บทที่8
ประโยคที่คล้ายข่มขู่กลายๆ ในเชิงว่าถ้าน้องสาวไม่หย่าก็เตรียมติดคุก
พาให้พลอยพิชาถึงกับบิดยิ้มเย้ยหยัน
เมื่อวานสามีของเธอก็ร้องเหย่งๆ บังคับให้หย่า มาวันนี้หญิงสาวตรงหน้าก็มีพฤติกรรมขู่เข็ญไม่ต่างกัน
ก็ดี เหมาะสมกันดี
คุณาภัทรยืนจ้องหน้าภรรยาตัวน้อยที่แต่งงานกันมาสามปีอย่างรอคอย
คำแรกที่เขาอยากได้ยินคือคำว่า ‘ขอโทษ’ และอยากให้เธอบอกเหตุผลที่ทำไป แต่จนถึงเวลานี้ทั้งที่มีหลักฐานครบถ้วนทุกอย่างพลอยพิชายังคงเชิดหน้าดื้อดึงทำเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
แค่เธอขอโทษและยอมรับผิด..บางทีเขาอาจ ‘ให้โอกาส’ ไปจนถึง ‘ให้อภัย’ และเราอาจยังเป็นสามีภรรยากันได้อยู่
“พี่ภัทรคะ?” ไพลินเรียกเสียงเบา
เมื่อเห็นอดีตคนรักยืนจ้องหน้าน้องสาวนิ่งไม่ตอบรับกับข้อขอร้อง และคลับคล้ายกับจะเห็นความรักลึกซึ้งพาดผ่านดวงตาดำคมกริบที่เพียงชั่วครู่ก็จางหายไป
คนหน้าสวยถึงกับใจหายวาบ หรือพี่ภัทรจะรักน้องสาวเธอเข้าแล้ว?
ทว่ากลับเป็นพลอยพิชาที่จ้องมองไปยังคงทั้งคู่ด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ตกลงค่ะ พลอยยอมหย่าให้ก็ได้” เสียงที่เคยหวานแหบแห้ง พร้อมกับเสริมต่อว่า
“เพราะยังไงพลอยก็แค่ภรรยาขั้นเวลาจริงไหมคะคุณคุณาภัทร?”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปพาให้ใจคนตัวโตหายวาบ คำพูดที่จ่อในลำคอคล้ายกับสำลีอุดเส้นเสียง..ดวงตาคมเต็มไปด้วยความสับสน
ยัยเด็กดื้อยอม 'หย่า' ง่ายๆ จริงดิ..
ตอนนี้ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังต้องการอะไรกันแน่?
ทว่าก่อนที่คุณาภัทรจะทันได้พูดอะไร พลอยพิชาเองก็ไม่อยู่รอฟังคำตอบแล้ว
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ตามกำหนด ร่างบอบบางในเดรสชุดขาวยาวคลุมเข่าก็เดินลงจากรถแท็กซี่สีเขียวที่จอดจนถึงหน้าตึกที่ว่าการเขต โดยมีชายหนุ่มผู้เป็นสามีเขม่นมองด้วยสายตาอัดอั้น
ลึกๆ เขายังคาดหวังเห็นเธอร้องไห้ฟูมฟายเสียใจ รู้สำนึกว่าตนทำผิดไป แล้วยอมขอโทษ
ทว่าสิ่งที่ได้รับตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากลับกลายเป็น 'ความเงียบ'
อย่าว่าแต่โทรมาง้อเลย แม้แต่ข้อความสักประโยค หรือสติกเกอร์สักอันเธอยังไม่ส่งมา!!
อีกทั้งใบหน้าเล็กรูปหัวใจที่ปกติถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงน้อยนิด ทว่าวันนี้กลับถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสจนแทบไม่เห็นร่องรอยแห่งความเสียใจ
กลับเป็นตัวคุณาภัทรเองที่เริ่มรู้สึกแย่ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนท้าหย่าเอง
“มาเร็วนะ” ไอ้ผู้ชายปากเสียเริ่มแขวะทันที พลอยพิชากลับย้อนตอบด้วยสีหน้าเย็นชา
“เข้าไปข้างในเถอะค่ะ เดี๋ยวคนของคุณรอนาน”
ประโยคประชดประชันพาให้คนตัวโตรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย..ยังคงคิดไปเองว่าเจ้าหล่อนก็เหมือนจะแคร์เขาอยู่
ดวงตาคมกริบหรี่มองตามแผ่นหลังบอบบาง..ดูเหมือนไม่ได้เจอกันแค่อาทิตย์เดียว..พลอยพิชายังผอมลงอีกแล้ว
เด็กมันดื้อ แต่เล็กจนโตไม่ชอบกินข้าว แต่ไม่รู้ทำไมถึงทำอาหารอร่อยชะมัด..
“รีบเดินขนาดนั้น ระวังล้มล่ะ”
“….”
“พลอย..นี่พี่คุยกับเธออยู่นะ!!” ปลายเสียงเริ่มหงุดหงิด ก่อนจะสาวเท้าไปจนประชิดตัว อีกทั้งยังถือวิสาสะรั้นต้นแขนนวลผ่อง หญิงสาวผินหน้ามองอย่างรำคาญใจ
รำคาญใจอย่างงั้นเหรอ?
ไม่พอชั่วแวบหนึ่งเขายังเห็นสายตาเจือไปด้วยความรังเกียจด้วยซ้ำ!
เธอมีสิทธิ์อะไรมารังเกียจเขา ทั้งที่ตัวเธอเป็นฝ่ายทำเรื่องชั่วๆ ก่อน
ความคิดเริ่มแรกแค่ขู่ว่าจะหย่า เพื่อจะลงโทษดัดสันดานให้เธอรู้สำนึกในสิ่งที่ทำผิดเลือนหายไป ทิฐิมานะที่มีอยู่ก้นบึ้งผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
ในเมื่อเธอไม่ขอโทษ ไม่แม้แต่จะยอมรับผิด..งั้นหย่าก็หย่า!
เขาจะรอเวลาที่เธออยู่ไม่ได้ แล้วคลานเข่ากลับมาขอโทษ..รับรองครั้งนี้เขาจะไม่มีวันยอมคืนดีๆ ง่ายๆ
คิดได้ดังนั้นพลอยพิชาจึงถูกคนตัวโตกว่าทั้งลากทั้งจูงด้วยน้ำหนักมือไม่เบานัก แม้เธอจะโวยวายแต่เขาก็ดูเหมือนจะไม่สนใจฟังแม้แต่นิด
“คุณคุณาภัทรปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ทางเดินแค่นี้ฉันเดินเองได้”
