บท
ตั้งค่า

บทที่ 5. ใครคือแพะ ใครคือราชสีห์...

อัครวัฒน์ไม่แน่ใจเลยว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันถูกหรือผิด มันจะเป็นไปด้วยความสะใจที่ได้แก้แค้นหรือเพราะเหตุผลใด แต่ลึกๆ แล้ว เขามีความรู้สึกว่าหากไม่ได้จูบเธอเขาต้องอัดอั้นจนแทบระเบิดแน่ๆ ซึ่งความรู้สึกนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเขาได้เลย

เขาไม่สมควรจะรู้สึกเช่นนี้ ไม่ควรรู้สึกรุ่มร้อนต้องการผู้หญิงสักคนได้มากขนาดนี้ ทั้งที่เขาพยายามจะข่มกลั้นอารมณ์นี้ไว้ พยายามจะบอกตัวเองให้เย็นชา บอกตัวเองให้มึนตึงกับเธอให้เกลียดมนตรา ให้ดุดันเครียดขึ้งใส่ เขาไม่อยากมอง ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากแม้แต่จะได้ยินเสียงของน้องสาวคนชั่วช้า...

แต่แล้ววันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพยายามบอกตัวเอง สิ่งที่เขาสร้างมันขึ้นขวางกั้นตนเองจากเธอตลอดกว่าหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่อยู่ที่นี่นั้นก็มีอันพังทลายลงไม่มีชิ้นดี...

เขาต้องการ เขาต้องการมนตรา นั่นคือความจริง นั่นคือสิ่งที่เขาจะต้องได้...

ริมฝีปากและเรียวลิ้นร้อนดูดรัดร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่โหมไหม้ของเขา อัครวัฒน์จูบเธอเหมือนไม่เคยได้จูบใครมาก่อน มือเรียวแข็งแรงอย่างบุรุษเพศเฝ้าเคล้นคลึงลูบไล้กายอรชรที่อ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนด้วยความถือสิทธิ์รั้งให้ร่างสาวแนบชิดไปกับเขาทุกส่วนสัดแทบไม่มีช่องว่างใดให้ลมพัดผ่าน...

“อื๊อ คุ คุณโดม อย่า...”

เสียงหวานแหบพร่าแผ่วพลิ้วพยายามจะห้ามปรามแต่มันก็ไร้ผลเมื่อคนที่ต้องทนเก็บกักซ่อนเร้นอารมณ์ปรารถนามานานนับตั้งแต่เจอหน้าใสๆ นี้นั้นไม่อาจจะทานทนข่มกลั้นความต้องการของตนเองได้อีกต่อไป...

จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเพียงได้เห็นหน้าใสๆ ของมนตราตั้งแต่วินาทีแรก เขารู้สึกเช่นไร เขาต้องการผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน ที่เขาพยายามมึนตึงเมินเฉยกับเธอนั้น เขาต้องใช้ความพยายามและหาเหตุผลมาฉุดรั้งอารมณ์เดือดระอุด้วยไฟปรารถนาของเขามากายเพียงใดจนต้องยกโทษทัณฑ์ของพี่ชายเธอมากล่าวอ้างเพื่อทำสิ่งนี้...

เขาต้องการเธอ... อัครวัฒน์ยอมรับเงียบๆ กับตนเอง แต่เขาจะไม่มีวันให้ใครล่วงรู้ความลับนี้นอกจากตัวเขาและเขาจะทำทุกอย่างเพื่อความต้องการของเขาเองนับจากวินาทีนี้...

ชายหนุ่มเลิกคิดอย่างอื่นแล้วตักตวงทุกหยาดหยดความหวานจากโพรงปากสาวละมุน ลิ้นเล็กเริ่มไว้เนื้อเชื่อใจเขาดูดรัดเกาะเกี่ยวตอบสนองเขาอย่างน่ารักเมื่อลิ้นเจนจัดกล่อมลวงให้เธอคล้อยตามได้อย่างไม่ยากเย็น การตอบสนองของเธอแม้เงอะงะแต่ก็ทำให้เขาพอใจ มือเรียวเล็กที่พยายามผลักอกกว้างของเขาให้ห่างในวินาทีแรกก็ลูบไล้ไปตามลอนกล้ามเนื้อแกร่งแน่นตึงของเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นจนอัครวัฒน์ครางแผ่วๆ ในลำคออย่างพอใจก่อนจะรั้งร่างเล็กให้ติดตามมาล้มลงบนเตียงนุ่มได้ไม่ยากเย็น

มนตรามึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง ความรู้สึกเสียดเสียววิ่งพล่านไปทั้งร่าง ความร้อนระอุอุ่นปนเปียกชื้นก่อเกิดที่ใจกลางร่างสาว ทั้งยังรู้สึกว่าทรวงอกอวบของตนมันเบ่งบานมากกว่าที่เป็นอยู่และขณะนี้มือของเขาก็กำลังฟอนเฟ้นเคล้นคลึงทรวงสาวของตนอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ อัครวัฒน์ทั้งบีบเฟ้นและเขี่ยสะกิดยอดทรวงสีหวานอย่างเมามันในขณะที่ปากร้ายกำลังไล้เลียเชยชิมขมเม้มไปตามผิวเนื้อนุ่มของสาวเจ้าซึ่งมันเปิดเปลือยตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่อาจจะรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ท่อนบนของเธอเปลือยเปล่าอวดโนมเนื้ออวบใหญ่ให้เขามองและสัมผัสอย่างแนบชิดสนิทสนมอย่างที่สุด

“อืม สาวน้อย ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำให้ฉันร้อนและลืมตัวได้ขนาดนี้...”

เสียงเข้มแหบห้าวด้วยเพลิงอารมณ์เดือดพล่าน แก่นกายของเขาบวมเป่งจนรู้สึกปวดร้าวไปหมดเหมือนว่ามันจะแตกระเบิดเสียตอนนี้เลยทีเดียว ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกในชีวิตนับตั้งแต่เขาได้สูญเสียคนรักไป หนำซ้ำมันยังมาเกิดมารู้สึกกับน้องสาวของไอ้คนชั่วที่ลักพาตัวเธอไปให้ศัตรูของเขาข่มเหงเสียด้วยนี่สิมันทำให้เขาต้องทรมานทั้งกายและใจ...

“คุณอัครวัฒน์ อะ อย่า... มน อื้มมม...” หาใช่คนเดียวที่กำลังทรมานและปวดร้าวในร่างกาย ตอนนี้มนตราเองก็รู้สึกปวดร้าวทรมานด้วยความเสียวซ่านจากปากและลิ้นของเขาจนร่างสาวจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะความร้อนที่ไม่เคยพบเจอ

เธอจะตายไหม... มนตราเฝ้าถามตัวเองทุกขณะจิตเมื่อลิ้นและมือร้อนผะผ่าวของเขาแตะแต้มลูบไล้ไปบนเนื้อตัวเปล่าเปลือยของตน

ตอนนี้มนตรารู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ จากภายนอกที่พัดผ่านเข้ามาและความร้อนระอุจากร่างของคนตัวโตที่อยู่เหนือร่างของเธอในตอนนี้ ความรู้สึกสะบัดสะบัดหนาว เสียวซ่านรัญจวนตีกันจนยุ่งเหยิงสาวน้อยผู้อ่อนด้อยในเกมสวาทได้แต่ครางกระเส่าอยู่ใต้ร่างแกร่งของคนที่มีชั่วโมงบินเหนือกว่าอย่างหมดสิ้นหนทางจะหลบเลี่ยงหลีกหนีจากอารมณ์แสนสวาทนี้ได้เลย

“เรียกฉันว่าคุณโดม... มนตรา...” เขากระซิบสั่งเสียงพร่าแล้วบดขยี้เรียวปากหยักร้อนระอุลงมาบดเคล้ากลีบปากสาวที่แทบจะชอกช้ำเพราะฤทธิ์จุมพิตร้อนแรงของเขา อัครวัฒน์ไม่คิดเลยว่าเขาจะรู้สึกร้อนแรงได้ถึงเพียงนี้...

ชายหนุ่มคิดอย่างมึนงงในใจราวหนุ่มน้อยริรักแต่เขาก็หยุดสิ่งที่เริ่มต้นนี้ไม่ได้ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มขุ่นข้นด้วยแรงอารมณ์เมื่อก้มมองร่างเล็กแต่เต็มตึงไปทุกสัดส่วนของคนใต้ร่าง ในขณะที่มนตราหอบกระเส่ารุนแรงจนรู้สึกราวกับว่าแทบจะมอดม้วยไปกับจุมพิตร้ายที่เหมือนจะดูดดึงเอาลมหายใจไปจากเธอจนหมดสิ้น หากเขาไม่ถอนปากออกมาให้เธอได้หายใจหายคอบ้างมีหวังเธอคงสิ้นใจอยู่ตรงนี้แน่นอน...

ร่างเล็กทว่าอวบอิ่มขาวนวลเนียนไปทั้งเนื้อทั้งตัวนอนหลับตาพริ้มหอบระรัวระทดระทวยเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าของเขานั้นช่างน่าปรารถนาจนเขาแทบเก็บกักความต้องการที่อัดแน่นที่แก่นกลางร่างจนชายไม่ไหว อยากจะกระชากกางเกงนอนผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มที่เขาสวมอยู่เพียงตัวเองออกไปเสียตอนนี้แล้วโจนจ้วงเข้าหาความอ่อนนุ่มใจกลางร่างสาว... มันจะให้ความรู้สึกอย่างไรนะ มันจะทำให้เขาหายจากความทรมานนี้หรือเปล่า...

มนตราปรือตามองเขาอย่างเอียงอายและพยายามยกมือน้อยปิดบังทรวงสาวล้นมือจากสายตาร้อนแรงของเขาแต่การที่เธอขยับตัวเพียงนิดก็ทำให้ความอดทนของเขาขาดผึง... อัครวัฒน์ก้มลงหาปลายถันสีหวานที่ส่ายระริกยั่วยวนโดยไม่ตั้งใจของเธอทันทีก่อนที่ร่างสาวจะพลิกกายหนี และทันทีที่ปลายลิ้นร้อนแตะลงบนยอดทรวงมนตราก็ถึงกับครางเสียงดังเมื่อเขารวบยอดอกของเธอไว้ในอุ้งปากแล้วดูดเลียอย่างร้อนแรง...

“อ๊า คุณโดม โอ้ว... อา...” ความเสียวซ่านที่ร้อนแรงเหมือนจะกระชากวิญญาณของเธอให้หลุดล่องลอยออกจากร่างอย่างไรอย่างนั้น แล้วยิ่งลิ้นร้อนของเขามันเลื้อยต่ำลงไปจากทรวงอกทั้งสองข้างที่ถูกฟอนเฟ้นดื่มกินอย่างหิวกระหาย ต่ำลงไปๆ จนถึงแอ่งสะดือบุ๋มน่ารักหัวใจของมนตราก็เหมือนจะหยุดเต้นเสียอย่างนั้นแต่ก็น่าอัศจรรย์ที่เธอยังหายใจอยู่และยังไม่ขาดใจตาย

โอ... นี่กำลังเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ผู้อ่อนด้อยในเกมกามาคิดอย่างสับสนทั้งมนงงมึนเมาจนอยากจะรู้ได้ว่าตอนนี้ตนรู้สึกเช่นไร รู้แต่เพียงว่าความรู้สึกนี้มันช่างทรมาน เสียวซ่านไปทุกรูขมขนเลยทีเดียว...

“เธอน่ารักและหวานมากมนตรา อา ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะสวยและหวานขนาดนี้...” ชายหนุ่มเงยหน้าจากหน้าท้องเนียนแล้วกระซิบแหบพร่าก่อนจะแยกเรียวขาเสลาออกกว้างเปิดเปลือยทุกอณูเนื้ออิสตรีต่อสายตาร้อนแรงของตน...

“อื้มมม คุ คุณโดม จะ จะ ทำอะไร... อ๊ะ...”

ไม่มีคำตอบจากเขามีเพียงปลายลิ้นที่แตะแต้มตวัดไล้ที่ใจกลางร่างงามฉ่ำชื้นด้วยหยาดน้ำที่หอมหวานเอ่อนองจากเกสรสาว เพียงเท่านั้นคนตัวเล็กก็ดิ้นพล่านด้วยความเสียวสะท้านเกินบรรยาย สะโพกสาวส่ายร่อนไม่รู้ว่ากำลังพยายามหนีจากเรียวลิ้นร้ายหรือแอ่นเอนเข้าหาริมฝีปากรุมร้อนของเขากันแน่ แต่ที่รู้ๆ เธอไม่สามารถจะถดถอยสะโพกหนีปากและลิ้นของเขาไปได้ ทำได้เพียงครางพลิ้วเสียดสีแผ่นหลังบางกับที่นอนนุ่มจนยับย่นเท่านั้น...

โลกทั้งโลกของมนตราหมุนคว้างมากกว่าที่เคยเป็น เธอรู้สึกเหมือนว่าโลกกำลังพลิกกลับมุมหรือเพราะเธอลอยละลิ่วขึ้นมาสูงเกินไปกันแน่ หรือว่าเธอกำลังถูกโยนออกไปนอกโลกก็ไม่รู้แต่สุดท้ายเธอก็ได้เห็นแสงดาวพร่างพราวระเบิดพร่างพรายอยู่ตรงหน้าทั้งที่ตอนนี้เธออยู่ในห้องที่แสนจะมิดชิด...

“อ๊า...” เสียงหวานครางเสียงดังสะท้านสะเทือนอย่างไร้จริตมารยาเมื่อเขาส่งเธอขึ้นไปแตะแดนดาวพราวสวาทได้สำเร็จด้วยปากและลิ้นร้อนของเขา อัครวัฒน์เงยหน้ามองหญิงสาวที่หลับตาแน่นหายใจไม่เป็นจังหวะอยู่ตรงหน้าด้วยความปรารถนาแรงกล้า มือใหญ่กระชากกางเกงนอนของตนออกอย่างรวดเร็วหมายจะทำตามความต้องการที่อัดแน่นมานานแต่เพียงแค่กางเกงตัวนั้นมันหลุดพ้นจากกายแกร่งปลดปล่อยให้ความร้อนดุดันของกายชายมาสูดอากาศ เสียงโทรศัพท์ที่เขาตั้งไว้เฉพาะสามคนพี่น้องก็ดังขึ้นอย่างไม่รู้กาลเทศะเอาเสียเลยและเขาจะไม่รับก็ไม่ได้...

“บัดซบ... ไอ้พี่คนไหนมันโทร. มาตอนนี้วะ...” อัครวัฒน์สบถออกมาอย่างหยาบคายที่สุดเท่าที่เคยพูดถึงพี่ชาย...

ร่างสูงเดินมาคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะแต่งตัวแบบผู้ชายอย่างไม่สบอารมณ์ทั้งกายเปลือยเปล่า ทำให้คนตัวเล็กที่เพิ่งได้สติหน้าแดงก่ำกับภาพที่เห็นก่อนจะรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมกายเปลือยไม่แพ้เขาของตนทันที ดวงตากลมโตเลิกลักมองหาเสื้อผ้าของตนที่เขาถอดเหวี่ยงทั้งไม่รู้ทิศไม่รู้ทางและไม่รู้ว่าเขาถอดเสื้อผ้าของเธอตอนไหนด้วยนั้นอย่างมึนๆ งงๆ อยู่บ้าง อัครวัฒน์ปลายตามองคนตัวเล็กที่ผิวกายแดงปลั่งอยู่บนเตียงด้วยอารมณ์ที่ยังไม่สงบพลางนิ่งฟังสิ่งที่พี่ชายของเขาพูดมาตามสาย...

“นายกำลังจะเผด็จศึกแม่สาวน้อยนั่นรึไงวะถึงได้เสียงเข้มอย่างกับพระเอกตอนตกสวรรค์” อัครากล่าวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะมาตามสาย ตามด้วยเสียงของอัคนีที่แซวมาแว่วๆ ว่าให้ระวังบ่วงที่สร้างขึ้นดักกวางสาว เดี๋ยวตัวเขาจะติดบ่วงเสียเอง...

“มีอะไรก็ว่ามา เข้าเรื่องเสียทีเถอะน่า...” เสยผมด้วยความหงุดหงิดพลางเดินมายืนขวางทางคนตัวเล็กที่พยายามจะพาตัวเองเข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำทั้งที่ม้วนตัวด้วยผ้าห่มหนาน่าขันเมื่อเจ้าหล่อนหาเสื้อผ้าของตนเองเจอ

มนตราเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ผิวแก้มใสแทบจะไม่มีสีอื่นใดนอกจากสีแดงปลั่ง ริมฝีปากบวมเป่งจากพิษจุมพิตร้ายจากเขาขบกันแน่นเหมือนเจ้าตัวกำลังระงับความตื่นเต้นยิ่งทำให้เขาร้อนระอุจนแทบอยากจะเอื้อมมือผ่านสัญญาณโทรศัพท์ไปบีบคอพี่ชายทั้งสองแล้วผลักเธอลงบนเตียงเพื่อโหมกระหน่ำความแกร่งกระด้างที่ปวดร้าวอยู่ใจกลางร่างชายเข้าหาเธออย่างเร่าร้อน... แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงส่งสายตาจดจ้องเธอไว้ไม่ให้เจ้าหล่อนหนีหน้าเขาไปได้...

“โอเค แล้วผมจะไปที่ไร่ อ้อ... บอกไว้ก่อนว่า หากผมเจอพี่เดียวตัวต่อตัวเมื่อไหร่ เจอหมัดผมแน่...” คาดโทษพี่ชายไม่จริงจังนักก่อนจะวางสายเมื่อทางนั้นพูดธุระสำคัญจบแต่เขานี่สิไม่ จบแล้วยังเจ็บ... ที่ต้องค้างเติ่งอยู่แบบนี้...

“จะไปไหน ธุระฉันยังไม่เสร็จ...” คำพูดของเขาทำให้มนตรามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจคิ้วเรียวขมวดยุ่งก่อนจะหน้าแดงก่ำเมื่อมองตามสายตาของเขามาเจอหลักฐานที่ว่า ธุระยังไม่เสร็จ ในความหมายของเขานั้นมันเป็นอย่างไร...

มนตราแทบไม่กล้าเงยหน้ามอง เจ้าชีวิต ของตนเลยนับจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ เธอต้องใช้ความกล้าและความพยายามอย่างมากที่จะควบคุมไม่ให้แข้งขาของตนเองสั่น ไม่ให้หัวใจหวิวไหวไปกับสายตาร้อนแรงของเขาที่เธอรู้สึกได้ว่าเขามองเธอด้วยสายตาแบบนั้น มันช่างบ้าสิ้นดี ที่เธอต้องรู้สึกเช่นนั้นและเธอเพิ่งค้นพบว่าอัครวัฒน์ไม่ใช่คนเย็นชาเงียบขรึมดุดันป่าเถื่อนเลยสักนิด แต่เขาคือชายผู้มากด้วยประสบการณ์และเร่าร้อนอย่างที่สุดต่างหาก ที่ผ่านมาเขาหลอกให้เธอตายใจ และที่เขาทำท่าเย็นชาใส่เธอนั้นตอนนี้เธอรู้เหตุผลดีทีเดียวว่าเพราะอะไร...

“หน้าฉันมีอะไรที่ไม่น่ามองมากรึไงถึงมองไม่ได้ เห็นก้มหน้าหลบหน้าหลบตาฉันอยู่ตลอดเวลา...”

“เปล่าค่ะ”

“แล้วทำไมต้องก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาที่เห็นหน้าฉัน”

“เอ่อ คือ มน...”

มนตราไม่รู้จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไรว่า ดวงตาของเขามันทำให้เธอใจสั่นหวั่นไหว และเหตุการณ์เมื่อวานก็ทำให้เธอรู้สึกอับอายเกินกว่าจะมองเขาได้เต็มตา...

“มีอะไรก็ไปทำ เสร็จแล้วอีกสิบนาทีมานวดให้ฉันด้วย”

คำสั่งของเขาทำให้เธอเงยหน้ามองเขาตาโตโดยอัตโนมัติและท่าทางของเธอก็ดูน่าขันจนอัครวัฒน์แทบจะหัวเราะออกมาแต่เขาทำเพียงก้มลงอ่านเอกสารตรงหน้ากลบเกลื่อนความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนนั้นเสีย... เขาจะหวั่นไหวไปกับน้องสาวไอ้คนชั่วไม่ได้เขาต้องแก้แค้นแทนคนรักของเขา... ชายหนุ่มพยายามบอกตัวเองเพื่อรักษาความมุ่งมั่นตั้งใจเดิม...

ทันทีที่มนตราเดินออกไปจากห้องทำงานของตนอัครวัฒน์ก็วางปากกาที่เซ็นเอกสารลงแล้วทิ้งกายพิงพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่แรงๆ อย่างหงุดหงิด ที่เขาเกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาชั่ววูบ ซึ่งเขาไม่ชอบเลย... เขาจะต้องใจร้ายกับเธอสิ เขาจะต้องทำให้เธอเจ็บปวดสิไม่ใช่รู้สึกหวั่นไหวไปกับหน้าใสๆ ซื่อๆ เนื้อหอมๆ หวานๆ ของเธอ...

“บัดซบเอ๊ย...

มนตรา เธอต้องเป็นแม่มดแน่ๆ” แล้วอัครวัฒน์โยนความผิดให้เจ้าหล่อนไปเสียแล้วทอดสายตาไปยังท้องทะเลกว้างใหญ่ด้วยความรู้สึกสับสนเสียเอง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel