บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

รุ่ยเผิงจ้องมองนางคล้ายยิ้มไม่ยิ้มที่เห็นท่าทางการต่อต้านของนาง เขาก็อยากจะดูว่านางจะเก่งไปได้นานเพียงใด

ในเมื่อหลงจู๊หานยังรอเงินอยู่ด้านนอกเช่นนี้ รุ่ยเผิงเดินกลับไปนั่งลงอย่างใจเย็น เขาปล่อยให้นางได้จมอยู่ในความคิด

เสียงร้องของหงอี้เรียกสติของรั่วอิน เขาร้องเรียกให้นางช่วยอย่างน่าสงสาร เมื่อรั่วอินอยากจะวิ่งออกไปหาน้องชาย ก็ถูกมือหนาของรุ่ยเผิงดึงรั้งไว้

“คิดได้แล้วหรือยังคุณหนูโจว ข้าไม่มีเวลาว่างทั้งวันมานั่งรอเจ้า อีกอย่างหลงจู๊หานก็คงรอไม่ได้เช่นกัน” เขาพยักหน้าไปด้านนอกให้นางดู เมื่อหงอี้กำลังจะถูกคนของหลงจู๊หานพาออกไปจากจวน

รั่วอินหลับตาลง นางกำมือแน่น แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา

“ข้าต้องเป็นนานเพียงใด”

“เมื่อข้าแต่งฮูหยินเข้าจวน จะปล่อยเจ้าไป”

รั่วอินหยุดคิดอยู่ครู่ คงไม่นานที่เขาจะแต่งฮูหยิน เพราะเซียวรุ่ยเผิงอายุล่วงไปยี่สิบสามปีแล้ว คงไม่ถึงปีนางก็จะหลุดพ้น

“เจ้าค่ะ” นางเอ่ยออกมาเสียงเบาอย่างยอมจำนน พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลรินออกมาเป็นสาย

เซียวรุ่ยเผิงคลายมือออกจากข้อมือของนาง แล้วเดินออกไปนอกห้องโถง เขาไม่แม้แต่จะหันมามองรั่วอินที่กำลังนั่งลงกับพื้นร่ำไห้อย่างสิ้นหวัง

นางมองจากด้านในไม่รู้ว่าเซียวรุ่ยเผิงพูดอันใดกับหลงจู๊หานเขาถึงส่งใบหนี้สินมาให้เขาโดยง่าย ทั้งยังปล่อยตัวหงอี้ แล้วกลับออกไปราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้น

หงอี้ที่ได้รับความตกใจก็วิ่งเข้ามาสวมกอดรั่วอินไว้แน่น

“ไม่มีอันใดแล้วอี้เออร์เด็กดี หยุดร้องไห้ได้แล้ว” นางลูบหัวน้องชาย

“เสี่ยวซี” เสียงเย็นของเซียวรุ่ยเผิงเอ่ยเรียกคนของตน รั่วอินสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตกใจ เพราะไม่รู้ว่าเขาเข้ามาด้านในห้องโถงตั้งแต่ตอนไหน

เสี่ยวซีก็เหมือนจะรู้ใจผู้เป็นนาย เขามาพาตัวหงอี้ออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

“เก็บของเสีย ข้าจะให้คนมารับ”

“แล้วอี้เออร์เล่าเจ้าคะ”

“น้องชายเจ้าข้าจะส่งไปอยู่ต่างเมืองกับสหายที่เป็นอาจารย์อยู่ในสำนักศึกษา”

“แต่ว่า” รั่วอินเงียบลง เมื่อเห็นสีหน้ารำคาญใจของเขาที่มองมาที่นาง

“หรือเจ้าอยากให้ผู้อื่นรู้ คุณหนูโจวหายตัวไปจากเมืองหลวง ทิ้งน้องชายให้อยู่เพียงลำพังในจวน”

“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” นางก้มหน้าลงอย่างปลงตก

เซียวรุ่ยเผิงมองนางอย่างชอบใจ ที่เห็นว่านางเชื่อฟังเขาอย่างดี

รุ่ยเผิงออกไปจัดการเรื่องส่งตัวหงอี้ออกจากเมืองหลวงในวันนี้ทันที ทั้งยังส่งแม่นมกับเสี่ยวจินไปพร้อมกันด้วย

รั่วอินนางไม่ได้ร่ำลาพวกเขาแม้แต่น้อย ได้แต่ส่งสายตาให้พวกเขาอย่างได้เป็นห่วงนาง

ก่อนที่เสียงกลางบอกเวลาห้ามออกนอกเรือนจะดังขึ้น รถม้าก็เข้ามาภายในจวนตระกูลโจว เพราะรู้จากรุ่ยเผิงแล้วว่าจะส่งคนมารับนางจึงขึ้นไปด้วยท่าทีสงบ

สาวใช้ที่มาด้วยประคองนางอย่างเบามือ ในตอนแรกนางรู้เพียงว่าจะมารับคน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคุณหนูโจวสาวงามของเมืองหลวง แม้ได้ยินคนพูดกันอย่างหนาหู แต่ก็ไม่เท่ากับเห็นด้วยตาของตนเอง

ผิวพรรณที่ขาวสว่างตาไร้ที่ติ ริมฝีปากเล็กแดงราวกับทาชาด ดวงตากลมโตเหมือนผลองุ่นที่ล้างน้ำอย่างดี ก้าวย่างที่เดิน ชุดก็เผยให้เห็นทรวดทรงที่ดูระเหิดระหงของนาง มิน่าใต้เท้าเซียวที่ยังไม่แต่งภรรยาจึงรับเลี้ยงนางเป็นภรรยาลับ

เสี่ยวหงนางถูกส่งให้มาดูแลรั่วอิน และยังมีเสี่ยวฮวาอีกคนด้วย

รถม้าเคลื่อนตัวไปที่ตรอกทางทิศตะวันตก เรือนหลังสุดท้ายที่เงียบสงบนางถูกจัดให้อยู่ที่นั่น ด้านในเป็นเรือนสี่ประสาน ทางเดินปูราดไปด้วยหินที่มีขนาดเท่ากัน

รั่วอินไม่นึกอยากจะสำรวจหรือมองความงามของจวนหลังใหม่ในเวลานี้ นางอดที่จะเป็นห่วงหงอี้ แม่นมโจวแล้วเสี่ยวจินไม่ได้

เสี่ยวฮวาเตรียมอาหารรออยู่ที่จวนแล้ว เมื่อเห็นนางเดินเข้ามานางก็จัดโต๊ะให้ทันที

รั่วอินไม่นึกอยากทานอาหารเลยสักนิด นางกินเพียงไม่กี่คำก็วางตะเกียบเสียแล้ว

“คุณหนูโจว น้ำพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”

รั่วอินพยักหน้ารับ นางเดินตามพวกเขาเข้าไปที่ห้องอาบน้ำ เมื่อเสื้อผ้าหลุดออกจากร่างกาย สาวใช้ทั้งสองก็สูดลมหายใจอย่างลืมตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel