One night stand DADDY&MOM จำเป็น บทที่2.เรื่องแย่ๆ ที่อยากลืม
บทที่2.เรื่องแย่ๆ ที่อยากลืม
เมรีถอนใจรอบที่ร้อย เธอจำอะไรไม่ได้เลย ภาพเหตุการณ์ปะติดปะต่อ แต่ไม่ชัดเสียทีเดียว เธอพยายามนึก พยายามที่จะเค้นความคิด ‘ผู้ชายคนนั้น’ เป็นใคร เธอรู้จักเขาไหม?
ไม่เลย...
เธอไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า ไม่เคยรู้จักมักจี่
แต่อะไรชักพาล่ะ ทำไมเธอตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกับเขา
“ไอ้เพื่อนบ้ากรอกเหล้าฉันจนเมาหัวทิ่มเลย” เธอบ่นพึมพำ เพราะการออกไปเที่ยวครั้งแรก ทำให้เธอสูญเสียบางสิ่ง
เท่าที่เมรีจำได้ หลังมองหน้าผู้ชายคนนั้นจนจำได้ขึ้นใจ
เธอรีบเผ่นออกจากที่แห่งนั้นแบบไม่คิดชีวิต อย่างน้อยก็หนีไปตั้งหลักไกลๆ ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน
เมรีพยายามลืม แต่ไม่เคยลืมได้สักครั้ง
เธอโล่งใจไปหนึ่งเปราะ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยโผล่มากวนใจ ให้เธอปวดหัวซ้ำ
ช่างเถอะ...ถือเสียว่าถึงคราวซวย คิดเสียว่า ‘หมาเดินมาเยี่ยวใส่หลังเท้า’
เมรีสะบัดหน้าแรงๆ ไล่ความคิดสับสนในใจทิ้ง
แต่แล้วอาการในร่างกายก็ทำให้เธอตระหนก
อาการผะอืดผะอมเหมือนอยากจะคายของเก่าในช่องท้อง เหงื่อแข่งกันผุดขึ้นมาเหนือเนินหน้าผาก เมรีใจหายแว๊บ!!
‘เธอคงไม่ถึงคราวซวย’ ใช่ไหม
เมรีควานมือหาถ้ำยาดมมาจ่อที่ปลายจมูก เธอสูดกลิ่นสมุนไพรแรงๆ จนอาการที่เกิดขึ้นบรรเทาลง
จากนั้นก็รีบสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ เพื่อดูบันทึกความทรงจำที่ตนเองตั้งไว้
‘เวรแล้วไหมล่ะ’
กากบาททับบนวันที่ที่เป็นวันแดงเดือด วันที่เคยเป็นทุกเดือน แต่เดือนนี้กลับหายไปดื้อๆ
เธอจะไม่มานั่งกลุ้มใจเลย หากไม่เกิดอุบัติเหตุบ้าๆ กับตัวเอง
ทุกครั้งหากวันสำคัญไม่มา เมรีก็แค่หัวเราะ ต่อให้คลาดเคลื่อนไปเป็นเดือนก็ไม่เดือดร้อนสักนิด
เธอไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกับเพศชาย
แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ไง...
ครั้งนี้เพราะมันมีปัญหา เมรีเลยเริ่มร้อนใจ
“เมรี ทำไมหน้าซีดจังวะแก?”
เบญจา เพื่อสนิททักเสียงแหลม
เมรีเงยหน้ายิ้มกร่อยๆ ให้ “เบญ เราจะซวยไหมวะ?”
เสียงอ่อยๆ สีหน้าหงอยๆ ของเพื่อน เบญจาเลยลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้า จับมือเมรีมากุมไว้ พร้อมกับพลอยถามเสียงอ่อยไปด้วย
“เมนไม่มาเหรอรี?”
เมรีไม่เคยมีความลับกับเพื่อน เรื่องวุ่นวายวันนั้น มีเบญจาและไพลินรู้เรื่องอย่างละเอียด เหมือนเผชิญเหตุการณ์วันนั้นมาด้วยกัน
ใบหน้าเล็กๆ ผงกขึ้นลง พร้อมกับเสียงถอนใจแรงๆ
“ไปตรวจกัน เดี๋ยวฉันแวะไปชวนไพลินไปด้วย” อะไรจะเกิดมันย่อมเกิด แต่ควรมีสติตั้งรับ เบญจาภาวนาเอาใจช่วย ขอให้ความซวยของเพื่อน เป็นแค่เรื่องที่แอบกังวลไปเอง
แต่...โชคไม่เข้าข้างเมรีเลย
ผลตรวจออกมาค่อนข้างชัดเจน
เธอท้อง...
สามสาวนั่งหน้าซีดพอๆ กันในร้านกาแฟไม่ไกลจากคลินิก
ใบตรวจครรภ์วางอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยาบำรุงที่พยาบาลจัดให้
“เอาไงดีเมรี เอาไว้ หรือเอาออก?”
ไพลินถามเสียงเคร่ง สีหน้าทุกคนพลอยเคร่งเครียดไม่ต่างกัน
“บ้าเหรอลิน นี่ ‘ลูก’ ฉันนะ” เมรีครางเสียงหลง เด็กไม่ผิด ผิดที่เธอเอง อย่างน้อยเขาก็อยากมาเกิด แล้วเธอมีสิทธิอะไรไปทำลายเขาทิ้ง
“ไหวเหรอวะ แม่เลี้ยงเดี๋ยวมันไม่ง่ายเลยนะ กับเศรษฐกิจวิบัติแบบทุกวันนี้”
ข้าวยาก หมากแพง ค่าแพมเพิส ค่านม ค่ายา ค่ากินอยู่ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว
“ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตัดสินใจ ยังพอมีเวลาน่า”
เบญจาส่งสายตาปรามไพลินไว้
เรื่องนี้ต้องใช้ความคิด วู่วามไม่ได้
“ไม่ต้องคิดหรอก ฉันจะเอาเขาไว้ ฉันเลี้ยงได้ ไหวอยู่แล้ว”
ไม่ค่อยมั่นใจหรอกว่าตัวเองไหวหรือเปล่า แต่เธอทำลาย ‘เขา’ ไม่ลง เลือดก้อนนี้อยู่ในอกเธอแล้วนะ เธอไม่ใช่คนใจดำ ใจยักษ์ใจมารอะไรนี่
“เอางั้นเหรอ ไหวแน่นะ”
เบญจาถามย้ำ เธอไม่ได้คัดค้าน เพราะรู้นิสัยเมรีดี
“ไม่รู้เหมือนกัน แหมแก...พ่อ แม่ยังเลี้ยงเรามาได้เลย ทำไมฉันจะเลี้ยงไม่ได้ล่ะ ลูกคนเดียวเอง”
“โชคดีที่พ่อแม่แกชิงไปสวรรค์ก่อน ไม่งั้นคงลมจับ”
ไพลินบ่นอุบอิบ ที่ห่วงเพราะเมรีตัวคนเดียวนั่นแหละ บิดามารดาเมรีชิงหนีไปบนฟ้า ปล่อยบุตรสาวแก่นแก้วเผชิญโลกวุ่นวายแค่คนเดียว
“โชคดีอีกเรื่อง...ที่ฉันไม่ต้องผ่อนบ้านเหมือนพวกแกไง”
