17. ความหวาดระแวงของมารดา
กษัตริย์นูรี บาฮะดูร์ พร้อมด้วยพระราชินีมามุนี และพระโอรส พระธิดา ต่างก็เข้าเฝ้าเพื่อเยี่ยมพระอาการประชวรของสมเด็จย่ามีราเบน หรือ อดีตพระมเหสีฝ่ายซ้าย “มีราเบน” ที่โรงพยาบาล หลังจากที่สมเด็จย่า ทรงพักรักษาพระองค์อยู่ที่โรงพยาบาลมาหลายเดือน และพระองค์มีรับสั่งให้พระราชานูรีเข้าเฝ้าด่วนในวันนี้
“มาแล้วรึ นูรี...”
สมเด็จย่า มีพระชมมายุแปดสิบหกพรรษาแล้ว แววพระเนตรที่พร่ามัว ทอดพระเนตรพระราชโอรสของพระองค์ที่บัดนี้ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์บาฮะดูร์ สมพระทัยของพระนางแล้ว
ทว่า..สมเด็จย่ากลับทรงรู้สึกไม่สบายพระทัยมาตลอดเวลา ด้วยรู้ดีว่าการขึ้นครองราชบัลลังก์ของพระราชโอรสนั้นไม่ได้สง่างามเอาเสียเลย สมเด็จย่า “มีราเบน” ทรงอาลัยในพระราชาซัมปง พระราชินีทิมพู และเจ้าชายซัป ไม่น้อย
พระทัยจริงของพระนางนั้น ไม่ทรงปรารถนาที่จะให้ปลงประชนม์ทั้งสามพระองค์ แต่สมเด็จย่า มีราเบน จำต้องตัดสินพระทัยเพื่อพระราชโอรสและเชื้อสายอินเนปา ของพระนาง บางครั้งคนเราจำต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากจะทำ
“ท่านแม่..เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
กษัตริย์นูรี จับพระหัตถ์ของพระราชชนนีแนบพระอุระขณะที่ตรัสถามพระอาการ
“เมื่อคืนนี้แม่ฝันไม่ดีเลย...แม่กลัว..กลัวเหลือเกินว่า...”
“ท่านแม่...อย่าทรงวิตกหรือคิดมากไปเลย เชื่อลูกเถิด”
พระราชานูรี ปลอบพระทัยพระราชชนนี
“แต่..แม่เห็นองค์อนาราฟ ท่านพ่อของเจ้า..พระองค์มีแววพระเนตรที่น่ากลัวเหลือเกินเหมือน..พระองค์กริ้วแม่อย่างมากที่แม่ร่วมมือกับเจ้าทำกับ...”
“ท่านแม่..”
พระราชานูรี ทรงรีบเรียกพระนามชนนีด้วยความระแวงเกรงว่าเจ้าหญิงแอชวารย่า กับ เจ้าชายอาบิเชค จะสงสัยในสิ่งที่สมเด็จย่าตรัสออกมา
“มันก็แค่ความฝันเท่านั้นเอง ท่านแม่อย่าได้ห่วงเลย ตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในความสงบสุขแล้ว ลูกจะทำให้ สินาการ์เดีย เป็นที่รู้จักของชาวโลก และอยู่อย่างสงบร่มเย็นสืบไป”
พระราชานูรี ตรัสรับรอง
“ใช่แล้วเพคะเสด็จแม่..ตอนนี้ลูกหญิงวารย่า กำลังประชาสัมพันธ์ประเทศสินาการ์เดีย ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง”
พระราชินีมามุนี ทรงเข้ามาช่วยตรัสอีกแรง โดยมีเจ้าหญิงแอชวารย่า พยักพระพักตร์ไปด้วยเพื่อให้สมเด็จย่าวางพระทัย
“แม่ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น แต่แม่กลัว..”
“ท่านย่าทรงกลัวอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
เจ้าชายอาบิเชค เป็นฝ่ายตรัสถามบ้าง พระราชานูรีทรงรีบกระแอมสองครั้งติดกันคล้ายจะส่งสัญญานให้กับสมเด็จย่ามีราเบนทรงทราบ
“พวกเจ้าสองคนออกไปก่อนได้ไหม ขอให้ย่าได้พูดกับพ่อแม่ของเจ้าตามลำพัง”
สมเด็จย่า ทรงกล่าวกับเจ้าชายอาบิเชค และเจ้าหญิงแอชวารย่า ซึ่งทั้งสองพระองค์ต่างก็หันไปสบพระเนตรกับพระบิดาและพระมารดา
“หญิงวารย่า ชายเชค..ออกไปก่อน”
พระราชานูรี ทรงพยักพระพักตร์ให้กับพระราชโอรส ธิดา
เมื่อเห็นพระนัดดาทั้งสองพระองค์ ออกไปจากห้องแล้ว สมเด็จย่ามีราเบน ก็เริ่มมีสีพระพักตร์ที่คลายกังวลลงไป
“พวกเจ้าสองคนไว้ใจกลุ่มบารากัสได้แน่หรือ”
สมเด็จย่ามีราเบน ทรงถามขึ้นทันที
“ท่านแม่ตรัสเช่นนี้ทรงหมายถึงอะไรพ่ะย่ะค่ะ” พระราชานูรีตรัสถาม
“แม่อยากจะให้เจ้าลองไปเปิดดูวีดีโอที่กลุ่มบารากัสอ้างว่าได้สังหารพระราชาซัมปงกับมเหสีทิมพู และเจ้าชายซัปเมื่อเกือบห้าปีที่แล้วอีกครั้งหนึ่ง แม่ว่ามันอาจจะมีการแหกตาจัดฉากเกิดขึ้น”
“ท่านแม่ทรงคิดมากไปนะเพคะ..หม่อมฉันได้ดูแล้วก็ไม่เห็นว่าจะเป็นการจัดฉากอะไรเลย ทั้งสามพระองค์ถูกสังหารด้วยปืน ก่อนที่จะฝังดิน และเรื่องนี้ก็ผ่านมาจะห้าปีแล้วด้วย”
พระราชินีมามุนีทรงช่วยยืนยัน
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ..ลูกก็คิดเช่นเดียวกับมามุนี ไม่มีอะไรที่น่าสงสัย ทั้งสามไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่นอน เพราะไม่เคยมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใด ๆ ของทั้งสามออกมาเลย”
“แต่แม่ก็ยังกังวลอยู่ดีว่ามันจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นมา”
“เหตุการณ์อะไรพ่ะย่ะค่ะ”
“แม่ก็บอกไม่ถูก แต่แม่สังหรณ์ใจว่ากลุ่มบารากัส กำลังจะทำให้บัลลังก์ และรัฐบาลของเจ้าไม่มั่นคงอีกต่อไป”
“โธ่..ท่านแม่ เรื่องนี้ทรงวางพระทัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ กลุ่มบารากัส สลายตัวไปแล้ว ตอนนี้ลูกก็สามารถสลายขั้วอำนาจของพวกนั้นได้เกือบเด็ดขาดแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกจะต้องถอนรากถอนโคนโดยไม่ให้พวกนั้นได้ทันตั้งตัว”
พระราชา ตรัสอย่างมั่นพระทัย
“นี่แหละที่แม่เป็นห่วง..เพราะเจ้าไม่ได้ยกดินแดนเมืองซาร์มอง ให้กลุ่มบารากัส ปกครองตัวเอง แต่เจ้ากลับหลอกให้พวกเขาตายใจ ด้วยการให้ได้รับผลประโยชน์ในธุรกิจอัญมณีหินสีไปก่อน จากนั้นก็หาทางกีดกันบีบให้พวกเขาได้ผลประโยชน์ที่น้อยลงทุกที เช่นนี้แล้ว เจ้าคิดหรือว่าพวกนั้นจะไม่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเจ้า”
“ถึงจะรู้ทัน แต่มันก็สายเกินไปแล้วล่ะท่านแม่ เพราะอีกไม่นานกำลังพลของลูกจากเมืองหลวงจะเข้าไปกวาดล้างจับกุมกลุ่มบารากัส ให้สิ้นซาก”
“เจ้าเล่นกับไฟแท้ ๆ แทนที่จะยกซาร์มองให้พวกนั้นไปซะ จะได้สิ้นเรื่องแต่เจ้ากลับไม่ยอมปล่อยอีก”
“เมืองซาร์มอง เป็นขุมทรัพย์ของเราเลยนะท่านแม่...ตอนนี้ลูกจะทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเป็นแหล่งอัญมณีหินสีที่มีชื่อเสียงของโลก ลูกจะปล่อยให้หลุดมือไปอยู่ในการปกครองของกลุ่มหัวรุนแรงนั่นได้อย่างใดกัน ถึงพวกนั้นจะมีกองโจรหนุนหลังลูกก็ไม่กลัว เพราะลูกประเมินกำลังของฝ่ายนั้นแล้วไม่เท่าไหร่หรอกพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงเพคะเสด็จแม่..ตอนนี้พระราชานูรีทรงมีพระราชอำนาจล้นแผ่นดินไม่มีผู้ใดกล้าเหิมเกริมได้ง่าย ๆ เพคะ..”
“ใช่แล้วท่านแม่..อีกไม่เกินสิบปีลูกก็จะสามารถสร้างความมั่นคงให้กับราชวงศ์บาฮะดูร์ของเราได้แล้ว จากนั้นลูกก็จะขอพักผ่อน และปล่อยให้ชายเชค ขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์รัชกาลที่สองแห่งราชวงศ์บาฮะดูร์ของเราสืบไป”
“ถ้าเช่นนั้นแม่ก็เบาใจ..บางทีแม่อาจจะคิดมากเกินไปอย่างที่พวกเจ้าบอกก็ได้ ความฝันมันก็แค่ความฝัน...”
สมเด็จย่ามีราเบน รับสั่งเสียงแหบพร่า ก่อนจะค่อย ๆ หลับพระเนตรลงอย่างเหนื่อยอ่อน
