บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 แต่งงานเพื่อตอบเเทน

ตอนที่ 3

แต่งงานเพื่อตอบเเทน

อินทิราถูกเรียกตัวกลับมาที่บ้าน หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือเปล่าเพราะปกติวราภรณ์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอมากมาย นอกจากให้ผู้ช่วยคอยดูแลเรื่องค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพของเธอเท่านั้น

หญิงสาวขับรถญี่ปุ่นคันเล็กกะทัดรัดเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เล็กจนโต หญิงสาวไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ทุกคนในบ้าน แม้แต่แม่บ้านและคนสวนเธอก็ให้ความเคารพในฐานะญาติผู้ใหญ่

ทุกคนที่นี่รักเธอมาก เพราะอินทิราเป็นคนนอบน้อมรู้จักเจียมตัว คอยช่วยเหลืองานอยู่เสมอ แล้วไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับวราภรณ์

“คุณผู้หญิงรออยู่ที่ห้องทำงาน”

หญิงสาวชื่อกระท้อน เป็นลูกสาวคนรับใช้เก่าแก่ของที่นี่ เธออายุไล่ๆกับอินทิรา แต่เพราะเกเรไม่อยากเรียนหนังสือ จึงเรียนไม่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย สุดท้ายก็ต้องมาเป็นคนงานในบ้าน ได้แต่มองอินทิราด้วยความรู้สึกอิจฉา เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะได้ทำงานในบริษัทชั้นนำของประเทศ บุคลิกก็ดูดี แถมยังมีรถขับ ที่น่าอิจฉายิ่งกว่าคืออินทิรากับเราจะได้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของบ้านหลังนี้

กระท้อนรู้สึกอิจฉาริษยาอินทิรามาโดยตลอด เธอพยายามหาเรื่องกลั้นแกล้งใส่ร้ายแต่ก็ไม่มีใครทำอะไรอีกฝ่ายได้ กลับกลายเป็นเธอที่ต้องกลายเป็นตัวร้ายเสียเอง

หากเป็นเมื่อก่อนกระท้อนคงกล้าที่จะ เหน็บแนมอินทิราเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าแล้ว เพราะอีกฝ่ายกำลังจะเป็นเจ้านายอีกคนของเธอ

อินทิราไม่ได้ให้ความสนใจกระท้อนมากเพราะรู้ว่าไม่ค่อยชอบหน้าเธอ

ภายในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยหนังสือกองระเกะระกะ วราภรณ์สวมแว่นอ่านเอกสารที่กองพะเนินอยู่เต็มโต๊ะ ตั้งแต่อินทิราไม่อยู่เธอก็ไม่ไว้ใจให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับห้องทำงาน เธอปล่อยให้มันรกเละเทะแบบนี้เพราะไม่มีเวลาจัด

“คุณผู้หญิงมีอะไรจะคุยกับอินหรือคะ”

หญิงสาวเอ่ยถาม ก้มมองที่พื้นเห็นหนังสือกองอยู่ก็คุกเข่าลงก่อนค่อยๆเก็บซ้อนเป็นระเบียบ

“มานั่งใกล้ๆฉันสิ ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับเธอ”

แววตาอ่อนโยนทอดมองเด็กในอุปการะ เธอคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจเลี้ยงดูอินทิรา หญิงสาวคือความภาคภูมิใจรองจากลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกชื่นใจเสมอทุกครั้งที่มอง

คนทั่วไปต่างก็ชื่นชมที่เธอเลี้ยงดูอินทิราเป็นอย่างดี หญิงสาวเรียนเก่ง หน้าตาสะสวย ที่สำคัญยังนอบน้อมถ่อมตนไม่เคยอวดอ้างตัวเอง

“ฉันไม่อ้อมค้อมนะ ฉันอยากให้เธอแต่งงานกับกร”

หญิงสาวชะงักเงยหน้ามองผู้มีพระคุณ เธอยินดีตอบแทน หากเป็นเรื่องนี้ก็ลำบากใจอยู่ไม่น้อย

“หลายวันมานี้ฉันไม่สบายใจเลย เห็นผู้หญิงพวกนั้นมาเกาะแกะลูกชาย ฉันก็กลัว กลัวว่าเขาจะถูกล่อลวงเหมือนพ่อของเขา”

หญิงวัยกลางคนจับมือหญิงสาวรุ่นลูก ขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยเหลือ อินทิราเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เธอไว้วางใจมากที่สุด เพราะรู้ว่ายังไงก็จะสามารถควบคุมหญิงสาวได้ เธอไม่อยากได้ลูกสะใภ้ท่าทางก๋ากั่น เพราะรู้ว่าในอนาคตเธอจะไม่สามารถควบคุมได้

ความรักทำให้คนตาบอดเธอเคยเห็นตัวอย่างมาแล้ว วราภรณ์ไม่อยากให้ลูกชายต้องถูกล้างสมองโดยผู้หญิงที่เขารัก จึงขอให้ลูกชายแต่งงานกับเด็กในบ้านที่อยู่ในโอวาทของเธอมาโดยตลอด

“ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจ แต่ช่วยฉันเถอะนะ เธอบอกเองว่าอยากตอบแทนบุญคุณฉัน นี่ก็เป็นโอกาสดีที่เธอจะได้ทำในสิ่งที่เธอต้องการ ฉันไม่ได้อยากทวงบุญคุณ แต่ที่ฉันตัดสินใจแบบนี้เพราะฉันอยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้จริงๆ”

อินทิรายอมรับว่าซาบซึ้งที่วราภรณ์เห็นคุณค่าในตัวเธอ แต่จะให้เธอแต่งงานกับวงศกรทั้งที่เขาไม่เคยรักเธอเลย มันก็ยังไงๆอยู่ ทั้งเขาและเธอก็อายุห่างกันถึงสิบกว่าปี

หญิงสาวเก็บความลับนี้ไว้ในใจมาตลอดหลายปี เธอแอบรักชายหนุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า แต่เพราะเขาเป็นลูกเจ้านาย อายุก็ห่างกัน เธอจึงไม่กล้าอาจเอื้อม ได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ

“ฉันให้เวลาเธอตัดสินใจสามวัน แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่ปฏิเสธ”

อินทิราไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธความต้องการของวราภรณ์ ในที่สุดเธอกับชายหนุ่มก็ได้เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีแค่ญาติผู้ใหญ่และคนสนิทสนมเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนไม่ได้รับเชิญให้มางานนี้ เพราะวงศกรไม่ต้องการให้เป็นข่าวใหญ่โต เนื่องจากงานแต่งในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักและเขาไม่ยินดีที่จะเปิดเผยให้ใครรับรู้นอกจากคนกันเอง

“รู้ไหมว่าวันนี้เป็นวันที่แม่มีความสุขมากที่สุด”

ได้เห็นลูกชายและหญิงสาวที่เธอรักและเอ็นดูอยู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ยืนเคียงข้างกันช่างเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก วราภรณ์ปลื้มมาก จนมองข้ามความรู้สึกของทั้งสอง

อินทิราเหลือบมองว่าที่สามี เขานิ่งมากจนเธอนั้นไม่กล้าชวนคุย หญิงสาวเกร็งไปหมดทั้งตัวตอนที่เขาจับมือและสวมแหวน ตลอดพิธีเธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา

งานแต่งงานในวันนี้จึงมีบรรยากาศแปลกๆที่ทำให้แขกเหรื่อรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

วงศกรแยกไปคุยกับกลุ่มเพื่อน เขากำชับไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แล้วบอกเหตุผลที่ตัวเองต้องแต่งงานกระทันหันเพื่อความสบายใจของแม่

ในขณะที่อินทิราแขกเพียงคนเดียวที่เธอเชิญมาก็คือชฎาพร หญิงสาวรู้ดีว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเธออย่างแท้จริง จึงไม่กล้าที่จะชวนเพื่อนร่วมงานในแผนกมาร่วมแสดงความยินดี

“ฉันไม่รู้ว่าจะยินดีกับแกดีไหม เอาเป็นว่าฉันขอให้แกมีความสุขก็แล้วกัน”

ชฎาพรรู้ความจริงทุกอย่าง เธอกับอินทิราไม่เคยมีเรื่องปิดบังกัน หญิงสาวได้แต่ปลอบใจเพื่อนให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเธอจะคอยอยู่เคียงข้างเสมอ

“ขอบใจนะ”

อินทิรามีสีหน้าหนักใจ เธอไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองว่าที่สามีด้วยซ้ำ เขากำลังยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อน ทุกสายตามองตรงมาที่เธอซึ่งเธอเห็นได้จากกระจกที่ส่องสะท้อนทางนั้น

“อย่าคิดอะไรเลย ทำใจให้สบาย แต่ถ้าหากไม่ไหวจริงๆฉันอยากให้เธอรู้ไว้ว่าฉันอยู่ตรงนี้”

ชฎาพรเห็นความกังวลในแววตาเพื่อน และยิ่งเห็นสายตาเย็นชาของเจ้าบ่าวเธอก็รู้สึกสงสารอินทิราจับใจที่ถูกจับแต่งงานโดยไม่เต็มใจแบบนี้ คำว่าบุญคุณมันน่ากลัวจริงๆ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel