6. หนุ่มไทยผู้ไม่ซื่อสัตย์
วิลาวัลย์ รู้สึกแปลกใจที่เห็นชนกานต์ กำลังยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กับเด็กสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษา ซึ่งวิลาวัลย์ ทราบมาว่าเด็กสาวคนนี้เป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่บริษัทเดียวกับชนกานต์ ขณะนี้ทั้งสองคนมีท่าทีเหมือนทะเลาะกันอยู่
วิลาวัลย์ อยากจะลงจากรถไปฟังการโต้เถียงอยู่เหมือนกัน แต่เธอกำลังขับรถเพื่อวนหาที่จอดด้านหน้าบริษัทที่ชนกานต์ทำงานอยู่ จึงทำอย่างที่คิดไม่ได้
“ปล่อยพี่ได้แล้วนะมิ้น เพื่อนพี่จะมารับแล้ว เดี๋ยวเขามาเห็นเข้าจะทำให้พี่มีปัญหาได้”
ชนกานต์ แกะมือเด็กสาวชื่อมิ้น หรือชื่อจริงว่า มีนา ออกจากมือของเขาด้วยสีหน้าหวาดวิตก เกรงว่าวิลาวัลย์จะมาเห็นเข้า
“พี่เค สัญญาว่าเย็นนี้จะไปงานปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ของมิ้น แล้วทำไมพี่เคถึงได้ให้ยัยพี่ติ๊กนั่นมารับด้วย”
สาวน้อยมีนา นักศึกษาหน้าใสทำหน้าเง้างอดไม่พอใจชนกานต์
“พี่ไม่ได้เป็นคนบอกให้ติ๊กมารับ แต่เพื่อนพี่ขับรถออกมาแล้วและตอนนี้ก็คงใกล้จะถึงแล้วด้วย”
“แล้วทำไมพี่ถึงไม่บอกเขาไปว่าไม่ว่าง”
“พี่จะบอกอย่างนั้นได้ยังไงล่ะ เพื่อนพี่มีธุระสำคัญจะคุยด้วย”
ชนกานต์พยายามให้เหตุผลแก่มีนา
“ยัยพี่ติ๊กน่ะเหรอจะมีธุระอะไร นอกจากทำหน้าที่ควบคุมพี่เค แทนพี่นิแฟนพี่ เชอะ! ทำตัวยังกะเป็นแฟนคนที่สองของพี่เค..ทุเรศ!”
มีนา เบ้ปากหมั่นไส้วิลาวัลย์ ที่เป็นเพื่อนรักของฐานิกา
“มิ้น พูดจาไม่รู้เรื่องแล้วนะเรา” ชนกานต์ทำเสียงปราม
“พี่เคนั่นแหละที่พูดไม่รู้เรื่อง พี่บอกมิ้นเองว่าช่วงที่แฟนพี่ไปต่างประเทศ พี่เคจะทุ่มเทเวลาให้กับมิ้นคนเดียว แล้วนี่อะไรแค่ยัยพี่ฐานิกาไปเมืองนอกไม่กี่วัน พี่ก็จะเบี้ยวซะแล้ว มิ้นไม่ยอม”
มีนา พูดขึ้นเสียง และชักสีหน้าให้รู้ว่ากำลังไม่พอใจอย่างมาก
“มีเหตุผลหน่อยได้ไหมมิ้น” เขามีสีหน้าอ่อนใจ
“งั้นให้มิ้นไปด้วย” มีนายื่นข้อเสนอด้วยแววตาแข็งกร้าว
“ไม่ได้!”
“ถ้าไม่ได้ มิ้นก็ไม่ให้พี่ไปกับยัยพี่ติ๊กเหมือนกัน”
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหมมิ้น” เขาส่งสายตาอ้อนวอน
“ถ้าไม่ให้มิ้นไปด้วย มิ้นจะบอกยัยพี่ติ๊กว่า มิ้นกับพี่เป็นอะไรกัน ดูสิว่าพี่ติ๊กนั่นจะทำยังไง แต่มิ้นว่านะ หล่อนคงจะรีบโทรทางไกลไปรายงานแฟนพี่ที่สินาการ์เดียทันที พี่ก็คิดดูก็แล้วกันว่าผลจะเป็นยังไง”
มีนา ลอยหน้าพูดข่มขู่ด้วยน้ำเสียงสะใจที่เห็นสีหน้าของชนกานต์ซีดเผือด
“ถ้ามิ้นทำอย่างนั้นจริง ๆ เราก็ต้องเลิกกัน”
เขาจำใจต้องพูดทั้งที่ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น
“ฮึ! แล้วคิดเหรอว่าพี่นิจะไม่ขอเลิกกับพี่เคเหมือนกัน” เด็กสาวทำเสียงเยาะ
ชนกานต์ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คือฐานิกา ขอเลิกกับเขานั่นเอง เขายอมรับว่าผูกพันกับฐานิกามากเพียงใด แต่เขาก็ติดใจในเสน่ห์ของสาวน้อย
มีนาเช่นกัน แม้ว่าไม่คิดที่จะจริงจังกับสาวน้อยคนนี้ แต่ระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาที่มีนา มาฝึกงานอยู่ที่นี่ เขายอมรับว่ามีนา ทำให้เขารู้สึกกระชุ่มกระชวย คึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมา มีนาเป็นฝ่ายเริ่มต้นที่ส่งสายตาให้เขา และเขาก็สนองตอบทันทีจนทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่นานชนกานต์ ก็ลงทุนไปเช่าอพาร์ตเม้นท์ให้มีนาอยู่ โดยที่เขาแวะเวียนไปหาเธอบ้างในเวลาที่สามารถโกหกฐานิกาออกไปได้
ชนกานต์ คิดแต่เพียงว่าตราบใดที่ฐานิกา ยังจับไม่ได้ว่าเขาแอบนอกใจเธอมีกิ๊กซ่อนไว้ ตราบนั้นเขาก็ยังสามารถที่จะหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไปได้เรื่อย ๆ เขาไม่คิดว่ามันจะ
เป็นเรื่องเสียหายอะไรเลย ในเมื่อฝ่ายหญิงอย่างเด็กสาวมีนาก็ไม่ได้แคร์ในเรื่องที่เขามีคนรักอยู่แล้ว มีนารับรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขามีฐานิกาเป็นคนรัก เธอยอมที่จะเป็นกิ๊กเขาเอง ช่วยไม่ได้
“เค!..ไปได้รึยัง”
วิลาวัลย์ ร้องเรียกมาแต่ไกล คนที่ถูกเรียกถึงกับสะดุ้งโหยงหันไปมองอย่างหวาดหวั่น
“ทำไมมาถึงเร็วจัง”
ชนกานต์ รีบปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มเมื่อเห็นวิลาวัลย์เดินใกล้เข้ามา
“สวัสดีค่ะพี่ติ๊ก”
สาวน้อยมีนา ยกมือไหว้วิลาวัลย์ ทันทีด้วยสีหน้าสดชื่นเป็นปกติ มีนา ทราบจากชนกานต์ ว่าวิลาวัลย์ เป็นเพื่อนสนิทกับชนกานต์ และฐานิกา ซึ่งทั้งสามคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยม
มีนาเคยเห็นวิลาวัลย์ กับ ฐานิกา มารับชนกานต์ ที่ทำงานหลายครั้ง ในช่วงที่มีนา ฝึกงานอยู่ที่นี่
แม้ว่าชนกานต์ จะบอกมีนา ว่าเขามีฐานิกา เป็นคนรักอยู่แล้ว แต่มีนาก็ปิ๊งชนกานต์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า เธอจึงไม่แคร์ที่รู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว ตราบใดที่เขายังไม่ได้แต่งงานกับฐานิกา เธอก็ถือว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะชอบชนกานต์ และคนอย่างมีนา ก็ไม่เคยแพ้ใครเสียด้วย เธอมั่นใจว่าความเป็นสาววัยใสของเธอจะสามารถแย่งชิงชนกานต์มาจากฐานิกา ได้ไม่ยากนัก เพียงแต่เธอจะต้องใจเย็นและรอเวลาเท่านั้นเอง
“สวัสดีจ๊ะ แล้วนี่น้องมิ้นยังไม่กลับบ้านอีกเหรอจ๊ะ”
วิลาวัลย์ ถามพร้อมยกนาฬิกาข้อมือดู
“เอ้อ..ติ๊ก..คือมิ้นจะไปทานข้าวกับเราด้วยน่ะ”
ชนกานต์ บอกเพื่อนด้วยท่าทีเกรงใจ
“เหรอ..” วิลาวัลย์ทำหน้าแปลกใจ
“คืออย่างนี้นะติ๊ก พอดีมิ้น ช่วยงานด้านเอกสารก็เลยจะเลี้ยงขอบคุณน้องเขาน่ะ แล้ววันนี้น้องเขาก็ว่างพอดีก็เลยชวนไปด้วยกันซะเลย”
ชนกานต์ รีบบอกเหตุผลเพื่อให้เพื่อนหมดข้อสงสัยหรือระแวงเกี่ยวกับตัวเขากับเด็กสาวหน้าใส
“อ๋อ..ได้ได้ งั้นก็ขึ้นรถสิ”
วิลาวัลย์ บอกน้ำเสียงเต็มใจ แต่ก็ยังคิดถึงภาพก่อนหน้านี้ที่เห็นคนทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่ เธอพยายามที่จะคิดว่ามันคงไม่มีอะไรให้น่าสงสัย แต่ในฐานะที่วิลาวัลย์เป็นเพื่อนสนิทของฐานิกา เธอก็ต้องคอยสอดส่องดูแลความไม่ชอบมาพากลในความสัมพันธ์ของคนคู่นี้ด้วย
“น้องมิ้น อยากทานอะไรนึกไว้เลยนะ วันนี้เพื่อนพี่จ่ายไม่อั้น”
วิลาวัลย์ หันไปบอกมีนา ที่นั่งอยู่เบาะหลังคนเดียวเป็นการชวนคุย ส่วนชนกานต์ นั่งด้านหน้าคู่กับวิลาวัลย์
“วันนี้พี่เค อุตส่าห์เลี้ยงทั้งทีก็คงจะต้องเลือกอาหารที่แพงที่สุดของร้านค่ะ”
มีนา บอกด้วยน้ำเสียงสดใส และแอบยิ้มในความสำเร็จของตนเองที่สามารถทำให้ชนกานต์พาเธอมาด้วยได้
“ว่าไงล่ะนายเค มีปัญญาเลี้ยงพวกเรารึเปล่าเพราะฉันก็กะจะถล่มนายเต็มที่เหมือนกันถือเป็นการเลี้ยงตอบแทนที่ฉันต้องคอยควบคุมความประพฤติของนายแทนยัยนิ”
วิลาวัลย์ กล่าวสัพยอก แต่ตาแอบมองกระจกเพื่อสังเกตกิริยาของคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“พี่นิช่างโชคดีจังเลยนะคะมีเพื่อนอย่างพี่ติ๊กคอยเป็นหูเป็นตาดูแลพี่เคให้”
มีนา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่วิลาวัลย์ แอบเห็นแววตาของเด็กสาวดูไม่ค่อยจริงใจหรือว่าเธอจะคิดมากไปเอง
“ก็พี่กับพี่นิเป็นเพื่อนรักกันนี่จ๊ะ ยิ่งตอนนี้เพื่อนพี่ไปทำงานต่างประเทศตั้งเดือนหนึ่ง ก็ต้องยิ่งช่วยเป็นหูเป็นตาแทนให้มากหน่อย กลัวยัยนิเพื่อนพี่จะเสียแฟนไป เพราะผู้ชายดี ๆ สมัยนี้ยิ่งหากยากอยู่ด้วย”
วิลาวัลย์ พูดคล้ายกับจะปรามให้เด็กสาวได้รับรู้ไปในตัวไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับชนกานต์
“แต่พี่เค คงไม่ทำให้พี่นิเสียใจหรอกมั้ง..จริงไหมคะ พี่เค”
มีนา เหยียดปากพูดพร้อมมองค้อนชนกานต์ที่นั่งอยู่ด้านหน้า กริยาอาการนั้นวิลาวัลย์ไม่ทันมองเห็นเพราะมัวแต่ดูทางข้างหน้า
“เออ..ครับ”
ชนกานต์ ตอบรับอย่างฝืน ๆ และรู้สึกว่าบรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความอึดอัดไม่สบายใจ แต่เขาจำต้องปั้นสีหน้าให้เป็นปกติแม้จะรู้สึกว่าวิลาวัลย์มาในวันนี้เหมือนมาจับผิดตนโดยเฉพาะ
