บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“ตัวละครหลักเสียด้วย” กริชเองก็เริ่มคิ้วขมวดเล็กๆ เช่นกัน ดูเหมือนการแก้เกมครั้งนี้ของณตินจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว

“นายว่าควรเป็นใครดี พลอยไพลินดีไหม” ณตินเสนอรายชื่อแรกที่น่าสนใจ พลอยไพลินคือผู้หญิงที่เขาคบหาเมื่อปีก่อนแต่ก็มีเหตุให้เลิกรากันโดยเธอเป็นฝ่ายบอกเลิกเขา ตอนนั้นณตินยอมรับว่าเจ็บแต่มันก็ไม่ได้มากถึงขั้นแดดิ้นอะไร

“ไม่ดี เธอเป็นนางแบบกำลังดังไม่มีทางมาอุ้มท้องให้นายง่ายๆ” เสียงทุ้มของกริชค้านทันที แม้เป้าหมายอันดับแรกของณตินจะน่าสนใจทว่าก็ไม่ง่ายที่จะให้เธอร่วมมือ

“ถ้างั้นก็รดา”

“นายบอกเลิกเธอไปอย่างโหดเหี้ยมแบบนั้น เธอไม่จ้างมือปืนมาเป่าหัวนายก็ดีเท่าไหร่แล้ว”

“ข้าเหรอบอกเลิกเธออย่างโหดเหี้ยม” สีหน้าของ ณตินยังคงเรียบเฉยเพราะมองว่าตัวเองไม่ได้โหดเหี้ยมอย่างที่เพื่อนสนิทบอก ก่อนจะจิบเหล้าในแก้วเล็กน้อยแต่รสชาติของมันก็บาดคอไม่เบา

“ใช่ครับ จะขอแต่งงานพรุ่งนี้วันนี้บอกเลิก ไม่โหดเหี้ยมจะเรียกว่าอะไรถามหน่อย” กริชส่ายหน้าไปมา เพราะสาเหตุนั้นรดาถึงกับหนีหน้าทุกคนไปบวชชีที่วัดป่าบนภูเขา

“ใจร้ายก็พอ” ณตินแย้งให้ตัวเอง

“ไม่พอหรอก โหดเหี้ยมเหมาะสมกับนายที่สุดแล้ว”

“พลอยไพลินไม่ได้ รดาก็ไม่ได้ ไอรีนเป็นไง”

“เธอมีแฟนใหม่ไปแล้ว จะไปขอให้เธอช่วยคงไม่ง่ายเหมือนกัน” กริชดับความหวังของณตินแทบจะทันที

“ที่เหลือจากนี้ก็แทบไม่มีใครที่โปรไฟล์ดีพอ” สีหน้าของณตินเวลานี้จึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“โปรไฟล์ดี มีอะไรบ้างไหนพูดมาสิ”

“ฉลาด ฉลาดแล้วก็ฉลาด ข้าจะมีลูกทั้งคนโปรไฟล์แม่ของลูกต้องฉลาดเท่านั้นเพราะดีเอ็นเอของแม่ก็สำคัญพอๆ กับของพ่อ อ้อ…นอกจากฉลาดแล้วตระกูลก็ต้องดีพอใช้ ไม่มีประวัติด่างพร้อย หัวอ่อนได้ยิ่งดี”

“ผู้หญิงฉลาดๆ ที่ไหนจะหัวอ่อน มันดูย้อนแย้งนะครับท่านประธานที่เคารพ” กริชแซะความเยอะของณตินเล็กน้อย

“เออนะ มันต้องมีสิ”

“แต่เวลามันไม่รอนายเท่าไหร่ว่าไหม ทางนั้นไปตรวจสุขภาพกันแล้วแต่นายยังไม่มีแม้แต่ผู้สมัคร” คำพูดของกริชจุดไฟแห่งความหวังของณตินให้ลุกพรึบขึ้นทันที

“ผู้สมัคร”

“คิดอะไรออก”

“คืออย่างนี้พอดีว่าข้ากำลังจะรับสมัครเลขาคนใหม่แทนคุณลลิตที่จะลาออก…ใช่ วิธีนี้นี่แหละ” ณตินดีดนิ้วให้กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะดื่มเหล้าในแก้วรวดเดียวหมดราวกับต้องการฉลองชัยชนะให้กับตัวเองล่วงหน้า

“เดี๋ยวๆ อธิบายก่อน ใช่อะไร”

“เออนะ เดี๋ยวนายก็รู้เอง” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงความร้ายกาจของณตินผุดขึ้นบนใบหน้า ในขณะที่กริชยังคงจับต้นชนปลายไม่ได้เพราะเดาใจเพื่อนสนิทไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ดูจากสีหน้าท่าทางที่แสดงออกถึงความมั่นใจแบบนั้นแล้วก็มั่นใจได้ว่าณตินคงมีแผนบางอย่างในใจเป็นแน่

และแผนการที่ว่าต้องเพอร์เฟคตามฉบับของณตินอย่างแน่นอน

ใบสมัครงานในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของณตินปลิวว่อนไปทั่วห้องทำงาน ซึ่งคนที่ทำเช่นนั้นได้โดยไม่ผิดก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่คือชายหนุ่มที่นั่งแท่นในตำแหน่งประธานบริหารขณะนี้นั่นเอง

คนนั้นก็ไม่ใช่ คนนี้ก็ไม่ได้เรื่อง เมื่อโปรไฟล์ไม่ตรงตามที่ต้องการอารมณ์ก็เริ่มหงุดหงิด นั่นทำให้คนใกล้ตัวที่สุดอย่างเลขาเสียวสันหลังแปลกๆ และความรู้สึกนั้นก็ลามไปถึงผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่เริ่มจะนั่งไม่ติดที่เพราะถูกณตินตามใบสมัครแทบตลอดเวลา

“วันนี้วันอะไรทำไมเจ้านายดูอารมณ์ร้อนแปลกๆ ตามใบสมัครพี่ตั้งแต่เมื่อวานพอส่งให้ก็ไม่ผ่านสักคน ทำเอาพี่ไมเกรนจะขึ้น” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเอ่ยถามเลขาส่วนตัวของณตินด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

“นั่นสิคะพี่น้อย นี่หนูก็เข้าหน้าไม่ติดมาตั้งแต่เช้าแล้วเหมือนกัน” พิยาดาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แม้นานๆ จะเจออารมณ์ณตินแบบนี้แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากเจอเท่าไหร่

“พี่ไปก่อนนะคะน้องดา ต้องรีบไปควานหาผู้สมัครให้คุณณตินต่อ ถ้าไม่ได้ขึ้นมามีหวังอดโบนัสปลายปีนี้แน่ๆ”

“สู้ๆ นะคะพี่น้อย”

“แต่ถ้าพี่หาไม่ได้จริงๆ น้องดาพอจะเปลี่ยนใจไม่ลาออกได้ไหมคะ ถือว่าพี่ขอร้อง” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่สนิทสนมกับพิยาดาเพราะทำงานด้วยกันมานานเกือบสี่ปีเอ่ยขอร้องแต่ทว่าคนถูกขอร้องกลับปฏิเสธทันทีเช่นกัน งานเธอก็รักแต่ตอนนี้รักสามีมากกว่า

“ไม่ได้ค่ะพี่ เรื่องงานเรื่องเล็กเรื่องสามีคือเรื่องใหญ่ค่ะ” คำตอบของพิยาดาทำเอาผู้จัดการฝ่ายบุคคลคอตกเดินกลับแผนกไปทันที แม้จะเป็นแค่การพูดหยอกล้อกันเล่นแต่ก็อยากได้คำตอบอีกแบบอยู่เหมือนกัน

ช่วงเช้าหลังพายุลูกใหญ่พัดผ่านไปแล้วทั้งออฟฟิศก็คล้ายจะสงบลงไปเล็กน้อย กระทั่งช่วงบ่ายเสียงโทรศัพท์สายตรงจากห้องณตินก็ทำให้พนักงานทั้งฝ่ายบุคคลสะดุ้งอย่างพร้อมเพรียงโดยเฉพาะผู้จัดการที่หน้าเริ่มถอดสีมากกว่าคนอื่นๆ แม้จะไม่อยากรับสายแต่ก็เลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับนั่นก็เพื่อความอยู่รอดของเธอและคนทั้งแผนก

“ผมให้เวลาคุณแค่วันนี้เท่านั้น ถ้ายังไม่ได้คนที่ผมโอเค พวกคุณเตรียมตกงานทั้งแผนกได้เลย” นั่นคือประโยคที่ดังขึ้นจากสายโทรศัพท์ของณตินซึ่งมันดังพอที่จะทำให้คนทั้งแผนกได้ยินกันเลยทีเดียว

สถานการณ์ตึงเครียดแสนจะบีบคั้นอารมณ์เพราะเงื่อนไขได้ถูกยื่นมาจากณตินแล้ว หากทำไม่ได้คือต้องตกงานทั้งแผนกเท่านั้นแม้จะอยากพากันนั่งกอดคอร้องไห้แค่ไหนก็ทำไม่ได้ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลออกคำสั่งฉุกเฉินให้ทุกคนหยุดงานทุกอย่างที่ทำอยู่ในมือขณะนี้แล้วมุ่งไปที่การควานหาผู้สมัครในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของณตินทันที

เสียงเคาะปลายนิ้วกับโต๊ะทำงานดังขึ้นเป็นจังหวะเหมือนสัญญาณนับถอยหลังเข้าไปทุกที ในขณะที่เวลากำลังผ่านไปฝ่ายบุคคลทุกคนก็ยังคงควานหาผู้สมัครเมื่อได้ก็รีบส่งข้อมูลเหล่านั้นให้ณตินพิจารณา ทว่าไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็โยนมันทิ้ง ทุกอย่างจึงต้องกลับมานับหนึ่งใหม่อีกครั้งและอีกครั้ง

“ฮือ หนูจะไม่ไหวแล้วนะคะหัวหน้า รู้สึกเวียนหัวจะอ้วกแล้ว” นั่นเพราะวันนี้เธอเอาแต่จ้องโน้ตบุ๊กตลอดแทบไม่ได้ละสายตาไปไหนบวกกับเวลาที่กดดันจึงยิ่งเครียด

“พักก่อนๆ” หัวหน้าแผนกตบบ่าลูกน้องเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่สายตาจะมองเลยไปยังโต๊ะของผู้จัดการฝ่ายที่เวลานี้รกเสียยิ่งกว่ารก สีหน้าก็บ่งบอกว่าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“พักไม่ได้ค่ะ ขืนยังหาผู้สมัครที่คุณณตินต้องการไม่ได้ภายในวันนี้ เราทุกคนต้องพากันตกงานแน่” เสียงของพนักงานคนหนึ่งดังแทรกขึ้น นั่นทำให้ไฟในการทำงานของพวกเขาที่กำลังจะมอดเต็มทีถูกจุดขึ้นมาใหม่ เสร็จงานค่อยแอดมิทคงไม่เป็นอะไรหรอก…มั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel