บทนำ2
บทนำ
“ช่างเป็นแผนการที่ชั่วช้านัก พวกเรามิถึงกับถอนรากถอนโคนสูญสิ้นวงศ์ตระกูลเชียวหรือ”
ถ้อยคำด่าทอเหล่านี้ถูกร่ำลือไปทั่วสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คน โดยผู้ที่ถูกสงสัยว่าคือตัวการปล่อยข่าวลือก็คือ ‘เถาชังเจี๋ย’ บัญฑิตหนุ่มหนอนหนังสือเจ้าเมืองถูหนาน
ด้วยความปราดเปรื่องจึงไม่แปลกที่ผู้คนจะเชื่อว่าเขาคือผู้ที่ใช้กลยุทธ์มาหลอกล่อให้ชาวเมืองอื่นตกหลุมพรางการหวั่นวิตก
‘เหมิงจิ่นลี่’ แม่ทัพหนุ่มเจ้าเมืองถูเฉียนซึ่งใจร้อนรนไม่อาจอดทนไหวจึงลุกขึ้นมาเรียกร้องให้เจ้าเมืองทุกคนช่วยกันคิดแก้ปัญหา
หากเรื่องนี้สามารถใช้กำลังเข้าแก้ไข เขาคงจัดการไปตั้งแต่ทีแรกแล้ว ผู้ใดจะคาดว่าเรื่องจะยืดเยื้อยาวนานเช่นนี้
ตั้งแต่กาลก่อนเหล่าเจ้าเมืองมักปกครองเมืองของตนเองโดยไม่เคยใส่ใจเมืองอื่นด้วยแต่ละเมืองสร้างโดยมีรั้วรอบขอบชิดจากธรรมชาติไม่อาจบุกทำลายหรือรุกรานกันและกันโดยง่าย
ผู้นำทุกคนจึงต่างมุ่งมั่นรักษาเมืองเอาไว้ขณะลอบคิดหาทางรุกคืบบุกยึดเมืองของผู้อื่นไปพร้อมกันแต่ยังไม่เคยมีเจ้าเมืองคนใดทำได้สำเร็จ
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นระหว่างเมืองอย่างเช่นครานี้ซึ่งกลายเป็นปัญหาเดียวกันจนต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจ
สุดท้าย ‘มู่หนิงเฉิง’ เจ้าเมืองถูเป่ยจึงออกหน้าจัดการเจรจาด้วยเมืองของเขามีทำเลที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางจึงเอื้ออำนวยต่อการเดินทางที่สุด
ที่สำคัญคือชาวเมืองของเขาวิตกกังวลกับเรื่องการตั้งครรภ์มากกว่าเมืองอื่นๆจนแทบไม่ใส่ใจการทำมาหากินดังเดิม
โดยเฉพาะภรรยาของเขา ‘หวังมี่จวง’ซึ่งแต่งงานเข้ามาถึง5ปีแล้ว แต่กลับไร้วี่แววการมีบุตรสักคนจนนางหมกมุ่นได้แต่ไหว้พระบนบานศาลกล่าวทั้งวี่วัน
ผ่านการถกเถียงหน้าดำหน้าแดงของเจ้าเมืองทั้งสี่มากว่า3วัน สุดท้ายเถาชังเจี๋ยจึงออกความคิดเสนอให้สรรหาสตรีลักษณะดีจากนอกเขตเมืองต้าถูเพื่อแต่งเข้ามาแล้วลองดูว่าจะสามารถตั้งครรภ์หรือไม่
“หากสตรีภายในเมืองต้าถูต้องพิษโดยถ้วนทั่ว วิธีนี้ย่อมแก้ไขได้ แต่หากเป็นฝ่ายชายซึ่งต้องพิษ พวกเราคงต้องเปลี่ยนเป็นสรรหาชายหนุ่มเข้ามาแทน”
“ในเมื่อเจ้าปักใจว่าเป็นพิษร้ายที่ทำให้ชาวเมืองของพวกเราไม่อาจมีบุตร เช่นนั้นก็ลองดู เพียงไม่กี่เดือนย่อมรู้ผลแน่” หลวนเฉินซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหายิ้มเยาะอย่างท้าทาย
“หน้าที่หาสตรีแต่งเข้ามายกให้ข้าจัดการเอง เจ้าเมืองเถาคิดจะให้นางแต่งกับผู้ใดหรือ” มู่หนิงเฉิง รีบรับอาสาเพื่อให้จบเรื่องโดยเร็ว
“ย่อมต้องเป็นพวกเราเหล่าเจ้าเมือง” เหมิงจิ่นลี่ ซึ่งนั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้น
“เช่นนั้นให้นางเลือกเองก็แล้วกัน” มู่หนิงเฉิงมีคนอยู่ในใจแล้วจึงจัดการติดต่อไปยังญาติฝ่ายภรรยาเพื่อขอให้ส่งตัวหลานสาวคนใดคนหนึ่งมา
สกุลหวังยังแดนไกลมีหลานสาวหลายคน จึงจัดแจงคัดเลือกหญิงสาวซึ่งมีลักษณะเหมาะสมแก่การคลอดบุตรที่สุดเพื่อให้มาแต่งงานกับเจ้าเมืองทางนี้
ขบวนเจ้าสาวเดินทางข้ามป่าเขามาหลายวันกว่าจะถึงเขตแดนเมืองต้าถู
ทันทีที่ถึงหน้าประตูเมืองถูเป่ย ผ้าม่านปิดเกี้ยวเจ้าสาวก็ถูกเปิดออกเล็กน้อยเผยมือเรียวอันขาวผ่อง
หญิงสาวในเกี้ยวใช้สายตามึนงงมองไปโดยรอบด้วยประตูเมืองที่เห็นช่างแตกต่างจากภาพในความคาดหวัง
ที่นี่ที่ไหน?
