บทที่ 5 ทำไมเป็นคุณ
งานเลี้ยงเปิดตัวพลังงานไฟฟ้าทดแทนของทางพิตรพิบูล จัดขึ้น ณ โรงแรมหรูระดับห้าดาว ซึ่งบังเอิญมีการจัดงานเซ็นสัญญาร่วมธุรกิจยางยนต์ของบริษัทจิรสินในฮอลจัดงานข้าง ๆ กัน
แขกผู้ร่วมงานของสองบริษัทรวมถึงนักข่าวมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งมาที่เดียวได้ถึงสองงาน ฝ่ายตระกูลจิรสินยืนถ่ายรูปร่วมกับคู่ค้าของญี่ปุ่นหน้าห้องจัดงานทุกคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับแขกผู้มาร่วมยินดีแต่ก็ยังไม่วายเหล่มองทางพิตรพิบูลที่เปิดแถลงโปรเจคใหม่ในวันเดียวกัน
“จัดงานวันเดียวกันตั้งใจกลบข่าวที่แพ้พวกเราล่ะสิ” มันทนาเชิดหน้ายิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน อัศวนัยนิ่งฟังไม่พูดไม่จาเพราะสายตาของเขากำลังสนใจมองแก้วกัลยาสวมชุดสีชมพูอ่อนเรียบหรูรวบผมลอนหลวม ๆ ผสานกับใบหน้าสวยหวานไม่โฉบเฉี่ยวเหมือนวันอื่นที่เคยเจอ
“คอยดูความโกลาหลหลังจากนี้กันดีกว่า ทกรเอาไม่อยู่แน่” พสินค่อย ๆ เหล่มองเราอมยิ้มขำคู่แข่งที่พ่ายแพ้หมดท่าแต่กลัวเสียหน้าดึงโปรเจคใหญ่ขึ้นมาทั้งที่ยังไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ความวุ่นวายของระบบและเม็ดเงินมหาศาลอาจมีปัญหาได้ในไม่ช้า มันทนายักคิ้วกับพสินอย่างสะใจโดยไม่มีใครสังเกตเห็นมองอัศวนัยซึ่งเป็นหลานชายยืนจ้องมองไปทางพิตรพิบูลตรง ๆ ไม่ใช่แค่แอบมอง
ด้านพิตรพิบูลยืนต้อนรับผู้ร่วมงานกับเกริกและครอบครัว วาทกรเห็นอัศวนัยจ้องมองมาไม่วางตาคิดว่าอาจมีการปะทะฝีปากเยาะเย้ยกัน ทว่าสายตาของอัศวนัยไม่ได้มองมาทางเขาหรือพ่อกลับมองแก้วกัลยาที่ยืนอยู่ด้านหลัง วาทกรนิ่วหน้าเพ่งมองไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปเองหรือไม่…
สองตระกูลแยกย้ายกันเข้าไปในห้องจัดงาน พิตรพิบูลเปิดงานแถลงข่าว จิรสินร่วมเซ็นสัญญา เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นผู้ร่วมงานต่างแยกย้ายทยอยกันกลับ แก้วกัลยาเดินแยกตัวมาเข้าห้องน้ำเพียงลำพังหน้าสวยหันมองสถานที่จัดงานของทางจิรสินหวังได้เจอกับอัศวนัยซึ่งก็ไร้วี่แวว หน้าสวยสลดลงห้ามไม่ให้เขาเข้าใกล้แต่ดันอยากเจอหน้าเขาเพียงแค่ไกล ๆ ก็ยังดี
ร่างบางก้าวเดินมาตามทางเดินไปห้องน้ำเท้าเรียวหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าหล่อคมคายที่คิดถึงกำลังจะเดินสวนกับเธอ สายตาสวยหลบลงต่ำก้มมองพื้นทำเป็นไม่สนใจทั้งที่หัวใจเต้นรัวดีใจจนมือชาฝืนรวบแรงก้าวเดินเชื่องผ่านกายหนาสุขุมสายตามองตรงเดินผ่านกันเหมือนคนไม่เคยรู้จัก ทว่าขณะกำลังเดินผ่านกันนิ้วแกร่งยื่นมาแตะหลังมือนุ่มแผ่วเบาแม้เป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่ได้สัมผัสกันแต่ความรู้สึกนั้นเนิ่นนานเหมือนเวลาผ่านไปช้าเท่านั้นหัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่องความสุขล้นหลามเอ่อล้นกระตุกยิ้มอย่างเผลอลืม อัศวนัยก้าวเดินต่อไปสีหน้าเรียบเฉยแววตากับสุกใสมีประกายความสุข ทั้งสองต่างคนต่างเดินไปยังจุดหมายของตนไม่หันมามองซึ่งกันและกันเพราะไม่อาจให้ใครล่วงรู้ความรู้สึกดีที่ไม่ควรเกิดขึ้นของเขาและเธอ…….
ห้าเดือนผ่านไป
สนามเวคบอร์ดแถบปริมณฑล
อัศวนัยเผยอกแกร่งสวมกางเกงขาสั้นผ้าแห้งง่ายสำหรับเล่นกีฬาทางน้ำเขาชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำไม่ว่าจะเป็นฟรายบอร์ด เวคบอร์ด เซิร์ฟบอร์ด ขับเจ็ตสกี นอกจากชื่นชอบแล้วเขายังร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดสนามแห่งนี้เพื่อนัดพบปะและเล่นกีฬาในช่วงวันหยุดกับเพื่อน ๆ
ร่างหนากำลังเล่นเวคบอร์ดอยู่ในบึงน้ำกว้างในขณะตั้งใจเล่นเขาเห็นกลุ่มผู้หญิงสวมชุดว่ายน้ำครึ่งตัวเผยหน้าท้องขาวคู่กับกางเกงขาสั้นผิวขาวออร่าทั้งกลุ่มกำลังเดินมาที่จุดพักนั่นไม่ทำให้เขาสนใจเท่าผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นผมลอนสีน้ำตาลถึงกลางหลังรูปร่างคุ้นตากำลังมองมาทางเขาทำให้ไม่มีสมาธิมือหลุดออกจากเชือกร่วงลงบึงแล้วรีบว่ายน้ำกลับเข้ามายังฝั่งเดินมุ่งไปยังเป้าหมายคือกลุ่มสาว ๆ สี่คนที่เขาเห็นจากกลางบ่อ
“เฮ้ย! นาน ๆ ทีจะสาวสวยมารีบปรี่ไปหาเลยเหรอวะ” ภวัตอมยิ้มแซวเพื่อนที่มุ่งมั่นพุ่งชนสาว ๆ
“พูดเยอะ” อัศวนัยมองกลุ่มสาว ๆ กำลังคุยกับโค้ชเพื่อเลือกเครื่องเล่นและวิธีการเล่น แก้วกัลยาก้มหน้ามองเวคบอร์ดอยู่กับเพื่อน ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเห็นอัศวนัยยืนจ้องเธออยู่เลยรีบก้มลงไม่สบสายตาไม่ทักทายทำเป็นไม่รู้จักตามที่ตกลง
“เลือกเครื่องเล่นไหนกันครับ?” อัศวนัยเอ่ยถามสาว ๆ อย่างสุภาพ
“อุ้ย!” มิ้นหันมองเห็นแผงอกแกร่งก็หวั่นไหวอมยิ้มบิดตัวเขินชี้ไปที่เวคบอร์ด
“อันนี้ค่ะ”
“อันนี้ใช้แรงแขนขาเยอะนะ แต่สนุกเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่น” เสียงทุ้มนุ่มนวลสายตากรุ้มกริ่มอ่อยหญิงสาวแต่พายกับอิงรู้ว่าเขาคือคนของจิรสินที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากับทางบ้านของแก้วกัลยา
“อันนั้นอะไรคะ” แก้วกัลยาหันไปข้างหลังเงยมองคนกำลังเล่นเครื่องเล่นมีน้ำพ่นที่วางเท้าตัวเหยียดตรงคล้ายไอรอนแมน ผู้หญิงสาวสวมชุดชูชีพมีครูฝึกยืนประกบกอดเอวอยู่ข้างหลัง
“ฟรายบอร์ด เล่นยากต้องขึ้นไปกับโค้ช” ครูฝึกอีกคนบอกกับแก้วกัลยาและเพื่อน ๆ ที่เงยมองตื่นเต้น
“อยากลองเล่นอันนี้ค่ะ จองคิวต่อเลยได้ไหม”
“เครื่องเล่นนี้ครูฝึกต้องกอดไม่ให้ร่วงคุณอนุญาตให้กอดได้ใช่ไหมครับ” ครูฝึกหันมองหญิงสาวสวยการเล่นแบบนี้ต้องมีการถูกเนื้อต้องตัวคิดว่าเธอน่าจะไม่ชอบ
“ได้ค่ะ” แก้วกัลยายิ้มให้ครูฝึกแล้วเงยมองผู้หญิงคนนั้นถูกสวมกอดแน่น
“แกโสดก็เล่นคนเดียวไปเลย พวกฉันเล่นไม่ได้เดี๋ยวแฟนดุขอเล่นเวคบอร์ดดีกว่า” พายยิ้มแหยถ้าแฟนรู้จะเป็นเรื่องใหญ่ แก้วกัลยายิ้มอ่อนไม่มั่นใจ
หลังจากนั้นกลุ่มเพื่อนจะขึ้นสปีดโบ๊ทออกไปเล่นเวคบอร์ดโดยใช้เรือลาก แก้วกัลยาสวมชุดชูชีพหน้าซีดมือเย็นเฉียบอยากขอถอนตัวร่างบางสูดลมหายใจลึก ๆ มองเพื่อนที่กำลังขึ้นเรืออย่างลังเล
“เรียบร้อยแล้วครับ” ครูฝึกส่งเสียงเรียกแก้วกัลยา เธอหันมองกำลังจะบอกว่าเปลี่ยนใจพอเห็นเป็นอัศวนัยก็ชะงัก พายกับอิงรีบเอื้อมมือจากเรือมาสะกิดกระซิบกระซาบไม่ไว้ใจ
“ตระกูลไม่ถูกกันเขาจะเอาแกไปเหวี่ยงทิ้งกลางบึงหรือเปล่า” พายเหล่มองอัศวนัยไม่ไว้ใจ
“น่ากลัวอยู่นะถ้าเขาแกล้งปล่อยมือล่ะ” อิงพูดเสริมด้วยอีกคน
“เขาไม่กล้าทำต่อหน้าคนอื่นหรอกไม่งั้นได้เป็นข่าวดังแน่” แก้วกัลยาบอกให้เพื่อนสบายใจทั้งที่เธอไม่มั่นใจ ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเดินไปยังขอบโป๊ะออกอาการประหม่าเห็นได้ชัด
“ทำไมเป็นคุณ?”
“ทำไมเป็นผมไม่ได้” คิ้วเข้มเลิกยกยิ้มมุมปากมองคนขี้ขลาดที่แสร้งทำเป็นกล้า ริมฝีปากบางเม้มแน่นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันหลังก้าวเท้าถอยไปหา
“หันหน้ามา?”
“คนเมื่อกี้หลังให้นี่คะ” เธอหันขวับนิ่วหน้าสงสัย
“ผมไม่ถนัด”
