บท
ตั้งค่า

บทที่4

เมลสันห่อปาก เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “...อย่างนั้นก็หาผู้หญิงที่มีคุณสมบัติพอจะเป็นแม่ศรีเรือนให้ ชั่วคราวสิ”

คำแนะนำที่ได้ยินทำเอาเฮริคหนุ่มไฟแรงหยุดชะงัก ละสายตาจากของในมือ มองสบตาคนแนะนำอย่างต้องการความกระจ่างอีกนิด

“ชั่วคราว...” เฮริคเอ่ยเบาๆ พลางคิดตาม แล้วตาลุกโพลงขึ้นอย่างเห็นด้วย “ความคิดเข้าท่า แต่จะหาแบบนั้นได้ที่ไหน”

“เอ่อ... อันนี้... ก็ไม่รู้” นาทีนี้คนเสนอแนะทำหน้าเหลอหลา เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าจะหาผู้หญิงแบบนั้นได้ที่ไหน

“ที่ทำงานไม่มีบ้างหรือไง ฉันว่าน่าจะเลือกได้สักคนล่ะน่า ค่าจ้างงามๆ ฉันว่าพวกหล่อนไม่กล้าปริปากแถมชอบซะอีก ที่จะได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อๆ อย่างนาย” ว่าให้เหมือนรู้ดีทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่อยากเข้าใกล้ผู้หญิงสักเท่าไหร่

“อืม...” ใบหน้าคมเข้มทำท่าคิดตามคำแนะนำ ภาพลักษณ์แม่สาวแต่ละนางลื่นไหลเข้ามาในห้วงความคิดของเฮริค ไล่ตั้งจากแม่เลขาสาวหน้าห้องที่สนิทที่สุดและไต่ระดับแผนกห่างออกไปเรื่อยๆ

ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมาช้าๆ เขามองไม่เห็นทาง เพราะแต่ละนางยามอยู่ต่อหน้าเขาช่างกระแดะ จีบปากจีบคอ กรีดกรายไม่มีความเป็นธรรมชาติเอาเสียเลย คงทำให้คนเป็นแม่ขัดหูขัดตาอีกนั่นแหละ...

หากแต่ความคิดของเฮริคเป็นอันต้องสะดุดลง เมื่อรถที่นั่งเหวี่ยงเหมือนหักหลบอะไรบางอย่างข้างหน้ากะทันหัน จนผิดจังหวะ

“อะไร...” คนไม่รัดเข็มขัดทางเบาะหลังร้องถาม โดยที่ตัวเองเกือบหัวคะมำหน้าคว่ำไปด้านหน้า ที่สำคัญใบหน้าหล่อเหลาเกือบเสียบไปตรงกลางระหว่างเบาะ พร้อมดันตัวเองให้กลับมานั่งตรงจุดเดิมที่เลื่อนออกไป ก่อนจะขยับเสื้อสูทราคาแพงเข้าที่ ใบหน้าฉงนคิ้วหนาผูกปมจนนูนสูง

“เฮ้ย...! แย่แล้ว...” คนอยู่เบาะหลังได้ยินเสียงตกใจของเมลสันเป็นคำตอบ นัยน์ตาคมสีฟ้าสดได้แต่จ้องมองเป็นเครื่องหมายคำถามไม่คลาย

เมลสันสีหน้าตกใจ เหงื่อแตกซิบๆ เพราะหลังจากที่เขาละสายตาจากท้องถนน ไม่กี่วินาทีหันกลับมาอีกครั้งหัวใจเกือบกระเด็นออกมานอกอก เมื่อเห็นร่างของใครคนหนึ่งในระยะกระชั้นชิด พร้อมเสียงกระแทกเบาๆในจังหวะที่เขาแตะเบรกให้รถหยุดอย่างกะทันหันและกระชั้นชิด

“ไม่น่าเล้ย!” เมลสันสบถพร้อมสะบัดศีรษะไปมา

“มีอะไร...” คนด้านหลังถามซ้ำอีกครั้ง ทั้งสีหน้าอยากรู้เต็มแก่

“เอ่อ สงสัยชนคนแล้วล่ะ...” เมลสันหันมารายงาน

“หือ...ลงไปดูหน่อยสิว่าเป็นอะไรหรือเปล่า!!” เฮริคสั่งทันที พยายามโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อดูเหตุการณ์ แต่ก็มองไม่เห็นอะไร จึงตัดสินใจจะเปิดประตูลงไปดูเสียเอง

เมลสันรีบเปิดไฟกระพริบเพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้รถคันที่ตามหลังมารู้ว่าเกิดปัญหา และรีบปลดเข็มขัดนิรภัย แต่ก็เห็นเจ้านายลงจากรถไปก่อนแล้ว

“เฮ้อ!” บอดี้การ์ดหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ ยืนเกาศีรษะตนเองหลังจากก้าวลงไปยืนข้างเจ้านาย ความปลอดภัยของเฮริคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขาที่สุด

“ทำไมซวยอย่างงี้เนี่ย” น้ำเสียงตัดพ้อ ว่ากับตัวเอง

หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งในชุดกางเกงยีนส์สีเข้ม เสื้อยืดสีขาวรัดรูปเน้นสัดส่วนบ่นอย่างหงุดหงิดหลังจากที่ต้องไปนั่งแหมะอยู่บนพื้น จากนั้นจึงรีบเก็บของที่หล่นจากมือกระจายเกลื่อนบนถนนอย่างรวดเร็ว

รติกาล คลี่ยิ้ม สายตาจับจ้อง อย่างโล่งใจเมื่อเหลือชิ้นสุดท้าย ก่อนจะยื่นแขนไปสุดเอื้อมมือเรียวเพื่อหยิบชิ้นที่อยู่ไกลสุด แต่สิ่งนั้นกับกระเด็นไปอีกด้าน จนทำให้เธอหงุดหงิด

เพราะจังหวะที่ยื่นมือออกไปคาดคะเนไว้ว่าต้องจับ แล้วยัดเข้าถุงพลาสติกให้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ต้องการจะหยิบกระเด็นไปอีกด้าน ส่วนที่เธอจับได้เป็นหัวรองเท้าหนังสีดำสนิทมันปราบจนเกิดเป็นเงาสะท้อน สายตากลมจึงมองไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเห็นใบหน้าเจ้าของรองเท้าหนังราคาแพงนั้น

“....”ดาราลูกครึ่งคนไหนเนี่ย เคยเอามาเป็นอิมเมจในนิยายหรือปล่าวหนอ... คิ้วเรียวขมวดมุ่น นึกย้อนกลับไป ก่อนจะดึงมือกลับ

เฮริคที่จับจ้องใบหน้าเกลี้ยงเกลามีไรผมปรกลงมาเล็กน้อย เพราะผมถูกเกล้าไว้อย่างง่ายๆ โดยใช้ไม้คล้ายตะเกียบเสียบผมไว้ ปล่อยให้ผมตกลงมาข้างๆ ขับใบหน้าเรียวมนให้ดูสะดุดตา แม้จะมีเหงื่อเม็ดใสผุดเต็มใบหน้า หากแต่ความสวยยังคงน่ามองจนเขาเองเกือบแสดงอาการเหมือนคนตะลึง อย่างกับเจอเครื่องประดับที่ถูกตาต้องใจ

และนั้นสายตาเข้มยังจ้องริมฝีปากบางที่อ้าค้าง แม้จะเป็นสภาพไม่น่ามอง ที่ผู้หญิงมองผู้ชายอย่างไม่ไว้ตัว แต่ปากบางจิ้มลิ่มสีชมพู เย้ายวนชวนให้น่ากดทับน่าสัมผัส จนเขาต้องรีบถอนสายตาจากดวงหน้าและริมฝีปากน่าพิสมัยนั้น เพราะหากขืนมองไปนานๆเขาไม่แน่ใจว่า คนอย่างเขาที่ชอบเอาแต่ใจ จะห้ามใจไม่ดึงหล่อนเข้ามาบดจูบซอนหาความหวานหอม อย่างคนไร้สามัญสำนึกได้หรือไม่ เพราะแค่เห็นดวงหน้าก็ทำให้น้ำลายที่มีอยู่น้อยนิดถูกกลืนลงท้องอย่างยากลำบากแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel