บท
ตั้งค่า

บทที่ 12. เสือเผยลาย จบตอน

ในขณะที่มนตรากำลังคิดถึงเรื่องพี่ชายอยู่นั้นอัครวัฒน์เองก็กำลังคิดเรื่องของมนตราอยู่เช่นกัน เขามองดูหญิงสาวอยู่นานจากหน้าต่างห้องทำงานโออ่าของตนมาสักพักแล้วด้วยความรู้สึกสับสนและค่อนข้างลำบากใจเมื่อตอนนี้ทุกอย่างดูจะผิดแผนไปเสียหมด และมันก็ไม่ใช่เรื่องของมิ่งเมือง... แต่ว่าเป็นเรื่องบิดาของมนตราต่างหาก

คณะแพทย์ที่เขาส่งตัวลุงมิ่งไปรักษาตัวนั้นแจ้งเขาว่าลุงมิ่งอาการไม่ดีขึ้น แม้จะผ่าตัดแล้วก็ตามและเวลาของลุงมิ่งก็เหลือน้อย หรืออาจจะทรุดลงได้ทุกขณะ การผ่าตัดซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่จะหายมีอยู่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ซึ่งเขารู้ดีแต่สำหรับมนตราเธอไม่มีโอกาสรู้เลยว่าบิดาของตนแทบไม่มีโอกาสจะหาย แต่มนตราก็ยอมที่จะเป็นผู้หญิงของเขาเพื่อไม่ให้เขาเอาผิดกับลุงมิ่งเพราะเป็นพ่อของมิ่งเมืองที่เป็นคนก่อเหตุลักพาตัวชลิตาไปจนเกิดเรื่องเศร้าขึ้น ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ครั้งนี้แต่มนตราก็ไม่เคยคิดเอาตัวรอดเพียงคนเดียว

มนตราแสดงให้เขาเห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอด้วยการยอมรับที่จะเป็นผู้ถูกกระทำทั้งที่โดนพี่ชายแท้ๆ ขายให้เสี่ยวิบูล จนเขาต้องไปตามเอาตัวเธอมา ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเลย ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยว่าตนทำอย่างนั้นทำไม หากมนตราโดนเสี่ยวิบูลย่ำยีแล้วเขี่ยทิ้งเหมือนผู้หญิงข้างถนนเขาก็น่าจะพอใจที่น้องสาวของคนเลวๆ อย่างมิ่งเมืองโดนทำร้าย แต่ทำไมนะแค่คิดหัวใจของเขาก็เจ็บแปลบขึ้นมาเสียอย่างนั้น...

เขาเองก็รู้ดีว่าเปอร์เซ็นต์ที่ลุงมิ่งจะหายนั้นมันมีน้อยนิดและลุงมิ่งก็ไม่ได้เป็นแค่โรคหัวใจเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังหลอกให้มนตราหลงกลเกมที่ตั้งใจวางแผนไว้เพื่อแก้แค้น แต่แล้วเมื่อได้รับรู้อาการของลุงมิ่งในวันนี้เขาก็รู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูก หากมนตรารู้เรื่องนี้มันจะเป็นอย่างไรนะ หรือเขาควรจะทำอย่างดี...

“เป็นอะไรไปไอ้เสือ...” เสียงบิดาดังขึ้นทำให้อัครวัฒน์ละสายตาจากหญิงสาวหันมามองบิดาด้วยแววตาอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด...

“หากผมบอก คุณพ่อจะโกรธผมไหมครับ”

“มันก็ขึ้นอยู่กับเหตุผล ว่าฟังขึ้นหรือไม่...” ผู้เป็นพ่อตอบเรียบๆ จ้องหน้าลูกชายอย่างรอคอย...

“คือ ผม...” อัครวัฒน์รู้สึกลำคอตีบตันขึ้นมาทันที...

มนตราค่อยๆ ปิดประตูอย่างเบามือแล้วก้าวไปยืนอยู่กลางห้องนอนกว้างขวางของเขาดวงตากลมโตกวาดมองหาเจ้าของห้องแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า สามทุ่มแล้วอัครวัฒน์ไปไหน... เธอถามตัวเองแล้วเดินไปเยี่ยมหน้ามองในห้องน้ำก็ไม่พบเขา

“เอ... ไปไหนของเขานะ...” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นแล้วทำท่าจะเดินกลับห้องพักของตนเองแต่เมื่อพอหันกลับมาเธอก็เกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อชนเข้ากับร่างแกร่งของเขา

“จะไปไหน...”

“คุณ... มนตกใจหมดเลย...” หญิงสาวขึงตาใส่เขาทำให้อัครวัฒน์ยกยิ้มบางๆ ที่มนตรากล้าชักสีหน้าใส่เขา แม้จะรู้ดีว่าเธอลืมตัวแต่เขาก็ชอบให้มนตราแสดงสีหน้าแบบนี้มันทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นอย่างประหลาดหลังจากที่คุยเรื่องเครียดๆ กับบิดามาหลายชั่วโมง...

“หึหึ มานานแล้วเหรอ...” เขาหัวเราะในลำคอแล้วถามเรียบๆ ขณะเริ่มปลดเสื้อผ้าออกจากกายเรื่อยๆ ทีละชิ้นหน้าตาเฉยทำเหมือนเธอเป็นภรรยาของเขา และเขากับเธอก็กำลังคุยเรื่องในครอบครัวกันอยู่

เธอนี่ช่างบังอาจคิดไปไกลเหลือเกินมนตราเอ๋ยช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย... มนตราหน้าแดงก่ำเมื่อคิดถึงตรงนี้

“ถามว่าคิดอะไรอยู่”

“เปล่านี่คะ” คนตอบหันหน้าหนีร่างแกร่งเปลือยเปล่าอย่างขัดเขินพลางต่อว่าเขาในใจที่ไม่คิดจะอายเธอบ้าง แต่ใจสาวกลับเต้นระรัวปานกลองศึกบางระจัน...

“ฉันขออาบน้ำเดี๋ยวเดียว เธอจะนั่งรอก่อนก็ได้หรือจะมาช่วยถูหลังให้ฉันก็ได้นะ...”

“มนนั่งรอดีกว่าค่ะ” มนตรารีบบอกแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือริมหน้าต่างโดยไม่หันมามองเขา จึงไม่เห็นแววตาอ่อนโยนของคนตัวโตที่ทอดมองมา...

อัครวัฒน์ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปหยิบกางเกงนอนมาใส่เพียงตัวเดียวโดยปล่อยให้แผงอกกว้างเต็มตึงอวดท้าสายตาคนมองที่แอบใจสั่นหวิวๆ มนตราเมินหน้าหนีทำทีเหมือนสนใจนิตยสารตรงหน้ามากกว่าร่างแกร่งที่เดินเข้ามาหาช้าๆ ด้วยใจเต้นระทึก

“ฉันง่วงแล้วนอนเถอะ” คำชวนของเขาทำให้คนฟังเงยหน้ามองเขาตาโตแล้วก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที อะไรของเขากันล่ะนี่... มนตรารู้สึกสับสนและใจเต้นแรง...

“นะ นอน หรือคะ คือ มน...”

“คืนนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเธอ นอกจากให้เธอมานอนเป็นเพื่อน เหมือนที่นอนเป็นเพื่อนคุณแม่ไง” เขาบอกเรียบๆ สีหน้าของเขาดูใสซื่อไม่มีพิษไม่มีภัย แต่นั่นล่ะคือสิ่งที่มนตรากังวล...

“ทำไม หน้าตาฉันนี่มันดูเชื่อถือไม่ได้เหรอ”

“เปล่านะคะ” มนตรารีบส่ายหน้าหวือแต่ก็แอบต่อว่าเขาในใจที่รู้ทันความคิดเธอ

“งั้นก็มานอนสิ หากจะล้างหน้าแปรงฟันฉันให้เวลาเธอห้านาที หากช้ากว่านั้น ฉันอาจจะเปลี่ยนใจทำอย่างอื่น....” เท่านั้นเองมนตรารีบลุกขึ้นเดินแทบวิ่งเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวทันที ท่าทางของเธอทำให้อัครวัฒน์หัวเราะขบขัน ดูมนตราจะกลัวเขาทำอะไรมากกว่านอนเหมือนเด็กๆ กลัวการถูกฉีดยาไม่มีผิด

ท่าทางของเธอเหมือนชลิตาตอนที่เขารุกเร้ารังแกด้วยความรักในช่วงแรกๆ ไม่มีผิด ทั้งแววตาท่าทาง นิสัยของผู้หญิงสองคนนี้มีอะไรที่คล้ายกันเพียงแต่มนตราดูสงบเสงี่ยมกว่าอาจจะเป็นเพราะเธอเป็นรองเขาในทุกๆ ด้าน ส่วนชลิตานั้นถูกเลี้ยงและเติบโตในครอบครัวนักธุรกิจจึงมีความมั่นใจและแก่นเซี้ยวมากกว่าแต่โดยรวมแล้วผู้หญิงทั้งสองคนนี้มีความเหมือนกันคือทำให้เขารู้สึก... รัก...

อัครวัฒน์รีบปัดความคิดนั้นออกไปจากหัวทันทีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองคิดเลอะเทอะมากเกินไป ร่างสูงก้าวขึ้นเตียงแล้วนอนพิงหัวเตียงหลับตานิ่งเหมือนกำลังต่อสู้กับความคิดของตัวเองที่ตีกันวุ่นวาย...

“โดมถามตัวเองก่อน ถามตัวเองให้ดีให้มั่นใจให้ชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรกับหนูมนแล้วค่อยคิดทำอย่างอื่นต่อไป คิดให้ดีและตอบตัวเองให้ได้ และให้เร็วที่สุดเพราะหากช้าหรือมัวแต่ทิฐิดื้อดึง โดมจะเสียใจ...” คำพูดของบิดาที่คุยกันก่อนหน้านี้ดังก้องอยู่ในหัว...

อัครวัฒน์ถอนหายใจออกมาหนักๆ กับความคิดอันสับสนของตนเอง ด้วยความที่เขาไม่ใช่คนที่เลวร้ายมาตั้งแต่ต้นนิสัยใจคอก็ไม่ใช่จะร้ายกาจมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่ความเสียใจทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่และคิดแค้นใจกับคนที่ทำให้คนรักจากไปอย่างน่าเศร้า แต่คนผิดก็ได้รับกรรมที่ก่อแล้ว การที่เขาเอามนตรามาระบายความแค้นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

แต่มนตรากลับรบกวนหัวใจเขาให้วุ่นว่ายและสับสนตั้งแต่แรกที่เขาได้เห็นแววตาใสๆ คู่นี้ ซึ่งกระตุกหัวใจของเขาให้แกว่งไกวไหวหวั่น เขาพยายามปฏิเสธตัวเองมาตลอดว่ามันไม่จริง มันไม่ใช่ แต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันถูกต้องแล้ว เมื่อได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยเจ็บปวดของมนตราในวันนั้นที่ไร่อัครา แววตาเศร้าๆ ของเธอซึ่งเขาไม่อยากจะเห็น น้ำตาของเธอที่เขาไม่อยากจะให้มันไหลริน...

และเมื่อเขามาคิดไตร่ตรองอีกทีก็ประจักษ์กับความจริงที่ว่าคนผิดนั้นได้รับโทษไปแล้ว และตอนนี้ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้เขาก็ยิ่งคิดไม่ตก...

นี่เขาอ่อนไหวกับน้ำตาของมนตราได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ...

อัครวัฒน์เฝ้าถามตัวเองอย่างคิดไม่ตก ก่อนที่ความคิดทั้งหลายทั้งมวลของเขาจะสะดุดลงเมื่อมนตราเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้ากระวนกระวายและเป็นกังวลจนน่าขัน เขาไม่เข้าใจเลยว่ามนตราจะอายอะไรเขาอีกทั้งที่เขากับเธอทำมากกว่ามองหน้ากันมาแล้วตั้งหลายครั้ง และเขาก็ได้เห็นและสัมผัสร่างงามนี้มาไม่รู้กี่หน แต่ดูเจ้าหล่อนจะขัดเขินทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆ เขา แต่เมื่อยู่ในห้วงสวาทที่เร่าร้อนมนตรากลับตอบสนองเขาได้ทุกท่วงท่าและเต็มไปด้วยความร้อนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งท่าทางของเธอแบบนี้นี่เองที่ทำให้เขานึกเอ็นดูและอยากเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอทุกๆ วัน อยากให้เธอตอบสนองบทรักอันเร่าร้อนของเขาทุกๆ ค่ำคืน...

“เอ้า ขึ้นมาบนเตียงสิ จะมัวยืนอ่อยฉันอยู่อีก บอกไว้ก่อนนะคืนนี้ไม่มีอารมณ์...” ปากเจ้ากรรมก็ยังดันพูดพล่อยๆ ทั้งที่วันนี้เขาตั้งใจจะพูดดีๆ กับเธอ... อัครวัฒน์อยากจะหาอะไรมาตีปากตัวเองนักเมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าลงเล็กน้อยของหญิงสาว...

“ค่ะ...” มนตราตอบสั้นๆ แล้วก้าวขึ้นเตียงอีกฟากตรงข้ามกับเขาด้วยท่าทางหงอยๆ

“มาตรงนี้สิ จะนอนริมๆ เตียงทำไมเดี๋ยวก็ตกคอหักกันพอดี” ไม่พูดเปล่าแต่วงแขนแข็งแรงก็ตวัดคราวเดียวร่างอ้อนแอ้นก็ตกอยู่ในอ้อมแขนเขา มนตราหน้าตื่นเล็กน้อยแต่ก็ทำเพียงก้มหน้าซุกอยู่กับอกกว้างของเขาซึ่งหากว่าเธอต่อล้อต่อเถียงขึ้นเสียงใส่เข้าบ้างอัครวัฒน์จะรู้สึกดีกว่านี้...

“เป็นอะไรไป” อดไม่ได้จริงๆ ที่จะถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และหัวใจของเขาก็อ่อนยวบลงอย่างประหลาด...

“เปล่านี่คะ” มนตราแทบน้ำตาไหลกับน้ำเสียงอ่อนโยนของเขาที่ถามไถ่

“ไหนเงยหน้าขึ้นมาคุยกันดีๆ สิ หากก้มหน้าแบบนี้จะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วฉันก็จะอยากทำอย่างอื่นมากกว่าคุย...”

“เอ่อ คือมนมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณโดมค่ะ...” สิ้นคำพูดเชิงขู่เข็ญของเขาเธอก็เงยหน้าพูดกับเขาทันทีด้วยท่าทางตื่นๆ นี่เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ... ชายหนุ่มอดถามตัวเองไม่ได้...

“ว่ามาสิ”

“คือ มนอยากจะขอร้องคุณโดมบางอย่าง... เกี่ยวกับเรื่องพี่เมือง” คำพูดของเธอสร้างความอึดอัดให้เขาอยู่ไม่น้อยแต่อัครวัฒน์ก็นิ่งฟังว่าเธอจะพูดอย่างไร...

“มนอยากจะขอให้คุณโดมปล่อยพี่เมืองเป็นอิสระ ตอนนี้พี่เมืองก็น่าจะคิดได้แล้วว่าสิ่งที่เขาทำมันแย่แค่ไหน อีกอย่างพี่เมืองก็อยากจะชดใช้ให้คนรักของคุณด้วยการบวชอุทิศส่วนกุศลและชดใช้ให้เธอ มนรู้ว่ามนอาจจะขอมากไป แต่มนสัญญาว่าจะอยู่ชดใช้สิ่งที่พี่เมืองก่อทั้งหมดเพียงคนเดียว มนจะยอมเป็นทาสของคุณตลอดไปก็ได้ คุณจะฆ่าจะแกงมนอย่างไรก็ได้ จะโขลกสับมนยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงมนก็ยอม ขอแค่เพียงคุณโดมยอมให้พี่เมืองเป็นอิสระและได้บวชอย่างน้อยๆ ก็ให้พี่เมืองได้บวชให้คุณพ่อ... ได้ไหมคะ...” มนตราพูดยืดยาวกว่าครั้งไหนๆ และกลั้นใจรอคอยคำตอบจากเขา...

“ก็น่าสนใจดีนะกับสิ่งที่เธอเสนอ แต่ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้นี่นา ในเมื่อฉันเหนือกว่าเธอทุกอย่างอยู่แล้ว” อัครวัฒน์มองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตที่ไหวระริกรื้นด้วยน้ำตาของเธออย่างพยายามจะแข็งใจมอง เพื่อหาคำตอบให้ตัวเอง...

“ถ้าอย่างนั้น มนขอโทษค่ะ”

“อีกสองวันพ่อของเธอจะกลับมา...”

“จริงเหรอคะ ก็ไหนคุณว่าต้นเดือนหน้าพ่อถึงจะได้กำหนดกลับมา นี่แสดงว่าการรักษาได้ผลดีใช่ไหมคะ พ่อของมนหายแล้ว” ดวงตาที่หม่นหมองเมื่อครู่พลันสดใสขึ้นมากะทันหันเลยทีเดียว...

“ก็ไม่เชิง...” ชายหนุ่มกล่าวเรียบๆ แล้วหลับตาลงไม่พูดอะไรเป็นการตัดบทดื้อๆ เสียอย่างนั้น

มนตรามองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่หลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าอย่างหลงใหลแม้จะรู้สึกเจ็บปวดที่แอบรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว แต่หัวใจสาวก็พองโตทุกครั้งที่ได้มองใบหน้าของเขาใกล้ๆ ได้อยู่ในวงแขนอุ่นๆ คู่นี้ที่เธอพยายามจะเตือนตัวเองให้ระงับยับยั้งใจไว้บ้างก็ตาม แต่ใจเจ้ากรรมก็ไม่เคยเชื่อฟังเธอสักครั้ง...

“แอบมองฉันมากๆ ระวังนะ” จู่ๆ เขาก็พูดโพล่งขึ้นมาแต่ยังไม่ลืมตา กระนั้นก็ทำให้มนตราสะดุ้ง ใจเต้นแรงหน้าแดงก่ำ ถ้าเขาลืมตาขึ้นมาเห็นว่าเธอหน้าแดงขนาดไหนล่ะก็จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะทีนี้

“เปล่าเสียหน่อยคนอะไรจ้องแต่จะว่าคนอื่น”

หญิงสาวบ่นอุบอิบแล้วก้มหน้าซุกอกกว้างของเขาทันทีด้วยความขวยเขินยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอของเขาเธอก็ยิ่งหน้าแดงร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า...

มนตรานอนเกร็งด้วยความวิตกอดกังวลไม่ได้ว่าเขาอาจจะไม่นอนเฉยๆ อย่างที่บอกไว้ ทั้งยังคิดเรื่อยเปื่อยเรื่องที่เธอคุยกับเขาซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้จนในที่สุดก็หลับไป ร่างที่นอนอยู่ข้างๆ ลดอาการเกร็งลง ลมหายใจสม่ำเสมอบอกว่าหลับไปแล้ว ทำให้คนตัวโตที่หลับตานิ่งอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ดวงตาคมเข้มทอดมองเสี้ยวหน้าอ่อนใสที่มีปอยผมยาวระใบหน้าบางๆ นั้นดูน่าทะนุถนอมมากกว่าจะถูกทำลาย... หากมนตรารู้ว่าพ่อของตนนั้นเหลือเวลาไม่มาก และเขาก็หลอกใช้เธอมาตลอด มันจะเป็นอย่างไรหนอ...

นายมันก็ไม่ต่างจากคนใจร้าย ไม่ต่างจากมิ่งเมืองหรือเนวินเลยอย่างไรล่ะ ที่รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทางสู้...

เสียงๆ หนึ่งก็ดังแทรกเข้ามาในหัวของเขาทันที... อัครวัฒน์ถอนหายใจอย่างอ่อนล้ากับปมที่ตนเองผูกขึ้นมา...

“ฉันขอโทษนะมนตรา...” น้ำเสียงที่ออกจากริมฝีปากหยักสวยของเขาเบาหวิวราวสายลม... แต่ในค่ำคืนนั้นเขาก็หลับอย่างเป็นสุขไม่ได้ฝันถึงชลิตาเหมือนที่ผ่านมา...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel