บทที่ 11 ตะลอนทัวร์
แสงจากการใช้ม้วนคาถากลับเมืองสว่างวาบที่ลานกว้างในเมืองเริ่มต้น ราดิชโผล่ออกมาจากแสงนั้น มีหลายคนที่มองเขาแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรกันอีก เพราะชุดที่เขาใส่มันปิดมิดชิดมาก แต่ว่าเขาก็ยังจับความรู้สึกได้ว่ายังมีคนจับตาดูเขาอยู่อีก แต่ตัวเขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และผนึกเจ้าปิกามอนเข้าแหวนไป
“ผนึกปิกามอน” พอราดิชพูดเสร็จ มันก็กลายเป็นแสงพุ่งเข้าไปในแหวน จากนั้นเขาก็เดินไปที่อาคารภารกิจเพื่อส่งภารกิจ พอไปถึงอาคารภารกิจก็เริ่มสายแล้ว จึงมีคนมาใช้บริการประปราย ราดิชจึงไปรับบัตรคิวแล้วเดินไปนั่งรอคิว พอถึงคิวเขารีบเดินไปที่เคาน์เตอร์บริการที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็ว
“ผมมาส่งภารกิจตามนี้ครับ” ราดิชบอก พร้อมยื่นนาฬิกาให้เจ้าหน้าที่สแกน ทางเจ้าหน้าที่ก็สแกนสักพักก็เสร็จเรียบร้อย
“ภารกิจเรียบร้อยทุกอย่าง ผมโอนเงินรางวัลให้เรียบร้อยแล้วนะครับ” เจ้าหน้าที่บอก ทางราดิชก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่แล้วเดินออกจากอาคารภารกิจมา เขาดูเงินรางวัลที่ได้มา มันมากถึง 100,000 G เลยทีเดียว เขาเห็นว่าการทำภารกิจครั้งนี้คุ้มมาก จากนั้นเขาก็ไปจัดการธุระให้เรียบร้อยแล้วจะได้วางแผนการเดินทางต่อ
ราดิชเปิดแผนที่ขึ้นมาหาร้านขายสัตว์เลี้ยง ก็พบว่ามันอยู่ไม่ไกลจากร้านขายเสื้อผ้า เขาจึงมุ่งตรงไปที่นั่น พอไปถึงก็พบว่าป้ายหน้าร้านมีรูปกระต่ายผูกโบว์โชว์อยู่ เขาถอดฮู้ดและเก็บหน้ากาก จากนั้นจึงผลักประตูเข้าไป
“มีอะไรให้รับใช้ครับคุณลูกค้า” ชายวัยกลางคนผิวขาว ไว้หนวดนิดหน่อยเอ่ยถามราดิช
“ผมมาซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงน่ะครับ ไม่ทราบว่าเจ้านี่มันกินอะไร และเยอะขนาดไหน” ราดิชพูดกับเจ้าของร้าน เพราะไม่แน่ใจในกระเพาะของเจ้าปิกามอนเลย เมื่อวานมันกินเนื้อวัวไปได้สองชิ้นใหญ่ เมื่อเช้าก็ซัดไปอีกสาม เลยไม่รู้ว่ากระเพาะมันทำด้วยอะไรกันแน่ เขาเรียกปิกามอนออกมาให้เจ้าของร้านดู
“โห ราชาหนูไฟฟ้า คุณลูกค้าไปจับมาได้ยังไงเนี่ย หายากมากๆ เลยนะครับ มันกินอาหารเม็ดสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ หรือจะกินแบบที่คุณลูกค้ากินก็ได้เหมือนกัน มันเป็นตัวที่กินง่ายอยู่ง่ายเหมือนกันนะคุณลูกค้า” เจ้าของร้านบอกอย่างอารมณ์ดี พร้อมหยิบอาหารออกมาหลายถุง
“ว่าแต่เอากี่ถุงดีครับ ราคาถุงละ100 G นะครับ” เจ้าของร้านถาม
“เอาสัก 1,000 ถุงก่อนละกันครับ เจ้านี่มันกินจุอยู่เหมือนกัน ผมเพิ่งจับได้เมื่อวานเอง” ราดิชบอกพร้อมเตรียมโอนเงินให้เจ้าของร้าน
“ทั้งหมดก็ 100,000 G ผมลดให้เหลือ 90,000 G ละกันนะครับ” เจ้าของร้านบอกและยิ้มให้ ราดิชก็โอนเงินให้และรับเอาถุงอาหารสัตว์มา หลังออกจากร้านขายสัตว์เลี้ยง เขาก็มุ่งหน้าไปที่ร้านขายยาต่อเพื่อไปซื้อน้ำยาฟื้นพลังเพิ่มเติม จากนั้นเดินทางต่อไปที่อาคารภารกิจพร้อมเจ้าปิกามอนที่ขอออกมาเดินตามไปด้วย
ระหว่างทางไปอาคารภารกิจก็มีผู้เล่นหญิงหลายคนเข้ามามุงดูเจ้าปิกามอน บางคนขออนุญาตราดิชที่จะอุ้มมัน บางคนขอถ่ายรูป บางคนขอกอด เขานึกอยากจะแกล้งมันพอดี จึงอนุญาตให้สาวๆ ทำได้เต็มที่ พวกสาวๆ ก็ไม่เกรงใจรีบอุ้มปิกามอนไป และยื้อไปยื้อมาเพื่อจะกอดมัน
“เจ้านายช่วยข้าด้วย” มันส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ราดิชก็ไม่สนใจปล่อยให้สาวๆ เล่นกับมันไป จนเห็นว่าได้แก่เวลาแล้วจึงกล่าวขึ้นว่า
“ขอโทษนะครับสาวๆ พอดีเดี๋ยวผมต้องไปทำธุระต่อ เลยต้องขอเอาเจ้าตัวยุ่งคืนนะครับ ถ้ายังไงไว้วันหลังค่อยมาเล่นกับมันใหม่นะครับ” ราดิชบอกสาวๆ อย่างสุภาพ ซึ่งหลายคนทำหน้าเสียดายแต่ก็เข้าใจจึงปล่อยตัวเจ้าปิกามอน พอมันเป็นอิสระก็รีบวิ่งไปหาราดิชและกระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่เขาอย่างรวดเร็ว เล่นเอาราดิชไหล่แทบทรุด เพราะตัวมันไม่ใช่เบาๆ เลย
“ลงมาเลยปิกามอน” ราดิชสั่งเสียงเข้ม พร้อมกับอุ้มมันลงมาจะวางกับพื้น
“ไม่เอาเจ้านาย ข้าขี้เกียจเดิน และก็ไม่อยากกลับเข้าแหวนด้วย เจ้านายอุ้มข้าหน่อยได้ไหม” มันอ้อนราดิช ตัวราดิชเองก็ใจอ่อนจึงอุ้มมันเดินไปอาคารภารกิจด้วยท่าทางไม่รีบร้อนแต่อย่างใด
พอไปถึงอาคารภารกิจ ราดิชก็ไปดูกระดานภารกิจ รอบนี้เขาตั้งใจจะไปเยือนป่าอสรพิษ และเลยไปป่าหมอกด้วยเลย จึงเลือกแต่ภารกิจที่ต้องไปทำแถวนั้นมาสามสี่อัน พอออกจากอาคารภารกิจเขาก็เปิดแผนที่ดูก็พบว่าป่าอสรพิษตั้งอยู่ทางตะวันออก เลยไปอีกจะเป็นป่าหมอก ที่เป็นที่หมายสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนี้นั่นเอง
“ปิกามอน แกลงไปเดินเองเลย หรือถ้าขี้เกียจก็กลับเข้าแหวนไปซะ” ราดิชกล่าวเสียงเข้ม และวางเจ้าปิกามอนลงกับพื้น
“ข้าเดินเองก็ได้ ขี้เกียจอุดอู้อยู่ในแหวน” มันบ่นนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินตามราดิชไปโดยดี
ราดิชเริ่มออกเดินไปตามถนน เขาแวะร้านค้าข้างทางเพื่อดูสินค้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงๆ หนึ่งเรียกเขา “พี่ราดิชคร๊าบ!!” ราดิชหันกลับไปมองต้นเสียงก็พบกับเด็กหนุ่มคูลแมนนั่นเอง
“อ้าว น้องคูลแมนนี่ เป็นไงมาไงละนั่น” ราดิชยิ้มและทักทายตอบ
“สวัสดีครับพี่ พอดีผมก็เพิ่งออกจากโรงแรมน่ะ พอดีตื่นสายไปหน่อย ว่าแต่พี่จะไปไหนหรือครับ ผมว่าจะขอตามไปด้วยน่ะ” คูลแมนถามราดิช
“พี่กำลังจะไปป่าอสรพิษกับป่าหมอกน่ะ พอดีรับภารกิจไปทำด้วย” ราดิชบอกจุดหมายปลายทาง
“ไปที่โหดๆ แบบนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวผมไปรับภารกิจก่อนนะพี่ รอผมได้รึเปล่าครับ” คูลแมนบอก
“ได้สิ เดี๋ยวพี่เดินดูของรออยู่แถวนี้แหละ” ราดิชบอกเด็กหนุ่ม ทางคูลแมนก็รีบวิ่งแจ้นไปอาคารภารกิจโดยพลัน ผ่านไปสักพักคูลแมนก็กลับมาถึงที่ที่ราดิชอยู่
“เรียบร้อยแล้วครับพี่ พร้อมจะออกเดินทางแล้วแหละ” คูลแมนบอก ราดิชก็กดชวนเด็กหนุ่มเข้าปาร์ตี้แล้วออกเดินทางกันทันที
หลังจากออกนอกประตูเมืองมาก็พบทุ่งหญ้าเหมือนเดิม ในระหว่างทางราดิชก็ใช้พวกกระรอกเป็นเป้าซ้อมยิงเวทเพื่อเก็บทักษะ ส่วนคูลแมนที่เพิ่งสังเกตเห็นปิกามอนที่เดินมาด้วยและสงสัยเรื่องการยิงเวทของราดิช ก็อดถามออกมาไม่ได้
“เห็นพี่เอาแต่ยิงเวทใส่พวกกระรอก พี่ยิงทำไมเหรอครับ แล้วนั่นสัตว์เลี้ยงพี่เหรอ อ้วนกลมเชียว” คูลแมนถามขึ้นพร้อมกับพยายามจะอุ้มมันขึ้นมา แต่เจ้าปิกามอนก็วิ่งหลบไปเก็บของที่ตกเสียก่อน
“พี่ยิงเก็บทักษะร่ายเวทน่ะ ส่วนนั่นปิกามอน พี่จับได้เมื่อวานน่ะ เห็นมันน่ารักดี” ราดิชตอบยิ้มๆ พร้อมกับร่ายเวทศรลมยิงกระรอกอีกตัวหนึ่ง
“เก็บทักษะเหรอ พอดีเลยผมมีเรื่องปรึกษาพี่หน่อยน่ะ คือตอนแรกผมอยากเปลี่ยนอาชีพเป็นนักรบ เห็นมันใช้อาวุธได้หลากหลายดี คิดว่าจะพยายามใช้ให้เป็นทุกอย่างเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ แต่พอเห็นพี่ราดิชที่เป็นนักดาบแล้ว ชักไม่แน่ใจแล้วสิ” คูลแมนเล่าไปทำท่าลังเลไป
“พี่ว่าเราเป็นในแบบของเรานั่นแหละดีแล้ว อย่าไปตามคนอื่นเลย พี่ก็ใช่ว่าจะเก่งกาจอะไรมากมายมีคนที่เก่งกว่าพี่อยู่อีกเยอะแยะ เห็นเราบอกส่าอยากใช้อาวุธหลายๆ อย่าง ตอนนี้เรามีอะไรแล้วบ้างล่ะ” ราดิชถามพร้อมหันดูคูลแมน
“ตอนนี้ก็มีดาบ มีด หอกน่ะพี่” คูลแมนตอบ พร้อมเรียกอาวุธออกมาให้ดู
“พอดีเมื่อวานพี่ได้ขวานระดับ C มาอันหนึ่งพี่ยกให้ละกัน” ราดิชว่า และเปิดหน้าต่างหยิบขวานเหล็กกล้าระดับ C ส่งให้คูลแมน
“จะดีเหรอพี่ ขวานนี่ก็ราคาแพงอยู่นะ พี่เอาไปขายไม่ดีกว่าเหรอ” คูลแมนทำท่าเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ถือเป็นของขวัญที่พี่ให้น้องเนื่องในโอกาสที่โชคชะตาพาให้เรามาพบกันไง อย่ากังวลไปเลย” ราดิชบอกอย่างใจดี พร้อมยัดขวานใส่มือเด็กหนุ่ม
“ขอบคุณมากครับพี่ราดิช ถ้าพี่มีอะไรที่ผมช่วยได้ก็บอกเลยนะครับ” เด็กหนุ่มบอกด้วยความตื้นตันใจ
จากนั้นทั้งสองก็เดินทางกันต่อไป ส่วนกระรอกน้อยก็กลายเป็นเป้าซ้อมมือสำหรับเก็บทักษะเวทของราดิช และการใช้ขวานของคูลแมน จนกระทั่งพ้นเขตทุ่งหญ้าก็เข้าสู่ชายป่าอสรพิษ
“พี่ว่าเราหยุดพักกินข้าวเที่ยงกันก่อนดีกว่า มื้อนี้พี่เลี้ยงเองนะ” ราดิชบอก พร้อมกับหาที่ว่างและเริ่มก่อไฟ จากนั้นก็เอาเนื้อกระทิงกับเนื้อปูที่มีมาปรุงรส และย่างไฟจนส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
“พี่ทำอาหารเป็นด้วยเหรอ น่ากินจัง” คูลแมนบอก เด็กหนุ่มจ้องเนื้อย่างตาเป็นมัน พร้อมขยับมาใกล้ราดิช
“ข้าจองเนื้อปูนะเจ้านาย” ปิกามอนทวงสิทธิ์ในเนื้อปูของมันทันที
“ได้ๆ เนื้อปูของแก ส่วนกระทิงฉันกินเอง” ราดิชว่า พร้อมแจกจ่ายเนื้อกระทิงให้คูลแมน และเอาเนื้อปูนุ่มๆ ให้ปิกามอน แล้วตัวเขาก็หยิบชุดอาหารที่เคยซื้อไว้จากภัตตาคารขึ้นมาเพิ่มเติม หลังจากกินกันเสร็จเรียบร้อย คณะเดินทางก็เก็บกวาดพื้นที่ และออกเดินทางผจญกันต่อเข้าในป่าอสรพิษ
หลังเข้าไปในป่าอสรพิษได้ไม่นาน พวกเขาก็พบสัตว์อสูรงูเขียวหางไหม้ตามทางหลายตัว พวกราดิชก็ใช้มันเป็นเป้าเก็บทักษะจนเวลาผ่านไปจนเย็น ระหว่างเดินเก็บทักษะเพลินๆ ราดิชได้ยินเสียงๆ หนึ่งที่เขาไม่ค่อยอยากได้ยินเท่าไร เสียงนั้นดังมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาอยู่มากนัก
แซกกๆๆ!!!!
“เสียงอะไรน่ะพี่” คูลแมนถามด้วยความสงสัย พร้อมยกขวานขึ้นตั้งท่า
“พี่ว่าเราเตรียมตัวไว้เถอะ มันจะมาแล้ว” ราดิชบอกอย่างเคร่งเครียดพลางเรียกดาบจู่โจมออกมาเตรียมพร้อม พร้อมกับที่พุ่มไม้ถูกแหวกออก และสัตว์อสูรตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
-ท่านพบสัตว์อสูรระดับราชา ราชางูเขียวหางไหม้ระดับ 15 ผู้ที่ถูกสังหารระดับจะลดลง 3 ระยะเวลารอเกิดใหม่เพิ่มเป็น 3 ชั่วโมง
“ไอ้นี่แหละที่พี่บอก เรามาจัดการมันกันดีกว่า” ราดิชบอกอย่างดีใจ พร้อมกับปล่อยคลื่นดาบออกไปหลายลูก เหล่าคลื่นดาบปะทะราชางูเขียวอย่างจังจนมันปลิวกลับทางเก่าไปในทันที ตอนนี้ราดิชระดับสูงกว่าตอนที่เจอมันครั้งแรกมาก และได้ทักษะของอาชีพนักดาบแล้ว
ราดิชหันไปบอกเด็กหนุ่ม “คูลแมน ระวังตัวให้ดีละ เดี๋ยวพี่เข้าไปชนเอง” เขากระชับดาบและพุ่งเข้าหาราชางูเขียวที่ยังมึนงงอยู่ พอมันตั้งตัวได้ก็ขู่ใส่ราดิชทันที และลูกน้องของมันก็ปรากฏขึ้น
-สัตว์อสูรงูเขียวหางไหม้ระดับ 10 จำนวน 125 ตัว เตรียมโจมตี
คราวนี้ลูกน้องของมันมีจำนวนมากกว่าคราวที่แล้วเสียอีก ราดิชยั้งตัวได้ทันพร้อมตั้งดาบรอพวกลูกน้องที่กำลังพุ่งมาหาเขา พอเข้ามาได้ระยะราดิชก็ฟาดดาบลงพื้นด้วยทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรกทันที เปลวเพลิงระเบิดออกมาเผาผลาญลูกน้องมันจนหายไปเกือบหมดในทีเดียว เขาก็พุ่งเข้าหาฝูงงูต่อพร้อมใช้ทักษะมาเจสตีเพื่อเพิ่มความเร็ว
ราดิชฟาดฟันใส่พวกงูที่เหลือจนพวกมันล้มหายตายจากไปจนหมด เขาหันไปดูคลูแมนที่ตอนนี้กำลังปะทะกับลูกน้องมันอยู่นับสิบตัว แต่เด็กหนุ่มก็ยังสู้ได้ไม่เพลี่ยงพล้ำ ส่วนเจ้าปิกามอนน่ะเหรอ หลบขึ้นไปนั่งดูอยู่บนต้นไม้แล้ว
“ปิกามอน แกนี่สุดยอดจริงๆ แต่เอาเหอะ อย่าลืมทำหน้าที่ซะล่ะ” ราดิชว่า และพุ่งเข้าหาราชางูเขียวต่ออย่างรวดเร็ว มันขู่พร้อมกับพุ่งตัวเข้าฉกราดิชที่พุ่งเข้ามาทันที แต่เขาคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว จึงตวัดดาบจากล่างขึ้นบนฟันใส่หมายผ่าหัวมันเป็นสองซีก
กรีซซ!!!!!!
มันร้องโหยหวนเมื่อดาบราดิชผ่าเข้าที่ปลายปากจนหัวมันเชิดขึ้นตามแรงฟัน เขาอาศัยจังหวะนั้นตวัดดาบตัดหัวมันทันที พร้อมกับที่ทางคูลแมนจัดการลูกน้องมันได้หมด ตอนนี้เหลือแต่กองไอเทมที่หายไปอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือเจ้าปิกามอนนั่นเอง
ราดิชตะโกนถามเสียงดัง “คูลแมนเป็นไงบ้าง?” และวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นคูลแมนเหงื่อท่วมตัวเลยทีเดียว
“พอไหวพี่ ผมไม่เคยสู้กับสัตว์อสูรตัวเล็กๆ และว่องไวแบบนี้ทีเดียวเยอะๆ มาก่อน แต่ยังดีที่พวกมันฟันทีเดียวตาย พี่ครับทักษะการใช้ขวานผมขึ้นพรวดพราดเลยแหละ” คูลแมนบอกอย่างดีใจ พร้อมเปิดหน้าต่างทักษะติดตัวให้ราดิชดูด้วยความยินดี
“ก็นี่แหละที่พี่จะสอนเรา พี่เก็บทักษะพื้นฐานกับพวกที่ไม่เก่งนัก พี่ก็เลยเน้นปริมาณน่ะ เป็นไงวิธีของพี่ดีหรือเปล่า” ราดิชตอบพร้อมกอดอกด้วยมาดของผู้รู้
“สุดยอดเลยพี่ ผมขอใช้วิธีนี้ในการเก็บพวกทักษะพื้นฐานบ้างได้หรือเปล่าพี่” คูลแมนขอร้อง
“เอาไปใช้ได้เลย พี่ไม่หวงหรอก เห็นแก่เราเป็นน้องพี่นะเนี่ย ฮ่าๆ” ราดิชหัวเราะ พลางกอดคอเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ก็ผสมโรงหัวเราะกับราดิชไปด้วย ซึ่งคูลแมนคนนี้จะเป็นกำลังสำคัญของราดิช ช่วยให้ราดิชฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ไปได้ในเวลาต่อไป
ทันใดนั้นเสียงปลุกของนาฬิกาดึงขึ้น ราดิชดูนาฬิกาของตัวเองก็พบว่าไม่ใช่ แต่เป็นของคูลแมนนั่นเอง
“เดี๋ยวผมต้องออกเกมก่อนนะ พอดีต้องขับรถไปส่งแม่ทำธุระ ถ้ายังไงเดี๋ยวผมกลับเมืองก่อน ไว้วันหลังผมจะมาผจญภัยกับพี่ราดิชอีกนะครับ” คูลแมนกล่าวอำลาราดิช และใช้ม้วนคาถากลับเมืองไป
“เด็กคนนี้ท่าทางอนาคตไกล นิสัยก็ดี เป็นไปได้เราอยากสอนเขาให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม” ราดิชบอกกับตัวเองและเปิดดูข้อมูลค่าประสบการณ์ที่ได้มาในวันนี้ รวมทั้งสิ่งที่ได้จากเจ้าราชางูเขียวเมื่อกี้ด้วย
-ท่านสังหารสัตว์อสูรกระรอกน้อยระดับ 1 จำนวน 225 ตัวได้ค่าประสบการณ์จากปาร์ตี้ 1,350
-ท่านสังหารสัตว์อสูรงูเขียวหางไหม้ระดับ 10 จำนวน 258 ตัวได้ค่าประสบการณ์จากปาร์ตี้ 30,960
-ท่านสังหารสัตว์อสูรราชางูเขียวหางไหม้ระดับ 15 ได้รับค่าประสบการณ์จากปาร์ตี้ 9,000
-ท่านได้ค่าประสบการณ์รวม 41,310
-สัตว์เลี้ยงปิกามอนได้ค่าประสบการณ์จากท่าน 50 % เป็นจำนวน 20,655
-สัตว์เลี้ยงปิกามอนเลื่อนระดับเป็น 31
-สัตว์เลี้ยงปิกามอนมีค่าประสบการณ์สะสม 10,655/15,000
-ท่านได้รับค่าประสบการณ์คงเหลือ 20,655
-ทักษะหลบหลีกเพิ่มเป็นระดับ 68-ทักษะชำนาญดาบเพิ่มเป็นระดับ 66
-ทักษะชำนาญเวทเพิ่มเป็นระดับ 60
-ท่านได้เงินรวม 188,575 G
ราดิชดูข้อมูลเสร็จก็เลยดูไอเทมที่เก็บมาได้ด้วยว่ามีอะไรบ้าง ประกอบไปด้วย พิษงูเขียว 23 ขวด ธนูจู่โจมระดับ C 1 คัน เขี้ยวงู 98 อัน เนื้องู 20 ก้อน แร่มรกต 3 เม็ด กล่องปริศนาสีขาว 1 กล่อง อีลิกเซอร์ 3 ขวด ซึ่งในรอบนี้ถือว่าได้ของมาไม่เลวเลย
‘จะว่าไปเราแบ่งของให้น้องคูลแมนไปหรือเปล่าหว่า’ ราดิชคิดด้วยความสงสัย จึงลองถามเจ้าปิกามอนดู
“ปิกามอนแกเก็บของทุกอย่างหมดเลยเหรอ” ราดิชถามพร้อมกับอุ้มมันขึ้นมา
“ปกติก็เก็บแต่เฉพาะส่วนที่เจ้านายจัดการ ถ้าเจ้านายไม่ได้สั่งให้ข้าเก็บของคนอื่นน่ะนะ” ปิกามอนตอบพร้อมทำท่าเอียงคอให้ดูน่ารัก
“เป็นอย่างนั้นเองเหรอ งั้นเดี๋ยวเราไปกันต่ออีกหน่อยล่ะกัน นี่ยังไม่เย็นเท่าไร” ราดิชบอก พร้อมอุ้มเจ้าปิกามอนและออกเดินต่อไป
แต่ก็ไปได้อีกสักพักฟ้าเริ่มมืด เขาจึงหาที่พักและเริ่มลงมือกางเต็นท์ หลังจากกางเต็นท์เสร็จราดิชก็จุดไฟทำอาหาร ในตอนนี้ยังเหลือเนื้อกระทิงอยู่พอสมควร เขาจึงจัดการปรุงรสและย่างมันตามปกติ โดยมีเจ้าปิกามอนนั่งรอน้ำลายหกอยู่
หลังจากที่เขาและปิกามอนจัดการอาหารจนหมดแล้วก็นั่งเล่นกับเจ้าปิกามอนอีกสักพัก จากนั้นก็ปล่อยมันไปนอน และนั่งหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก พอเริ่มดึกราดิชก็เข้าเต็นท์ไปนอนและใช้ปิกามอนต่างหมอนข้างจนหลับไปในที่สุด
เช้าวันใหม่มาถึง ราดิชตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปเตรียมตัวทำอาหารเช้า วันนี้เขาตั้งใจว่าจะเดินทางเข้าไปผจญภัยในป่าหมอกทั้งวัน หลังจากที่จุดไฟเรียบร้อย เขาก็เอาเนื้อกระทิงที่เหลือออกมาย่างทำเป็นอาหารเช้า เขาย่างให้เยอะกว่าเดิมเผื่อเก็บไว้ตอนกลางวันด้วยเลย
ปิกามอนมุดออกมาจากเต็นท์ “เจ้านาย ข้าหิวแล้ว ทำอาหารให้ข้ากินหน่อย” และตรงเข้าไปหาเนื้อกระทิงที่ราดิชเตรียมไว้ให้มัน ซึ่งมันก็แทะอย่างเอร็ดอร่อย
“ปิกามอน แกมีข้อมูลของสัตว์อสูรในป่าหมอกไหม” ราดิชเอ่ยถามขึ้นมา เพราะเมื่อคืนเขาหาข้อมูลของเจ้าปิกามอน ทำให้รู้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรที่เดินทางไปทั่วเกาะไม่อยู่กับที่ จึงยากที่จะจับมันเป็นสัตว์เลี้ยงได้ ยกเว้นเขาที่ดวงดีจับมันได้
“ก็มีนะเจ้านาย สัตว์อสูรในป่าหมอกส่วนใหญ่เป็นพวกสัตว์ป่าน่ะ แต่พวกมันจะมีสีขาวกันหมดทุกตัวเลยนะ” มันตอบขณะแทะเนื้อกระทิง
“แล้วมันโจมตีก่อนหรือเปล่า” ราดิชต้องถาม เพราะเรื่องนี้ถือว่าสำคัญมาก
“พวกที่โจมตีใส่ก่อนมีแค่พวกสัตว์กินเนื้อน่ะ” มันบอก
“อืม...เดี๋ยวจัดการอะไรเรียบร้อยแล้ว เราไปตะลุยป่าหมอกกัน” ราดิชบอก พร้อมกับกินเนื้อกระทิงย่างจนหมด จากนั้นก็เริ่มลงมือเก็บเต็นท์ เก็บกวาดพื้นที่และเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อ
ราดิชออกเดินนำโดยมีปิกามอนเดิมตามต้อยๆ ระหว่างทางก็เจอกับลำธารเข้า ราดิชจึงเอากระติกน้ำ 5 กระติกที่เถ้าแก่อ้วนคะยั้นคะยอให้ซื้อมาไปกรอกน้ำจนเต็มทุกอัน จากนั้นก็ออกเดินกันต่อจนกระทั่งสุดเขตของป่าอสรพิษ
