บทที่ 3 อ้อมกอดคนใจร้าย [3]
อาการเหม่อลอยของหลานสาวไม่อาจรอดพ้นสายตาของหญิงสูงวัยไปได้ เริ่มหวั่นใจว่าสิ่งที่กลัวกำลังจะเป็นความจริงเข้าสักวัน นางไม่อยากให้หลานสาวต้องเสียใจหากหลงรักเจ้านายหนุ่ม ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้
“แก้ม เป็นอะไรลูก?"
“เปล่าจ้ะป้า” ใบหน้าเศร้าหมองส่ายหน้าปฏิเสธคำถาม
“แก้มชอบคุณทอร์ชหรือเปล่า” หญิงสูงวัยถามออกไปตามตรง
"มะ...ไม่จ้ะ แก้มไม่ได้ชอบคุณทอร์ช” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก
“จริงนะลูก” นางย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง
“จริงจ้ะป้าอิ่ม” อินทิรารีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่อยากให้ป้าอิ่มต้องเป็นห่วง
“ป้าเห็นหน้าแก้มไม่ค่อยดี ไม่ใช่เพราะคุณทอร์ชพาคุณบลูมาที่บ้านหรอกนะ” คนอาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้ดี รีบตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม จะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บ
“แก้มแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายจ้ะ สงสัยคงเพราะตกน้ำเมื่อตอนเย็น” หญิงสาวพยายามเลี่ยงอธิบายให้ป้าอิ่มเข้าใจ แม้จะเป็นเรื่องโกหกก็ยังดีกว่าทำให้ท่านไม่สบายใจ
“ดีแล้วล่ะ ป้าไม่อยากให้แก้มต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า ป้าอยู่กับคุณทอร์ชมานาน รู้จักนิสัยดี” หญิงสูงวัยจำต้องย้ำกลับไปอีกครั้ง เสียใจวันนี้ยังดีกว่าเสียใจในวันหน้า
“แก้มกำลังเรียนหนังสือ แก้มไม่คิดเรื่องนั้นหรอกจ้ะป้า” อินทิราก้มหน้าซ่อนน้ำตาไม่ให้ไหลริน เธอเป็นแค่หลานสาวของแม่บ้าน ส่วนเขาเป็นถึงนักธุรกิจ มีคนรู้จักมากหน้าหลายตา เธอกับเขาไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่จะคิด
“ป้าก็อยากให้แก้มเรียนสูงๆ จะได้มีงานดีๆ ทำ” เพราะความรักความหวังดีกับหลานสาวเพียงคนเดียว ทั้งที่ในใจอยากจะปลอบโยนให้มากกว่านี้
“จ้ะ...แก้มจะตั้งใจเรียน ไม่ทำให้ป้าอิ่มผิดหวัง” เธอบอกกับตัวเองและผู้เป็นป้า
“รีบทำต่อเถอะ เดี๋ยวคุณทอร์ชจะรอ”
ไม่ถึงชั่วโมงอาหารสี่ห้าอย่างก็พร้อมอยู่บนโต๊ะ อินทิราวางผัดผักเป็นจานสุดท้ายก่อนจะเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่เดินลงมาจากชั้นบนพร้อมกับหญิงสาวข้างกาย ทั้งคู่หายไปอยู่ด้วยกันก็จริงแต่แทบจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะธีร์ธัชมัวแต่คิดถึงใบหน้าหวานๆ แววตาไร้เดียงสายามที่ใช้ทอดมองเขาอยู่ทุกเวลา
“หน้าตาน่าทานมากเลยค่ะทอร์ช คงจะอร่อยอย่างที่ทอร์ชบอกแน่ๆ"
“นั่งสิบลู” ธีร์ธัชกุลีกุจอเอาอกเอาใจโสภิดาโดยการเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งพร้อมกับรีบนั่งลงข้างๆ พยักหน้าส่งสัญญาณให้แม่บ้านสูงวัยตักข้าวใส่จานให้
“ลองอันนี้ดูนะบลู ผมรับรองฝีมือป้าอิ่ม” ธีร์ธัชเอื้อมไปตักปลาใส่จานให้คู่ควงสาว คนโดนเอาใจมีสีหน้าแปลกใจกับท่าทางของเขา แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอ อย่างน้อยพวกบรรดาขี้ข้าบ้านนี้จะได้รู้ไว้ว่าอนาคตข้างหน้าเธอจะแต่งงานเข้ามาเป็นคุณผู้หญิงของบ้าน
“ป้าอิ่มจ๋า แก้มขอตัวก่อนนะจ๊ะ” อินทิราขออนุญาตผู้ใหญ่หลังเห็นว่าหมดหน้าที่ของตน
“ไปเถอะ ทางนี้ป้าจัดการเอง” หญิงสูงวัยตอบรับราวกับรู้งาน คิดว่าหลานสาวคงไม่อยากเห็นภาพการเอาอกเอาใจแบบนี้เท่าไหร่นัก
อินทิราพาตัวเองเข้ามาในห้องนอน ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ทิ้งตัวลงบนเตียง ไม่เข้าใจว่าทำไมยังคิดถึงแต่เรื่องคนใจร้ายที่คอยแต่จะรังแกกันอยู่ตลอดเวลา เธอไม่อยากฟุ้งซ่าน ไม่อยากคิดถึงเขา ไม่อยากพาตัวเองเข้าไปให้หัวใจต้องหวั่นไหว เพราะรู้ดีว่าต้องเจ็บหนักแค่ไหน
เสียงเคาะประตูห้องนอนในขณะที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราส่งผลให้ร่างบางสะดุ้งเบาๆ รีบลุกขึ้นมานั่ง สงสัยจะเป็นป้าอิ่ม ท่านคงมีเรื่องจะใช้เธอถึงได้ตามมาเรียก
“ป้าอิ่ม มีอะไรจะให้แก้มทำหรือจ๊ะ”
“ป้าไม่มีหรอก แค่คุณทอร์ชให้แก้มไปหาน่ะ”
“คุณทอร์ช!” อินทิราถามย้ำ รู้สึกหวาดหวั่นบอกไม่ถูก ทำไมเขาต้องเรียกเธอไปในเวลานี้
“เห็นว่าจะให้แก้มไปช่วยส่งแมวให้ลูกค้า” คำบอกเล่าจากปากเจ้านายหนุ่มถูกส่งสารถึงหลานสาว ไม่ค่อยเข้าใจและตามไม่ทันว่าส่ง 'แมว' มันคืออะไร
“แมว! ส่งเมลหรือเปล่าจ๊ะป้า”
“ใช่ๆ แมวเมลอะไรนั่นแหละ” หญิงสูงวัยเออออตาม ขนาดว่าเดินท่องมาตลอดทางแล้วก็ตาม
"เอ่อ...แฟนคุณทอร์ชกลับไปแล้วหรือจ๊ะ”
“กลับไปเมื่อกี้นี้” ถึงตอนนี้หญิงสูงวัยจะยังไม่ค่อยไว้ใจเจ้านายหนุ่ม แต่เหตุผลที่เขาหยิบยกมาทำให้คนแก่ยอมเชื่อว่าคุณทอร์ชคงต้องการคนช่วยเหลือจริงๆ
“งั้นเดี๋ยวแก้มไปนะคะ”
“ป้าก็ว่าจะไปรีดผ้าให้คุณเทย่าเธอเหมือนกัน” หญิงต่างวัยทั้งสองคนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ให้ผู้เป็นเจ้านาย
‘ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต’ ป้ายข้อความหน้าห้องทำให้อินทิรารู้สึกหมั่นไส้อยู่ในที ดีแต่สั่งคนอื่นกลับไม่เคยสนใจความรู้สึกใคร หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เป็นการเรียกกำลังใจให้ตัวเอง กลัวเหลือเกินว่าเขาจะรังแกเธอเหมือนครั้งก่อน
“ป้าอิ่มบอกว่าคุณทอร์ชจะให้แก้มช่วยส่งอีเมลให้” หลังจากเคาะประตูเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เดินเข้ามาหยุดยืน พยายามที่จะไม่ให้ห่างจากประตูมากนัก
“ใช่ เต็มใจจะช่วยงานฉันไหม?” ธีร์ธัชถามหยั่งเชิง
“เต็มใจค่ะ แก้มมาอาศัยบ้านคุณทอร์ช แก้มเต็มใจทำทุกอย่าง” เธอพูดอย่างที่ใจคิด ไม่ทันได้เห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์ของบางคน
“ดี...เต็มใจทุกอย่างก็ดี” ชายหนุ่มทำเสียงพอใจแล้วย่างสามขุมเข้าหาจนคนไม่ทันตั้งตัวถอยกรูดชิดประตูด้วยความหวาดระแวง
“เดินหนีทำไม?”
“ก็คุณทอร์ชจะ...” เสียงของอินทิราเริ่มสั่น
“จะอะไร ฉันจะพาเธอไปสั่งงาน” เขาหัวเราะขำ มองเลยไปยังคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งคำบอกเล่าของเขาทำเอาอินทิราหน้าม้าน
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวกล่าวคำขอโทษแล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้
“ขอโทษทำไม ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเธอเลยสาวน้อย” ไวเท่าความคิด ร่างสูงใหญ่เดินตามมาคล่อมร่างบางเอาไว้ มือทั้งสองข้างเท้าบนพนักเก้าอี้มองสาวน้อยนัยน์ตาพราว
“แก้มไม่ได้เป็นสาวน้อย แก้มโตแล้ว”
“ไม่ให้เรียกสาวน้อยจะให้เรียกอะไรล่ะ สาวสวย คนสวย หรือว่า...ที่รักดี?” ไม่พูดเปล่า ใบหน้าคร้ามคมพยายามโน้มเข้ามาใกล้มากขึ้นกว่าเดิม
“เรียกแก้มเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ”
“ฉันไม่ชอบทำอะไรซ้ำกับคนอื่นซะด้วยสิ” ธีร์ธัชจ้องวงหน้าเนียนแล้วยิ้ม แต่เธอมองว่าเป็นรอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ไม่น่าไว้ใจ
“ไหนล่ะคะ งานที่คุณทอร์ชจะให้แก้มทำ?” อินทิรารีบทวงถามถึงจุดประสงค์แรกที่อีกฝ่ายเรียกตนมา
“จะรีบไปไหนล่ะ ยังไงเราก็มีเวลาอยู่ด้วยกัน...อีกยาว” สิ้นเสียงนั้นร่างบางก็ถูกช้อนขึ้นมาในอ้อมกอดท่ามกลางเสียงหวีดร้องตกใจกับการกระทำอุกอาด รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็สัมผัสลงบนโซฟานุ่มตามติดด้วยคนหื่นที่พยายามระดมจูบลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ปล่อยแก้มนะ”
“ไม่ปล่อย” นอกจากไม่ทำตามคำขอแล้ว ทรวงอกอิ่มยังถูกเคล้นคลึงไร้ความปราณีจนเจ้าของร่างส่งเสียงร้อง
“กรี๊ดดด...อย่านะ แก้มเกลียดคุณ” ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรง พยายามดึงทึ้งเสื้อยืดที่เธอสวมใส่ออกจากร่าง สุดท้ายความพยายามของธีร์ธัชก็ประสบผลสำเร็จ บราเซียร์สีหวานถูกกระชากออก ลิ้นสากระคายก้มลงมาดูดกลืนยอดถันสีสวยอย่างหื่นกระหายราวกับคนตายอดตายอยากมานานแสนนาน
“คุณทอร์ช อย่า!” อินทิราร้องห้ามเสียงสั่น พยายามหลีกหนีการรุกรานสุดกำลัง ร่างที่ทาบทับเธออยู่ตัวโตยิ่งกว่ายักษ์วัดแจ้ง เขาไม่สนใจอาการดิ้นรนดังกล่าว มือป่ายเปะปะไปทั่วสะโพกกลมกลึง ทำท่าจะถอดปราการด้านล่างออกจนมือเล็กตามตะครุบไว้แทบไม่ทัน
“ขอให้ฉันรักเธอนะอินทิรา” เขาขอดื้อๆ บ่งบอกให้รู้ว่าจะไม่ยอมถูกขัดใจ
“ไม่ได้ค่ะ มันไม่ถูกต้อง” หญิงสาวเริ่มโกรธที่เขาทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย จะเรียกมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้
“แน่ใจ?” เขาถามย้ำ เริ่มทำเสียงไม่พอใจ
“หยุดเถอะค่ะคุณทอร์ช” อินทิราพอเดาสายตาคนตรงหน้าออก เขาคงคิดว่าเธอเป็นเด็กใจง่ายที่ยอมทำตามคำสั่ง
“เธออยากได้เท่าไหร่ บอกมา”
เพี๊ยะ! สิ้นคำถามนั้นใบหน้าคร้ามคมก็หันไปตามแรงที่ฟาดลงมาทันที แม้จะไม่แรงมากแต่ก็ทำให้คนปากไม่มีหูรูดถึงกับหน้าหัน ธีร์ธัชหันกลับมาแววตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล อินทิราหลับตาปี๋ด้วยความกลัว เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรง แต่เขาต่างหากที่รังแกกันก่อน
“ออกไป” เขาออกปากไล่เสียงดัง อินทิรารีบหยิบเสื้อผ้ามาใส่ลวกๆ แล้ววิ่งออกจากห้อง หยดน้ำตาไหลรินลงมาไม่ขาดสาย เธอผิดอะไรหรือ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างเริ่มต้นจากเขา เป็นเขาที่ดูถูกเธอก่อน ถึงจะเป็นเพียงแค่คนอาศัยแต่เธอก็มีศักดิ์ศรีมากพอ
แม่จ๋า แก้มคิดถึงแม่
