8. สรรหาสาวให้เจ้าชาย
“การันต์ มาขอเฝ้าท่านชายพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงทหารที่ประจำอยู่หน้าห้องทรงงานเข้ามาทูลเจ้าชายอาบิเชค เจ้าชายพยักพระพักตร์น้อย ๆ พร้อมกับสาวพระบาทไปประทับที่เก้าอี้นวม รอให้การันต์ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทเดินถือแฟ้มเข้ามาวางที่โต๊ะทรงงานตรงที่เจ้าชายอาบิเชค ประทับอยู่
“มีสาวงามนางหนึ่งที่ได้ตำแหน่งธิดาแห่งเทือกเขาหิมาลัยแห่งเมืองซาร์มอง กระหม่อมอยากให้ท่านชายได้ลองทอดพระเนตรก่อนพ่ะย่ะค่ะ” การันต์ทูลเจ้าชาย
“บอกหลายครั้งแล้วนะการันต์ว่าอยู่กันสองคนไม่ต้องใช้คำหรูหราฟุ่มเฟือยกับเรา”
เจ้าชายทรงดุแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก
“โอ๊ะ..ขออภัยท่านชายด้วยพ่ะย่ะค่ะ..เอ๊ย..ครับ”
การันต์ รีบโค้งศีรษะสำนึกผิด เพราะเขารู้ว่าเจ้าชายอาบิเชค ไม่โปรดอะไรที่เป็นพิธีการนัก เขาจึงมักจะเห็นเจ้าชายอาบิเชค ทรงสนทนากับพระมารดา และพระพี่นางด้วยคำพูดแบบสามัญธรรมดา มีเพียงพระราชานูรี กับ สมเด็จย่ามีราเบน เท่านั้นที่เจ้าชายทรงใช้คำราชาศัพท์ด้วย
“แล้วสาวงามที่เอามาให้ดูนี้น่าสนใจมากรึไง นายจึงอยากจะให้เรารีบดูนัก”
เจ้าชายทรงถามด้วยน้ำเสียงขบขัน
การันต์ รีบเปิดภาพสาวงามที่ตนพูดถึงในมือถือยื่นถวายให้เจ้าชายไปทอดพระเนตร ด้วยท่าทีกระตือรือร้น
“ชื่อสโรชินี..งั้นหรือ”
เจ้าชายทอดพระเนตร ภาพสาวงามสลับกับการอ่านชื่อในแฟ้มประวัติที่การันต์ส่งมาให้ตรงหน้า
“ขอรับ.. เธอเป็นสาวงามที่มีการศึกษาดีเป็นบุตรีของเซกาอูน นักธุรกิจอัญมณีหินสีแห่งเมืองซาร์มอง”
“เอ๊ะ..ทำไมเรารู้สึกคุ้นชื่อเซกาอูน นัก”
เจ้าชายทรงขมวดพระโขนงคล้ายครุ่นคิด
“เซกาอูน เป็นหุ้นส่วนในกิจการอัญมณีหินสีกับกลุ่มบารากัสยังไงล่ะครับ”
การันต์ ทวนความทรงจำให้เจ้าชาย
“ใช่สินะ..เซกาอูน ชื่อนี้ออกจะเป็นที่รู้จักของชาวเมืองซาร์มอง แต่เขาไม่รู้หรือไงว่าลูกสาวเขาเสนอตัวให้เรา หรือว่าลูกสาวแอบทำเองไม่ให้พ่อรู้”
“ก็อาจจะทราบก็ได้นะครับ..มีใครบ้างที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ใกล้ชิดกับเจ้าชาย”
การันต์ บอกด้วยท่าทีประจบเอาใจ
“อืมม์นั่นสินะ..ผู้หญิงคนนี้สวยใช้ได้ทีเดียว”
เจ้าชายทรงจ้องภาพนั้นด้วยแววพระเนตรพอพระทัย
“ถ้าจะดูเป็นภาพเคลื่อนไหวก็มีภาพบันทึกการประกวดด้วยนะครับ เพราะผู้หญิงคนนี้มีรางวัลความงามการันตีด้วยตำแหน่งธิดาแห่งเทือกเขาหิมาลัย”
การันต์ นำทูลเสนอข้อมูลเพิ่มทันที
“คงไม่ต้องหรอก แค่ภาพนิ่งก็ถูกใจเราแล้วล่ะ นายนัดหมายให้เธอมาเข้าเฝ้าเราได้เลย”
“เป็นวันไหนดีครับเจ้าชาย”
“เย็นพรุ่งนี้ก็ได้”
“เอ้อ..พรุ่งนี้เจ้าชายมีนัดกับคู่หมั้นเข้าเฝ้าพระมารดาไม่ใช่หรือครับ”
“จริงสิ..เราก็ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าโซฟียา จะมา..งั้นเรานัดหมายอีกทีก็แล้วกัน”
“ขอรับ”
การันต์ ออกจากห้องไปแล้ว เจ้าชายอาบิเช็คก็ปิดแฟ้มประวัติสาวงามลงอย่างไม่ไยดีอีก
ความจริง สาวงามทั้งหลายที่เสนอตัวมาเพื่อเข้าเฝ้าปรนนิบัติเจ้าชายนั้น มีมากมายโดยที่เจ้าชายไม่ต้องเป็นฝ่ายไปเสาะหา เพราะในแต่ละเดือน การันต์จะมีแฟ้มสาวงามมาถวายให้เลือก เช่นเดียวกับที่การันต์นำไปทูลถวายพระราชานูรีพระบิดาของเจ้าชายด้วย ทั้งพระบิดาและเจ้าชายต่างก็มีตำหนักส่วนพระองค์ไว้สำหรับเป็นที่สำราญพระราชหฤทัยในเรื่องนี้
ตำหนักของพระราชานูรีมีชื่อเรียกว่าตำหนักสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระองค์คือวันศุกร์ ในขณะเดียวกันเจ้าชายอาบิเชค ก็ไม่ได้น้อยหน้าพระบิดา มีตำหนักส่วนพระองค์เช่นกัน คือตำหนักสีแดงอันเป็นสีประจำวันประสูติ
สาวงามที่จะเข้ามาถวายตัวจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติพอสมควร รวมทั้งจะต้องผ่านการตรวจร่างกายจากแพทย์ด้วยว่า เป็นคนที่แข็งแรงไม่มีโรคติดต่อ หรือโรค
ประจำตัวทุกชนิด สาวงามบางคน อาจจะได้เข้าเฝ้าปรนนิบัติเพียงครั้งเดียวในชีวิต แต่จะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นจำนวนที่คุ้มค่า แม้ว่าเรื่องทำนองนี้จะไม่เป็นที่เปิดเผยมากนักแต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีคนรับรู้
