บทส่งท้าย...
“เมื่อคืนมนฝันถึงคุณชลิตาด้วยค่ะ” มนตราบอกสามีซึ่งซบหน้าหอบกระเส่าอยู่กับอกอวบใหญ่ของตนหลังจากที่เพลงรักเร่าร้อนที่ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่จบลง...
แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ความรักที่พวกเขามีให้กันก็ยังคงฉ่ำหวานอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้ลูกๆ ไม่อยู่ขัดความสำราญพวกเขาก็ยิ่งรักกันเหนียวแน่นมากขึ้น เพราะน้องมิ่งแก้วกับน้องมิ่งขวัญในวัยสองขวบนั้นไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ของคุณลุงเด่นคุณป้ายอดรักกับคุณปู่คุณย่าที่ยังคงแข็งแรงสดใสซึ่งยินดีจะเลี้ยงดูหลานๆ เพื่อให้โอกาสลูกชายลูกสะใภ้คนดีได้อยู่ด้วยกันลำพังบ้าง
มนตรากับอัครวัฒน์นั้นต่างช่วยกันเลี้ยงดูลูกๆ ฝาแฝดทั้งสองด้วยกันมาตลอด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนพวกเขาก็จะยกกันไปทั้งครอบครัว มาดคุณโดมแฟมิลี่แมนจึงเป็นที่กล่าวขวัญและมนตราก็เป็นหญิงสาวที่ใครๆ ต่างก็อิจฉาในความโชคดีของเธอที่ได้สามีที่ดีแสนน่ารักอย่างคุณโดม อัครวัฒน์ ดีแลนด์ คนนี้...
“จริงเหรอ เหมือนพี่เลย พี่ก็ฝันว่าหนูเล็กมาเยี่ยม เธอดูมีความสุขมากทั้งที่พี่ไม่ได้ฝันถึงเธอมานานมากตั้งแต่เราแต่งงานกัน...”
“จริงเหรอคะ...” หญิงสาวถามขณะลูบไหล่กว้างเปลือยเปล่าของสามีเล่นอย่างเพลิดเพลินแต่สำหรับสามีจอมพลังนั้นกำลังพยายามข่มใจให้โดมน้อยจอมซนสงบลงก่อน...
“ครับ เอ... หรือว่า หนูเล็กจะมาบอกข่าวดีว่าเรากำลังจะมีน้องๆ ให้เจ้าตัวเล็กนะ”
“พี่โดมน่ะก็คิดอยู่เรื่องเดียว ตอนนี้พี่ๆ ของพี่โดมเขาก็ยังไม่เห็นจะมีวี่แววอะไรนี่คะ”
“ใครบอก ตอนนี้น้องบีกำลังท้องอ่อนๆ ไม่รู้เหรอ ไม่รู้ล่ะ พี่โดมไม่ยอมแพ้พี่เดียวหรอก”
เขาพูดเสียงดื้อดึงพลิกร่างแกร่งลงนอนแทนที่เธอแล้วรั้งให้เธอนั่งคร่อมสะโพกแกร่งของตนอย่างรวดเร็ว มนตรารู้สึกซ่านรัญจวนไปทั้งกายเมื่อมองเห็นความแข็งแกร่งของสามีที่มันไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยทั้งที่เพิ่งผ่านมรสุมสวาทเร่าร้อนมาเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“พี่โดมน่ะ... อื้มมม...”
หญิงสาวประท้วงเสียงเบาหอบหายใจระรวยเมื่อมือหนาของสามีลูบไล้เรื่อยมาจากเอวบางถึงทรวงอกอวบใหญ่ไหวสะท้านของตนแล้วบีบเฟ้นเขี่ยสะกิดยอดอกเธอเล่นอย่างซุกซน
“เหนื่อยจังช่วยกันหน่อยสิที่รัก...” เขากล่าวยิ้มพรายใส่ตาเธอ มนตราตีอกแกร่งของเขาเบาๆ อย่างขัดเขินแต่ก็ไม่ปฏิเสธเมื่อเธอเองก็ต้องการเขาพอๆ กัน
หญิงสาวก้มลงจุมพิตเรียวปากหยักของสามีอย่างเร่าร้อนก่อนจะเลื่อนริมฝีปากอิ่มมายังยอดอกกระด้างของเขาแล้วดูดเลียเลียนแบบจังหวะลิ้นของเขาที่ทำให้เธอซ่านเสียวทุกครั้งแต่ครั้งนี้เธอจะทำให้เขารู้สึกทรมานจากเรียวลิ้นของเธอบ้าง...
“โอ้ว มนจ๋า... พี่โดมใจจะขาดแล้วทูนหัว...” อัครวัฒน์ครางหนักๆ ในลำคอเมื่อลิ้นเล็กทว่าร้ายกาจไล้เลียต่ำลงไปๆ ทุกที ก่อนที่มนตราจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างของเขาด้วยปากและลิ้นของเธอ ร่างแกร่งผวาขึ้นนั่งแล้วเท้าแขนไว้ด้านหลังข้างหนึ่งอีกข้างก็สอดเสยเรือผมสลวยบรรเทาความซ่านกระสันเมื่อเธอดูกลืนความแข็งแกร่งของเขาอย่างเมามันจนเขาแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ หากมนตราไม่ยอมหยุดทรมานเขา...
“พอแล้วทูนหัว พี่ไม่ไหวแล้ว อ๊า...” ชายหนุ่มดันใบหน้างามแดงปลั่งออกอย่างอ่อนโยนแล้ว สอดเสยแก่นกายแกร่งเข้าสู่กลีบดอกไม้ที่พรั่งพร้อมสดฉ่ำของเธอทันที
และทันที่กายประสานกันหนุ่มสาวก็ครางออกมาพร้อมกันเมื่อความคับแน่นของร่างสาวบีบรัดเขาจนแทบขยับไม่ได้ทั้งที่ผ่านบทรักเร่าร้อนมาหลายครั้งแต่ความสดใหม่ของมนตราก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป กลับกันมันกลับเร่าร้อนยั่วเย้าให้เขาหลงใหลมากขึ้นทุกวันๆ
“ขยับเลยที่รัก แรงๆ เลยจ้ะ อย่างนั้น โอ้ว... มน น้องมนจ๋า เมียจ๋า สุดๆ ไปเลย...” ชายหนุ่มครางกระเส่าเมื่อเธอตอบสนองเขาอย่างร้อนแรงทุกท่วงท่า
ชายหนุ่มโยกกายสอดเสยประสานกับร่างสาวที่ขยับเคลื่อนไหวเร่าร้อนอยู่บนกายแกร่งของตน ใบหน้านวลแดงก่ำ ริมฝีปากเผยอครางเสียงหวานพลิ้วในขณะที่สะโพกมนขยับเร็วรี่แข่งกันกับสะโพกแกร่งที่โหมแรงโรมรันกันอย่างเมามันในบทรักเร่าร้อนที่ต่างปรนเปรอซึ่งกันและกัน ก่อนที่พวกเขาจะจับมือกันไปเยือนแดนสวรรค์สวาทอีกครั้งและอีกครั้ง...
ความรัก ความเข้าใจหรือความเสน่หา มันจะไม่สามารถเดินทางไปคู่กันได้อย่างมีความสุขหากคนสองคนไม่เปิดใจรับฟังซึ่งกันและกันและไม่ยอมลดทิฐิดื้อรั้นให้กัน และสิ่งที่สำคัญในการครองเรือนที่จะทำให้พบกับความสุขอย่างแท้จริงก็คือ การให้อภัย...
การให้อภัยคือการให้อันยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้คนได้เช่นเดียวกับการให้ความรักต่อกัน...
