บท
ตั้งค่า

บทที่ 14

รั่วอินนางตื่นขึ้นมาในเวลาสายของวัน เมื่อไม่เห็นรุ่ยเผิงอยู่ภายในห้อง ความกลัวของนางก็เพิ่มขึ้น เสี่ยวซีที่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้อง จึงร้องเรียกอยู่หน้าห้อง เพื่อบอกนางก่อนว่าเขาจะเข้ามา

เมื่อได้รับอนุญาติเสี่ยวซีก็พาสาวใช้ที่เขาไปหามาได้ ให้เข้าไปดูแลรั่วอิน เมื่อเห็นใบหน้างามยังเหลือความหวาดกลัวอยู่ก็อดมองนางอย่างเห็นใจไม่ได้

สาวใช้ที่เสี่ยวซีพามา เคยเห็นสาวงามอย่างรั่วอินเสียที่ไหน นางจ้องมองอย่างตกตะลึง มาได้สติก็ตอนที่เสี่ยวซีเอ่ยเรียกนาง บอกให้ไปเตรียมน้ำให้รั่วอินนางล้างหน้า

สาวใช้ก็จัดการงานได้อย่างดีทั้งยังเตรียมอาหารให้รั่วอินนางได้กิน แต่นางก็กินไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาวใช้ที่มาใหม่นางไม่กล้าถามว่าเหตุใดริมฝีปากสวยได้รูปจึงได้มีบาดแผลมากมายเพียงนี้

แต่นางไปแจ้งกับเสี่ยวซีให้หายามาให้นาง เพื่อนางจะนำไปทาให้รั่วอิน เสี่ยวซีไม่อาจทิ้งรั่วอินแล้วออกห่างจากนางได้ จึงได้ให้เสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยมไปจัดการเรื่องยาให้เขาแทน

ทางด้านรุ่ยเผิง เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลกว่างหนานรู้ว่ารองตุลาการศาลต้าฉีลงมือสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง

จะมีผู้ใดกล้าเพิกเฉยดั่งเช่นที่ผ่านมาได้อีก ความผิดของตู้เสียนทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา แม้แต่บิดาที่เป็นถึงท่านเจ้าเมืองก็ไม่มีอำนาจช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้ได้

ขุนนางขั้นเจ็ดเช่นท่านเจ้าเมืองหรือจะสู้ขุนนางขั้นสี่ที่เป็นของรุ่ยเผิงได้ เขาจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับโทษของบุตรชายในครั้งนี้

ตู้เสียนถูกโบยถึงห้าสิบไม้ ก่อนจะถูกคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อรับโทษที่เหลือต่อ เพราะโทษของเขามิได้จบลงเพียงแค่นี้แน่ เมื่อมีผู้เสียชีวิตมากถึงหกคน

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต่างได้รับโทษที่ร่วมกันปกปิดความผิด ทั้งยังทำลายหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวของตู้เสียนทิ้งอีกด้วย

รุ่ยเผิงส่งมาเร็วเข้าเมืองหลวง เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮ่องเต้รับรู้ แล้วตัดสินโทษลงมาด้วยพระองค์เอง

เมื่อเสร็จจากเรื่องที่ศาลกว่างหนาน เขาก็รีบกลับมาที่โรงเตี๊ยมทันที ก็ทันได้นั่งร่วมโต๊ะกินมื้อเย็นกับรั่วอินพอดี

ยิ่งเห็นนางเอาแต่เขี่ยอาหารในชามไปมารุ่ยเผิงก็ปวดใจจนมิอาจจะเอ่ยออกมาได้ เขารวบตัวนางให้ขึ้นมานั่งบนตัก ทั้งยังป้อนอาหารให้อย่างเอาใจ

“กินให้มากเสียหน่อย”

“ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ” นางก้มหน้าตอบเสียงเบา

รุ่ยเผิงจึงตักอาหารเข้าปาก ก่อนจะจับคางรั่วอินให้หันมาทางเขา แล้วก้มลงประกบริมฝีปากของนางเอาไว้ อาหารในปากของเขาถูกส่งเขาไปในปากของนาง

ก่อนจะปิดปากของนางไว้แน่น เพื่อให้นางยอมกลืนอาหารลงไป

“แล้วหากข้าป้อนเช่นนี้เล่า เจ้าจะยอมกินเพิ่มหรือไม่” รุ่ยเผิงกระซิบถามเสียงแหบพร่า

นางยังคงเป็นยากำหนัดชั้นดีสำหรับเขา ไม่ว่าจะกลิ่นกาย หรือความหอมหวานในปากของนาง ล้วนกระตุ้นให้เขาแทบคลั่งทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง

รั่วอินจำต้องยอมกินข้าวในชามเพิ่มต่ออีกสองสามคำ นางเขินอายกับวิธีที่เขาบังคับใช้กับนางจนใบหน้าแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู

ตลอดเวลาที่รอจดหมายตอบกลับจากเมืองหลวง รุ่ยเผิงไม่เคยออกห่างจากรั่วอินนางเลย จนในตอนนี้ความหวาดกลัวที่นางมีเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้างามก็เริ่มมีรอยยิ้มมากขึ้น เมื่อถูกรุ่ยเผิงเอ่ยคำหวานเอาอกเอาใจ

สามวันต่อมาเมื่อคำตัดสินถูกส่งมาจากที่เมืองหลวง รุ่ยเผิงก็เปิดศาลตัดสินคดี ชาวเมืองกว่างหนานมากมายมารอรับฟัง ครอบครัวของหญิงสาวที่เสียชีวิตตะโกนด่าทออย่างโกรธแค้น

ตู้เสียนถูกตัดสินให้ประหารชีวิตทันที เพื่อชดเชยกับหญิงสาวที่เสียชีวิตไป

ท่านเจ้าเมืองตู้ถูกสั่งปลดจากตำแหน่ง ทั้งยังถูกเนรเทศไปไกลกว่าห้าพันลี้ทั้งตระกูล เพราะเขามิอาจสั่งสอนบุตรชาย ทั้งไม่ห้ามปรามจนตู้เสียนกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกินกว่าจะให้อภัย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel