บท
ตั้งค่า

1 วณิพกกาเรม (2)

รถม้าของชายฉกรรจ์ยังคงเดินทางเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนแต่อย่างใด จากเมืองสู่เมืองมีหยุดพักเป็นครั้งคราวเพื่อพักม้า กาเรมอยากอาศัยโอกาสนั้นลงจากรถบรรทุกเสบียง แต่โอกาสนั้นไม่มีเอาเสียเลย เจ้าของรถม้ายังคงวนเวียนไม่ทิ้งรถม้าไปไหน

จนพลบค่ำมาเยือน รถม้าคันที่กาเรมอาศัยมาได้จอดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ผ้าคลุมสินค้าท้ายรถถูกเปิดออกเพื่อทำการขนสินค้าเหล่านั้นลง

“อ้าวเฮ้ย!!” เสียงอุทานของชายฉกรรจ์แปลกหน้าที่เห็นกาเรมเป็นเพียงเด็กชายหน้าตามอมแมมมาหลงมาอยู่หลังรถม้าของเขา

กาเรมมองชายผู้นั้นด้วยความหวาดระแวงจนเจ้าของรถม้าอมยิ้ม

“มาอยู่ในรถข้าได้อย่างไรเจ้าหนุ่ม?”

“ข...”

คำพูดถูกกลืนลงคอ หากนางพูด ผู้ชายตัวโตมีหนวดเต็มใบหน้าต้องรู้แน่ว่านางเป็นหญิง และอันตรายครั้งใหม่อาจมาเยือน เขาอาจทำเหมือนเจ้าราเมซก็เป็นได้

ท่าทีอึกอักของกาเรมทำให้ชายผู้นั้นต้องถามขึ้นอีก

“ว่าไงเจ้าหนุ่มน้อย?”

กาเรมกลืนน้ำลายลงคอ แล้วทำท่าทางโบกมือไปมาพร้อมเกร็งลิ้นแข็งส่งเสียงแบะ ๆ เพื่อให้ชายผู้นั้นรับรู้ จนชายฉกรรจ์ผู้นั้นต้องยกมือห้ามเมื่อเห็นท่าทางของกาเรม

“เออ ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเป็นใบ้”

กาเรมยิ้มรีบพยักหน้ารับแล้วปีนลงจากรถม้าพร้อมคุกเข่าเพื่อขอบคุณที่ชายผู้นี้ให้โดยสารมา ชายชาวเบดูอินนั้นไม่สนใจอะไรมากนัก เพราะเขาให้ความสนใจในสินค้าที่เขาบรรทุกมามากกว่า

“ให้ตายสิ เล่นลักขโมยกินผลไม้ของข้าซะเกือบลัง” ชายผู้นั้นถอนใจมองกาเรมอย่างคาดโทษ

‘ตายล่ะหว่า เจ้าก่อเรื่องอีกแล้ว’ กาเรมรำพันในใจ ค่อย ๆ ชำเลืองตามองชายผู้นั้น แล้วค่อย ๆ คลานหนี

“จะไปไหน?”

เสียงนั้นดุดันจนกาเรมต้องหลับตาปี๋คลานต่อก็ไปไม่ได้เพราะคอเสื้อถูกดึงเอาไว้ หญิงสาวจึงหันมามองหน้าชายผู้นั้นแล้วยิ้มแหย ๆ ด้วยหลักฐานนั้นยังเลอะเสื้อที่สวมอยู่ นางคงแก้ตัวไม่ได้

“ไหน ๆ ของก็เสียแล้วเจ้าเอาไปกินต่อเถอะ”

น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนลง ซ้ำเขายังคลายมือออก กาเรมนั่งจุมปุ๊กเอียงคอมองด้วยความแปลกใจ

คนแบบนี้ก็มีด้วยเกิดมาไม่เคยเจอ...

“เป็นวณิพกหรือ?”

เป็นคำถามที่กาเรมต้องทำหน้างง วณิพกคืออะไร นางไม่รู้จัก

ชาวเบดูอินเห็นหน้าตาเซ่อ ๆ แกมสงสัยก็อมยิ้มพลางส่ายหน้า

“ข้ามีเวลาไม่มากนักแต่ก็อยากช่วย เฮ้ ฟายะไปเอาเครื่องดนตรีในหีบมาให้ข้าทีสิ”

ลูกน้องที่ถูกเอ่ยนามทำตามคำสั่งทันที เพียงอึดใจเครื่องดนตรีชิ้นเก่าก็ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า กาเรมยังมองชายตรงหน้าด้วยแววตาฉงนสงสัยเช่นเดิม

“รับไปสิ ข้าให้ เจ้าจะได้ใช้หากิน อ้อ แล้วก็เอาไอ้ส่วนที่เจ้าแทะไว้ไปด้วย”

กาเรมรีบรับและคุกเข่าขอบคุณชายผู้ใจดีอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ

“นายท่านแล้วท่านชีคอาร์เรมัลไม่ว่าเอาหรือขอรับ ที่เราเอาสินค้าที่ท่านสั่งไปให้พวกขอทาน” น้ำเสียงคล้ายไม่พอใจของใครบางคนดังขึ้น

“หุบปาก แล้วไปทำหน้าที่ของเจ้าซะ”

ชายผู้นั้นเพียงไหวไหล่ แล้วกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อโดยไม่ใส่ใจกาเรมอีก

หญิงสาวยังนั่งเฉย นางไม่สนใจคำเหน็บแนมนั่นหรอก เพราะนางชินชากับคำต่อว่าด่าทอเสียแล้ว นางสนใจแต่ว่าวันนี้เทพีแห่งความโชคดีได้เข้าข้างนางแล้ว...

กาเรมหยิบผลไม้พร้อมเครื่องดนตรีที่ได้รับมาเดินเร่ร่อนไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย นางมองตึกรามบ้านช่องที่สร้างจากดินเหนียวใต้แสงดวงอาทิตย์อัสดงอย่างรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจและอิสระอย่างที่ไม่เคยเป็ฯมาก่อน

“ชีคอาร์เรมัล” หญิงสาวพึมพำนามของเจ้าของผลไม้ออกมา นามของเขายังฝังจำอยู่ในหัวสมอง

ชายชาวเบดูอินนั่นต้องเป็นคนของชีคชื่อยาวเป็นแน่ แล้วเขาก็ต้องร่ำรวยและใจดีมากแน่นอน ถึงได้ใจดีกับขอทานเช่นนาง

คืนนั้นแม้อากาศจะค่อนข้างเหน็บหนาว แต่ซากปรักหักพังของบ้านร้างชานเมืองยังพอเป็นที่กันลมและซุกหัวนอนของกาเรมได้เป็นอย่างดี หญิงสาวปิดตาลงอย่างสบายใจที่สุดในชีวิต นางกอดเครื่องดนตรีชิ้นเก่าและผล็อยหลับไปด้วยความหวัง

พรุ่งนี้นางจะมีอาชีพเป็นของตัวเองเสียที...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel