บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 คุณหลอกผม

แก้วกัลยาส่งรอยยิ้มสายตาเย้ายวนค่อย ๆ ก้าวเท้าถอยหลังอย่างเชื้อเชิญ อัศวนัยจ้องมองเหยื่อสาวแสนสวยตาไม่กะพริบพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเรียบออกทีละเม็ดพร้อมกับเดินย่างกรายเข้าหาเรือนร่างที่อยากครอบครอง ร่างบางยังคงถอยห่างทีละก้าวแต่คนใจร้อนมีหรือจะรอเวลาแห่งความเสพสุขไปได้นาน กายหนาพุ่งตัวเข้าหาโอบแขนแกร่งล้อมเอวบางไว้ให้อยู่ในอาณัติ หน้าสวยช้อนมองก่อนจะหลบตาลงมองหน้าอกกำยำโผล่พ้นจากเสื้อเชิ้ตเพียงน้อยนิด

“คุณดูประหม่า”

“ฉันไม่แน่ใจว่าคิดถูกไหมที่นัดคุณมาทำเรื่อง....อย่างว่ากัน” ฟันเรียงกัดขบริมฝีปากเลี่ยงสายตาหนีไม่มั่นใจ สายตาคมกรุ้มกริ่มลดสายตาลงปมเสื้อคลุมที่รวบรัดปิดเรือนร่างภายในไว้มิดชิดก่อนจะกระตุกสายเสื้อคลุมออกอย่างคนเอาแต่ใจ หญิงสาวหน้าเหวอรีบคว้าเสื้อคลุมที่กำลังเปิดอ้าออกเผยร่างกายเปลือยเปล่ามาปิดบัง

“มาขนาดนี้แล้ว ถึงจะลังเลผมก็ไม่ปล่อยคุณออกไปอยู่ดี” เสียงทุ้มแหบพร่าเกลี่ยปลายนิ้วไล้แก้มเนียนระเรื่อไปด้วยเลือดฝาดหน้าหล่อโน้มลงแตะปลายจมูกแนบกับปลายจมูกหญิงสาวมองสบตากันหวานซึ้ง ใจดวงน้อยเต้นรัวหายใจหอบแรงได้อยู่ใกล้เขาทีไรร่างกายคล้ายจะเสียการควบคุมวาบหวามเพียงเขาหายใจชิดใกล้ ริมฝีปากอุ่นปัดป่ายสัมผัสผ่านเบา ๆ กับริมฝีปากนุ่มไปมากระตุ้นให้ขนลุกชันมือเรียวกำเสื้อคลุมแน่นหลับตาพริ้มเงยหน้าขึ้นรับริมฝีปากหนาที่เคลื่อนผ่านก่อนจะกดจูบริมฝีปากนุ่มแนบแน่นไม่เว้นช่องว่างแม้แต่ส่งเสียงแขนแกร่งอ้อมล้อมกายสาวบดเบียดร่างกำยำเสียดสีอย่างปรารถนา ออกแรงกดจูบหนักหน่วงแทรกลิ้นสากเข้ากวาดเลียความหวานให้สมกับการรอคอยที่จะได้ครอบครองแม้รู้ดีว่าเป็นเรื่องต้องห้ามแต่ความต้องการนั้นก็ยากเกินควบคุม ผู้หญิงอื่นมากมายไม่ทำให้ความร้อนรุ่มโหยหาลดลงได้นอกจากเธอที่อยากได้ไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

“แชะ แชะ แชะ” เสียงรัวชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปและฝีเท้าคนจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาให้ห้อง อัศวนัยสะดุ้งหันขวับไปมองด้วยความตกใจรีบผละออกรวบหญิงสาวไว้ข้างหลังอยู่ชิดหลังแกร่งไม่ให้ใครเห็นเกรงว่าเธอจะเสียหาย ส่วนตัวเขาเผชิญหน้ากับชายหญิงสี่คนกำลังยกโทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายรูปเก็บภาพเขากำลังจูบกับแก้วกัลยา

“ออกไป!” เสียงทุ้มตวาดลั่นแววตาแข็งกร้าวขบกรามขยี้โกรธคนบุกรุกจนแทบอยากพุ่งเข้าไปต่อยให้ราบเป็นหน้ากลองติดที่เขากำลังปกป้องหญิงสาวด้านหลัง

“นั่นคุณแก้วกัลยาใช่ไหมคะ คุณสองคนลักลอบมีความสัมพันธ์กัน” ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือบันทึกวิดีโอพยายามจะยื่นมือไปข้างกายหนาเพื่อให้เห็นผู้หญิงที่เขายืนบังไว้

“อย่าเสือกเรื่องของกู!” อัศวนัยถอยหลังเบี่ยงตัวไปมาพยายามบังไม่ให้ใครถ่ายรูปเธอไปได้

“สองตระกูลเป็นคู่แข่งรักกันเปิดเผยไม่ได้เลยแอบมาพลอดรักกันใช่ไหมครับ”

“กูจะฟ้องพวกมึงให้หมด!” อัศวนัยเกรี้ยวกราดจ้องคนถามตาเขม็งอย่างเอาเรื่อง หญิงชายแปลกหน้าชะงักหันมองกันเลิ่กลั่ก อัศวนัยได้ทีพลิกตัวหันมาโอบกอดแก้วกัลยาไว้ในอ้อมกอดแล้วกดหัวเธอให้ก้มลง

“เข้าไปหลบในห้องน้ำก่อน” เขาดันเธอให้เดินถอยหลังไปยังห้องน้ำเพื่อซ่อนตัวชายหญิงทั้งสี่ก็ยังเดินตามมาถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคล

“หยุด! อย่าถ่าย! กูบอกให้หยุดไงไอ้พวกห่าเอ๊ย!” อัศวนัยยกแขนปัดไล่ไม่ให้คนแปลกหน้าเดินตามมืออีกข้างก็กดหัวแก้วกัลยาให้มุดอยู่แนบอกพาเดินไปห้องน้ำด้วยกันแต่อัศวนัยก็ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วชะงักนิ่งก้มมองหญิงสาวพยายามดันหัวตัวเองขึ้นมาเงยมองหน้าเขา ชายหญิงสี่คนรัวชัตเตอร์ยื่นแขนยาวมาบันทึกวิดีโอเก็บข้อมูลกันเต็มที่

อัศวนัยก้มมองหน้าสวยที่ช้อนมองเขาคล้ายอยากเปิดเผยใบหน้า ไม่มีความตื่นตระหนกกลัวว่าตัวเองจะเสียหาย คิ้วเข้มขมวดสับสนจ้องมองสายตาเธอคล้ายไม่ได้หวาดกลัวแต่เป็นการมองอย่างรู้สึกผิดเสียมากกว่า อัศวนัยตัวชาวาบตั้งแต่หลังยันปลายเท้าแววตาสั่นระริกรู้ได้ทันทีว่าตัวเองตกกับดักของเธอเข้าให้แล้ว

“คุณหลอกผม”

“ขอ...โทษ” น้ำเสียงหวานลากยาวและแผ่วเบาน้ำใสเคลือบดวงตาสวยปริ่มจะไหลรู้สึกว่าตัวเองเลวที่หลอกเขาทั้งที่เขาพยายามปกป้อง อัศวนัยบดกรามขยี้ด้วยความโมโหแววตาเจ็บปวดในสิ่งที่เธอทำไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลอะไรก็ตามในสายตาของเขาก็มองผู้หญิงตรงหน้าที่หลอกลวงเขาดีไม่ได้อีกและนับจากวินาทีนี้เธอคือศัตรูจอมมารยาร้ายกาจที่เขาเกลียดที่สุด

คฤหาสน์หลังใหญ่ตระกูลพิตรพิบูล

เกริกเดินวนหัวเสียสาดใส่อารมณ์กับลูกสาวที่สร้างเรื่องฉาวโฉ่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสียอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี รุจีนั่งหลังตรงบีบมือแน่นเกร็งคอมองเคืองลูกสาวเพียงคนเดียวของเธออย่างขุ่นเคือง

“จีให้ทีมงานติดต่อไปยังสำนักข่าวเพื่อปิดเรื่องนี้แล้วค่ะ”

“ปิดคนทั่วไปได้แต่ปิดคนในวงธุรกิจไม่ได้ ตอนนี้เรากำลังสั่นคลอนถ้ามีเรื่องฉาวกับตระกูลคู่แข่งเข้ามาเพิ่มกลุ่มนักลงทุนที่ไม่ถูกกับจิรสินอาจถอนตัวจากการร่วมทุน คราวนี้พวกเราได้พินาศจริง ๆ แน่” เกริกเหวี่ยงกลับห้วนๆบ่นแกมเหยียดภรรยาที่คิดว่าใช้เงินปิดข่าวแล้วเรื่องนี้มันจบลงง่าย ๆ รุจีหลบตาลงขบกรามขยี้ไม่พอใจที่ถูกตำหนิ เกริกฉุนเฉียวหันขวับไปมองทางลูกสาวคนโปรดนั่งนิ่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

“ทำอะไรไม่คิด ห่วงแต่ตัณหาจนขาดสติ”

“เราสองคนรักกันค่ะ” แก้วกัลยาสวนกลับมั่นใจทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น

“เคยเจอกันผ่าน ๆ แกจะไปรักกับมันได้ยังไง!”

“ตอนแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเขาเป็นช่วยหนูไว้ เราสองคนเลยแอบคบกันตั้งแต่ตอนนั้น”

“โกหก!”

“จริงครับคุณพ่อ วันงานแถลงข่าวเปิดโรงไฟฟ้าทดแทนผมเห็นอัศวนัยมองลยา” วาทกรรีบเสริมในสิ่งที่เขาเคยเห็นเมื่อหลายเดือนก่อน เกริกถึงกับแค่นหัวเราะเยาะเย้ยลูกสาวตัวเอง

“งามหน้านัก มีลูกสาวเหมือนมีส้วมหน้าบ้าน”

“ในเมื่อทุกอย่างกำลังจะแย่ทำไมเราพลิกเกมให้ลยาแต่งงานกับอัศวนัยไปเลยล่ะครับ ในเมื่อคู่แข่งที่แท้จริงของเราไม่ใช่ผู้ร่วมทุนภายในแต่เป็นจิรสินเราก็แจ้งกับผู้ร่วมทุนว่ามีแผนล้วงข้อมูลสำคัญโดยมีลยาเป็นสปาย การเกี่ยวดองในครั้งนี้มาจากความตั้งใจของพวกเราไม่ใช่ความผิดพลาด” วาทกรยกยิ้มมุมปากเสนอความคิดแยบยลกับผู้เป็นพ่อ เกริกนิ่วหน้านิ่งคิดตามไปหลายนาที

“พูดมันง่าย แต่ทางจิรสินไม่ยอมให้ลูกหลานแต่งงานกับเราแน่ อีกอย่างผู้ชายคนนั้นแค่หวังแอ้มยัยหนูเพราะเห็นว่าง่าย พอได้สมใจอยากก็แยกย้ายไม่ได้จริงจังถึงขั้นแต่งงาน” คำพูดของพ่อเหยียดหยันของพ่อแสลงใจดวงน้อยที่เต้นโครมครามไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเธอก็ยังเป็นลูกสาวไร้ค่าในสายตาผู้เป็นพ่อเสมอ

“ว่าไงลยา คิดว่าเขาจริงจังกับเธอไหม” วาทกรหันมองน้องสาวต่างแม่หน้าเศร้าเต็มไปด้วยความกังวล

“เขารักลยามาก ยังไงเขาก็ต้องแต่งงานด้วย”

“บ้าไปกันใหญ่แล้ว หนูจะแต่งงานไปอยู่ในดงของคู่อริได้ยังไง!” รุจีค้านขึ้นไม่เห็นด้วยอยู่ ๆ จะให้ลูกเธอไปอยู่ในกรงเสือเพียงลำพังไม่ต้องพึ่งหมอดูก็ทำนายอนาคตได้ว่าแก้วกัลยาต้องถูกคนพวกนั้นรุมขย้ำเละเทะ

“ในเมื่อไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ใจกล้าไปนัดเจอผู้ชายกระชับมิตร ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วล่ะคุณจี” เกริกส่งสายตาเดียดฉันท์กับการกระทำของลูกสาวเกินให้อภัย…….

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel