มลทินเสน่หา

72.0K · จบแล้ว
กันยาดา
38
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะรัก…หรือเสน่หาเพียงกาย

นิยายรักนิยายปัจจุบันคนต่ำต้อยคนรับใช้นักศึกษาเด็กเรียนรักแรกพบจีบเมียเก่าพาลูกกหนีมีลูก

บทที่ 1 แรกพบใจก็สั่นไหว

จังหวัดราชบุรี

บบรยากาศภายในบ้านหลังกลางเก่ากลางใหม่รายล้อมด้วยต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่หลายหลายชนิด เจ้าของร่างบางที่เพิ่งตื่นนอนยื่นใบหน้าออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์จากด้านนอกหน้าต่าง อินทิราสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เรียกพลังให้ตัวเองก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวลงมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพ

หญิงสาวกลับลงมาจากชั้นบนพร้อมแบกเป้ขึ้นหลัง ในมือมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่อีกใบ ผู้ให้กำเนิดที่เพิ่งกลับออกมาจากสวนหลังบ้านเห็นดังนั้นก็รีบตรงเข้ามาหา

"มา...เดี๋ยวแม่ช่วย" อิงอรบอกพลางเดินเข้าไปคว้ากระเป๋าในมือเล็กมาวางไว้บนโต๊ะด้านหน้าทีวี อินทิราส่งยิ้มให้มารดาพร้อมกับตรงเข้าไปสวมกอดท่านไว้แนบแน่น

"ขอบคุณค่ะแม่"

"ไปถูกจริงๆ หรือเปล่าลูก ไม่ให้แม่ไปส่งแน่นะ?" หญิงสูงวัยถามด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยเดินทางเข้าเมืองเลยสักครั้ง ครั้นจะไปส่งก็ไม่ยอม อิงอรจ้องหน้าบุตรสาวเพียงคนเดียวซึ่งกำลังจะเดินทางไปศึกษาในระดับปริญญาตรี และไปอาศัยอยู่กับผู้เป็นป้าซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สาวตน

"แม่ไม่ต้องเป็นห่วงแก้มนะ ถึงแล้วแก้มจะรีบโทรมาหา รักแม่นะคะ" อินทิราบอกลาหลังก้มมองนาฬิกาบนข้อมือ พร้อมกับรีบสาวเท้าออกจากบ้านท่ามกลางสายตาของผู้ให้กำเนิดที่มองตามไปด้วยความรักใคร่และห่วงใย ตลอดเวลา 18ปี ที่ผ่านมาบุตรสาวคนนี้ไม่เคยทำเรื่องอะไรให้ต้องขุ่นเคืองใจเลยสักครั้ง

เวลาสองชั่วโมงเศษๆ จากบ้านเกิดถึงเมืองหลวงทำเอาหญิงสาวที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นบ้านนอกเข้ากรุงรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ตลอดเวลาของการเดินทางเธอแทบจะไม่ได้นอน พอลงจากรถก็รีบหยิบแผนที่ที่ผู้เป็นป้าให้ไว้ออกมาพร้อมกับเรียกแท็กซี่ภายในสถานีขนส่งเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางทันที

"ไปตามแผนที่นี้เลยค่ะลุง" อินทิรายื่นแผนที่ให้ด้วยความไว้ใจว่าคุณลุงซึ่งมีหน้าที่เป็นคนขับจะพาเธอไปถึงจุดหมาย

"ได้เลยหนู เดี๋ยวลุงส่งให้ถึงที่" ชายสูงวัยยิ้มก่อนจะเคลื่อนรถไปยังหมู่บ้านใหญ่หรือหมู่บ้านของพวกเศรษฐีตามที่ปากเรียกจนเคยชิน ความชำนาญในการประกอบอาชีพมาหลายปีคือสิ่งยืนยันว่าจะไม่ทำให้ผู้โดยสารหลงทาง

"ใช่หลังนี้หรือเปล่าหนู?" ชายคนขับถามหลังจากถึงจุดหมาย ในขณะที่เจ้าตัวมัวแต่ตื่นเต้นตลอดเส้นทางที่เพิ่งผ่านพ้นมา เมืองศิวิไลน์ซึ่งเต็มไปด้วยตึกสูงหลายชั้น รอยยิ้มแหยๆ ถูกส่งไปให้คนขับพร้อมกับรีบหยิบเงินในกระเป๋ามาจ่ายค่าโดยสารและไม่ลืมกล่าวคำขอบคุณที่พาเธอมาส่ง

"ใหญ่ขนาดนี้จะอยู่กันกี่คนเนี่ย" หญิงสาวพึมพำ มองบ้านหลังใหญ่ไม่ต่างจากคฤหาสน์ตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย สองขาก้าวไปหยุดยืนและกดกริ่งหน้าประตูบ้าน ไม่นานบุคคลที่เดินออกมาเปิดประตูก็เผยรอยยิ้มยินดีหลังได้เจอหน้าหลานสาว

"แก้ม เข้ามาสิลูก"

"ป้าอิ่มจ๋า คิดถึงที่สุดเลย" หลังก้าวเข้ามาด้านใน อินทิราก็สวมกอดหญิงสูงวัยทันที บ่งบอกความคิดถึงตลอดเวลาหลายปีที่ไม่ได้เจอกัน

"ป้าก็คิดถึงแก้มเหมือนกัน เข้าบ้านกันก่อน เดี๋ยวป้าจะพาไปไหว้คุณๆ เขา" หญิงสูงวัยพูดถึงเจ้านายหนุ่มและเดินนำหลานสาวเข้าไปด้านใน ช่วงนี้ประมุขใหญ่ของบ้านเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งเดือน จะเหลือก็แต่บุตรชายและบุตรสาวคนเล็กที่นางให้ความเคารพรักเช่นเดียวกัน

บริเวณห้องโถงกว้างถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู บางชิ้นส่งตรงมาจากต่างประเทศตามฐานะของเจ้าบ้านที่มีดีกรีเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ กิจการซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น

"คุณทอร์ช ป้าพาหลานสาวมาแนะนำให้รู้จักค่ะ" คำบอกเล่าของป้าอิ่มสร้างความแปลกให้ชายหนุ่มจนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่าแม่บ้านสูงวัยเคยขออนุญาตมารดาให้หลานสาวเข้ามาอาศัยด้วยตลอดช่วงเวลาของการศึกษา

"หลานสาวที่ป้าอิ่มเคยเล่าให้ฟังใช่ไหมครับ?"

"แก้ม สวัสดีคุณทอร์ชสิลูก" หญิงสูงวัยสั่ง

"สวัสดีค่ะ" อินทิราคลานเข่าเข้ามาใกล้ๆ ผู้เป็นป้า พร้อมกับกระพุ่มมือไหว้คนที่นั่งอยู่ด้านบนซึ่งมีอายุมากกว่าหลายปี

สายตาที่ประสานกันทำเอาหญิงสาววัยสิบแปดปีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งเห็นดวงตาคมเข้มจ้องกลับมาอย่างพินิจพิจารณายิ่งใจเต้นรัวเร็วไม่ต่างจากกลอง ทว่าธีร์ธัชกลับตีหน้าเคร่งครึมสุดจะคาดเดา

"ชื่ออะไร?" ธีร์ธัชเอ่ยถามขึ้น

"อินทิราค่ะ"

"ชื่อเล่นสิ" เขาถามซ้ำอีกครั้ง

"กะ...แก้มค่ะ" หญิงสาวตอบกลับเสียงตะกุกตะกัก

"อยู่ที่นี่ต้องรู้จักหน้าที่และอย่าทำอะไรให้เสื่อมเสียครอบครัวฉันเด็ดขาด ถึงเธอจะเป็นหลานป้าอิ่มฉันก็ไม่สน" ประกาศิตดังกล่าวทำเอาคนฟังอึ้ง เขาเหมือนไม่พอใจเธอตั้งแต่วันแรก ขืนทำอะไรไม่ถูกใจเข้า มีหวังคงโดนเฉดหัวออกไปแน่

"ค่ะ"

"ป้าอิ่มให้หลานสาวพักอยู่ห้องไหนครับ?" ธีร์ธัชหันไปถามแม่บ้านสูงวัยที่นั่งอยู่ไม่ห่าง

"อยู่ห้องข้างๆ ป้าค่ะคุณทอร์ช"

"ผมว่าห้องนั้นมันแคบและอึดอัดเกินไป เด็ก...วัยอย่างเธอคงไม่เหมาะ ย้ายมาอยู่ห้องริมสุดดีกว่าครับ" ชายหนุ่มสั่งเสียงเรียบและแอบเว้นช่วงจังหวะจนคนมองแปลกใจ แต่ก็ยังพยักหน้าตอบตกลงเพราะคำว่าเจ้านายจึงไม่อาจขัดใจ

"ได้ค่ะคุณทอร์ช"

"อ้อ...วานป้าอิ่มให้แก้มเอากาแฟไปให้ผมที่ห้องทำงานทีครับ พอดีผมนึกได้ว่าต้องขึ้นไปทำงานต่อ" ธีร์ธัชสั่งอีกครั้งพร้อมกับลุกขึ้นไปยังห้องทำงานส่วนตัวซึ่งอยู่บริเวณชั้นบน

"เดี๋ยวป้าชงให้ แก้มก็จำไว้แล้วกัน เผื่อครั้งต่อไปคุณทอร์ชจะเรียกใช้งานอีก" เสียงของผู้เป็นป้าฉุดให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ความคิดก่อนจะเดินตามเข้าไปในห้องครัว

"เอาขึ้นไปให้คุณทอร์ชข้างบน ห้องคุณทอร์ชอยู่ฝั่งด้านในสุดนะ" แม่บ้านสูงวัยกำชับหลานสาวอีกครั้ง

"จ้ะป้า" หญิงสาวพยักหน้ารับคำพร้อมกับสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนอย่างไม่รีบร้อน เมื่อถึงหน้าห้องก็ทำใจดีสู้เสือมองประตูบานใหญ่อยู่ชั่วครู่ก่อนจะรัวกำปั้นลงไปเบาๆ เป็นการขออนุญาตก่อนเปิดประตูเข้าไป

"กาแฟได้แล้วค่ะ" อินทิรายืนหันรีหันขวางเมื่อก้าวเข้ามาในด้าน ปากก็บอกในสิ่งที่เขาต้องการไปด้วย

"เอามาวางไว้บนโต๊ะ" เจ้าของห้องสั่งโดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบพกพา

หญิงสาวมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่รู้เลยว่าเดินมาถึงจุดหมายเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงแก้วกาแฟกระทบกับโต๊ะทำงาน ดีที่ไม่แรงจนทำให้แก้วแตก

"อุ๊ย!"

"ทำอะไรระวังหน่อย" เธอถูกดุเข้าจนได้

"ขอโทษค่ะ แก้มไม่ได้ตั้งใจ" อินทิรากล่าวคำขอโทษหน้าเจื่อน

"นั่งลงก่อนสิ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากสั่งให้เธอนั่งลง แต่จู่ๆ แม่สาวเพิ่งเข้าเมืองกรุงก็ทำให้เขาแทบจะหลุดขำเมื่อเจ้าหล่อนลงไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นพรมกลางห้อง ให้ตายเถอะ! ยัยเด็กคนนี้ ซื่อบื้อได้ใจจริงๆ

"ฉันให้เธอนั่งบนเก้าอี้ ไม่ใช่ไปนั่งที่พื้น" เมื่อถูกดุอีกครั้งอินทิราก็แทบจะดีดกายลุกจากพื้น พยายามบังคับไม่ให้ตนเองสั่นไปมากกว่านี้

"อายุเท่าไหร่" คำถามแรกนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาพุ่งเข้าหาโดยไม่ทันตั้งตัว

"สิบ...สิบแปดย่างสิบเก้าค่ะ" คำตอบที่ได้รับทำเอาธีร์ธัชอึ้งไปพร้อมก่นด่าตัวเองในใจ จะถามทำไมวะ เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยตามเกณฑ์ก็ต้องอายุเท่านี้ เธออ่อนกว่าน้องสาวเขาสองปี

"ทำไมถึงมาสอบเข้าเรียนที่นี่?"

"เรียนจบแก้มอยากทำงานดีๆ ได้เงินเยอะๆ จะได้ส่งไปให้แม่ใช้ค่ะ" อินทิราบอกถึงจุดประสงค์ที่ตั้งใจไว้

"แล้วรู้หรือเปล่าว่าอยู่ที่นี่ต้องทำอะไรบ้าง" ดวงตาคมมืดดำลงจนคนมองอ่านไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังจะสื่อถึงอะไร

"ทราบค่ะ แก้มจะไม่อยู่เฉยๆ หรืออู้งานเด็ดขาด" เธอตอบด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจว่าจะไม่มีวันทำให้ผู้เป็นป้าต้องเดือดร้อน

"ดี" ชายหนุ่มกล่าวสั้นๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินเข้ามาจ้องหน้าคนมาใหม่เขม็งจนอินทิรารู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาชั่วขณะ เหงื่อแตกพลั่กทั้งๆ ที่อุณหภูมิในห้องเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศซึ่งกำลังทำงานอยู่

"แล้วนอกเหนือจากนี้รู้ไหมว่าต้องทำอะไรบ้าง?"

"มะ...ไม่ทราบค่ะ" น้ำเสียงของเธอสั่นยากเกินควบคุม

"ถ้ายังไม่รู้จะสอนให้" รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมถูกส่งมาพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น แม้ว่าเธอจะเด็กแต่ความน่ารักสดใสทำให้เขามองข้ามมันไปทันที ยิ่งท่าทางหวาดกลัวตลอดเวลายิ่งทำให้ธีร์ธัชรู้สึกอยากแกล้ง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย

"คุณทอร์ชจะทำไรคะ" อินทิราถามซื่อๆ พลางหลับตาลงแน่นข่มความกลัว เกิดมาไม่เคยได้เข้าใกล้ผู้ชายมากขนาดนี้ อย่างดีก็แค่แอบปลื้มรุ่นพี่ในโรงเรียนตามประสา

"ตัวเธอหอมดี ขนาดยืนอยู่ไกลๆ ยังได้กลิ่น ฉันเลยอยากเข้ามาพิสูจน์ใกล้ๆ" คำตอบตรงๆ ทำเอาเจ้าตัวอ้าปากค้าง

"เอ่อ...แก้มขอตัวก่อนนะคะ" พูดจบร่างบางก็ทำท่าจะขยับลุกขึ้น แต่ยังช้ากว่าคนเจ้าเล่ห์อยู่ดี ไหล่กลมมนถูกกดให้นั่งลงไปตามเดิม ยิ่งเขาทำแบบนี้ยิ่งทำให้เธอมีอาการกลัวชัดเจน

"จะรีบไปไหน? ฉันยังสัมภาษณ์เธอไม่จบ"

"แก้มจะรีบไปจัดห้องค่ะ" เธอก้มหน้าตอบ

"เดี๋ยวค่อยไปก็ได้ ทำไม! กลัวฉัน?" ช่างถามออกมาได้ ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว ถึงเขาจะหล่อแค่ไหนก็ตาม สายตาที่ประสานกันทำเอาหัวใจเต้นส่ำไม่เป็นจังหวะ หญิงสาวหลับตาอีกครั้งเมื่อมองเห็นใบหน้าคร้ามคมโน้มเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้มาใหม่ที่ทันได้เห็นภาพระหว่างทั้งคู่เข้าพอดี

"ทำอะไรอยู่คะพี่ทอร์ช?" ธันยาพร เวชวรรธนะกุล น้องสาวเพียงคนเดียวของธีร์ธัชซึ่งมีดีกรีเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยถามพี่ชายเสียงเข้มกับสิ่งที่เห็น สายตาเหลือบไปยังร่างของอีกคนซึ่งไม่คุ้นตา

"เทย่า เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อน" ธีร์ธัชทำเสียงดุ และหันไปเห็นว่าหญิงสาวอีกคนกำลังพาตัวเองลุกขึ้นยืนด้วยอาการสั่นไม่หาย ไหนจะต้องมาอายสายตาของน้องสาวเขาที่จ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง

"เทย่าเคาะแล้วนะคะ พี่ทอร์ชเองต่างหากไม่ยอมล็อกประตู"

"แก้ม หลานสาวป้าอิ่มน่ะ" ชายหนุ่มเลิกเถียงกับน้องสาวโดยการหันมาแนะนำคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ให้รู้จัก

"หลานป้าอิ่มหรือคะ" ธันยาพรถามเสียงสูงและจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง

"นี่เทย่า น้องสาวฉัน"

"สวัสดีค่ะคุณเทย่า" อินทิราเงยหน้าจากเสียงแนะนำของชายหนุ่มและยกมือไหว้คนที่อายุมากกว่าซึ่งสวยเสียจนเธอเองยังอดชื่นชมไม่ได้

"เธอเข้ามาทำอะไรในห้องพี่ชายฉัน?" หญิงสาวไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่เลือกที่จะตั้งคำถามซึ่งยังเคลือบแคลงไม่หาย ขึ้นชื่อเรื่องหวงพี่ชายยิ่งกว่าอะไร ขนาดไฮโซสาวที่พี่ชายควงยังไม่ชอบหน้า แล้วนับประสาอะไรกับคนตรงหน้าที่บ่งบอกว่าพ้นสถานะคำนำหน้าว่าเด็กหญิงมาไม่กี่ปี

"แก้มเอากาแฟมาให้คุณทอร์ชค่ะ" เธอตอบเสียงเบา

"ใครสั่ง" ธันยาพรสวนกลับแทบจะทันที

"..." คำถามจู่โจมและตามติดเล่นเอาตั้งตัวไม่ทันจนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างๆ

"พี่เป็นคนสั่งให้แก้มเอามาเอง พี่แค่อยากสร้างความคุ้นเคยกับหลานสาวป้าอิ่มไว้" ธีร์ธัชเป็นฝ่ายตอบน้องสาวขี้หวงด้วยรอยยิ้ม

"แน่นะคะ" คนหวงพี่ชายย้ำเสียงเข้ม

"เธอออกไปก่อน" ชายหนุ่มสั่งเนื่องจากไม่อยากให้น้องสาวทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกลัว ประเดี๋ยวไก่จะตื่นซะก่อน