ร่ายเวท เขาใช้ก้าวพริบไปโผล่ตรงหน้ามันอย่างรวดเร็ว และเงื้อดาบขึ้นฟันใส่มันพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์ค มันโดนฟันเข้าเต็มอกจนหินกระจาย เขารีบกระหน่ำแทงใส่จุดที่หินแตกกระจายอยู่อย่างรวดเร็ว พอมันตั้งตัวได้ก็หวดแขนซ้ายใส่เขา ราดิชจึงต้องดีดตัวถอยหลบออกมาก่อน

พอหลบออกมาได้เขาก็ตวัดดาบปล่อยคลื่นดาบออกไปติดๆ กัน ทำให้โกเล็มหินผุที่เพิ่งตั้งตัวได้ถึงกับผงะไปอีกครั้ง คราวนี้ราดิชใช้ก้าวพริบตาไปโผล่ด้านและฟันใส่มันด้วยทักษะซอร์ดสไตร์คอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง

มันโดนฟันจนหินกระจาย เผยให้เห็นแกนพลังที่อยู่ด้านในจนได้ ราดิชรีบระดมแทงใส่แกนพลังนั้นอย่างรวดเร็ว มันพยายามตอบโต้แต่เขาก็ชิงถอยออกมาแล้วเข้าไปแทงซ้ำเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็จัดการมันได้

‘เจ้านี่อึดเหมือนกัน เล่นด้วยยากจริงๆ สงสัยคงต้องใช้ระเบิดช่วยแล้วสิ’ ราดิชที่ยืนหอบแฮ่กและคิดในใจ

“นายท่านทำไมอ่อนจริงเลย กว่าจะฆ่ามันได้เสียเวลาตั้งนาน” อาธูเรียพูดขึ้นมา ทำให้ราดิชตกใจพลางคิดในใจว่า ‘นี่ตัวเราอ่อนขนาดนั้นเลยเหรอ’

“แล้วเธอจัดการได้เร็วกว่าผมเหรอยังไงกัน” ราดิชถามกลับ เขามั่นใจว่าอาธูเรียไม่น่าจะจัดการได้เร็วกว่าเขาเป็นแน่ เพราะเจ้าโกเล็มหินผุพวกนี้ทนการโจมตีกายภาพมาก

อาธูเรียเบ้ปากก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “แค่โกเล็มอ่อนๆ เนี่ยนะ ทีเดียวก็ตายแล้ว” ไม่พูดเปล่า อาธูเรียเดินเข้าไปหาโกเล็มหินผุอีกตัวที่อยู่ไม่ไกล ทันใดนั้นเองเธอก็ตวัดดาบส่งคลื่นพลังใส่มันอย่างรวดเร็ว

ตูม!!!!

เจ้าโกเล็มหินผุระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ในการโจมตีครั้งเดียว เหลือทิ้งไว้แต่ไอเทม ทำให้ในตอนนี้นั้นราดิชยืนอ้าปากค้างไปแล้ว

“เป็นไปได้ยังไงกัน ทีเดียวตายเลย” ราดิชอุทานอย่างตกใจ

“ก็มันแพ้ลมไม่ใช่เหรอไง ดาบของข้าโจมตีเป็นธาตุลมได้นะนายท่าน อย่าลืมไปสิ” อาธูเรียตอบพลางยักคิ้วกวนๆ ส่งให้เขา

“จริงด้วยสิ ดาบเล่มนั้นโจมตีด้วยธาตุลมได้นี่นา” ราดิชเข้าใจแล้วว่าทำไมอาธูเรียถึงจัดการโกเล็มหินผุได้ในการโจมตีครั้งเดียว ราดิชที่เห็นว่าอาธูเรียจัดการโกเล็มหินผุได้ง่ายๆ ก็หวังพึ่งเธอในงานนี้ จึงรีบใส่ลูกยอทันที “สมแล้วที่เป็นท่านอาธูเรียผู้เก่งกาจเกินใคร แค่โกเล็มกระจอกๆ ไม่คณามืออยู่แล้วใช่ไหมครับท่าน”

อาธูเรียที่ได้โดนลูกยอเข้าไปก็ปิดปากหัวเราะนิดๆ ก่อนตอบราดิชว่า “แน่นอนอยู่แล้ว คอยดูนะนายท่าน รับรองว่าระดับท่านต้องขึ้นกระฉูดแน่นอน” พูดจบก็เดินตัวปลิวเข้าหาโกเล็มหินผุที่จะกลายเป็นเหยื่อของหล่อนต่อไป

‘มีตัวช่วยมันก็ดีแบบนี้นี่เอง สบายไปเยอะ’ ราดิชคิดอย่างดีใจ ตัวเขาก็เดินหาโกเล็มหินผุเพื่อจัดการมันต่อ เขาค่อยๆ สู้แบบไม่รีบร้อนเท่าใดนัก หลังจากเก็บระดับกันจนถึงเที่ยงก็พักกินข้าวกัน หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จพวกเขาก็เริ่มออกเก็บระดับกันในภาคบ่ายต่อ โดยเริ่มเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งลึกก็ยิ่งมีโกเล็มหินผุอาศัยอยู่มากขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel