2 งูพิษ (2)
ทว่าชีคอาร์เรมัลและบรรดาผู้ติดตามยังไปไม่ถึงที่หมายด้วยซ้ำ เจ้าโจรร้ายทั้งสองที่หมายเอาชีวิตของชีคอาร์เรมันก็ชิงลงมือ! คนทั้งสองทำทีเป็นเดินเข้ามาใกล้เหมือนผู้คนสวนทางไปปกติ
กาเรมที่รู้เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดเฝ้ามองด้วยความระทึกใจ นางขยับเข้าไปใกล้ จ้องมองการกระทำอันอุกอาจของพวกมันไม่วางตา พอปากถุงใบนั้นถูกเปิดออกแล้วปล่อยทิ้งลงบนพื้น ทันใดนั้นเองสิ่งมีชีวิตในนั้นก็เลื้อยออกมามากมาย!
กาเรมหมายจะเข้าไปแย่งถุงผ้าเป็นอันต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ เพราะไอ้ดวงตาสีฟ้าวาวแสงในที่มืดนั้นมีหรือที่นางจะจำมันไม่ได้!!
“งูพิษ!” กาเรมสบถออกมา ยังไม่ทันได้เข้าไป กาเรมก็ได้เห็นความอลหม่านและการต่อสู้เกิดขึ้น
“งูพิษ! คุ้มกันนายท่านด้วย!!!”
เสียงของใครบางคนดังขึ้น เพราะนอกจากสองคนร้ายที่จู่โจมแบบสายฟ้าแลบแล้วยังต้องระวังงูด้วย
ผู้คนที่ผ่านไปมาแตกกระจายเป็นวงกว้างเมื่อคำว่า ‘งูพิษ’ ดังก้อง
กาเรมยังระทึก ตื่นเต้น ตื่นตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวใจดวงน้อยเต้นแรงดวงตาเบิ่งกว้างเมื่อเห็นการต่อสู้ในระยะใกล้
ดูว่าคนตัวเตี้ยนั่นจะฝีมือดีกว่าคนตัวสูง ขนาดคนของชีคอาร์เรมัลมีมากกว่ายังล้มไม่ได้ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นสองโจรร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจากการประมือกับชีคอาร์เรมันเหมือนจะรู้ชะตาของตัวเอง พวกมันจึงคิดหนี
แต่ชีคหนุ่มที่เคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไวราวสายลมและปราศจากอาวุธก็เข้ารับมือกับกันจาร์เล่มคมที่หมายปลิดชีพเขา ด้วยทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่า เขาสามารถหลบการโจมตีของโจรตัวเตี้ยได้ ในขณะเดียวกันก็หาโอกาสจู่โจมคู่ต่อสู้ให้ล้มลงได้
สายตาของกาเรมจับจ้องอยู่ที่ชีคหนุ่มด้วยความประทับใจในฝีมือและชั้นเชิงในการต่อยิ่งสู้นัก
แล้วกาเรมก็ขมวดคิ้วเข้าหากันที่อยู่ ๆ ชีครูปงามทำหน้ายุ่ง นางเห็นชีคอาร์เรมัลคุกเข่าลงแล้วล้วงเอางูตัวเล็กออกจากชายผ้าหลังจากที่จัดการกับสองโจรได้ ในขณะนั้นผู้ติดตามของเขายังคงอลหม่านกับงูที่ยังหลงอยู่
“แย่แล้ว!” หญิงสาวเผลออุทานแล้วต้องรีบเอามือปิดปาก
กาเรมเห็นอีกว่าเจ้าสองโจรร้ายที่ถูกอัดจนสะบักสะบอมกำลังจะหนีไป มีคนหยุดดูเหตุการณ์อย่างสนใจมากพอสมควรและนั่นก็เป็นโอกาสงามที่เจ้าสองโจรร้ายจะพลาดไม่ได้ หากมันพลาดก็หมายความว่าเวลาแห่งการมีชีวิตอยู่กำลังจะหมดลง
อาวุธที่กาเรมเตรียมเอาไว้จึงได้ใช้การ หญิงสาวเล็งไปที่ขาของเจ้าโจรร้ายที่วิ่งกะเผลก ๆ ชนิดไม่เหลียวหลังมามอง นางแม่นอยู่แล้วเรื่องยิงลูกหิน แม้ฟ้าจะมืดก็ตาม
“โอ๊ย!!”
โจรตัวสูงล้มลง ก่อนที่โจรตัวเตี้ยจะล้มตาม ครั้นจะลุกขึ้นแล้วไปต่อก็ทำไม่ได้ เพราะสมุนของชีคอาร์เรมัลได้เข้าประชิดตัวพวกมันในทันที กาเรมถอนหายใจพร้อมลดอาวุธในมือลงแล้วหันไปมองผู้ที่ถูกงูพิษกัด
“มีใครเป็นอะไรไหม?” เสียงของอาลีตะโกนถาม
“งูฉกข้า”
เสียงของผู้ติดตามตะโกนบอก อาลีจึงตรงเข้าไปหาคนผู้นั้นด้วยความเป็นห่วง แต่กลับไม่มีเสียงของอาร์เรมัลแม้แต่น้อย ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนก้อนหินใหญ่เพื่อตรวจดูบาดแผล
กาเรมที่รอจังหวะจึงตรงเข้าไปหาเขา นางนั่งลงกับพื้นที่ต่ำกว่าชายหนุ่มโดยไม่สนใจเรื่องความสะอาด
อาร์เรมัลทำหน้าเหยรู้สึกปวดแปลบที่ข้อเท้านัก คิดว่าเขาระมัดระวังตัวแล้วแต่เขาก็ยังพลาดเหยียบเจ้างูนี่เข้า แล้วเขาต้องแปลกใจที่เห็นเด็กหนุ่มแปลกหน้า หน้าตามอมแมมยื่นมือมาถกขากางเกงของเขาขึ้น
“จะทำอะไรเจ้าหนุ่ม?!” เสียงนั้นแหบแห้ง แฝงความไม่พอใจ และหวงเนื้อหวงตัว
กาเรมไม่พูดจาใด ๆ นางสำรวจบาดแผลอย่างรวดเร็ว เมื่อแน่ใจว่ามีรอยเขี้ยวแห่งเดียวที่ข้อเท้าซึ่งปกคลุมไปด้วยขนหน้าแข้ง
“เจ้าเป็นใคร ทำบ้าอะไรน่ะ?!”
กาเรมไม่ฟังเสียงทักท้วงแม้แต่นอ้ย นางรู้ว่านี่คือวินาทีแห่งชีวิต
นางต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เขาก่อน มิเช่นนั้นเขาอาจเสียชีวิตด้วยพิษงู ชายเสื้อตัวเก่าสีหม่นถูกฉีกออกแล้วนำมารัดแน่นอยู่เหนือบาดแผล ชายหนุ่มกัดฟันแน่นมองดูการกระทำของเด็กหนุ่มปริศนาเงียบ ๆ
กาเรมสำรวจความแน่นของมัน สลับกับมองใบหน้าชีคหนุ่มซึ่งปกคลุมไปด้วยหนวดเครา สีหน้าของเขาบอกให้นางรู้ว่าเขาเจ็บปวด แล้วอาร์เรมัลก็ชะงักไป เหมือนเขาจะรู้ว่ากาเรมจะทำอะไรต่อไป
“อย่าทำเช่นนั้น”
เสียงห้ามนั้นไม่เป็นผลเอาเสียเลยเมื่อริมฝีปากจิ้มลิ้มก้มลงดูดพิษจากบาดแผลอย่างไม่รังเกียจครั้งแล้วครั้งเล่า
ชายหนุ่มถอนใจลึกมองการกระทำของหนุ่มน้อยปริศนาอยู่นิ่ง ๆ วิธีปฐมพยาบาลเช่นนั้นเสี่ยงนัก หากพลาดผู้ที่ดูดพิษก็อาจเสียชีวิตได้ แต่เจ้าหนุ่มน้อยนี่กลับไม่ได้ห่วงชีวิตของตัวเองเลย
กาเรมทำซ้ำๆหลายครั้งจนแน่ใจว่าพิษงูนั้นถูกดูดออกหมดนางจึงหยุด
“เจ้าทำอะไรนะ?!”
